เรื่อง การเกิดใหม่ของยัยเหนือโลก
ตอนที่ 36 งานวิจัยัเรื่องัเิญที่เิึ้บ่อยๆ
สายฮาชิรามะสินะ” นายเอิร์ธตอบพร้อมัหัวเราะด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม
นั่นคือสิ่งที่ฉันได้รู้จากการเป็นตัวของตัวเอง มันไม่แย่เลยจริงๆ อย่างน้อยนั่นก็ทำให้พวกเราคุยกันรู้เรื่อง และนั่นทำให้ฉันกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองต่อหน้าคนอื่นมากขึ้น
ฉันสังเกตปฏิกิริยาของหมอนี่หลังจากที่ฉันเริ่มพูดเรื่องแปลกๆ แต่ดูเหมือนว่าหมอนี่จะไม่ได้รู้สึกแย่อะไร อาจจะแค่ประหลาดใจในตอนแรก แต่หลังจากนั้นพวกเราก็เหมือนคุยภาษาเดียวกันและเข้ากันได้ดีอย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย
ฉันนึกว่าพอฉันพูดเรื่องแปลกๆ แล้วนายจะมองฉันแปลกๆ เพราะฉันเป็นคนแปลกๆซะอีก” ฉันกล่าวันายเอิร์ธ
ไม่นะ ถ้าพูดถึงผู้ชายฉันคิดว่าสมัยนี้เขาไม่ได้ตามหาแม่ศรีเรือนหรืออะไรทำนองนั้นกันแล้ว ยิ่งคุยเรื่องเดียวกัน เข้าใจสิ่งที่เราชอบ และคุยภาษาเดียวกันนั่นจะดีที่สุด สมัยนี้ ผู้หญิงที่เล่นเกม หรือดูบอลอะไรเทือกนั้น น่าจะมีเสน่ห์ดึงดูดมากกว่า … อย่างน้อยก็คงสำหรับฉันและคนอีกหลายร้อยคนที่ฉันรู้จัก เพราะผู้ชายทุกคนที่ฉันรู้จักก็เป็นแบบนั้น” นายเอิร์ธตอบ
นั่นหมายความว่าฉันที่เป็นตัวประหลาดในวงสนทนาของผู้หญิงเป็นคนที่มีเสน่ห์ในหมู่ผู้ชายอย่างนั้นเหรอ ดูไม่ค่อยน่าเชื่อสักเท่าไหร่ ถ้าบอกว่าหน้าตาดีนำมาก่อนและเล่นเกม ดูบอลอะไรเทือกเป็นปัจจัยรอง ยังคงน่าเชื่อกว่า ฉันรู้ดี เพราะตั้งแต่เมื่อก่อนจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสนใจฉันเลย คงบอกได้แค่ว่าหนังหน้าน่าจะมีส่วนมากกว่า
ระหว่างที่เรากำลังทานอาหารอยู่นั้น ก็ดูข่าวจากทีวีที่แขวนอยู่บนผนังร้านไปด้วย ดูเหมือนว่ารัฐบาลไทยในปัจจุบันจะใจดีเหลือเกินที่แม้จะมีเหตุการณ์โคโรนาไวรัสระบาดที่จีน แต่พวกเขาก็คงยังเหนียวแน่นัการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนถึงขนาดที่ว่าไปจัดขบวนต้อนรับกันเลยทีเดียว
บอกตามตรงฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักัเรื่องนี้เพราะฉันทำงานในสถานที่แรกๆที่ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีน บวกัอคติัรัฐที่มีอยู่ก่อนแล้วนั่นทำให้ยิ่งไม่ชอบการทำงานของภาครัฐมากขึ้นไปอีก
ไม่แน่ใจว่าพวกเขาคิดอะไรกันอยู่นะ เหมือนยินดีนำเข้าโรคระบาดเลย” นายเอิร์ธกล่าว
ดูเหมือนว่าข่าวนี้จะรบกวนการกินของฉันอย่างเห็นได้ชัดจนทำให้นายเอิร์ธสังเกตเห็นได้ว่าฉันสนใจข่าวนี้อย่างมาก เขาจึงพยายามชวนฉันคุยเกี่ยวัข่าวนี้
ฉันทำงานเสริมในร้านอาหาร ไม่แน่ใจว่าจะทำได้อีกนานขนาดไหน..” ดูเหมือนว่านายเอิร์ธไม่รู้จะพูดอะไรต่อดังนั้นหลังจากนั้น จึงเป็นช่วงเวลาที่เราทานอาหารแบบเงียบๆ ฉันทานอาหารจนหมดและในที่สุดก็ถึงเวลาดูหนัง
แน่นอนว่าเป็นเช่นเคย ฉันไม่มีอะไรจะพูดมากเกี่ยวัการดูหนัง สำหรับฉันการดูหนังมีข้อดีคือได้กินป๊อปคอร์น และน้ำอัดลม ในช่วงเวลาที่หรรษาเช่นการดูหนัง นั่นคือข้อดีเพียงอย่างเดียวที่ฉันนึกได้
ในที่สุดการดูหนังก็ผ่านไป หลังจากที่ดูหนังจบฉันก็เตรียมตัวพร้อมที่จะกลับ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่านายเอิร์ธมีแผนจะทานข้าวเย็นกันต่อ และแน่นอนว่าเพราะมันเป็นเรื่องการกินฉันจึงไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด
เราเดินกันไปต่อเพื่อไปโรงจอดรถ เพราะร้านอาหารที่นายเอิร์ธจะพาฉันไปทานดูเหมือนว่าจะไม่ได้อยู่ในห้างสรรพสินค้าที่เราอยู่ ในระหว่างนั้น ฉันสังเกตเห็นว่านายเอิร์ธดูเหมือนมีเรื่องอยากจะพูด แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดออกมานั่นทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้
?? เหมือนนายมีเรื่องอยากจะพูดนะ” ฉันถามนายเอิร์ธ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่อยากจะพูดตอนนี้
แล้วแต่นายนะ ” เมื่อเห็นว่าเขายังไม่อยากที่จะพูดฉันจึงไม่ได้คาดคั้นอะไรมาก และปล่อยเรื่องผ่านไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเราเดินไปถึงโรงจอดรถ..” มีเสียงเรียกฉันจากทางด้านหลัง นั่นทำให้ฉันต้องหันไปตามเสียง
เป็นน้องน้ำั ?? น้องน้ำในตอนที่ยังไม่เปลี่ยนร่างวิ่งเข้ามาหาฉันพร้อมัดึงแขนฉันไปกอด ส่วนนายแว่นก็ดูเหมือนว่าจะทำได้เพียงหัวเราะแห้งๆเช่นเคย เจอ มาทำอะไรเหรอคะ” สาวน้อยที่ดูขี้อายถามฉัน
เอ่อจริงๆก็แค่มาเที่ยวนั่นแหละ หลังจากดูหนังเสร็จก็ดูเหมือนว่าจะมาเจอัเราอีกแล้ว ฮ่าๆๆ” ฉันตอบแบบสบายๆ !
น้องน้ำที่เกาะแขนของฉันและหลบอยู่ด้านหลัง พยายามเหลือบไปมองที่นายเอิร์ธ ฉันที่มองตามสายตาขี้อายของเธออยู่จึงทำให้เห็นว่าเธอสงสัยว่าเขาเป็นใคร
นั่นนายเอิร์ธ เพื่อนพี่เอง ส่วนนี่ก็น้องน้ำแล้วก็พี่ผู้ชายใส่แว่นตรงนู้นคือพี่ตี๋..” ฉันพยายามแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน อย่างไรก็ตามสาวน้อยขี้อายอย่างน้องน้ำ ขยับไปหลบอยู่หลังฉันทันทีที่ได้ทำความรู้จักันายเอิร์ธแล้ว มีเพียงนายแว่นเท่านั้น ที่พยายามจะทำความรู้จักนายเอิร์ธต่อ
ยินดีที่ได้รู้จักครับฮะๆ” นายแว่นกล่าว
ยินดีที่ได้รู้จักครับ พี่เองก็เรียนอยู่ ม. เดียวกันเหรอครับ” นายเอิร์ธถามนายแว่น
ครับ ผมเรียนคณะเดียวัเคี้ยว ก็เรียน ปโทมาได้หลายปีแล้วละครับ” นายแว่นตอบพร้อมหัวเราะแห้งๆและเกาหัว
ผมเรียนอยู่ศึกษาปีสุดท้ายครับ แล้วมาเที่ยวกันเหรอครับ” นายเอิร์ธถามพร้อมัมองไปที่นายแว่นและน้องน้ำ
เปล่าหรอกครับ คือ กะว่าจะมาซื้อของทำอาหาร พอดีว่าอยากจะลองทำมื้อเย็นทานกันเองดู ”
หลังจากที่นายแว่นตอบคำถาม ฉันรู้สึกได้ว่าแขนเสื้อของฉันถูกกระตุก นั่นทำให้ฉันหันไปหาน้องน้ำที่อยู่ข้างหลัง
??” .. สาวน้อยถาม
ฉันหันไปมองที่นายเอิร์ธ ก่อนที่เขาจะหัวเราะและตอบฉันว่าไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตามก่อนที่ฉันจะกลับลำเพื่อไปซื้อของเตรียมอาหารัพวกนายแว่นเสีนายก็ไปทานัพวกเราด้วยสิ ก่อนอื่นก็ไปซื้อของเตรียมกันก่อน” นายแว่นกล่าวันายเอิร์ธ พร้อมัหัวเราะแห้งๆเช่นเคย
เอ่อ… มันจะดีเหรอครับ” นายเอิร์ธกล่าวพร้อมัมองมาที่ฉันด้วยท่าทางที่สงสัยและเต็มไปด้วยคำถาม
สำหรับคนปกติมันคงจะดูเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างน่าประหลาดใจเพราะนี่เป็นการพบกันครั้งแรก แถมอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะมีแผนไปทานอาหารัคู่รัก แล้วทำไมเขาถึงได้ชวนก้างขวางคอที่ก็ไม่ได้สนิทกันและพึ่งจะรู้จักกันไปเพิ่มอีก แต่แน่นอนว่านี่คือนายแว่นัสาวน้อยผู้มีสองบุคลิก สิ่งที่พวกเขาคิดและทำนั้นนับได้ว่าห่างไกลจากคนปกติอยู่มาก
.. ไปด้วยกันเถอะ อย่าไปคิดมากเลย” ฉันตอบนายเอิร์ธ
.. พี่…พี่เคี้ยวทำอาหารเก่งนี่คะ หนูอยากลองทานอาหาร.. ฝีมือพี่ดู” สาวน้อยคุยัฉัน สำหรับเธอคนนี้ ตั้งแต่ที่ฉันชวนคุยเรื่องแปลกๆไปก็ดูเหมือนว่าเธอจะค่อนข้างอ่อนลงไปมาก และหลังจากนั้นฉันเองก็มีเบอร์ติดต่อัเธอ นั่นทำให้เราค่อนข้างที่จะได้คุยกันบ่อยขึ้นนั่นทำให้เธอเป็นรุ่นน้องที่นับได้ว่าสนิทที่สุดแล้วสำหรับฉัน ตอนนี้เธอจึงดูเหมือนสาวน้อยท่าทางขี้อ้อนอย่างที่เห็น
เอาสิ เราอยากลองทานอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าละ “
.. ได้แน่นอน พี่ทำอาหารได้ทุกแนวอยู่แล้ว อยากจะลองพวกอาหารฝรั่งหรืออาหารญี่ปุ่นดูก็ได้นะ แล้วพวกนายละ อยากทานอะไรเป็นพิเศษรีเปล่า.. “ ผม… เอ่อ อะไรก็ได้ครับ” นายแว่นตอบ
ฉันเกลียดเมนูอะไรก็ได้ที่สุด มันทำยาก”
ฉันยังคงจินตนาการแทบไม่ออกว่าจากบุคลิกแบบนี้ของนายแว่น ไปทำอีท่าไหนถึงได้สนิทสนมัน้องน้ำได้ ลองนึกภาพที่พวกเขาได้คุยกันแรกๆ ฉันคิดได้แค่ว่าสองคนนี้อาจส่งโทรจิตไปคุยกัน อาจจะนั่งห่างกันสิบเมตร ไม่กล้าสบตาแล้วก็มีเสาสัญญาณอะไรสักอย่างงอกออกมาจากหัวแล้วพวกเขาก็สื่อสารกันด้วยภาษาที่ฉันไม่เข้าใจ
งั้นเอาเป็นเมนูที่เธอรู้สึกชอบก็แล้วกันครับ แหะๆ “ เสียงอ่อนๆของนายแว่นตอบกลับมา
ฉันผิดเองแหละที่ไปถามไอ้หมอนี่ ฉันเลิกสนใจนายแว่นแล้วหันไปหานายเอิร์ธแทน
เอ่อ ผัดกะเพราหมู ก็ได้มั้งนะ” เขาคิดสักพักก่อนที่จะตอบ
งั้นเอาเป็นทงคัตสึด้งแล้วกัน เธอทำได้แน่นะ” เขาเปลี่ยนเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นทันทีที่ถูกท้วงพ
เรื่องกินและเรื่องอาหารเป็นเรื่องเดียวที่ฉันคิดว่าฉันเก่งมากกว่าคนอื่นๆ” ฉันตอบเขา
อย่างน้อยฉันเองก็คิดแบบนั้น มันไม่มีอะไรยาก เพราะมันไม่ใช่เรื่องอย่างฟิสิกส์เคมีที่ต่อให้มีสูตรเราก็ยังคงต้องคิดแล้วคิดอีกเพราะบรรดาเหล่าอาจารย์จะไม่ส่งโจทย์ที่แค่แทนค่าลงในสูตรก็จบให้คุณ บางอย่างคุณต้องตรัสรู้ได้ด้วยตนเอง บางอย่างคุณต้องไปหาค่าจากกราฟหรือจากตารางหรือไปมโนเอาจากกฎสักข้อหรือสมมติฐานสักอย่าง ซึ่งคุณก็ต้องตั้งสมมติฐานเอาเอง
แต่สำหรับอาหาร แค่รู้สูตรและวิธีการทำ มีวัตถุดิบ พอผ่านมือของฉัน ฉันก็ค้นพบว่าตัวเองก็ทำอาหารได้แทบจะทุกชนิด เท่าที่จำได้ “ทงคัตสึด้ง” มันก็แค่ข้าวหน้าหมูชุบแป้งทอดราดซอสให้มีกลิ่นไอแบบญี่ปุ่น
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??