เรื่อง ปรมาจารย์วิญญาณยุทธ์สยบฟ้า
ด้วยะะเช่นนี้ัเสี่ยวิมิมีทางที่จะหลบพ้นได้เลย แต่ทว่า..เข็มแดงสามเล็มก็ถูกกระบี่ของใครบางคนฟันจนกระเด็น แถมยังพุ่งใส่ร่างของเย้จงเทียนอย่างต่อเนื่องทันที กระบี่แทงเข้าที่หัวไหล่ของมันเข้าอย่างจัง จนปีศาจโลหิตต้องก้าวถอย "เจ้าโง่ไร้สมอง มัวแต่มองอันใดอยู่เจ้าอยากตายมากนักรึ" เสียงของสตรีในชุดขาวเอ่ยขึ้นด้วยความไม่สบอารมณ์ เย่วหลิน แห่งสำนักหมื่นบุปผาสะพรั่งนั่นเอง ัเสี่ยวิรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อยที่นางยื่นมาเข้ามาช่วย แต่หลังจากนั้นมันก็ยืดอก ก่อนจะกล่าวบางอย่างขึ้นด้วยรอยยิ้มน่าหมั่นไส้ "ขอบใจแม่นางที่เข้ามาช่วยข้า แต่ถึงจะไม่เข้ามา ข้าก็หลบไอ้เข็มสีแดงของเจ้าซากศพนั่นได้อยู่ดี" พอเย่วหลิงได้เห็นสีหน้าท่าทางที่ยียวนกวนประสาทของ ัเสี่ยวินางก็หน้าแดงก่ำด้วยความโมโหหนักขึ้นไปอีก "นี่เจ้า….! หึ ช่างเถอะ ข้ามันยุ่งไม่เข้าเรื่องเอง ยามนี้ต้องรีบจัดการเจ้าซากศพเดินได้ผู้นี่เสียก่อน" เย่วหลิงกระฟัดกระเฟียดก่อนจะสะบัดหน้าจากเสี่ยวิไปมองที่ เย้จงเทียน
มันช่างดูน่าขนลุกชวนสยองยิ่งนัก มันถูกแทงเข้าที่ไหล่จนโลหิตไหลออกมาแดงเต็มแขนเสื้อ แต่เย้จงเทียนกลับไม่แสดงความเจ็บปวดออกมาแม้แต่นิดเดียว ใบหน้าของมันดูไร้ความรู้สึกราวกับผีตายซาก "วิชากระบี่สำนักหมื่นบุปผาสะพรั่งกระนั้นรึ ไม่เลว ไม่เลว ร้ายกาจสมคำร่ำลือ หากเป็นผู้อื่นโดนเข้าคงจะบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว แต่นี่เป็นข้ามันก็เลยไร้ความหมาย แถมยังเป็นการดีกับข้าเสียด้วย" เย้จงเทียนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก พร้อมรอยยิ้มชั่วร้ายที่มุมปาก สองจอมยุทธ์หนุ่มสาวรีบตั้งท่าต่อสู้ทันทีเพราะดูเหมือนเย้จงเทียนคิดทำบางอย่าง มันค่อย ๆ ยกแขนข้างที่มีเลือดไหลอาบขึ้น ก่อนจะสะบัดชายเสื้อไปมาอย่างต่อเนื่องจนเลือดสาดกระเซ็นมาทางคนทั้งสอง หากแต่เลือดที่กระเด็นมา กลับแปรเปลี่ยนเป็นเข็มเล็ก ๆ สีแดงหลายสิบเล่มพุ่งมาแทน "วิชาร้อยโลหิตมารสังหารชีพ ของข้าจะเปลี่ยนโลหิตในร่างให้เป็นอาวุธได้หลายรูปแบบ ยิ่งข้ามีเลือดออกมาจากร่างมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเปลี่ยนสภาพพวกมันได้มากขึ้นเท่านั้น"เย้จงเทียนกล่าวขึ้น
เข็มโลหิตแดงพุ่งเข้าหาัเสี่ยวิ กับ เย่วหลิงราวกับ-่าฝน ัเสี่ยวิไร้อาวุธที่จะปัดป้อง จึงต้องให้ เย่วหลิงที่มีกระบี่เป็นคนรับพวกมันแทน "ข้าฝากเจ้ารับพวกมันแทนทีนะแม่นางคนสวย ส่วนข้าจะลอบไปจัดการมันอีกทาง" ัเสี่ยวิกล่าวขึ้นก่อนที่มันจะใช้ความเร็วของตนเคลื่อนไหวไปอีกทางเพื่อเล่นงานเย้จงเทียน "คราวนี้แหละเจ้าโดนข้าเตะจนปลิวแน่ เจ้าผีตายซาก" พอเสี่ยวิตั้งหลังได้มันก็พุ่งเข้าไปหาเย้จงเทียนเพื่อที่จะใช้เพลงเตะสายฟ้าสยบมารเล่นงาน "ช่างเป็นคนหนุ่มที่มั่นใจในตนเองดีเหลือเกิน เสียแต่ว่าใจร้อนไปหน่อย เจ้าคิดว่าเลือดของข้าเปลี่ยนเป็นเข็มได้อย่างเดียวรึเจ้าหนู ถ้าเจ้าคิดเช่นนั้นก็เตรียมตัวไปปรโลกได้เลย.." เย้จงเทียนกล่าวโดยที่ไม่หันมามองัเสี่ยวิด้วยซ้ำ แขนข้างที่โดนแทงยังโบกสะบัดซัดเข็มโลหิตใส่ เย่วหลิน ไม่หยุด ส่วนมืออีกข้างมันก็ยกขึ้นมากัดจนมีเลือดไหล ก่อนสะบัดมาทางเสี่ยวิ หากแต่สิ่งที่ออกมาหาใช่เข็มโลหิตไม่ แต่กลับเป็น แส้สีแดงขนาดยาวที่ทำจากเลือดแทน "นี่คือแส้มารร้อยโลหิตรับไปซะเจ้าหนู..!!"
แส้เลือดที่เหวี่ยงตรงมาหาัเสี่ยวินั้นดูเหมือนจะไม่ธรรมดา เพราะมันส่ายไปมาราวกับเป็นอสรพิษตัวใหญ่ที่ดุร้าย ไม่ว่าเสี่ยวิจะหมุนหลบไปทางไหน มันก็จะไล่ตามไปติด สมกับฉายาปีศาจโลหิต เย้จงเทียนสามารถควบคุมเลือดได้ราวกับใจนึก "บ้าที่สุดนี่มันวิชามารอันใดกัน ไม่มีช่องว่างให้ข้าเข้าไปเล่นงานเจ้าซากศพนี่เลย" ัเสี่ยวิแค่นเสียงกล่าวออกมาอย่างเจ็บใจในขณะที่ใช้ท้าเตะแส้โลหิตสวนกลับไปก่อนจะถึงตัว ผิดกับเย่วหลิงที่แม้จะใช้กระบี่ต้านเข็มโลหิตไม่หยุด แต่นางกลับสงบนิ่งไม่วิตกกังวลใด ๆ ราวกับกำลังคิดบางอย่างอยู่ ก่อนที่นางจะเผยรอยยิ้ม กับแววตาที่ดูมั่นใจออกมา "เป็นเช่นนี้เองสินะ ข้าเข้าใจทุกอย่างแล้ว…" ัเสี่ยวิได้แต่มุ่นคิ้วด้วยความประหลาดใจ มันไม่เข้าใจในสิ่งที่เย่วหลิงกล่าว
"ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น เจ้าคนซื่อบื้อ อดทนอีกนิดพวกเราต้องชนะมันแน่.." เย่วหลิงกล่าวขึ้นกับัเสี่ยวิก่อนที่นางจะหันมาพูดกับเย้จงเทียน "ดูเหมือนเข็มโลหิตของเจ้าจะน้อยลง และ ช้ากว่าเดิมนะ เป็นอันใดไปหรือว่าเลือดเริ่มหมดตัว.." คำกล่าวของเย่วหลิงทำเอาดวงตาของัเสี่ยวิเบิกกว้าง มันเองก็พบว่า แส้โลหิตตรงหน้าเคลื่อนไหวข้าลงไปมากเช่นกัน แต่นั่นก็หาได้ทำให้เย้จงเทียนตื่นตระหนกตกใจที่เย่วหลิงคาดเดาทุกอย่างถูก "เจ้าช่างเป็นเด็กสาวที่มองสถานการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งจริง ๆ ข้าขอนับถือ จริงอย่างเจ้าว่า เลือดในกายข้าหดหายลงไปเป็นจำนวนมาก เพราะถูกนำออกมาใช้งาน แต่ก็อย่าได้ห่วงไป แม้นเลือดข้าจะหมด แต่เลือดของคนอื่นยังมีให้ใช้อีกมากมายนัก…"
วาจาของเย้จงเทียนที่เอ่ยออกมานั้นฟังดูน่าสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง "ที่เจ้าซากศพน่าขนลุกพูดนี่มันหมายความว่าอย่างไร เลือดผู้อิ่นงั้นรึ? " ัเสี่ยวิรู้สึกขนลุกซู่ และประหลาดใจในเวลาเดียวกัน แต่หลังจากนั้นไม่นานมันก็ได้รู้คำตอบ เมื่อเย้จงเทียนบ่ายหน้าไปมองยังเบื้องล่าง ตรงที่มีกองของคนสำนักคุ้มภัยกิเลนทองนอนอยู่ มันจับจ้องไปที่ร่างร่างหนึ่งในกองซึ่งมีบาดแผลจากกระบี่ตอนสู้กับเหลยฟง "เจอแล้ว เจ้านี่เอง เช่นนั้นขอเลือดในกายเจ้ามาเป็นอาวุธของข้าก็แล้วกัน" เย้จงเทียนเอ่ยขึ้นก่อนที่มันจะพลิกม้วนฝ่าืข้างที่โดนเย่วหลิงทำร้ายให้หันไปยังทิศทางนั้น ก่อนที่ภาพอันน่าสยดสยองจะบังเกิด
โลหิตในร่างของชายจากสำนักคุ้มภัยกิเลนทองผู้นั้นค่อย ๆ ไหลออกมาจากบาดแผล ราวกับเป็นสายธารสีแดงที่ดูน่าสยดสยอง พวกมันลอยตรงเข้ามาที่ฝ่าืของเย้จงเทียนช้า ๆ และไม่นานร่างของชายผู้นั้นก็ดูผอมสูบราวกับกิ่งไม้แห้ง ๆ ผิดกับเย้จงเทียนที่ดูสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด "อ๊าาาาา..เรียบร้อย เอาล่ะมาต่อกันเถอะเหล่าจอมยุทธ์หนุ่มสาว เดี๋ยวข้าจะแสดงวิชาร้อยโลหิตมารสังหารชีพขั้นสูงให้พวกเจ้าดูเอง ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า" เย้จงเทียนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งก่อนที่มันจะพุ่งเข้าหาเย่วหลิงพร้อมกับกรงเล็บแหลมที่สร้างขึ้นจากเลือด..
จบบท
บทต่อไป กรงเล็บอัคคีพยัคฆ์ ปะทะ ฝ่าืภูตะ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??