เรื่อง ลิขิตรักราชามังกร

ติดตาม
ตอนที่ 11 หลบหนี
ตอนที่ 11 หลบหนี
  • ปรับสีและขนาดตัวอักษร

หลังจากที่หลิงซานเจ็บป่วยมาหลายวัน ตอนนี้เขาก็หายเป็นปกติ

เลยออกมาเดินเล่นข้างนอก ก็เจอกับชาวบ้านที่เดินผ่านมา พอพวกชาวบ้านเห็นเขาก็ค้อมศีรษะให้อย่างนอบน้อม หนึ่งในนั้นเลยเอ่ยทักเขา

"ท่านดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่ท่านหลิงซาน"

"ผมดีขึ้นมากแล้วล่ะ"

เขาตอบหนึ่งในนั้นออกไป แต่ก็ต้องชะงักเพราะพวกเขาทำสีหน้าไม่เข้าใจคำพูดของเขา เขาเลยรีบเปลี่ยนคำพูดเพื่อให้กลมกลืนกับชาวบ้าน

"เอ่อ... คือข้าดีขึ้นมากแล้ว แล้วพวกคุณจะไปไหนกัน เอ่อข้าหมายถึง พวกท่านจะไปที่ใดกัน"

เขาคงต้องฝึกฝนเรื่องคำพูดเสียใหม่ เพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม พลางคิดในใจ (ทำไมมันวุ่นวายอย่างนี้วะ กะอีแค่คำพูดยุ่งยากฉิบหาย)

"พวกข้าจะไปที่บ้านของท่านผู้นำ ท่านจะไปกับพวกข้าด้วยรึไม่ท่านหลิงซาน"

"เอ่อพวกท่านมีธุระอะไรกันหรือเปล่า แล้วข้าไปได้ด้วยหรือ"

"ไปได้ซิ ที่ท่านผู้นำเรียกพวกข้าไป ก็เพื่อจะหารือเรื่องของท่านโดยตรง ท่านก็ย่อมไปได้ซิ"

"เรื่องของข้า เรื่องอะไร"

"ตามพวกข้ามาเถิดเดี๋ยวท่านก็จะรู้เอง"

หลังจากกล่าวจบ พวกเขาก็พากันเดินไปยังที่หมายต่อ โดยมีหลิงซานเดินตามไปอย่างเงียบๆ พลางคิดในใจว่า คนพวกนั้นกำลังพูดเรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเขา เลยบ่นงึมงำออกมาเบาๆ

"มันเกี่ยวอะไรกับกูอีกวะนี่ ปวดหัวชะมัดเลยโว้ย... "

พอไปถึง หลิงซานก็อดแปลกใจไม่ได้ เพราะเห็นเย่วซิน พี่ชายบุญธรรมของตนนั่งอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นด้วย และกำลังปรึกษาหารือเรื่องอะไรกันเขาก็ไม่รู้ เพราะทุกคนต่างก็หยุดพูด และหันมามองที่เขาเป็นตาเดียว เลยเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย

"มีอะไรเกี่ยวกับ เอ่อ... ข้าหรือเปล่า"

เย่วซินลุกขึ้นจากที่นั่ง ตรงมาทางน้องชายบุญธรรมทันที และดึงเขาให้เข้าไปนั่งใกล้ๆ ท่านผู้นำ หลวนคุณหันมามองหลิงซานอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบอะไรบางอย่าง ที่อยู่ในกล่องไม้ใบเล็กออกมา เพียงแว๊บแรกที่หลิงซานเห็นเขาก็จำได้ในทันที

"ไอ้สร้อยคอเจ้าปัญหา เป็นเพราะแกฉันถึงต้องมาอยู่ที่นี่"เขาได้แต่แอบบ่นเงียบๆ เป็นเพราะมัน เขาจึงต้องจากบ้านเกิดมาอยู่ที่นี่ ยิ่งคิดยิ่งแค้น

"ชาตินี้อย่าได้ญาติดีกันเลย เจ้าสร้อยอัปลักษณ์"

"หลิงซาน เจ้าเข้ามาใกล้ๆ ข้าอีกหน่อยซิ"

