เรื่อง ทะลุมิติมาเป็นเจ๊ใหญ่ในยุค70s [END]
บที่ 1
ทะลุมิติมาแบบไม่ทันตั้งตัว
ซิ่วอิง คือัสาวมากความสามารถในยุคดวงดาวสุดไฮเทค เธอเป็นหญิงสาวี่แข็งแกร่ง เข้ากองทัพัพันธมิตรแห่งดวงดาวตั้งแต่อายุ 15 ปี ตามรอยผู้เป็นพ่อซึ่งเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว ยุคี่การเดินทางก็แค่การเปิดวาร์ป เทคโนโลยีทุกอย่างก้าวหน้า ยานยนต์สุดล้ำสามารถพาไปได้ทุกี่ สิ่งอำนวยความสะดวกมีตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมา หุ่นยนต์พ่อบ้าน เอไอสุดไฮเทค แม้แต่ในขณะนอนหลับก็มีเอไอเฝ้าระวังให้ตลอดเวลา
ด้วยความแข็งแกร่งและเก่งกาจทำให้ได้รับตำแหน่งผู้นำัพิเศษ่อินทรีดำ ออกปฏิบัติการสู้กับพวกสัตว์กลายพันธุ์ี่บุกมาเพื่อทำลายเผ่าพันธุ์มนุษย์
ในระหว่างจบภารกิจจากดาวดวงหนึ่งแ้ต้องเดินทางกลับฐานทัพ ใครจะคาดคิดว่ายานยนต์สุดไฮเทคซิ่วอิงจะเจอเข้ากับหลุมดำขนาดใหญ่ มันเป็นช่องว่างระหว่างมิติอื่น เป็นประตูี่พวกสัตว์กลายพันธุ์จากมิติอื่นบุกรุกเข้ามา พวกเราเรียกมันว่าหลุมดำแห่งมิติทับซ้อน
ด้วยความเป็นั ซิ่วอิงไม่คิดลังเลี่จะสละชีวิตเพื่อทำลายหลุมดำี่เป็นภัยต่อทุกดวงดาว
“หัวหน้าอินทรีดำ ติดต่อฐาน”
“ย้ำหัวหน้าอินทรีดำ ติดต่อฐาน นี่คือสถานกาณ์ฉุกเฉิน รหัสแดง”
“ย้ำนี่คือสถานการณ์ฉุกเฉิน รหัสแดง” เสียงเข้มติดต่อกับไปยังฐานทัพผ่านะสื่อสารเอไอในยานยนต์สุดล้ำ
“ฐานทัพัา เตรียมตัวรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน รหัสแดง” ะทำงานฐานทัพัาและเตรียมรับมือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
“ผู้พันซิ่วอิง ฐานจับสัญญาณตำแหน่งผู้พันไม่ได้”
“ฉันอยู่ในหลุมดำ ประตูมิติระหว่างมิติระหว่างพวกสัตว์กลายพันธุ์ ตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปใาหลุมดำี่มีค่าความผันผวนควอนตัมไม่คงี่”
“ผู้พันซิ่วอิง ผมขอสั่งให้คุณให้กลับยานิมาี่ฐานทัพเดียวนี้ ตอนนี้คุณสามารถเปิดวาร์ปตำแหน่งได้ กลับมาก่อนี่จะสายเกินไป” ผู้บังคับบัญชาเอ่ยสั่งเสียงเข้มและเฉียบขาด
“ขอโทษด้วยท่านผู้บัญชาการ ตอนนี้ยานิถึงใาหลุมดำแ้ หัวหน้าัพิเศษ่อินทรีดำ ซิ่วอิงจบการรายงาน” มือเรียวกดตัดสัญญา ไม่คิดจะฟังคำสั่งใดอีก
“อลิสติดต่อคุณพ่อให้ที”
“ตอนนี้ท่านนายพลออกปฏิบัติภารกิจกับ่พยัคฆ์พิรุณ ไม่สามารถติดต่อได้” ระหว่างปฏิบัติภารกิจสำคัญต้องปิดการสื่อสารส่วนตัว ซิ่วอิงเข้าใจกฎดี
“อลิสส่งข้อความเสียงไปให้คุณพ่อ”
“กรุณาใส่ข้อความเสียง”
“คุณพ่อ อิงอิงเองนะคะ ขอโทษี่ไม่ได้กลับไปหา พ่อไม่ต้องเสียใจ ลูกสาวพ่อเข้มแข็งและได้ทำในสิ่งี่ัควรทำ ตอนนี้หนูอยู่ในหลุมดำ พ่อเองก็รู้ดีว่ามันคืออะไร”
“รักคุณพ่อนะคะ”
เกิดเป็นั ตายเยี่ยงั สละชีวิตเพื่อยุติการสูญเสียเพื่อร่วมอาชีพ หนึ่งชีวิตแลกอีกนับล้านๆ ชีวิต จงภูมิใจเถอะซิ่วอิง
“อลิส เริ่มปฏิบัติการ”
“นับถอยหลังใน 3 วินาที”
“3”
“2”
ก็แค่ความตาย
“1”
ตู้มมมมมมมม
ยานยนต์สุดไฮเทค ระเบิดตัวเองใาหลุมดำ
ไร้สัญญาณชีวิต...
ใครจะคิดว่าชีวิตหลังความตาย ัสาวอย่างผู้พันซิ่วอิงจะลืมตาตืนขึ้นมาในห้องแคบๆ มีี่กลิ่นอับไม่พึงประสงค์ เหตุการณ์ก่อนหน้ายังคงฉายชัดในความทรงจำ ร่างบางพยายามประคองให้ตัวเองลุกขึ้น ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ
“ี่ไหนวะ?” เสียงแหบๆ พึมพำกับตัวเอง ก่อนจะก้มมองสำรวจร่างกายตัวเอง
“อลิส”
เงียบ
“อลิส ตอนนี้ฉันอยู่ี่ไหน”
"อลิส"
ไม่มีเสียงตอบกลับจากเอไอสุดไฮเทค แ้อยู่ๆ ในหัวก็รู้สึกปวดจี๊ดขึ้นมาก พร้อมกับภาพความทรงจำหญิงสาวี่ชื่อ ไป๋ถิงถิงไหลเข้ามาแบบไม่ปะติดปะต่อ แค่พอจับใจความคร่าวๆได้เท่านั้น ร่างนี้คือหญิงสาวอายุ 18 ปี เป็นลูกสาวคนี่สามบ้าน ภาพความทรงจำไหลผ่านสมองอย่างรวดเร็วและมากมาย ทำเอาปวดหัวจนต้องเอามือทั้งสองข้างมากุมขมับ แต่มันไม่ช่วยอะไรเลยเพราะภาพมันใหลเข้ามาเร็วมาก ในช่วงเวลาสั้นๆ ทั้งยังมีอาการปวดหัวขึ้นมาด้วย
จนกระทั่งภาพความทรงจำล่าสุดฉายชัดเข้ามา แ้อาการปวดหัวก็จางหายไป
“เชี่ยอะไรวะเนี่ย” ซิ่วอิงสบถออกมา ก่อนสมองอันชาญฉลาดค่อยๆ ประมวลกับสิ่งี่เกิดขึ้นกับตัวเอง นั่งนิ่งเป็นก้อนหินบนี่นอนเก่าๆ โทรมๆ อยู่ราวๆ 10 นาที มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอตอนนี้
“ตายอีกรอบได้ไหมวะ?” ทะลุมิติได้โคตรเชี่ย!! จากความทรงจำร่างหญิงสาววัย 18 ปีมันแย่มาก แม้จะไม่รับรู้ถึงความรู้สึก แต่ภาพี่ไหลผ่านเข้ามาก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้
“นี่ยุคดึกดำบรรพ์ชัดๆ” ถ้าเทียบกับโลกี่เธอเติบโตมา ี่นี่คือโลกในยุคล้าหลังแบบสุดๆ หากเทียบกับโลกี่เธอเติบโตมา พอก้มมองสำรวจร่างใหม่ก็อยากจะตายอีกสักรอบ ี่ใส่อยู่นี่เรียกเสื้อผ้าจริงๆเหรอ? มันคือเศษผ้าชัดๆ แ้นี่คือห้องนอนเหรอ? ห้องเก็บี่บ้านยังดูดีกว่านี้สิบเท่า
ทะลุมิติมาทั้งทีก็มาอยู่คนโลกกับโลกเดิม โลกี่ไม่มีอะไรคุ้นเคยเลยสักนิด โลกี่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โลกี่แทบไม่มีอะไรเหมือนกันเลย พื้นฐานความรู้ สิ่งแววล้อม โครงสร้างสังคม ทุกอย่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“นางถิงถิง”
“จะนอนอีกนานไหม รีบตื่นมาทำอาหาร ซักผ้าแ้ก็ตักน้ำได้แ้”
“อย่าให้ต้องลงไม้ลงมือ” เสียงเอะอ๊ะดังเข้ามา บอกถึงอารมณ์คนพูดได้เป็นอย่างดี จะแหกปากทำไม พูดเบาๆก็ได้ยินแ้ไหม?
ปัง!!
“ลุกขึ้นแ้ก็ไปทำงาน อย่าสำออย ทำตัวเกียจคร้าน”
“แค่ตกน้ำตกท่า นอนซมมาสองวัน ช่างไร้ประโยชน์จริงๆ”
“….” อีป้าเป็นแม่คนจริงๆ ใช่ไหม? เสียงแหลมน่ารำคาญชะมัด นี่มันสังคมทาสหรือไง ไม่ให้ว่าสังคมทาสมันถูกยกเลิกไปตั้งแต่ห้าพันปีแ้ไม่ใช่เหรอ? ซักผ้า? ตักน้ำ? มันงานคนี่ไหน? ชีวิตเธอไม่เคยทำงานบ้านเลยสักครั้ง
“นางถิงถิง แกหูหนวกหรือไงหรือตกน้ำจนเสียสติไปแ้” ยายป้ายังไม่หยุดตะโกน ฟังแ้เจ็บคอแทน ช่างน่ารำคาญจริงๆ ถามจริงๆว่าไป๋ถิงถิงคนนี้เป็นลูกสาวป้าจริงไหม หรือว่าเป็นแค่ลูกี่ป้าแกเก็บมาเลี้ยง
“…”
“ฉันพูดกับแกอยู่ ไม่ได้ยินหรือไง?” ยายป้ากำลังจะกลายร่างเป็นสัตว์กลายพันธุ์ตรงหน้าเธออยู่รอมร่อ เกรี้ยวกราดเสียจริง แค่เห็นหน้าลูกสาวทำไมต้องหงุดหงิดเบอร์นี้ด้วย
“อืม” เธอตอบรับเพียงคำเดียวสั้นๆ เท่านั้น เป็นการปัดรำคาญ
“หายดีแ้ก็ลุกขึ้นไปทำงาน อย่ามาสำออย ไม่งั้นได้อดข้าวแน่” คนเป็นแม่อย่าง ไป๋หลี่เยียนเดินออกจากห้องลูกสาวอย่างหัวเสีย สองวันมานี้ลูกสาวบ้านนอนซมเพราะป่วย งานการไม่รู้จักช่วยเหลือ ทำไมบ้านถึงได้มีตัวไร้ประโยชน์เช่นนี้อยู่ด้วย แต่ไหนเลยี่ซิ่วอิงจะลุกไปทำงานตามี่อีกฝ่ายสั่ง
“ไป๋ถิงถิงสินะ” ตอนนี้ไม่มีซิ่วอิงหัวหน้าั่อินทรีดำแ้ เธอตายเพราะระเบิดยานยนต์เพื่อทำลายหลุมดำ แ้วิญญาณก็มาอยู่ในร่างผอมแห้งหญิงสาวี่ชื่อไป๋ถิงถิง อาจจะเป็นเพราะความผันผวนค่าควอนตัมระหว่างมิติ ค่าคงี่พลังค์สเกลเกิดการเปลี่ยนแปลงจากแรงโน้มถ่วงและแรงระเบิดหลุมดำ วิญญาณก็เลยมาอยู่ในร่างไป๋ถิงถิง
หญิงสาววัย 18 ปีี่ปอดติดเชื้อตาย เพราะถูกพี่สะใภ้ใหญ่ผลักลงไปในแม่น้ำ นอนซมป่วยอยู่สองวันไม่มีใครมาสนใจไยดี สุดท้ายร่างกายี่ผอมแห้งก็จากไปโดยไม่มีใครรู้ และเธอก็เข้ามาอยู่ในร่างไป๋ถิงถิง
“เอาล่ะถิงถิง” เธอบอกกับตัวเอง (จากนี้จะแทนตัวซิ่วอิงว่าไป๋ถิงถิง เพื่อความไม่สับสน)
“อย่าเพิ่งสติแตก” พยายามบอกตัวเอง อยากจะตะโกนสบถออกไปดังๆ ว่ามันเรื่องเชี่ยอะไร? แต่ต้องสงบสติอารมณ์เอาไว้ ไม่คิดเลยว่าจะมีโลกี่มนุษย์ล้าหลังเป็นอย่างมากขนาดนี้ สิ่งี่คิดหนักก็คือทำยังไงกับชีวิตตัวเองในตอนนี้ดี เอามีดมาบาดคอแ้ตายอีกรอบได้ไหม? ทำได้แค่คิดเท่านั้น ัอย่างเธอไม่เคยหวั่นเกรงต่อความตาย
หัวหน้าันกอินทรีดำไหนเลยจะขี้ขลาด แค่คิดขำๆ ปลอบใจตัวเองก็เท่านั้น จะกลัวอะไรกับความลำบาก แค่ยุคดึกดำบรรพ์ ี่ไม่มีเชี่ยอะไรเลย ไม่มีเอไอสุดไฮเทค ไม่มียานิสุดล้ำ ไม่มีอุโมงค์วาร์ปสำหรับเดินทาง ไม่มีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก-่าเหวอะไรเลย ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเลย ไม่มีหุ่นยนต์คอยทำทุกอย่างตามคำสั่ง ไม่มีอลิสี่เป็นเหมือนเพื่อนี่รู้ใจ
แต่สิ่งี่ทำเอาอดีตัสาวเป็นกังวลใจี่สุดกลับไม่เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกหรือเทคโนโลยีอะไรทั้งนั้น แต่เป็นเรื่องการทำอาหาร ตักน้ำ ให้อาหารสัตว์มากกว่า ตั้งแต่ลืมตาเกิดมาอาหารปรุงสุกคืออะไรไม่เคยรู้จัก ไม่ใช่ว่ามีอยู่แค่ในดาต้าเบสหรือะเก็บข้อมูลประวัติศาสตร์เผ่ามนุษย์หรอกเหรอ? ทำไร่ ทำนา ปลูกผัก คืออะไร? มนุษย์ยุคดวงดาวเขาไม่ทำกันแ้เว้ย!!
คิดแ้ก็อยากได้โพชั่นรักษาอาการปวดหัวในเวลานี้เหลือเกิน แ้ก็ยังต้องมาปวดใจกับสภาพความเป็นอยู่อีกไอ้หลุมดำเฮงซวย มันเอาคืนี่เธอทำลายมันใช่ไหม ถึงได้ส่งเธอมาอยู่ี่นี้
ถ้าเจอหลุมดำอะไรนั่นอีกจะระเบิดให้ไม่เหลือแม้แต่เศษอนุภาคเลยคอยดู ไม่สิเอาให้ไม่เหลือแม้แต่เศษอนุภาคเลย
“จากนี้ฉันคือไป๋ถิงถิง ใครี่ทำกับเธอเอาไว้ฉันจะให้มันชดใช้” ชีวิตเด็กสาวช่างน่าสงสาร รันทดราวกับนิยายน้ำเน่า ไม่สิต้องบอกว่ายิ่งกว่า ลูกสาวี่ไม่เป็นี่ต้องการครอบครัว ไม่เคยได้รับความรัก การดูแลเอาใจใส่ เติบโตมาตามชะตากรรม
เธอเคยอ่านนิยายี่นางเอกจนในยุคเธอ แต่ก็ไม่ได้ผอมแห้ง แถมี่ยุคเธอสวัสดิการดวงดาวดีมากมีอาหารสังเคราะห์ขายในราคาถูก ี่อยู่อาศัยก็ดี แค่ลืมตาเกิดมาก็ได้รับสวัสดิการครอบคลุมทุกด้าน แต่ี่นี้ยังคงต้องทำงานสะสมแต้ม ใช้คูปองเพื่อแลกเปลี่ยนอาหาร แ้ี่รับไม่ได้ก็คือไม่มีการค้าขายเอกชนเลย เพราะทางการสั่งห้าม เชี่ยยยเถอะ!!!
ในยุคี่อาหารขาดแคลน รัฐบาลควบคุมการค้าขายทุกอย่าง โดยใช้ะคูปองเข้ามา บางอย่างมีเงินอย่างเดียวใช่จะซื้อได้ต้องมีคูปองด้วย ครอบครัวี่มาอยู่ใช่ว่าจะดี ครอบครัวไป๋มีลูกทั้งหมด 5 คน ไป๋ถิงถิงเป็นลูกสาวคนี่สามเป็นี่คนเป็นแม่ไม่เคยดูดำดูดี ลูกสาวไม่เป็นี่ต้องการครอบครัวเท่ากับลูกชาย
ให้ตายเถอะ ดึกดำบรรพ์มันแม่งทุกอย่างเลย ตั้งแต่ะความคิด ธรรมเนียมปฏิบัติบางอย่าง ส่วนเรื่องเทคโนโลยีไม่อยากจะพูดถึงให้ปวดใจกว่าี่เป็นอยู่
กลับมาี่เรื่องครอบครัวไป๋กันต่อ
ไป๋ถิงถิงมีพี่ชายสองคนและน้องชายอีกสองคน เธอเป็นลูกสาวคนเดียวบ้านก็ว่าได้
พี่ชายคนโตชื่อ ไป๋ลี่จ้ง อายุ 22 ปี แต่งงานกับ หนิงอ้าย ทั้งคู่มีลูกชายวัย 2 ขวบ ชื่อไป๋ลู่เสียน
พี่ชายคนี่สอง ไป๋ลี่ถัง อายุ 20 ปี แต่งงานกับ ฉีอ้ายฉิง ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน
น้องชายคนี่สี่ชื่อ ไป๋ลี่ซือ อายุ 15 ปี น้องชายคนเล็กชื่อ ไป๋ลี่อิน อายุ 13 ปี
ครอบครัวไป๋อาศัยอยู่ตอนใต้ประเทศจีน มณฑลหูหนาน เมืองฉางเต๋อ หมู่บ้านฉางไห่ อยู่ทางตอนเหนือมณฑลหูหนาน ติดกับทะเลต้าถิง ี่ได้ชื่อว่า หูหนานก็เพราะอู่ทางทิศใต้ทะเลสาบต้าถิงนั้นเอง
ครอบครัวไป๋อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ โดยจะทำงานสะสมแต้มเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งี่จำเป็น แต่ละปีทางส่วนกลางจะทำการปันผลผลิตให้กับทุกบ้านตามจำนวนแต้มี่เก็บสะสมจากการทำงานแต่ละครอบครัว
ในยุคี่ประเทศและบ้านเมืองมีการปฏิวัติความเป็นอยู่ก็ไม่ค่อยดี อาหารขาดแคลน โดยเฉพาะฤดูหนาว ทำให้มีคนอดตายจำนวนไม่น้อยเลย ี่มณฑลหูหนานนับว่าเป็นแหล่งเกษตรผลิตข้าวี่ให้ผลผลิตมากี่สุดเลยทีเดียว แต่ผลผลิตี่ปลูกได้ก็ถูกส่งในทางรัฐบาลเกินกว่าครึ่ง
สำหรับคนี่เติบโตมาในยุคดวงดาวไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้เลย พวกเรามีอาหารสังเคราะห์ มีะขนส่งี่รวดเร็ว มีวิทยาการและทรัพยากรมากพอี่จะช่วยเหลือทุกคน ทำให้ในยุคดวงดาวเผ่าพันธุ์มนุษย์มีอายุยืนยาวมากกว่า 200 ปี มากกว่าคนในยุคนี้เท่าตัว
“นางถิงถิง”
“คุณดูลูกสาวตัวดีคุณ สำออยไม่ยอมออกจากห้อง งานการไม่ยอมทำ” คนเป็นแม่ยังคงเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความเกรี้ยวกราด
“ช่างเถอะ ถิงถิงไม่สบายให้พักผ่อนก็ถูกแ้ ไปกันเถอะเจ้าใหญ่ เจ้ารอง” คนเป็นพ่อไม่คิดสนใจ ตอนนี้ยังพอมีเวลา ลองไปดูกับดักสัตว์แ้ก็หาป่า ก่อนจะรีบกลับมากินข้าวแ้ก็รีบลงแปลงนา คิดว่าลูกสาวพักอีกสองสามวันน่าจะหายไข้
กลางเดือนเจ็ด อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว อย่าถามหาสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อคลายความร้อนเลยเพราะมันไม่มี
ไป๋ถิงถิง ออกจากห้องนอนมาล้างหน้าล้างตา ก่อนจะกวาดสายตามองสำรวจบ้านี่อาศัยอยู่ เป็นบ้านี่ทำจากอิฐ น่าจะแข็งแรงแต่สภาพบ้านดูเก่าพอสมควร ตัวบ้านมี 5 ห้องนอน สองห้องน้ำ ห้องครัว ห้องโถง ห้องเก็บอย่างละหนึ่ง
ประตูเล็กตรงด้านข้างห้องครัวติดกับสวนผักข้างบ้าน ไป๋ถิงถิงกวาดสายตาสังเกตสิ่งรอบๆ ี่ไม่คุ้นเคยด้วยความสงสัยมากมายี่ไม่สามารถให้คำตอบจากตัวเองได้
“มายืนทำอะไร ไปตักน้ำมาใส่ตุ่ม” น้ำเสียงไม่พอใจเอ่ยตำหนิอย่างชัดเจน เธอคือหนิงอ้ายพี่สะใภ้ใหญ่บ้าน
“ฉันพูดไม่ได้ยินหรือไง?” อีกฝ่ายเริ่มไม่พอใจเมื่อ น้องสาวสามีไม่ยอมขยับตัว แถมยังใช้สายตาแปลกๆ มองมาี่ตนเองสงสัยจะผลักอีกฝ่ายตกน้ำจนเสียสติไปแ้ถึงได้กล้าใช้สายตาอวดดีมองเธอ
“ทำไมไม่ทำเอง?” ประโยคราบเรียบเอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจ มือเท้าก็มี จะมาใช้เธอทำไม
“….” !!!!
“ไป๋ถิงถิง”
พูดอะไรผิดตรงไหน? ในขณะี่พี่สะใภ้รองท้องโตต้องเข้าครัวเตรียมอาหาร แต่พี่สะใภ้ใหญ่มายืนหายใจทิ้งงานการไม่ทำ ชอบเอาเปรียบน้องสามี ไป๋ถิงถิงยอมให้อีกฝ่ายจิกหัวใช้ แต่ไม่ใช่กับไป๋ถิงถิงคนนี้
“ถิงถิง ดีขึ้นแ้เหรอ?” ฉีอ้ายฉิงสะใภ้คนรองเอ่ยถามน้องสามี
“ค่อยยังชั่วแ้”
“ดีแ้ วันนี้ทำงานเบาๆ ไปก่อน ไปเก็บผักป่ามาให้ไก่ก็แ้กัน”
“ลี่ซือ ลี่อิน ไปตักน้ำใส่ตุ่ม” สะใภ้คนรองเรียกน้องชายทั้งสองคนไป๋ถิงถิงให้ไปตักน้ำ ใบหน้าคนเป็นสะใภ้ใหญ่บูดบึ้งเป็นอย่างมาก
ไป๋ถิงถิงไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเลือกเดินตามน้องชายทั้งสองห่างๆ สายตากวาดมองสังเกตสิ่งต่างๆ สิ่งแววล้อมนับว่าอุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธิ์ อัตราส่วนก๊าซไนโตรเจนและออกซิเจนี่พอดีสำหรับสิ่งมีชีวิต
อากาศในเวลาเช้าไม่ร้อนเลย ให้ความรู้สึกเย็นสบาย รอบๆ พื้นี่บ้านมีกำแพงดินล้อมรอบ ด้านหลังมีประตูไม้สำหรับออกไปตักน้ำี่ลำธาร
“พี่ถิงถิง ไม่ใช่ว่าพี่สะใภ้ให้ไปเก็บผักป่าไม่ใช่เหรอ?” ไป๋ลี่ซือเอ่ยถาม สายตาี่มองคนเป็นพี่สาวมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อย หากพี่สาวไม่ทำงาน งานเหล่านี้ก็จะตกเป็นเขาและน้องชายคนเล็ก
“ไปทางไหน?” เสียงราบเรียบเอ่ยถาม
“ทางโน้นครับ ต้องรีบไปเก็บก่อนบ้านอื่นจะเก็บไปหมด” เป็นน้องชายคนเล็กไป๋ลี่อินเป็นคนตอบ
“อืม” ไป๋ถิงถิงรับคำ ก่อนจะสาวเท้าเดินไปช้าๆ มองสำรวจสิ่งรอบอย่างละเอียด ทำความเข้าใจกับภูมิศาสตร์คร่าวๆ
เมื่อเดินมาก็พบชายป่า ซึ่งอยู่ใต้ตีเขา ป่าแถวนี้ไม่มีใครนอกจากเธอ ไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวคนเลย เธอมาเรื่อย ๆ ก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ให้ตายเถอะร่างกายนี้นอกจากจะผอมแ้ยังอ่อนแอมากด้วย
“แ้ต้นไหนมันคือผักป่าวะ?” พอนึกถึงความทรงจำเจ้าร่างก็เก็บไปมั่วๆ ยังไงไก่ก็เป็นแค่สัตว์เลี้ยง กินได้แหละมั้ง?
เดินวนอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมง ี่จริงมัวแต่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยี่ริมลำธารมากกว่า กลับมาี่บ้านก็สายแ้ แสงแดดในเดือนเจ็ดก็ร้อนอบอ้าวเป็นปกติ เสียงร้องสัตว์เลี้ยง พวกมันมีสามตัว ทำเอาไป๋ถิงถิงสบมองพวกมันด้วยความสงสัย นี่คือไก่? เลี้ยงไว้ทำไม? แหล่งโปรตีน? ช่างเป็นแหล่งโปรตีนี่ล้าหลังมากๆ กินมากๆใช่ว่าจะดีเนื้อสัตว์ปีก
เพราะแบบนี้ในยุคเธอถึงได้มีโปรตีนสังเคราะห์ แหล่งอาหารได้จากนวัตกรรมการสังเคราะห์ี่สะอาด ถูกหลักอนามัย ปลอดภัยไร้สารปนเปื้อนและตกค้าง
“แค่กินก็ไม่น่ากินแ้” ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าพืชพวกนี้มันน่ากินตรงไหน มือบางโยนไปในเล้าไก่ พวกมันใช้จะงอยปากจิกกินแ้ส่งเรียกร้องออกมา
“ถิงถิง” เสียงเรียกเบาๆ แต่เธอก็ได้ยินมัน
“พี่อ้ายฉิง” เธอเรียกแทนอีกฝ่ายเหมือนี่ไป๋ถิงถิงคนเก่าเรียก จะได้ไม่เป็นี่สงสัย
“พี่เก็บแป้งย่างเอาไว้ให้แผ่นหนึ่ง กินเสียสิ”
“ขอบคุณ” ต้องบอกว่าพี่สะใภ้คนรองนิสัยต่างจากพี่สะใภ้ใหญ่มาก เธอค่อนข้างดีกับน้อง ๆ สามีมากกว่าสะใภ้ใหญ่ แต่กลับไม่เป็นี่ชื่นชอบแม่สามีเท่าไหร่
ร่างกายต้องการคาร์โบไฮเดรตเพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้ร่างกาย ใครๆ เขาก็กินกัน กินเพื่ออยู่ ได้แต่คิดปลอบใจตัวเอง
“นี่จ้ะแป้งย่าง กินกับน้ำแกงผักป่า” คนเป็นพี่สะใภ้รองไปตักน้ำแกงผักป่ามาให้น้องสามีหนึ่งชาม ก่อนจะเก็บครัวต่อ ตอนนี้ทุกคนในบ้านไปลงแปลงนากันหมดแ้
ไป๋ถิงถิงมองอาหารปรุงสุกตรงหน้าด้วยแววตาเบิกกว้าง แป้งย่าง?? ไอ้แผ่นกลมๆ ตรงหน้า ส่วนในชามเล็กๆ คงเป็นน้ำแกงผักป่า?
“เชี่ย อาหารปรุงสุก” แค่เห็นก็ขนลุกแ้ แต่เท่านั้นยังไม่พอ เธอจะต้องกินมันลงไป
“เอาว่ะ คนอื่นก็กินไม่เห็นตาย” เมื่อทนความหิวไม่ไหวก็ต้องกลืนมันลงไป เริ่มจากแผ่นแป้งย่าง มันมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต พอกัดลงไปแ้ก็ต้องเคี้ยวสักพักรู้สึกฝืดคอ มือเรียวหยิบชามน้ำแกงมาดื่ม
แค่กๆ
รสชาติโคตรแปลก มันไม่ได้เหม็นเขียวอย่างี่คิด แต่มันจืดมากแบบมากๆ เลย กินเพื่อให้มีชีวิตรอดไป๋ถิงถิงกินมันจนหมด ไม่แปลกี่ร่างนี้ผอมขนาดนี้ ดูจากอาหารี่กินเข้าไปมีแค่คาร์โบไฮเดรตให้พลังงานแค่ไม่เท่าไหร่ กับน้ำแกงผักป่าี่ไม่รู้ว่ามีวิตามินและไฟเบอร์ี่ร่างกายต้องการครบหรือเปล่า
คิดถึงอาหารสังเคราะห์ี่เปี่ยมไปด้วยสารอาหารี่ร่างกายต้องการ
คิดถึงโพชั่นชะมัดเลยให้ตายเถอะ
...........
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??