เรื่อง ข้าเสแสร้งจนกลายเป็นเซียน
‘อืม จะว่าไปแล้ว ชื่อพวกของขวัญมือใหม่ก็ไม่เลว ชื่อแซ่พวกเาล้วนไม่อาจยั่วยุได้ ยิ่งแซ่ เย่ ยิ่งไม่สามารถตอแยได้เลย บุตรแห่งโชคชะตา ทุกคนก็ชื่อแซ่ไม่เลว ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น!’
ิไ้ดังนั้นหลี่เย่จึงคินหาชื่อตัวเอกที่ไร้พ่ายตั้งแต่เกิด เก่งที่สุดเท่าที่เคยอ่านมาในชีวิตก่อนของเา
“อืม นามของข้านั้นไม่ธรรมดา แต่ข้าจะบอกพวกท่านไว้ เหนือฟ้าเหนือสวรรค์ นามข้า ลู่ ฉางชิง!”
‘บัดซบ! ศิษย์ข้า ข้าคงไม่อาจพาพวกเจ้าหลบหนีได้อีกแล้ว ร่วมเสแสร้งกับข้าจนฟ้าดินลงโทษจนตายเถอะ ถ้าเารู้ความจริง ข้าจะอ้อนวอนขอใ้ไว้ชีวิตพวกเจ้า’
นักพรตส่งจิตใ้กับศิษย์เาทุกคน และอธิบายใ้พวกเาเสแสร้งใ้หนัก เพื่อรอดชีวิตไปวันต่อวัน
“ได้พบปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แล้ว”
ทุกคนคาราวะไปหาลู่ ฉางชิง พร้อมกันไม่กล้าตุกติกแม้แต่น้อย
“เอาล่ะ พวกท่านไปเลือกสถานที่พักผ่อนได้ ข้าจะอยู่ด้านในสุดของนิกาย มีลานกว้างเป็นสวนพร้อมตำหนักเล็กๆอยู่ที่นั่น ข้าไม่รู้ข้อมูลของโลกใบนี้เลย เอาล่ะ ข้าจะเีพวกเจ้าหลังจากข้าเตรียมการพร้อม”
“ตามที่ท่านต้องการ”
“โอ้ นิกายข้านามว่า “เหนือเต๋า””
สูดดดดด
ฟ่อออออ
‘กล้าหาญอะไรขนาดนี้’
‘จบแล้ว ข้าต้องไปสู้กับเซียนในระดับฝึกฉีหรือไม่’
‘สร้างรากฐานสามารถตรัสรู้เต๋าได้ไหมพี่ชาย’
“พวกเราทราบนามอันยิ่งใหญ่แล้ว”
เมื่อลู่ ฉางชิงจากไป ทุกคนหันไปมองนักพรตเสวี่ย ด้วยสายตาขอร้องอ้อนวอน มีความเย็นชาโกรธเคืองมาด้วย! แต่เพราะพวกเาถูกนักพรตเลี้ยงมาตั้งแต่ยังอายุน้อย พวกเาเลยเคารพนักพรตดั่งบิดา ไม่ได้ไปไกลมากนัก
“เจ้านักพรตเฒ่า หักเหรียญต่อสิ รออะไรล่ะ คำนายต่อ โชคดีหรือไม่ ทางซ้ายหรือไม่!”
ศิษย์หญิงใหญ่กช่างด้วยความไม่พอใจ
“หญิงใหญ่ ทุกคน ข้าขอโทษพวกเจ้า อย่างน้อยเราก็มีที่ซุกหัวนอนแม้จะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เราจะมีชีวิตต่อหรือไม่บางทีนี่อาจจะเป็นพรของเราก็ได้ ข้าเห็นนิมิตที่ยิ่งใหญ่”
“หึ ถ้าข้าตาย ข้าจะหลอกหลอนเจ้า”
“ศิษย์น้องอย่าไปไกลใ้มากนัก เรามาคุยกันเถอะว่าเราจะดำเนินการต่ออย่างไร ถ้าเาจับความผิดปกติได้ เราจะตายกันหมด”
เย่ ชิงเิกล่าวอย่างจริงจัง
ได้ยินดังนั้นทุกคนก็เงียบ นักพรตเสวี่ยก็พยาาคิดอย่างหนักเช่นกัน พวกเาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเาอยู่ที่ไหนทางออกนิกายก็เป็นป่าทึบ
“เอาล่ะ ข้าคิดว่าเราควรคิดไปตามสถานะการณ์ ผู้อาวุโสถามอะไรก็บอกเาไปตามตรง แต่วิถีเต๋า ฐานการบ่มเพาะเราจะต่ำไม่ได้เด็ดขาด! โอ้อวด! เสแสร้งใ้หนัก! ใ้ผู้อาวุโสคิดว่าเรามีประโยชน์!”
ศิษย์หญิงใหญ่ขมวดคิ้วแน่น เธอคิดแตกต่างออกไป
“ข้าคิดว่า ถ้าเราร่วมมือกันสู้ล่ะ ข้าไม่เห็นฐานการบ่มเพาะของเาเลย พวกท่านคิดว่าจะดีหรือไม่”
“ไร้เดียงสานัก เจ้าไม่เห็นหรือศิษย์น้อง เากล้าท้าทายสวรรค์ ตอนที่เราอยู่ในตำหนักข้ารู้สึกถึงสายฟ้าที่ยิ่งใหญ่ถ้าเาไม่ใช่ผู้เยี่ยมยุทธ เาจะรอดมาได้อย่างไร ข้าคิดว่าไม่มีใครกล้ารับสายฟ้าในครั้งนั้นเป็นแน่”
เย่ฉางชิงตอบ พร้อมมองไปที่นักพรตใ้เาตัดสินใจใ้ดี เนื่องจากฐานการบ่มเพาะของพวกเาอ่อนแอราวมดปลวก เลยไม่กล้าทำอะไรกับลู่ ฉางชิง
“เห้อ ยอมรับชะตากรรมเถอะ ร่วมมือกับเา”
“โอ้อย่าลืมเสแสร้ง”
“ขอรับอาจารย์”
แล้วทุกคนก็จากไปหาห้องพักของตัวเอง พร้อมคิดวิธีส่งเสียงบี๊บต่อหน้าลู่ ฉางชิงอย่างหนัก
ขณะเดียวกัน ตำหนักในสุดภายใต้นิกายเหนือเต๋า
‘เห้อ ข้าดันเข้ามาในโหมดยากซะได้ ถ้าข้าอ่อนแอพวกเาจะฆ่าข้าไหม ข้าไม่รู้วิธีฝึกฝนด้วยซ้ำ อันตรายอันตราย
ข้าต้องหลอกถามพวกเาเกี่ยวกับวิธีฝึกฝนของโลกใบนี้ และวางแผนใ้พวกเาหาทรพยากรและอาหารมาใ้’
บัดซบเทพเซียนต้องดื่มกินไหม? พวกเาจะสงสัยไหม? ที่นี่ไม่ใช่นิยาย ข้าจะตายจริงๆ โชคดีที่ลานนี้พอมีบ่อน้ำกับผลไม้ที่ไม่รู้มีพิษหรือไม่อยู่ด้วย ค่อยลองหลอกใ้พวกเากินก่อนแล้วกัน
ิไ้แล้วเาก็กลับเข้าตำหนักเล็กๆและหลับไป้ัความเครียด
ใช่แล้วทุกคนในนิกายนี้ต่างเครียดเช่นกัน
เช้าวันต่อมา
ลู่ ฉางชิงไปเีนักพรตเสวี่ยมาสอบถามข้อมูล เานั่งรอด้วยความเคร่งเครียด ความคิดในหัวของเาวิ่งอย่างรวดเร็ว
ทำใ้ผู้คนรู้สึกว่าเาไม่ได้อยู่ในโลกใบนี้ ราวถอดจิตไปโลกอื่น
นักพรตเห็นฉากนี้แล้วก็คิดไปไกล
‘โอ้ ผู้ยิ่งใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาไร้เปรียบ อารมณ์โดดเดี่ยวราวไร้พ่าย สวมชุดสีดำตัดกับผิวขาวใส นี่สินะเหนือสวรรค์ ลู่ฉางชิง ข้าควรทำอย่างไร เีดีหรือไม่ ถ้าผู้อาวุโสโกรธล่ะ’
นักพรตเหงื่อตกที่แผ่นหลังราวกับยืนกลางทะเลทราย และเสียงอันไพเราะ สงบราวสายน้ำก็ดังขึ้น
“ท่านกุนซือภายใต้ที่นั่งนี้มาแล้วหรือ ข้าขอถามท่านมีวิธีไหนใ้นามอันเกรียงไกรของนิกายข้าโด่งดัง โลกไม่ลืมหรือไม่”
“กลับไปหาท่านเจ้านิกาย ข้ามิบังอาจเป็นกุนซือใ้ท่านผู้ยิ่งใหญ่ได้ แต่วิธีที่เราจะสร้างนิกายต้องไปลงทะเบียนกับเจ้าเมือง เพื่อขึ้นทะเบียนสำนัก
สำนักระดับต่ำมากมาย ระดับ 3 เีนิกาย 2,1 เีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
แต่ละระดับมีเงื่อนไขที่เข้มงวดมาก หลังที่ข้าเข้ามาโลกใบนี้แล้วข้าได้ศึกษาการสร้างสำนักมาไม่มากก็น้อย”
นักพรตเสวี่ยทำท่าครุ่นคิด ลูบเคราของเาพรางโบกพัดขนนกพอเป็นพิธีราวปราชญ์ช่วงยุคขุนพล
แต่เสียงหนึ่งโพร่งเข้ามาทำใ้เาแทบวิ่งหนี แค่ไม่กล้าก้าวออกไป
“ไร้สาระ!!”
ลู่ ฉางชิงไม่อยากเล่นตามเกมเพราะเารู้โครงเรื่องแนวสร้างนิกาย บางเรื่องใช้เวลาเกือบครึ่งหมื่นตอนด้วยซ้ำเาไม่อยากหมกมุ่นอยู่ในโลกนี้นาน เาเชื่อว่ามีโลกเบื้องบน มีเอกภพ มีเอเลี่ยนอีกมากมายตามที่เาเคยอ่านมา
“ท่านมีข้อสงสัยใดหรือไม่ ถ้าท่านเร่งรีบข้าปราชญ์ผู้นี้ก็จะบอกวิธีที่ท่านจะพอใจท่านเจ้านิกาย”
นักพรตแสร้งส่งเสียงบี๊บต่อไป ภายในใจเากลัวแทบตาย
‘ข้าพูดอะไรผิดหรือไม่’
‘ข้อมูลข้าถูกต้อง ข้ารู้เงื่อนไขที่สำนักจะถูกยึดทรัพยากรด้วยซ้ำ’
‘อย่าฆ่าข้าเลย ใ้ข้าผายลมต่อเถอะ’
“ข้าอยากทราบวิธีที่จะเป็นที่1 โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆภายใต้อำนาจเบ็ดเสร็จ ท่านเข้าใจหรือไม่”
“ถ้าเช่นนั้นข้าพอมีวิธี”
“โปรดบอกข้าเถิดกุนซือภายใต้ที่นั่งนี้”
ลู่ ฉางเชิงสงสัยมาก เาไม่กลัวเพราะนิกายเามีค่ายกล ตัวเามีของขวัญมือใหม่ปกป้อง ถ้าเาบอกใ้เย่ชิงชักกระบี่ ข้ากลัวว่าผู้ฝึกยุทธด้านนอกจะตกใจจนตาย
“นิกายลับ!”
“ขึ้นชื่อว่านิกายลับทางการจะตรวจสอบได้อย่างไร พวกเราแข็งแกร่งมาก พวกเากล้ามาตรวจสอบหรือ ใครกล้าต่อต้าน ลบหลู่ชื่อนิกาย ทุบตีพวกเา หรือตัดหัวมันเสีย พวกเาจะใ้เราเป็นนิกายลับเหนือเต๋าอันศักดิ์สิทธิ์โดยปริยาย ท่านคิดว่าอย่างไร?”
“ไม่เลวเลย ท่านช่วยข้าได้มากจริงๆ”
ลู่ฉางชิงยิ้มอย่างสบายใจ และคิดจะถามเรื่องอื่นๆ
ในใจนักพรตเสวี่ยก็อายแทบตาย ข้าพึ่งพ่นอะไรออกไป โลกนี้มีนิกายลับไหม? ข้าไม่เคยฆ่าคนด้วยซ้ำ ถ้าทางการมาข้าคงถูกทุบตีจนตาย สวะสร้างรากฐานส่งเสียงบี๊บต่อหน้าทางการ
ตอนนี้เข้าข้างฝ่ายไหน ทางไหนก็ตาย
‘ใจเย็นๆ มีต้นขาทองคำใ้เกาะ สู้ไม่ไหวก็อ้างไม่อยากลงมือกลัวโลกจะแตก แบบนี้ได้ไหม? เป็นไปได้! ข้าคือปราชญ์แห่งสวรรค์ภายใต้นิกายเหนือเต๋าอันศักดิ์สิทธิ์!’
“เอาล่ะ ท่านรู้ไหมว่าที่นี่คือที่ใด พวกท่านออกไปสำรวจเส้นทางกันหน่อย เจอสัตว์ร้ายหรือมอนเตอร์ ผลไม้ก็นำกลับมา ข้าจะปรุงอาหารด้วยตัวเอง”
“ตามที่ท่านต้องการ”
นักพรตเสวี่ยรีบจากไปด้วยใบหน้าซีดเซียว ออกไปสำรวจ บัดซบ! ข้าสร้างรากฐานขั้นที่4 ไปสำรวจป่าทึบกับศิษย์ฝึกฉีดีไหม ฆ่าสัตว์ร้าย? ฆ่าไก่ยังลำบากเลยพี่ชาย ขอร้องล่ะ
ผ่านไปประมาณ1เค่อ หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้ว
“ศิษย์ข้ารวมตัว ข้าจะอำลาพวกเจ้า”
นักพรตพูดด้วยสายตาแดงก่ำ
ไม่กี่นาทีต่อมาสาวกมารวมตัวกันทั้งหมด พร้อมส่งนักพรตเฒ่าออกไปหลังจากฟังคำอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น
“อาจารย์อย่ากังวลข้าจะดูแลศิษย์น้องอย่างดี”
“อาจารย์อย่าหักเหรียญอีกต่อไป”
“อาจารย์…”
ศิษย์ต่างรอส่งนักพรตออกไปอย่างไม่เต็มใจ
“เดี๋ยวข้าจะกลับมาอย่างกังวล”
เาโยนเหรียญขึ้นอีกครั้งอธิษฐานหาทางที่ปลอดภัย
‘สวรรค์ข้าควรไปทางไหนซ้ายหรือขวาหากข้าพลาดสหายของท่านลู่ ฉางชิงจะไม่มีกุนซือในโลกนี้อีกต่อไป’
และเาก็จากไหน้ัเสียงมิติที่พังทลายลงอีกครั้งต่อหน้าเหล่าสาวก
“บูม!!”
เงียบ
เงียบแทบตาย
“ข้าหวังว่าอาจารย์จะกลับมาได้ ไปกันเถอะ เดี๋ยวผู้อาวุโสจะสงสัย เาส่งอาจารย์ไปหาสัตว์ร้าย ไม่ได้ไปตาย จะมาส่งอะไรกัน”
เย่ ชิงเิกล่าวปลอบใจศิษย์น้อง
หลังจากได้ยินเสียงระเบิดลู่ ฉางชิงก็สบายใจมาก เารู้ว่านักพรตได้ลงมือตัดมิติไปหาอาหารแล้ว หลังจากยินดีฉางชิงก็ถอนหายใจและครุ่นคิดต่อไป
‘ข้าไม่รู้ว่าข้าจะแข็งแกร่งหรือไม่ เป็นอัจฉริยะ? มีรากวิญญาณหรือไม่ ข้าไม่กล้าออกจากค่ายกลป้องกันด้วยซ้ำต้องหลอกพวกเาไปเปิดทางใ้ได้ เมื่อแน่ใจแล้วข้าจะพาใครสักคนออกไปประกาศศักดานามนิกายข้า ถ้าข้าเป็นขยะจริงๆก็ลืมไปเถอะ แกล้งหลอกพวกเาจนข้าตาย’
ิไ้ดังนั้นเาก็เีชิงเิมาหา้ัใช้ใ้ไปัไ้มาใ้เาแะัเล่นาว่าง
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??