หลวนคุณเอ่ยเรียกอีกคนให้เข้ามาใกล้ๆ อีกนิด หลิงซานเลยต้องเขยิบเข้ามาใกล้ๆ คนที่นั่งตรงหน้าเขา หลวนคุณเลยสวมสร้อยเส้นนี้ให้หลิงซาน ตอนแรกเขาจะปฏิเสธ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าอาม่าเคยบอกกับเขาเอาไว้ ว่าถ้าไม่จำเป็นก็อย่าได้ถอดออกจากคอ เพราะมันช่วยเขาได้

(เอาวะ ถึงขนาดทะลุมิติออกมาได้แบบนี้ ยังจะมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก)

"ตอนที่เจ้ามาที่นี่ ข้าเห็นมันตกอยู่ที่ข้างกายเจ้าพร้อมกริชอันนี้ ข้าคิดว่ามันน่าจะเป็นของเจ้า"

หลังจากที่สร้อยคอเส้นสวยได้มาอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น ก็เกิดลำแสงสีทองสว่างออกมาจากจี้ลายมังกร ทุกคนจ้องมองอย่างแปลกใจระคนตื่นเต้น ท่านผู้นำเลยกล่าวขึ้น

"เอาละนี่คงเป็นนิมิตหมายที่ดี หลิงซานเจ้าจงเตรียมตัวให้พร้อม พิธีผูกพันธะส่งตัวเจ้าสาวแก่ราชามังกรจะมาถึงในอีกไม่ช้า เย่วซินข้าฝากเรื่องนี้ให้เจ้าจัดการด้วย เจ้าจะว่าอย่างไร"

"ข้ารับปากท่าน ข้าจะจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นโดยไม่ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด ท่านวางใจได้ท่านผู้นำ"หลิงซานยืนงงกับคำพูดของคนทั้งคู่ จึงได้แต่มองคนนั้นทีคนนี้ที

"มีใครพอจะอธิบายให้ข้าฟังได้บ้าง ว่ามันเรื่องอะไรกัน มันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วยล่ะท่านพี่"หลวนคุณรู้สึกแปลกใจ เลยเอ่ยถามเย่วซินออกไป

"เย่วซิน เจ้ายังมิได้บอกเขาหรอกหรือ"

"ข้าคิดว่ารอให้เขาหายป่วยแล้วข้าจะบอก แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย เขาก็มารู้เสียก่อน"

"หลิงซาน เจ้าฟังสิ่งที่ข้าจะพูดต่อไปนี้แล้วจงยอมรับมัน เพราะอย่างไรเสีย เจ้าก็หนีชะตาครั้งนี้ไม่พ้นหรอก อีกไม่นานที่นี่จะมีพิธีผูกพันธะส่งตัวเจ้าสาวมังกร หรือจะเรียกว่าคู่ชะตาก็ได้เช่นกัน ถึงตอนนั้นองค์ราชามังกรจะมารับคู่ชะตาด้วยตนเอง ซึ่งคู่ชะตาครั้งนี้ก็คือเจ้า หลิงซานเจ้าคือคู่ชะตาของราชามังกร หลังจากเสร็จพิธีผูกพันธะ ราชามังกรจะรับตัวเจ้ากลับวังมังกรทันที"

(เอ๋? ทำไมเรื่องนี้มันรู้สึกคุ้นๆ อย่างไรก็ไม่รู้ แต่เดี๋ยวก่อน นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน)

"ท่านพี่มันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย"

หลิงซานถามออกไปอย่างไม่เชื่อ เขาจับต้นชนปลายไม่ถูก กับเรื่องราวประหลาดๆ ที่ผู้นำหมู่บ้านบอกกับเขา

"เจ้าใจเย็นๆ ก่อนเถิดหลิงซาน ที่ท่านผู้นำพูดออกมาเมื่อสักครู่ มันเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง เจ้าคือคู่ชะตา เป็นผู้ที่ถูกเลือกให้เป็นราชินีขององค์ราชามังกร"

(ราชินีส้น-ีนอ่ะดิ อยากจะหัวเราะให้ฟันร่วงทั้งปากไปเลย ราชินีบ้านพ่อง กูเป็นผู้ โว้ยโปรดเข้าใจไว้ด้วย)เขาคิดในใจ

"-่า ราชามังกรเหี้ยอะไรวะ"หลิงซานพืมพำออกมาเบา จนผู้นำที่ได้ยิยต้องขมวดคิ้วมุ่น

"เจ้าพูดจาพิลึกนัก พวกข้าฟังไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย"

"พวกท่านเป็นอะไรกันไปหมดแล้ว ข้าคือผู้ชาย เอ่อคือบุรุษไม่ใช่สตรี จะไปเป็นราชินีได้ไงเล่า เพี้ยนกันทั้งหมู่บ้านเลยหรือไง ท่านก็ชื่ออย่างนั้นด้วยหรือท่านพี่ แต่ข้าไม่เชื่อและไม่ยอมเล่นอะไรบ้าๆ ไปกับพวกของท่านหรอก"

"แต่เจ้าต้องเข้าพิธีผูกพันธะกับราชามังกร นี่คือคำสั่ง"หลวนคุณพูดขึ้น

"ไม่ มังกรอะไรข้าไม่เคยเห็น ท่านอย่ามาพูดมั่วๆ นะ"

หลวนคุณชักจะโมโหกับความดื้อดึงของหลิงซาน จึงออกคำสั่งกับอีกฝ่าย ด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด ทำให้หลิงซานไม่พอใจเอามากๆ หมดความนับถือ อีกฝ่ายลงไปทันที เลยแผลงฤทธิ์เข้าให้

"ตาแก่บ้าพลัง บ้าอำนาจ ข้าไม่มีทางทำตามความต้องการของพวกท่านหรอก อย่ามาบังคับข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะไปจากที่นี่!! "

เขาพูดออกมาด้วยความโกรธ ดวงตาดื้อรั้นเอาแต่จ้องตาของท่านผู้นำอย่างเอาเป็นเอาตาย บ่งบอกว่าอย่างไรเสียก็ไม่ยอมเด็ดขาด

"เจ้ากล้าดีอย่างไรหลิงซาน เจ้าอย่าท้าทายข้าให้มันมากนัก ถ้าเจ้าคิดจะหนีข้าจะให้คนจับเจ้ามัดไว้จนถึงวันเข้าพิธี จะเอาอย่างไรก็เลือกเอา!! "

หลวนคุณหมดความอดทนกับความดื้อรั้นของหลิงซาน เลยยื่นคำขาดออกไป แต่มีหรือที่หลิงซานจะเกรงกลัว เพราะเขาชื่อว่าตนเองก็มีฝีมือพอตัว ไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น เย่วซินยืนมองอยู่เงียบๆ เขาคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ง่ายอย่างที่คิด ยังไงหลิงซานคงไม่ยอมง่ายๆ เป็นแน่ ท่านผู้นำก็คิดเช่นนั้น เลยสั่งให้เย่วซินจับตาดูหลิงซานเอาไว้ อย่าได้คลาดสายตาเป็นอันขาด

"มันเรื่องอะไรกันวะนี่ ทำไมมันถึงได้ซวยบรรลัยอะไรอย่างนี้วะ แต่อะไรก็ไม่เท่าที่จะให้กูไปเป็นเมียไอ้มังกรอะไรนั่นอีก กูเป็นผู้ชายโว้ย... ตัวผู้เข้าใจไหม จะมีผัวได้ไง ช้างชนช้าง หยี๋... คิดแล้วขนลุกโว้ย -่ากูจะหนี กูจะหนี"ร่างเล็กตีโพยตีพายอยู่คนเดียวอย่างคนจิตตก พูดจางึมงำตามประสา แต่คนอื่นก็ฟังไม่รู้เรื่องที่อีกฝ่ายพูด

"-่าเอ๊ย ไอ้มังกรส้น-ีน คอยดูเถอะอย่าให้เจอก็แล้วกัน พ่อจะกระทืบให้จมดินเลยคอยดู สัส!! "

กลางดึกสงัดคืนหนึ่ง มีเงาตะคุ่มๆ กำลังมุ่งหน้าออกจากบ้านที่พักอาศัย ขาเล็กๆ กำลังย่ำเดินไปข้างหน้า อย่างไม่มีจดหมายปลายทาง มือก็กระชับกริชเล่มเล็กที่อยู่ในมืออย่างมั่นคง พร้อมที่จะฟาดฟันทุกอย่าง ที่คิดว่าเป็นอันตรายต่อตัวเอง พลางก็บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ตนรอดจากการหลบหนีในครั้งนี้ด้วยเถิด หลิงซานกำลังเร่งฝีเท้าอย่างสุดกำลัง เพื่อจะให้พ้นไปจากหมู่บ้านแห่งนี้โดยเร็ว ถึงแม้ว่าหนทางข้างหน้า มันช่างมืดมิดและน่ากลัวจนมองอะไรก็ไม่เห็น แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ อย่างไรก็ต้องไป ถ้าไม่อยากเป็นเมียไอ้งูยักษ์อะไรนั่น 

เท้าเล็กๆ ก้าวเดินอย่าเร่งรีบ กลัวว่าหากคนในหมู่บ้านรู้เข้า คงได้ระดมคนทั้งหมู่บ้านออกตามหาเขากันให้วุ่น ถึงคราวนั้นเขาคงหมดโอกาสที่จะหนีไปจากที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย 

ร่างเล็กมุ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง หากแต่ว่าตอนนี้เขารู้สึกแปลกๆ

 เหมือนมีใครหรืออะไรกำลังจ้องมองตนอยู่ ด้วยความหวาดระแวงเลยทำให้เขา ต้องใช้สายตากวาดมองไปรอบๆ ผ่านความมืดก็ไม่เห็นจะมีอะไร แต่ในใจลึกๆ รู้สึกหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย กับสิ่งที่มองไม่เห็น

ด้านวังมังกร

เฟยหลงและอี้เฟย กำลังใช้ดวงจิตรมังกรเพ่งดูคู่ของตน ด้วยความร้อนใจ พวกเขามักจะมีความรู้สึกเหมือนกัน เเละวันนี้ทั้งคู่รู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เลยรีบใช้ดวงจิตรมังกรเพ่งมองดูเหตุการณ์ต่าง อี้เฟยเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นเสียให้ได้ เมื่อเห็นคนที่ตนเฝ้าคิดถึง กำลังวิ่งอยู่ในป่า ท่ามกลางความมืดมิดเเละอันตรายรอบด้าน

"นั่นเจ้าจะไปที่ใดกัน มืดๆ ค่ำๆ เช่นนี้มันอันตรายเกินไป เจ้าคิดจะทำสิ่งใดกันแน่ ? "

อี้เฟยชักจะนั่งไม่ติด เมื่อเห็นคนตัวเล็กวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต เพราะตอนนี้มีคบไฟหลายดวง ส่องสว่างและมุ่งหน้ามาทางคนตัวเล็กของเขา

หลิงซานวิ่งล้มลุกคลุกคลานไปเรื่อย ๆ อย่างไม่คิดชีวิต เพราะเขาเห็นคบไฟจำนวนมาก มุ่งหน้ามาทางเขาอย่างอลหม่าน

ทางด้านเย่วซิน ซึ่งตอนนี้เขาได้พาคนออกตามหาน้องชายบุญธรรม ด้วยความเป็นห่วง พอรู้ว่าหลิงซานหนีออกมา เขาก็รีบแจ้งชาวบ้านให้ช่วยกันออกตามหาทันที ขนาดเขาระวังเอาไว้แล้วนะแต่ยังพลาดจนได้ เพราะเผลอหลับไปแค่เดี๋ยวเดียวเท่านั้น ตื่นมาอีกทีคนตัวเล็กก็หนีหายไปเสียแล้ว ค่ำมืดแบบนี้มันอันตรายยิ่งนัก สำหรับคนที่ไม่คุ้นชินกับป่าแห่งนี้ หลิงซานวิ่งมาเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย เส้นทางรึก็รกชันสิ้นดี ตอนนี้ตามเนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนของกิ่งไม้ที่ตนบุกเข้าไป แต่ร่างเล็กก็ไม่ได้สนใจตัวเองสักนิด ถึงแม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดตามร่างกาย ที่ได้รับบาดเจ็บบ้างก็ตามที แต่ที่คนตัวเล็กเป็นกังวลอยู่ตอนนี้ก็คือ คบไฟที่ตามเขามาด้านหลังเสียมากกว่า

"ที่นี่ที่ไหนกัน ไอ้ป่าบ้านี่ก็เสือกเหมือนกันหมด แล้วจะไปทางไหนต่อดี เวรกรรมอะไรของกูวะที่ต้องมาตกที่นั่งแบบนี้ ฮึก!! ป๊าช่วยซานด้วย ซานอยากกลับบ้าน ฮึก ฮื่อ... "

เขาร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง คงหมดหนทางแล้วจริงๆ ทั้งเหนื่อยล้า หิวโหย อีกทั้งยังหวาดกลัวอย่างจับใจ หันไปทางไหนก็มีแต่ความมืดมิด จิตใจที่คิดว่าเข้มแข็ง มาตอนนี้มันกลับอ่อนแอมาก และต้องการใครสักคนอยู่เคียงข้างเป็นที่สุด ตามเนื้อตัวมีเลือดไหลซิบ เพราะโดนกิ่งไม้ที่แหลมคมบาดเอา เขาไม่ได้สังเกตเลยว่า ตอนนี้สร้อยคอที่เขาสวมอยู่ ได้หลุดหายไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ 

อี้เฟยได้แต่มองคนที่ตนรักอย่างเป็นห่วง อยากจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเกิน แต่ต้องหักใจไว้ไม่สามารถฝ่าฝืนกฎของเผ่าได้ ด้านเฟยหลงก็กำลังมองเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างหงุดหงิดหัวใจ ที่คู่ของตนเอาแต่เป็นห่วงเด็กนั่น และเสี่ยงออกตามหามืดๆ ค่ำๆ แบบนี้ มันอันตรายขนาดไหน อีกฝ่ายน่าจะรู้ดี เจ้าเด็กนั่นมันสำคัญขนาดไหนกัน ถึงต้องออกตามหากันให้วุ่นวายแบบนี้

เย่วซินรีบเร่งฝีเท้าเพื่อไล่ตามอีกฝ่ายให้ทัน พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นเศษผ้าชิ้นหนึ่ง ที่โดนกิ่งไม้เกี่ยวขาดติดอยู่ เลยหยิบออกมาดูก็จำได้ในทันที

"เขามาทางนี้ พวกเรารีบตามให้ทันก่อนที่จะเกิดอันตรายกับคู่ชะตา พวกเจ้าแยกไปทางโน้น เดี๋ยวทางนี้ข้าจะตามไปเอง พวกเจ้าระวังตัวกันด้วยมันอันตราย"

"ครับ "พวกเขาตอบรับพร้อมกันอย่างขยันขันแข็ง ทุกคนต่างก็ให้ความเคารพอีกฝ่าย เพราะรู้ว่า ต่อไปเย่วซินจะมารับตำแหน่ง เป็นหัวหน้าหมู่บ้านคนถัดไปต่อจากหลวนคุณ เย่วซินรีบวิ่งตามหลิงซานไป เขาแยกตัวไปตามลำพังเพราะหากเจอตัว หลิงซานจะได้ไม่ต้องตกใจ และเขาก็สามารถเกลี้ยกล่อมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย โดยที่ตัวเขาก็ไม่รู้เลยว่า มีอะไรบางอย่างผิดปกติ

 เขาเดินมาได้สักพัก ก็เริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติ แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เลยระมัดระวังตัวมากขึ้น เขาเดินไปเรื่อยๆ หูก็เกิดได้ยินเสียงร้องไห้ขึ้นมา

รู้ได้ในทันทีเลยว่าเป็นเสียงของน้องชายตนเอง จึงรีบวิ่งไปยังที่มาของเสียง ก็เจอเจ้าตัวยุ่งนั่งก้มเอาใบหน้าซุกเข่าร้องไห้อยู่ คงเพราะหมดหนทางที่จะไปต่อ เขารีบเข้าไปดึงร่างเล็กมากอดไว้ พร้อมเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก ที่หาคนตัวเล็กเจอก่อนที่มันจะเกิดอันตราย คนตัวเล็กกว่าสะดุ้งสุดตัว เมื่ออยู่ดีๆ ก็มีคนมาคว้าตัวเขาเข้าไปกอด 

แต่เพียงไม่นานเขาก็รู้ได้ว่า คนที่กอดตนไว้เป็นใคร เลยยกมือเล็กกอดกลับไปอย่างไม่ลังเล

"ท่านพี่ ท่านจริงๆ ด้วยฮือ... ข้ากลัวช่วยข้าด้วย"

"ไม่เป็นไรแล้วเจ้าหยุดร้องเสียเถิด ข้ามารับเจ้า กลับบ้านกันเถิดท่านพ่อท่านแม่กำลังรอเจ้าด้วยความเป็นห่วง กลับไปหาพวกท่านเถิดหลิงซาน"หลิงซานได้แต่พยักหน้ารับ เย่วซินเลยดึงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น เพื่อที่จะพากันกลับ แต่พอหันกลับมาก็เจอเข้ากับบุรุษร่างกายสูงใหญ่สองคน ยืนมองหน้าพวกเขาอยู่ เย่วซินมองคนทั้งคู่ด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ

"พวกเจ้าสองคนมีเรื่องอันใดจะพูดกับข้ารึ หารเปา ถ่งท่าย "

เย่วซินเอ่ยกับสองคนนั้นซึ่งเขารู้จักเป็นอย่างดี เพราะเขากับสองคนนี้ไม่ถูกกัน เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด ด้วยเรื่องที่หารเปา ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาสักเท่าไร ที่ท่านผู้นำหมู่บ้าน จะยกตำแหน่งผู้นำหมู่บ้านให้เขาในวันข้างหน้าพร้อมกับหนิงอัน สตรีที่ตนแอบรักก็ยังไปรักเย่วซินอีก จึงทำให้อีกฝ่ายแค้นเคืองเขายิ่งนัก มาวันนี้มีโอกาส จึงคิดที่จะกำจัดอีกฝ่ายให้พ้นทางเสีย ด้วยฝีมือที่ต่างก็ไม่มีใครด้อยไปกว่าใคร หากจะเสียเปรียบอีกฝ่ายก็คงจะเป็นรูปร่างที่เล็กกว่าของเย่วซิน ทั้งคู่กระโจนหันคมดาบเข้าใส่กันไม่ยั้ง

 เย่วซินผลักหลิงซานให้ห่างจากคมดาบ กลัวจะพลาดพลั้งโดนเข้าจะเป็นอันตราย หลิงซานกำกริชในมือไว้แน่น พุ่งตัวเข้าไปหมายจะช่วยพี่ชายอีกแรง แต่ถูกอีกคนรวบตัวเอาไว้

"เจ้าจะไปไหน ไม่ต้องเข้าไปยุ่งกับพวกเขาหรอก เรามาหาอะไรสนุกๆ ทำกันดีกว่า"มันลากร่างเล็กของหลิงซานไปอีกทาง หมายจะขืนใจอีกฝ่าย เพราะรูปร่างและหน้าตาถูกใจมันยิ่งนัก มันหมายปองเขามานานแล้ว พอมีโอกาสก็รีบฉวยไว้โดยเร็ว 

แต่หลิงซานสะบัดหลุด เลยซัดหมัดเล็กๆ ไปที่ใบหน้าถ่งท่ายเสียเต็มรัก แต่เชื่อเถิดว่า แรงทีส่งไปไม่ได้เล็กอย่างเจ้าของมัน เล่นเอามันล้มลงไปนอนนับดาวแทบไม่ทัน พอหายมึน อีกฝ่ายก็กระชากหลิงซานเข้ามา ก่อนจะตบลงไปบนใบหน้างามเสียฉาดใหญ่ เล่นเอาร่างเล็กกรามแทบหัก เพราะอีกฝ่ายตัวใหญ่แรงเลยมากตามไปด้วย หลิงซานเลือดขึ้นหน้าเพราะความเจ็บ

"ไอ้เหี้ย!! มึงอยากตายนักใช่ไหมไอ้สัสกูจะฆ่ามึง"

หลิงซานตะโกนออกไปเพราะโกรธจัด มันหันมามองเพราะฟังไม่รู้ความ หลิงซานใช้จังหวะที่มันเผลอ เตะก้านคออีกฝ่ายจนหลับกลางอากาศ แล้วถอยมายืนดูผลงานตัวเองอย่างภูมิใจ

อาวุใดก็ไม่ดีเท่ากับอาวุธที่ติดกายเรามาแต่กำเนิด ดวงตากลมโตเบิกกว้างเพราะนึกขึ้นมาได้ว่า พี่ชายตนกำลังเผชิญหน้ากับไอ้ยักษ์ตามลำพัง เลยรีบมองหากริชเล่มเล็กซึ่งไม่รู้ว่ามันกระเด็นตกไปอยู่ที่ใด ตอนที่เขาถูกไอ้บ้านี่ลากตัวมา มันรวดเร็วจนตั้วตัวไม่ทันจึงทำกริชหลุดมือ สร้อยคอก็ด้วยหายไปหมด ไม่เห็นจะช่วยอะไรเขาได้ อย่างที่อาม่าบอกเอาไว้เลย สายตาเหลือบไปเห็น กริชเล่มเล็กตกอยู่ไม่ไกลนัก จึงรีบหยิบขึ้นมาถือเอาไว้ ก่อนรีบเข้าไปช่วยเย่วซิน ที่กำลังจะรับมือกับอีกฝ่ายไม่ไหว เพราะสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้ เขาเห็นพี่ชายใช้เวทย์ต่อสู้ แต่ฝ่ายนั้นก็มีพลังเวทย์เหมือนกัน 

เย่วซินเลยเสียหลักโดนอีกฝ่ายซัดพลังเวทย์เข้าใส่ เลยกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ หลิงซานรีบเข้ามาประคองพี่ชายตนทันที ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไรได้ก็เขาไม่มีพลังเวทย์นี่ ขนาดคนมีพลังอย่างพี่ชายตนยังสู้มันไม่ได้เลย แล้วเขาจะเหลืออะไร

หลิงซานมองอย่างตื่นตะลึง เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่จนจะยี่สิบแล้ว ยังไม่เคยเห็นพลังอะไรแบบนี้เลย เคยเห็นก็แต่ในละครแต่นี่มันของจริง เลยตื่นเต้นไปด้วย เห็นพี่ชายตนใช้ฝ่ามือที่มีดวงไฟลอยอยู่ ซัดใส่อีกฝ่ายไป เลยมีเพลิงลุกไหม้ไปทั่วบริเวรนั้น

"โห... เท่ชะมัดเลย ผมอยากทำได้บ้างจัง"

ในขณะเดียวกัน เฟยหลงกับอี้เฟยจ้องมองทั้งคู่ด้วยความเป็นห่วง เพราะดูท่าทางอีกฝ่ายมุ่งหมายเอาชีวิต พวกเขาสองคนมองอย่างกระสับกระส่าย ต่างคนต่างอยู่ตำหนักใครตำหนักมัน แต่ด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่ม อย่างกับมีไฟแผดเผา เลยต่างก็ตรงดิ่งเพื่อไปหากัน อย่างไม่ได้นัดหมายมาก่อน จึงมาเจอคนละครึ่งทาง

"ท่านพี่ข้า"

"เจ้าไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ตามข้ามา"

ตอนต่อไป
ตอนที่ 12 พบเจอ

นิยายแนะนำ

นิยายแนะนำ

ความคิดเห็น

COMMENT

ปักหมุด

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited( Kawebook.com )

Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )
ที่อยู่ : 20 หมู่ที่ 6 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
เวลาทำการ : 08 : 00 - 18 : 00 จันทร์ - เสาร์
e-mail : contact@kawebook.com

DMCA.com Protection Status

เริ่มต้นเผยแพร่ผลงาน

เริ่มต้นเป็นนักเขียนออนไลน์ เขียนเรื่องราวที่ประทับใจ สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และแบ่งปันประสบการ์ดีๆ กับผู้คนทั่วโลก kawebook.com เป็นโอกาส เป็นสื่อกลาง และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการสร้างรายได้ให้กับนักเขียนมืออาชีพ และนักเขียนมือสมัครเล่นจากทุกมุมโลก เพียงสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์เพื่อเขียนหนังสือ การ์ตูน หรืออัพโหลดอนิเมชั่น ที่เป็นผลงานของท่าน และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชน

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา