เรื่อง ทะลุมิติ ย้อนเวลาไปแต่งงานกับนายหน้าโหด สุดซื่อ
หลังจากของต้าอู๋มาจอดน่าจะช่วงบ่าย4โมง พวกเราก็ขึ้นมานั่งรอบน ชายหนุ่มมองภรรยาของเขาที่หน้าแดงจากแดด
มาครั้งหน้าต้องซื้อหมวก หรือร่มให้นางใช้เสีย เขาไม่อยากเห็นภรรยาเขาลำบากขนาดนี้
สวนทางกับภรรยาที่กำลังคิดหาวิธีทำเงินเพื่อเลี้ยงดูทั้งสามีและน้องของตน ระหว่างที่คิด ลมเย็นๆที่พัดเข้ามาในก็ทำให้นางเคลิ้มหลับไปบนไหล่ของสามี น้องชายของนางก็หลับเช่นเดียวกันตัวเอนมาบนตักของนาง ชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นก็เอาแขนโอบทั้งสองไว้
ทำเอาภาพนั้นเป็นที่พูดถึงของหญิงสาวใหญ่ สาวน้อยทั้งคันว่า อยากมีสามีเช่นนาง ถึงหน้าตาจะไม่หล่อเหลา แต่ไม่ยอมให้ถือของหนัก อีกทั้งยังดูใส่ใจอีกต่างหาก หญิงสาวบางคนก็เหลือบมองสามีตนที่นั่งข้างๆ แต่ก็ไม่เป็นผลใดๆ
.
.
หลังจากที่ทั้งสามถึงบ้าน ฝ่ายภรรยาที่ยังสะลืมสะลือ ก็อยากจะนอนพักอีกซักงีบ นางจึงให้ทุกคนวางของในครัว ก่อนจะจูงมือทั้งน้องและสามีไปที่เตียง ก่อนที่นางจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทำเอาน้องชายและสามีทั้งมองตากันแล้ว แล้วอดที่จะสื่อทางสายตากันไ่ไ้ว่านางช่างน่ารักจริงๆ ทั้งสองจึงตัดสินใจทิ้งตัวลงนอนข้างๆทำให้เตียงเย็นๆอุ่นขึ้นมา
ชายหนุ่มมองไปทางภรรยาและน้องของนางที่หลับปุ๋ยทั้งสองคน พรางคิดว่าหากลูกของเขาเกิดมาคงเห็นภาพเช่นนี้จนชินตาเป็นแน่ จะมีซัก 3 หรือ 5 เขาก็ย่อมไม่เกี่ยงงอนกับนางแน่ ในใจก็คิดว่าต้องไปช่วยงานลุงหวงเสียตั้งแต่หน้าหนาวเลยดีกว่า มีเงินเก็บไว้ย่อมดีกว่า ดูท่าว่านางต้องการส่งอาโยวเรียนเสียด้วยต้องใช้เงินอีกมาในฤดูใบไม้ผลิที่จะถึง แน่นอนว่าต้องมีพอสำหรับลูกของเขาด้วยอีกคน คิดไปพรางชายหนุ่มก็เกลี่ยปอยผมที่ติดหน้าของภรรยาอย่างเอ็นดู
หลังจากหลับไปสักพักใหญ่หญิงสาวก็ตื่นขึ้นมา ปรับสายตาให้เข้ากับแสง นางจำได้ว่าตอนเข้านอนยังแดดแรงอยู่เลยตอนนี้ฟ้าเริ่มแดงเสียแล้ว จึงมองทั้งสองที่นอนข้างนาง อาโยวนอนกลิ้งจนกลับหัวกลับหาง สามีของนางตอนนี้ก็นอนโดยใช้พุงของนางเป็นหมอน ภาพตรงหน้าช่างเป็นเหมือนกับชีวิตที่เธอฝันจริงๆ แต่ไ่ไ้การนอนช่วงเย็นแบบนี้จะปวดหัวเอาได้ นางจึงตัดใจปลุกทั้งสองคนในตื่น
“อาโยว ลี่จิ่น ตื่นได้แล้วค่ะ เย็นมาแล้ว”นางกล่าวพรางลูบไปที่หน้าของทั้งสองคนตัวโตลืมตาตื่นแล้วมองมาทางเธอแล้วยิ้ม
“ยิ้มอะไรคะ หืม?” ฉันจับแกล้มของสามีแล้วบีบเบาๆ
นางย่อมรู้ดีว่าสามีของนางนั้นไม่ค่อยมั่นใจเรื่องความหล่อเหลาของตนเอง ยิ่งไปเที่ยววันนี้ยิ่งเห็นได้ชัด แสดงความหึงหวงค่อนข้างจะรุนแรง แต่ก็ยังมีมารยาท ความหึงหวงเช่นนี้ย่อมมาจากความไม่มั่นใจของเขา นางต้องสร้างความมั่นใจในตัวเขา และตัวนางมากนิ่งขึ้น เพราะนางอยากอยู่ในครอบครัวเช่นนี้ไปนานๆ
ชายหนุ่มตรงหน้าสายหน้าให้หลุดจากมือของนาง ก่อนจะของไปทางเด็กน้อยบนเตียงที่บิดขี้เกียจหันไปอีกทาง เขาจึงทำใจกล้าหอมนางฟอดใหญ่ ทำเอาหญิงสาวที่ไ่ไ้เตรียมใจหน้าเห่อแดงเป็นริ้ว
เดี๋ยวดีใจกล้าใหญ่แล้วนะ
หลังจากปลุกทั้งหมดให้ลุกออกจากเตียงได้ ทั้งสามไปทางห้องครัวฟ้าเพื่อทำข้าวเย็น ท้องฟ้าก็มืดเสียแล้วก็มืดเสียแล้ว
“เดี๋ยวผมก่อไฟก่อน ต้มโจ๊กอุ่นๆ กินง่ายๆค่อยเข้านอนก็ได้ อย่างน้อยจะได้อิ่มท้อง”
“ทานข้าวดีกว่าค่ะ อยู่ท้องกว่า เมื่อเช้าก็ทานโจ๊ก” สามีขอนางก็ไ่ไ้ขัดใจ เพียงพยักหน้าและก่อไฟหุงข้าวต่อแน่นอนว่าก็ต้มน้ำอีกเตาไว้อาบด้วย
หลังจากหุงข้าวน้ำก็ร้อนได้ที่สามีจึงเตรียมน้ำไว้ให้อาบและนำถ่านส่วนหนึ่งไปใส่ในห้องให้อุ่นขึ้น ส่วนนางก็ผัดกับข้าวและเจียวไข่ อาโยวช่วยเตรียมโต๊ะอาหาร หลังจากทานอาหารเรียบร้อย ทุกคนก็แยกย้ายกันอาบน้ำเข้านอน
หญิงสาวมองสามีของนางที่ขยับตัวออกจากส่วนที่นอนของนาง สามีของนางอุ่นเตียงให้นางเสียด้วย เป็นเช่นนี้แล้วจะให้นางไม่เอ็นดูเขาได้อย่างไร
“อาเจียว จะส่งอาโยวเรียนไหม”ชายหนุ่มกล่าวขึ้น
“อ่อ ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย ฉันจะส่งเขาค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะส่งเรียนที่ไหน”
“ผมว่าเราส่งไปที่โรงเรียนเดียวกับอาอู๋ไหม อย่างน้อยพวกเขาก็จะได้ไปกลับโรงเรียนด้วยกันได้”
“ดีค่ะ ขั้นตอนเตรียมอะไรบ้าง ต้องไปถามใครคะ”
“เดี๋ยวผมต้าอู๋ให้ เขาเคยเรียนที่นั่นจนถึงปีที่แล้ว”
หญิงสาวจริงพยักหน้าตอบเขา “แล้วคุณล่ะคะ จะเรียนเป็นหมอต่อไหม ฉันจะหาเงินให้เรียน” คำพูดของนางทำเอาร่างสูงข้างๆตกใจไม่น้อย นางคิดจะหาเลี้ยงผู้ชายตัวโตเช่นเขาเหรอเนี่ย
“อ่อ ผมจะลองหาตำรา กับพวกหนังสือมาดูก่อน ในเมืองที่เราไปวันนี้มีที่เรียนหมออยู่2-3ที่ ว่าจะลองสอบเข้าดูช่วงฤดูใบไม้ผลิ”
หญิงสาวพยักหน้าตอบอีกครั้งพรางพูดเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน “ฉันชอบที่คุณจะเป็นหมอค่ะ ถ้าได้เป็นภรรยาของหมอก็คงจะดี” น้ำเสียงที่ติดทีเล่นทีจริง ทำเอาเขาส่ายหน้าเบาๆ
“เรื่องเงินผมว่าช่วงฤดูหนาวนี้จะไปช่วยลุงหวงเขาทำงานไม้ ถึงจะช่วยไ่ไ้มาก แต่ก็คงได้เงินมาบ้าง” เขาพูดบอกนาง ก่อนดูท่าทีของนาง
“ฉัน เอ่อ ยังไม่อยากให้คุณไปทำส่วนนั้น ฉันว่าจะลองทำสูตรขนมที่คิดไว้ ว่าจะทำขายค่ะ อยากให้ช่วยฉันมากกว่า” ฉันอยากที่จะลองดูตลาดก่อนถึงจะเคยขายมาแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ที่นี่ น่าจะมีเจ้าถิ่นหรือปัญหาอื่นๆตามมาแน่ๆ อีกอย่างบางขนมที่คิดจะทำก็ต้องใช้แรงตีหรือนวดเยอะมาก “เอ่อ ฉันจะลองทำดูซัก 2เดือนนี้ค่ะ ถ้ามันไปไม่รอดคุณจะลองไปทำงานไม้ก็ได้”
ความจริงแล้วเขาก็ไ่ไ้อยากรีบร้อนหาเงิน แต่ ทั้งวันนี้เขาต้องสู้กับสายตากับชายหนุ่มมากหน้าหลายตาที่จ้องภรรยาของเขา เขาก็คิดจะทำงานหาเงินให้ภรรยาของเขาได้สุขสบาย อีกทั้งวันนี้พอได้เห็นเด็กเล็กๆ เขาก็เริ่มที่จะอยากมีตัวน้อยเป็นของตัวเองให้ชื่นอกชื่นใจบ้างเท่านั้น เขาสลัดเรื่องในหัวก่อนที่จะพูด
“ได้เรายังมีเงินพอ อีกอย่างอาเจียว เรามีตัวเล็กกันซักคนดีไหม” ชายหนุ่มพูดออกไปเพื่อดูท่าทางของนาง
“นี่คุณพูดจริงหรือเล่นคะ?!” หญิงสาวตกใจกับคำพูดดังกล่าวค่อนข้างมาก เพราะเมื่อคืนก่อนนางเพิ่งตกลงจะเก็บเงินให้พร้อมก่อนอยู่เลย
“ก็ต้องจริงอยู่แล้ว ผม25หนาว อาเจียวก็18หนาวแล้ว อีกอย่างเราก็แต่งกันแล้วมไม่เห็นมีอะไรเสียหาย”
“ใช่ค่ะมันไม่เสียหายที่เรา แต่ปัญหาจะลงที่ลูกของเราค่ะ เพราะเรามีเงินไม่พอที่จะซื้อข้าวสาร หรือ ซื้อเสื้อผ้าดีๆให้กับลูก อีกอย่างคุณกับอาโยวก็กำลังจะเรียน แน่นอนว่าไม่มีเวลาที่จะหาเงิน และเรียนไปพร้อมๆกันแน่” จู่ๆวิญญาณติวเตอร์เมื่อชาติก่อนก็เข้าสิงนางขึ้นมาก นางเห็นเด็กหลายคนมากๆที่ต้องพลาดโอกาสมากมายในชีวิตเพียงเพราะว่าท้อง และทำผู้หญิงท้องในวัยเรียน ซึ่งเป็นวัยที่ไม่พร้อมที่จะหาเลี้ยงตัวเองได้ด้วยซ้ำ และเมื่อเธอตั้งสติได้เธอก็หันไปมองหน้าสามีของนางที่ตอนนี้หดหู่แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เอ่อ ลี่จิ่นฉันไ่ไ้ว่าคุณะะ เพียงแต่ฉันไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะหาเงินได้ในระหว่างที่ต้องเลี้ยงดูลูก”
“อาเจียว ถึงเวลานั้นแน่นอนว่าผมไม่ให้คุณหาเงินแน่ ผมต้องดูแลอาเจียวกับลูกเอง!!” ชายหนุ่มพูอย่างหนักแน่น
หญิงสาวก็ส่ายหน้า ถึงเขาจะทำให้ผู้คนกลัวเขาได้จากการมอง แต่ในสายตาภรรยานั้น เขายังเด็กจริงๆ คิดตื้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในยุคนี้ที่เด็กหนุ่มแต่งในวัย20 และเด็กผู้หญิงแต่งตั้งแต่ 15ด้วยซ้ำ นางต้องปรับความคิดของเขาเสีย เมื่อคืดได้ดังนั้น นางจึงประคองหน้าของเขาเบาๆ “ด้วยวิธีอะไรล่ะคะ! คุณจะลาออกจากที่เรียนหมอมาทำงานช่างไม้ ล่าสัตว์ป่าขาย ทำไร่นา หรือทำงานหน่วยคุ้มกัน?! แน่นอนว่าคุณจะทำแบบนั้นได้ แต่พวกเราจะมีพอกินพอใช้ไหมคะ ฉันไม่อยากให้ลูกของเราต้องผอมแห้งเหมือนเด็กๆส่วนใหญ่ในหมู่บ้านนี่ะะ ฉันอยากให้เขาอ้วนท้วน อยากให้เขาใส่ชุดอุ่นๆ ได้ใส่ชุดใหม่ๆบ้างในแต่ละปี!”
พอภรรยาพูดแบบนั้นแล้ว ผมก็ไม่สามาที่จะพูดอะไรได้อีก แน่นอนว่าผมก็อยากให้ลูกของผมกินอิ่ม นอนหลับ ได้ของที่อยากได้ ใส่ชุดที่อยากใส่ แต่งานหลักๆเขายังไม่มีเลยด้วยซ้ำ ทำให้ผมเข้าใจภรรยาจริงๆ ผมนี่มันอวดดีจริงๆ
“พี่เจียว!!! พี่เจียวอย่าดุพี่เขยเลยนะ!” เสียงที่ดังมาจากด้านนอกประตูดังขึ้น พร้อมกับเสียงเคาะหลายครั้ง ทำให้ทั้งสองคนในห้องตั้งสติได้ หญิงสาวตอนนี้ค่อมสามีของนางก็ลงมานั่งข้างๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู
อาโยวที่กำลังจะเคลิ้มหลับได้ยินเสียงเหมือนพี่ๆทะเลาะกันเสียงดัง เขาจริงรีบมาดู ก่อนหน้านี้พี่สาวของเขาก็คอยจัดการแม่เลี้ยงให้ ไม่รู้ว่าพี่เขยทำอะไรผิดใจพี่สาวของเขาถุงได้ทะเลาะกันใหญ่โตเช่นนี้
“พี่เจียวๆ” เด็กน้อยวัย10ขวบที่ก่อนหน้านี้มักจะรู้ความตอนนี้กลับไม่รู้จะพูดอะไร น้ำตาไหลออกจากตาโตๆนั้น ไม่มีทีท่าจะหยุด
“พี่ทำอาโยวตกใจใช่ไหม” นางก้มก่อนอุ้มน้องตนเองขึ้นมา “ซู่ๆ ไม่ร้องไห้ พี่อยู่ตรงนี้แล้วนี่ไง” นางพูดพรางลูบเบาๆที่หลังของเด็กน้อย
“พี่ไม่ทะเลาะแล้วๆ ป่ะ เดี๋ยวพี่ไปกล่อมนอนนะ อาโยวของพี่ยกใจแย่เลย” นางพูดพรางมองไปทางสามีของตนเองก่อนจะออกจากห้องนี้ไป
สามีที่อยู่ตรงนั้น มองภาพตรงหน้าพรางคิด เป็นเขาเองที่อวดเก่ง คิดเพ้อฝันไปว่าจะดูแลพวกนางได้ ในเวลาแบบนี้กลับเป็นอาเจียวที่คอยดูแลทุกคนในบ้าน อีกทั้งยังคิดวางแผนอนาคตครอบครัวได้รอบครอบกว่าเขาที่โตว่านางหลายปีเสียอีก
.
.
*ไ์ยังไ่ไ้ตรวจแก้ไำผิดะะ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??