เรื่อง อสูร มนุษย์ เทวะ

ติดตาม
ตอนที่ 8 พิชิตเทพคุ้มครอง
ตอนที่ 8 พิชิตเทพคุ้มครอง
  • ปรับสีและขนาดตัวอักษร

ตอนที่ 8 พิชิตเทพคุ้มครอง

ภายในถ้ำหินหลังจากฝุ่นผงจากการถล่มลงมาของหินย้อยเบาบางลง อาเค่อกับเหล่าเหล่าซันแตกตื่นจนแทบส้นสติ เบื้องหน้าของพวกมันเป็นงูดินขนาดยักษ์ ลำตัวหยาบใหญ่เท่าครึ่งหนึ่งของเสาร์หน้าวิหารทองคำ ลำตัวทอดยาวลึกไปตามทางเดินที่พวกมันเคยผ่านมาก่อนหน้า เกล็ดสีดำบนลำตัวเต็มไปด้วยหนาวแหลม ส่วนหัวแม้จะไร้ซึ่งดวงตาแต่อาเค่อกับเหล่าซันต่างรู้สึกเสมือนสัตว์ตัวเล็กๆที่ถูกจับจ้องด้วยนักล่า

“เหล่าซันตั้งสติไว้”อาเค่อพยายามเรียกสติเหล่าซัน เทพคุ้มครองคล้ายตัดสินใจเลือกเป้าหมายโจมตีได้ แผงเกล็ดหนามรอบคอคลี่กระจายออกคล้ายพู่บนปลายทวนยาว อ้าปากเผยคมเขี้ยวก่อนฉกกัดไปที่เหล่าซันอย่างรวดเร็ว อธิบายยืดยาวแท้จริงตั้งแต่ต้นจนจบ ซุ้มเสียงของอาเค่อที่กระตุ้นเตือนยังไม่ทันขาดหายด้วยซ้ำ

“ตู๊ม”เศษหินผงฝุ่นปลิวว่อน พื้นหินระเบิดแตกออกเป็นหลุมใหญ่ เป็นที่ทราบได้ว่าการฉกกัดครั้งนี้รุนแรงพียงใด หากอาเค่อไม่พุ่งกระแทกเหล่าซันสุดแรง จนทั้งคู่กลิ้งไปบนพื้นหลบพ้นกาารฉกกัดครั้งนี้ไปได้ เหล่าซันคงส้นชีวิตไปแล้ว

“ขออภัยด้วย เทพคุ้มครองนี่น่ากลัวแทบตายแล้ว แข้งขาข้าอ่อนแรงไปหมด”

“ปลุกปลอบกำลังขวัญไว้ ต้องประสานเสริมกันเช่นทุกครั้งจึงสามารถหนีออกไปได้”

“แต่อาเค่อ ทางออกทางเดียวมันก็ขวางกั้นอยู่ โพรงบนผนังถ้ำก็สูงเกินไป พวกเราจะหนีไปไหนได้”

“งั้นไม่ต้องคิดให้มากความ สู้เอาชีวิตให้รอด ข้าเป็นทัพหน้า เจ้าชิงจู่โจมจากระยะไกล”เมื่อติดสินใจได้พวกมันก็เตรียมพร้อมประสานเสริมกันในทันที เหล่าซันกำชับลูกธนูเหนี่ยวรั้งคันศรทะยานร่างออกห่างจากอาเค่อดุจเหินบิน อาเค่อตั้งสติขยายการรับรู้ถึงกระแสโลหิตภายในร่าง มันกำหนดลมหายโคจรพลังครอบคลุมทั่วร่างกายไว้ดุจสวมอาภรชั้นหนึ่ง โลหิตไหลซึมออกจากใจกลางผ่ามือผนึกตัวกลายเป็นดาบสีชาดอันคมกล้า เทพคุ้มครองรู้สึกถึงกลิ่นอายอันตรายที่อาเค่อปลดปล่อยออกมา มันสลัดแผงเกล็ดหนามแหลมที่ลำคอพุ่งโจมตีใส่อาเค่อดุจ-่าฝน

“แก๊งๆๆ”อาเค่อควงดาบสีชาดดุจจักรผัน ปัดป่ายหนามแหลมไปด้านข้าง สืบเท้าพุ่งตรงไปด้านหน้า เพียงพริบตาเดียวก็โถมเข้าถึงเทพคุ้มครอง

“ตัดหินผา”อาเค่อย่อตัวกระโดดพุ่งเข้าจู่โจมในทันที สองมือยกชูดาบขึ้นเหนือศรีษะก่อนฟาดฟันสุดแรงใส่ส่วนหัวของเทพคุ้มครอง

“แกร๊ง”ดาบของอาเค่อมิใช่โลหะเป็นเพียงโลหิต เกล็ดหนามแหลวของเทพคุ้มครองก็ไม่ใช่โลหะ แต่เสียงฟาดฟันที่ดังดุจกัมปนาตจนแสบแก้วหูนี้ ไม่ใช่เสียงโลหะกระทบกันจริงหรือ

“ตู๊ม”หลังจากฟาดฟันสุดแรงด้วยท่วงท่าตัดหินผา ท่วงท่าที่รุนแรงสามารถตัดหินผาได้ไม่เกินจริง อาเค่อคาดหวังว่าอย่างน้อยการชิงจู่โจมอย่างรวดเร็วอาจทำให้ทพคุ้มครองบาดเจ็บได้บ้าง แต่มันเพียงฝากรอยถากตื้นๆไว้รอยหนึ่ง ทั้งยังถูกเสียงฟาดฟันสะท้อนใส่แก้วหูอย่างรุนแรงจนร่างหยุดชะงักไม่ทันถอยตัวหลบอกมา เทพคุ้มครองาศัยแรงฟาดฟันของอาเค่อเป็นแรงหนุน สบัดหัวเป็นวงกลมฟาดกระแทกร่างาเค่อจนกระเด็นไปหลายสิบเมตร ตามติดด้วยคมเขี้ยวตามฉกกัดในทันที

“ดาราเกลื่อนฟ้า”เหล่าซันเห็นเช่นนั้นจึงยิงศรเข้าขัดขวาง กระบวนท่าดาราเกลื่อนฟ้าของเหล่าซันนั้นพอใช้ออก ลูกธนูหนุนเนื่องพุ่งโจมตีไม่พลาดเป้า เคล็ดการเหนี่ยวรั้งหมุนควงลูกศรที่เหล่าซันคิดค้น เสริมด้วยคันธนูที่สร้างจากไผ่แดงไร้ปล้องกับใยแมงมุมหินก่อเกิดพลานุภาพรุนแรง ลูกศรแม้ไม่สามารถเจาะผ่านหิวหนังของเทพคุ้มครอง ถึงกับระเบิดกระดาษออกเป็นฝุ่นผงจากแรงปะทะ แต่ลูกศรหนุนเนื่องต่อกันหลายสิบดอกในพริบตา แรงปะทะอันรุนแรงต่อเนื่องถึงกับกระแทกเทพคุ้มครองจนถอยล่น ฉกชิงเวลาให้อาเค่อสามารถกลับมาตั้งหลักได้

“บาดเจ็บสาหัสหรือไม่”เหล่าซันกล่าวถาม สองมือยงเหนี่ยวรั้งยิงลูกศรสกัดการเคลื่อนไหวของเทพคุ้มครองตลอดเวลา

“เพียงภายนอกเท่านั้น อาภรสีชาดยังใช้การได้อยู่”อาเค่อกล่าวเช่นนั้นเหล่าซันก็ใจชื้นขึ้น อาภรสีชาดเป็นวิชาเฉพาะตัวของอาเค่อ เมื่อตั้งสติกำหนดลมหายใจโคจรพลังควบคุมกระแสโลหิตจะสามารถใช้พลังนั้นปกคลุมร่างกายเป็นเกราะป้องกันชั้นหนึ่ง

ด้วยการประสานเสริมอย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะเวลาอันสั้นเทพคุ้มครองไม่สามารถสังหารพวกมันได้ง่ายๆ แต่พละกำลังแตกต่างมากเกินไป ในที่สุดเหล่าซันพลาดท่าถูกเทพคุ้มครองสลัดเกล็ดหนามแหนมแทงทะลุต้นขาไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้รวดเร็วเช่นเดิม อาเค่อเห็นสหายบาดเจ็บจึงทุ่มเทเรี่ยวแรงร่ายกระบวนท่าฟาดฟันดาบอย่างคลุ้มคลั่ง

“เหล่าซันรีบหาที่ซ่อนตัวก่อน”สถาณการณ์คับขับขันเหล่าซันข่มกลั้นความเจ็บปวดคลืบคลานมุดเข้าไปในซอกหินอันคับแคบ ลูกธนูของมันใช้อกจนหมดส้นแต่แรกได้แต่อาศัยท่ารางปราดเปรียวเข้าๆออกลอบจู่โจมด้วยคันธนู คอยดึงดูดความสนใจให้อาเค่อ แต่เมื่อได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ก็ทำไม่ได้แล้ว เหล่าซันเจ็บใจที่ตนเองไร้ความสามารถ เป็นตัวถ่วงแก่อาเค่อ สิ่งที่มันทำได้มีเพียงซ่อนตัวให้ดีตามอาเค่อสั่ง ไม่ให้อาเค่อต้องห่วงหน้าพะวงหลัง

หลังจากร่ายรำกระบวนท่าฟาดฟันดาบสีชาดในมืออย่างบ้าคลั่ง เทพคุ้มครองจำต้องขดตัวถอยร่น แม้อาเค่อจะจู่โจมอย่างบ้าคลั่งแต่มันมิได้ไร้สติ ทุกดาบที่กระหน่ำฟาดฟันมันจงใจเล็งไปที่ตำแหน่งเดียว ในที่สุดเกล็ดหนามแหลมอันแข็งแกร่งของเทพคุ้มครองก็แตกออก โลหิตสีแดงฉานทะลักออกมา

“กรี๊ซ”เทพคุ้มครองส่งเสียงร้องหวยโหน มันไม่เคยได้รับบาดเจ็บสักครั้งในชีวิต รสชาดของความเจ็บปวดช่างยากทนทานได้ หลังจากทำร้ายเทพคุ้มครองจนบาดเจ็บอาเค่อกลับหมดสิ้นเรี่ยวแรงแทบประครองร่างกายยืนหยัดไม่ไหว มันอาศัยดาบโลหิตในมือพยุงร่างกายจับจ้องเทพคุ้มครองอย่างไม่วางตา เทพคุ้มครองได้รับบาดเจ็บครั้งแรกจนขวัญผวาคิดไคร่ถอยร่น แต่เหยื่อตรงหน้าดูไร้สิ้นเรี่ยวแรงต่อสู้ขัดขืน มันไหนเลยปล่อยปละละเลยได้ อาเค่อเห็นเทพคุ้มครองยังไม่เลิกลาเตรียมใช้เขี้ยวพิษฉกกัดสังหารตนเอง อาศัยเรี่ยวแรงที่เหลือประครองสติอย่างมั่นคง ชั่วพริบตาแห่งความเป็นตายดาบสีชาดในมือของมันสลายเป็นละอองฟุ้งไปในอากาศหลอมรวมกับโลหิตของเทพคุ้มครองที่ทะลักออกมา แทบในเวลาเดียวกันเทพคุ้มครองพุ่งตัวฉกกัดทำร้ายมาถึงเบื้องหน้า อาเค่พลันตวาดก้อง

“หมุดสาปสังหาร”หมุดโลหิตเรียวแหลมขนาดใหญ่พุ่งแทงซ้ำบาดแผลเดิม คมเขี้ยวที่ฉกกัดเบี่ยงเบนพลาดเป้ากลายป็นพุ่งกระแทกอาเค่อจนกระเด็นกระแทกเศษก้อนหินบริเวณนั้น ผลแพ้ชนะถูกตัดสินปรากฏ ผู้แพ้สิ้นชีวิต ผู้ชนะบาดเจ็ดสาหัสไม่ทราบชะตากรรม ในโลกอันโหดร้ายความเป็นความตายสุดท้ายแล้วแต่ฟ้าดินกำหนด แต่ภายใต้ถ้ำมืดแห่งนี้ยังมีคนที่สามารถกำหนดชะตาความเป็นตายของอาเค่ออยู่อีกผู้หนึ่ง

เหล่าซันคลืนคลานดุจตัวหนอนไปตามซอกหิน การต่อสู้ระหว่างพวกมันกับเทพคุ้มครองทำให้ถ้ำหินแห่งนี้พังถล่มลงมาบางส่วน ปรากฏเศษหินซ้อนทับกันเกิดเป็นช่องโพรงมากมาย เหล่าซันคลืบคลานไปเบื้องหน้าในใจนทั้งโทษตนเอง ทั้งเป็นห่วงสหายรักสุดท้าย หยุดหลังเอนกายพิงหินก้อนหนึ่ง ฉีกเสื้อที่ทำจากเยื้อไม้ออกมารัดห้ามเลือดที่บาดแผล กัดฟันสู้กับความเจ็บปวดคลืบคลานกลับไป ตัดสินใจสละชีวิตช่วยเหลืออาเค่อ แต่มันกลับหาทางกลับไม่ได้ เสียงการต่อสู้ด้านนอกเงียบหายไปแล้ว ยิ่งทำให้เหล่าซันร้อนใจดุจตัวมดบนกระทะ มันมุดหาทางออกจากซอกหินเหล่านี้แต่กลับคล้ายติดอยู่ในเขาวงกต

“มารดามันเถอะ”เหล่าซันสองตาแดงฉานดุจคนไร้สติ ไม่ทราบเรี่ยวแรงมาจากไหนผลักดันช่องหินที่ซ้อนทับกันจนพังทลายแยกออกจากกัน ตัวมันพุ่งทะลุเศษหินที่ซ้อนทับกันออกมาได้

“อาเค่อ อาเค่อ”เหล่าซันตะโกนร้องหาแต่ไร้เสียงตอบรับ มีเพียงกลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้ง ตัวมันอยู่ที่มุมหนึ่งของถ้ำหินยังได้กลิ่น เศษหินที่พังทลายลงเมื่อครู่ขยับเคลื่อนที่เผยให้เห็นกลไกลักษณะคล้ายประตูทางออกแต่เหล่าซันไม่ได้สนใจ มันเร่งรีบเดินกระเผลกตามกลิ่นไปสุดความสามารถ ในที่สุดก็ห็นเทพคุ้มครองนอนแน่นิ่งไม่เคลื่อนไหว ใกล้กันป็นอาเค่อที่นอนจมกองโลหิตสิ้นไร้สติ เหล่าซันหัวใจหล่นลงพื้น เย็นเยียบขึ้นจากหัวจรดเท้า

“อาเค่อ!”


ตอนต่อไป
ตอนที่ 9 ผู้คนเปลี่ยนไป สถานที...

นิยายแนะนำ

นิยายแนะนำ

ความคิดเห็น

COMMENT

ปักหมุด

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited( Kawebook.com )

Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )
ที่อยู่ : 20 หมู่ที่ 6 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
เวลาทำการ : 08 : 00 - 18 : 00 จันทร์ - เสาร์
e-mail : contact@kawebook.com

DMCA.com Protection Status

เริ่มต้นเผยแพร่ผลงาน

เริ่มต้นเป็นนักเขียนออนไลน์ เขียนเรื่องราวที่ประทับใจ สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และแบ่งปันประสบการ์ดีๆ กับผู้คนทั่วโลก kawebook.com เป็นโอกาส เป็นสื่อกลาง และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการสร้างรายได้ให้กับนักเขียนมืออาชีพ และนักเขียนมือสมัครเล่นจากทุกมุมโลก เพียงสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์เพื่อเขียนหนังสือ การ์ตูน หรืออัพโหลดอนิเมชั่น ที่เป็นผลงานของท่าน และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชน

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา