เรื่อง Vanquish God Soul ผู้พิชิตวิญญาณ

ติดตาม
ผู้พิชิตวิญญาณตอนที่ 338
ผู้พิชิตวิญญาณตอนที่ 338
  • ปรับสีและขนาดตัวอักษร

ผู้แข็งแกร่งทราบดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับทั้งสามนั่นเป็นยังไง นอกจากตัวตนของพวกเขาแล้ว ยังมีอดีตราชันย์เทพอสูรเทวะแห่งมิติอารยธรรมคามิชินโต จิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง ต้าจี อีกตนนึงก็คือราชินีแห่งรัตติกาล ลิลิธ ภรรยาเพียงหนึ่งเดียวของมหาบาปแห่งเจ็ดประการ โทสะ ซาตาน


ในเวลานั้น แต่ละข่าวสารที่แพร่กระจายทำให้ทุกสิ่งต้องสั่นสะเทือนเลือนลั่น ช่วงมหาสงครามครั้งก่อนที่มิติอารยธรรมมากมายได้เข้าสู่ความโกลาหล ตัวตนของทั้งห้าได้ดับสูญลงไปอย่างปฏิเสธไม่ได้ ผู้แข็งแกร่งที่ผ่านพ้นมานับหมื่นปีได้ทราบถึงเรื่องราวแห่งตำนาน


เทพมารอาชูร่าถูกสังหารโดยเหล่าจักรพรรดิเทพที่ทรงพลังนับสิบตน เพราะเขาดันไปแทรกแซงออกอาละวาดทำลายล้างไปทั่วทุกหนแห่ง


สุริยะเทพราถูกทรยศหักหลังจากพักพวกของตนเอง และถูกล้อมกรอบโดยโลกแห่งใต้พิภพ แตกดับสูญสลายไปอย่างน่าอนาถ


ราชาวานรซุนหงอคงอาจหาญต่อกรเข้ากับบรรดาจักรพรรดิเทพปีศาจตามลำพัง เข้าช่วยเหลือมิติอารยธรรมที่อ่อนแอและไม่มีทางสู้


จักรพรรดิสามเนตร โซโลมอน จักรพรรดิแห่งการทำลายล้าง บาโฟเมต จักรพรรดิดาบปีศาจ ทานาทอส จักรพรรดิเทพตกสวรรค์ ลูซิเฟอร์


ยังไม่รวมถึงอสูรกายในตำนานแห่งโลกใต้พิภพที่น่าสะพรึงกลัวอีกมากมาย ว่ากันว่าซุนหงอคงถึงขั้นเผชิญหน้ากับจักรพรรดิเทพปีศาจเกือบ 20 องค์เลยทีเดียว แม้จะเป็นเขาที่ทรงพลังมากยังไงก็คงไม่อาจมีชีวิตรอด สูญสลายไปไม่เหลือแม้แต่เศษซากของอณูวิญญาณ


แล้วทำไมในเวลานี้และกระทั่งตอนนี้ พวกเขาทั้งห้าถึงกับยังคงมีชีวิตอยู่ ยืนหัวโด่เคียงข้างอยู่กับผู้สืบทอดแห่งพญามารเซียงหลิน


ที่สำคัญเลยก็คือ พลังวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาในอดีตได้หายไป กลายมาเป็นเพียงแค่ระดับเทพแปลงที่ต่ำต้อยคนนึงก็เท่านั้น


(ก๊ะ!ก๊ะ!ก๊ะ! เรื่องมันยาวน่ะ เอาเป็นว่าพวกข้าได้ฟื้นคืนชีพกลับขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ก็พอแล้ว)


(ตอนนี้พวกข้าเองก็ยินยอมติดตามรับใช้เจ้านายตัวน้อยเซียงหลิน เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น)


ซุนหงอคงพูดจบก็หัวเราะออกมาอย่างคึกคัก และเมื่อลงทะเบียนเสร็จ ทั้งสองก็กลับมายืนเคียงข้างตัวของชายหนุ่ม ขนาบซ้ายและขวา ทำท่าทางเหมือนเป็นผู้พิทักษ์อันทรงพลัง ถึงตอนนี้พวกเขาจะสูญเสียพลังดั่งเดิมไป แต่ตำนานที่เหล่าขานในอดีตกาลยังคงทำให้หลายคนเคารพยำเกรง


“หึ? ไปกันเถอะท่านลุงท่านป้า ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าไอ้เจ้าเซียงหลินคนนี้อีกต่อไปละ”


ขณะนั้นอนาเธอร์ก็กล่าวขึ้นพร้อมหันหลังทะยานจากไปในทันที เซียงหลินเมื่อเห็นแบบนั้นก็ลอบแสยะยิ้มขึ้นอยู่เล็กน้อย


ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขาจะเริ่มหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไปแล้ว ถ้าอนาเธอร์โกรธและดูสนใจตัวของเขามากเท่าไหร่ แผนการที่คิรินได้วางเอาไว้ก็จะยิ่งสำเร็จมากเท่านั้น และเมื่อถึงเวลาดังกล่าวเมื่อไหร่


อนาเธอร์ก็ต้องกลายไปเป็นผู้หญิงอย่างถาวร ทั้งยังกลายมาเป็นเมียของเขาอีกด้วย


“งั้นพวกเราก็ไปกันบ้างเถอะทุกคน ตอนนี้พวกเราก็ไม่มีธุระอะไรกับสถานที่แห่งนี้อีกแล้ว”


“เป้าหมายต่อไปคือโรงประมูลอันดับหนึ่ง พวกเราจะนำแต้มวิญญาณทั้งหมดไปเดิมพัน”


หลังจากนั้นเซียงหลินและเหล่าภรรยาก็ได้ทะยานออกไปจากจุดลงทะเบียน ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่จ้องมองไล่หลังไป เสียงพูดคุยยังคงเต็มไปด้วยความคักคัก พวกเขาได้พูดคุยถึงการปรากฏตัวของเซียงหลินและอนาเธอร์ ยังมีเหล่าอดีตจักรพรรดิเทพที่ยังคงมีชีวิตอยู่


ถ้าเกิดว่าเรื่องราวพวกนี้แพร่ออกไปทั่วทั้งมิติอารยธรรม มันคงได้สร้างแรงกระเพึ่อมครั้งใหญ่ขึ้นได้อย่างแน่นอนเลยทีเดียว


“เซียงหลินและอนาเธอร์ ต่อให้จะเป็นถึงผู้สืบทอดแห่งสามต้นกำเนิด”


“แต่พวกเขาทั้งสองคน... ไม่หรอกมั้ง?”


“พวกเขาไม่น่าแข็งแกร่งป่านนั้น”


ดวงตาของซีฮันจ้องมองแผ่นหลังของเซียงหลินที่กำลังทะยานหายวับไป ในใจเองก็เต็มไปด้วยความคิดที่ปรากฏออกมาอย่างไม่รู้จบ


ถึงจะเห็นว่าทั้งสองนั้นสามารถยกระดับขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วก็ตาม แต่อัจฉริยะหลายคนที่มีขั้นพลังระดับเทพแปลง 10 ดาวคนอื่นๆ พวกเขาก็อาจไม่ได้เห็นหัวของเหล่าผู้สืบทอดทั้งสองกันอยู่ดี


ต่อให้พลิกฟ้าท้าทายพระเจ้ากันยังไง ทว่าความแข็งแกร่งย่อมต้องห่างชั้นกันคนละเรื่อง


“ว่าแต่กลุ่มคนก่อนหน้านี้เป็นใครกัน”


จังหวะเดียวกัน ตัวของซีฮันก็ได้นึกย้อนไปยังเมื่อหลายชั่วโมงก่อน เขารีบกวาดมองไปยังรอบๆเพื่อมองหาบางสิ่ง


ในช่วงเวลาก่อนที่ทั้งเซียงหลินและอนาเธอร์จะมาลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วม มีรุ่นเยาว์ลึกลับได้ปรากฏตัวขึ้นมา สองคนมีพลังระดับเทพแปลง 10 ดาว ชายใบหน้าหล่อเหลาและมีเส้นผมสีดำ


ชายหนุ่มคนนั้นมีอายุเพียงแค่ 20 ปี แถมยังให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างจะแปลกประหลาดอยู่ไม่น้อย ราวกับว่าเป็นตัวตนที่อยู่ในอีกห้วงมิตินึง อาจแข็งแกร่งยิ่งกว่ามันหรือคนอื่นๆไปเลยก็ว่าได้


ขณะเดียวกันบริเวณรอบนอกที่อยู่ไม่ไกลออกไป กลุ่มคนประมาณสามถึงสี่คนกำลังยืนมองไปยังทิศทางของอนาเธอร์และเซียงหลิน พวกเขามีลักษณะและรูปร่างเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตา สวมใส่ชุดเสื้อผ้าโบราณที่ดูแตกต่างไปจากผู้คนอื่นๆโดยรอบอย่างสิ้นเชิง


“นั่นคือผู้สืบทอดแห่งสามต้นกำเนิด คนที่อยู่ในระดับเดียวกันกับราชาอมตะผู้ยิ่งใหญ่?”


“ฮ่าฮ่าฮ่า ดูอ่อนแอชะมัด ระดับเซียนเสมือน 6 ดาว กับ ระดับเซียนเสมือน 3 ดาวเนี่ยนะ”


“เหอะๆ ไม่ต้องถึงมือผู้สืบทอดแห่งเซียนหรอก แค่ข้าใช้มือสะกิดมันทีเดียวก็อาจตายแล้ว”


คนนึงมีใบหน้าที่ดูเฉยชาพร้อมกับพูดขึ้น ส่วนอีกคนนึงก็กำลังหัวเราะเยาะขึ้นในลำคอ ราวกับกำลังแสดงความเย้ยหยันและดูแคลน


ส่วนอีกคนก็พยักหน้ารับแสดงท่าทีอย่างเห็นด้วย สำหรับคนสุดท้่ายที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุด ใบหน้าของเขาดูสงบนิ่งและเยือกเย็นเป็นอย่างมาก


“อ่อนแอจริงๆ จะเป็นใครก็ชั่งอ่อนแอกันจริงๆ อันที่จริงแค่หวงหลงลงมือเพียงคนเดียวก็พอแล้วละมั้ง?”


“ถ้าไม่ติดที่ว่าต้องมาเอาตราสัญลักษณ์โบราณกลับคืนไป ข้าผู้สืบทอดแห่งเซียนคงไม่ต้องมายังดินแดนที่ถูกสาปเช่นนี้กันหรอก”


ชายหนุ่มผมดำกล่าวออกมาอย่างไม่สนใจ พร้อมกับยกฝ่ามือของตนเองขึ้นมาตรวจสอบอยู่เล็กน้อย ตอนนี้บริเวณหลังมือของเขามีสัญลักษณ์ต้องคำสาปของหอคอยอนันตกาล เป็นสัญลักษณ์โบราณที่แม้แต่ราชาอมตะ หรือจักรพรรดิอมตะก็ยังไม่อาจที่จะลบล้างได้


ยังดีที่หอคอยอนันตกาลเต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัด พวกเขาจะเล่นไปตามเกณฑ์ที่ได้บัญญติเอาไว้ ถ้ายังไม่ถึงช่วงเวลา ต่อให้จะเป็นพวกมันก็คงมีชีวิตรอดออกไปได้ และการมีอยู่ของหอคอยอนันตกาลทั้งหนึ่งพันแห่งนี่แหละ ถึงทำให้ดินแดนเซียนอมตะต้องเกิดความหวาดกลัวขึ้น


หวงหลงได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารับและตอบกลับออกไปในทันที


“หึหึ คำพูดขององค์ชายตี้ชงถูกต้อง แค่ข้าหวงหลงเพียงคนเดียวก็พอแล้ว จะเป็นราชันย์หกสมัย หรือบุตรแห่งเทพมังกรอะไรนั่นก็ตาม”


“เมื่อมาอยู่ต่อหน้าร่างกายศักดิ์สิทธิ์ กายสายฟ้าเก้าสวรรค์ของข้าแล้ว พวกมันที่เป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตอันต่ำต้อยก็ต้องถูกจัดการจนสิ้น”


ในน้ำเสียงเองก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ ทำให้อีกสองคนต้องแสยะยิ้มขึ้นบริเวณมุมปาก พวกเขาเห็นด้วยอย่างถึงที่สุด


การที่หวงหลงถูกรับเลือกให้มาเคียงข้างตัวของผู้สืบทอดแห่งเซียน เหตุผลก็เป็นเพราะว่าเขานั่นแข็งแกร่ง ถ้าไม่นับครองร่างกายระดับสูงสุด

ชายผมทองคนนี้ก็มีพลังในการต่อสู้ที่อยู่ในระดับต้นๆ เป็นอัจฉริยะเหนือเหล่าอัจฉริยะของดินแดนเซียนอมตะเลยก็ว่าได้


“น่าเสียดายนะขอรับท่านตี้ชง พวกเราอดได้เห็นพลังของผู้สืบทอดแห่งเซียนเช่นท่าน มันชั่งน่าเสียดายจริงๆ”


“หึหึ ถ้าองค์ชายใช้ร่างกายสูงสุดออกมา ต่อให้จะเป็นเทพเซียนที่แท้จริงก็คงไม่มีชีวิตรอด แล้วนับประสาอะไรกับคนพวกนี้”


เมื่อพูดถึงชายหนุ่มผมดำ ตัวของหวงหลงที่หยิ่งผยองและเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจก็ยังต้องเกิดความหวาดหวั่นขึ้นในส่วนลึก


เพราะความแข็งแกร่งของมันและเขาคนนี้ห่างชั้นกันยิ่งกว่าฟ้าและเหว องค์ชายแห่งตำหนักเซียน ผู้สืบทอดแห่งราชาอมตะผู้ยิ่งใหญ่


เขาคือผู้ที่ครอบครองหนึ่งในร่างกายที่มีเพียงแค่สิบรูปแบบ ร่างกายรูปแบบสูงสุดลำดับที่ 4 ร่างศักดิ์สิทธิ์ห้วงมิติและเวลา มีพลังในการควบคุมเวลาและพื้นที่ห้วงมิติได้อย่างอิสระ ยังสามารถใช้พลังเซียนได้อย่างไร้ที่สิ้นสุด ถือเป็นพลังที่สามารถสั่นคลอนได้ทั้งสวรรค์และผืนพิภพ


“ไม่หรอก เพื่อรับประกันถึงชัยชนะที่เด็ดขาด ข้าต้องลงมือด้วยตนเอง ถ้าเกิดพลาดในการได้รับตราสัญลักษณ์โบราณแห่งสายฟ้าขึ้นมา”


“พวกเราที่เสมือนเป็นตัวแทนของดินแดนเซียนอมตะคงได้ขายขี้หน้าแน่ และข้าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นอย่างเด็ดขาด!!”


ขณะที่พูดออกมา ม่านตาของเขาก็เต็มไปด้วยพลังแห่งห้วงมิติและกาลเวลา ก่อเกิดประกายแสงอันขุนมัวราวกับเป็นพื้นที่อันไร้กฎเกณฑ์ใดๆ


ทว่าตี้ชงก็ปลดปล่อยพลังออกมาเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น ซึ่งการกระทำของเขาก็ไม่มีใครสัมผัสหรือรับรู้ได้เลยซักนิดเดียว


[......................]


จิตวิญญาณแห่งหอคอยที่กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ ก็ได้เริ่มตรวจสอบรูปแบบและพลังเซียนทั้งหมดที่มีอยู่ในร่างกายของพวกเขา


ทำให้เห็นถึงความพิเศษและความไร้เทียมทานที่เหนือยิ่งกว่าสรรพสิ่งใดๆ


โดยเฉพาะกับผู้สืบทอดแห่งเซียน เขานั่นไร้พ่ายในระดับขั้นเดียวกันอย่างแท้จริง


[ร่างกายรูปแบบสูงสุดลำดับที่ 4 ร่างศักดิ์สิทธิ์ห้วงมิติและกาลเวลาหรอเนี่ย?]


[กลัว-่าอะไร ร่างกายสูงสุดทั้งสิบย่อมมีพลังที่ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่นัก]


[ถูกต้อง ดินแดนเซียนอมตะเรียงลำดับของพวกมันไม่ใช่ด้วยพลังพิเศษต่างๆ แต่เป็นเพราะการถือกำเนิดขึ้นมาตามลำดับต่างหาก ยุคสมัยอดีตกาลจนถึงช่วงเวลาปัจจุบัน ร่างกายสูงสุดในดินแดนเซียนอมตะก็มีเพียงแค่สิบรูปแบบ และตอนนี้หนึ่งในนั้นก็ได้มาปรากฏตัวขึ้น]


[เหอะๆ พวกเราต้องพึ่งหลิงหานและคนอื่นๆแล้ว ไม่งั้นตราสัญลักษณ์โบราณแห่งสายฟ้าคงได้ตกไปเป็นของพวกมันแล้วแน่ๆ]


ตอนต่อไป
ผู้พิชิตวิญญาณตอนที่ 339

นิยายแนะนำ

นิยายแนะนำ

ความคิดเห็น

COMMENT

ปักหมุด

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited( Kawebook.com )

Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )
ที่อยู่ : 20 หมู่ที่ 6 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
เวลาทำการ : 08 : 00 - 18 : 00 จันทร์ - เสาร์
e-mail : contact@kawebook.com

DMCA.com Protection Status

เริ่มต้นเผยแพร่ผลงาน

เริ่มต้นเป็นนักเขียนออนไลน์ เขียนเรื่องราวที่ประทับใจ สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และแบ่งปันประสบการ์ดีๆ กับผู้คนทั่วโลก kawebook.com เป็นโอกาส เป็นสื่อกลาง และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการสร้างรายได้ให้กับนักเขียนมืออาชีพ และนักเขียนมือสมัครเล่นจากทุกมุมโลก เพียงสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์เพื่อเขียนหนังสือ การ์ตูน หรืออัพโหลดอนิเมชั่น ที่เป็นผลงานของท่าน และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชน

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา