เรื่อง Astral Beast Hunter
ตอนที่ 1 ประวัติศาสตร์
ศักราชดาราจักรปีที่ 999 ความรุ่งเรืองแห่งมวลมนุษยชาติเฟื่องฟูถึงขีดสุด การเดินทางข้ามดวงดาวเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเห็นได้ทั่วไปในอวกาศ เทคโนโลยีถูกพัฒนาเป็นนวัตกรรมไม่เว้นวัน
การซื้อขายแลกเปลี่ยนระบบเงินตราเปลี่ยนไปใช้ระบบแลกเปลี่ยนัา ระบบทุนนิยมล่มสลายไม่มีการผูกขาดในทุกด้าน
ชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนก็อยู่ได้อย่างสุขสบาย ขึ้นอยู่กับ่าจะเลือกใช้ชีวิตยังไง หรืออยากใช้ชีวิตบนดาวดวงไหน ทุกอย่างจะถูกปัญญาประดิษฐ์(AI)จัดเตรียมไว้ให้เสร็จสรรพ
มีเพียงมนุษย์ส่วนน้อยเลือกใช้ชีวิตอย่างสุ่มเสี่ยง เพื่อสำรวจห้วงอวกาศอันกว้างใหญ่ พวกเขาเหล่านี้คือนักสำรวจ เป็นผู้กล้าหาญในสายตามวลมนุษย์ แต่ในสหพันธ์กาแล็กซีพวกเขาคือหัวหอกสำคัญในการบุกเบิกขอบเขตความรู้ใหม่
นักสำรวจ นอกจากสำรวจห้วงอวกาศ ยังเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างนวัตกรรม และเป็นนักประดิษฐ์ นักวิจัยผู้สรรค์สร้างสิ่งใหม่ไปในตัว
ในหมู่นักสำรวจด้วยกัน ยังมีการแบ่งหน้าที่ความถนัด ระดับความสามารถ รวมไปถึงตัวตนพิเศษในหมู่นักสำรวจที่มีความสามารถหลายด้าน ไปจนถึงด้านการไล่ล่าสิ่งมีชีวิตต่างดาวมาทำการวิจัยและพัฒนายีน
ยุคสมัยดาราจักร มนุษย์มีชีวิตยืนยาวก่ายุคสมัยเก่าหลายสิบเท่า ไม่ใช่ทุกคนจะมีอายุยืนยาวได้ขนาดนั้น แต่ส่วนใหญ่มีอายุยืนยาวเกือบพันปี ส่วนคนที่มีอายุยืนยาวถึงหมื่นปี มีเพียงคนมีความสามารถบางคนเท่านั้น ในปัจจุบันอายุขัยมนุษย์ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในขอบเขตหนึ่งร้อยปี หรือพันปีอีกต่อไป
ผลจากการวิจัยและพัฒนายีน บ่งชี้่ามนุษย์อาจมีอายุขัยได้แสนปีหรือมากก่า เป็นผลพวงมาจากการใช้นาโนแมชชีนรุ่นพัฒนาร่วมกับการตัดแต่งพันธุกรรม โดยการนำยีนเด่นของสิ่งมีชีวิตต่างดาวมาวิจัยและเพิ่มเข้าไปในร่างกายมนุษย์
การตัดแต่งพันธุกรรมนำมาซึ่งการเปลี่ยนของมนุษย์กลุ่มน้อย ให้มีความแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไปเล็กน้อย แต่ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือคนกลุ่มนี้มีอัตราการสืบพันธุ์โดยอาศัยเพศต่ำ
กลุ่มคนที่ตัดแต่งพันธุกรรมจึงคิดค้นชุดเกราะชีวภาพกับอุปกรณ์รักษาชีวิตต่อเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ตู้จำศีล รุ่น CS-159 มาพร้อมสามฟังก์ชัน หยุดการเจริญเติบโต รักษาอุณหภูมิ ระบบรักษาความปลอดภัย
เตียงไฟฟ้าปรับสมดุล VT-7 สำหรับรักษากล้ามเนื้อและรักษาอาการบาดเจ็บภายใน
นาโนแมชชีน EV-9 ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันไวรัส เร่งกระบวนการสร้างกล้ามเนื้อส่วนที่เสียหาย
ทั้งสามได้รับการรับรองจากสมาคมวิจัยระดับโลก ดับเบิลเอ็ม เสนอขายยกชุดในราคา 2 แท่งัานิวเคลียร์ โปรโมชั่นพิเศษนี้มีอยู่ถึงแค่วันครบรอบ 1000 ปีศักราชดาราจักร หากซื้อตอนนี้ แถมฟรีเครื่องเก็บัาสำรอง เมก้าโวลต์
“เดโม่(Demo) ฉันบอกให้แกเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ทำความเข้าใจในรูปแบบมนุษย์ แต่แกกำลังดูโฆษณาขายสินค้าห่วย ๆ บนโลกเนี่ยนะ” ชายหนุ่มผู้นั่งอยู่หน้าแผงควบคุมล้ำยุค หมุนเก้าอี้ไฮเทคหันมามองหุ่นจักรกลชีวภาพรูปร่างมนุษย์ ที่กำลังจดจ่ออยู่กับโฆษณาบนโฮโลแกรม
“ยืนยัน เดโม่เรียนรู้ทำความเข้าใจในรูปแบบมนุษย์ผ่านเมมโมรี่ชิป ประมวลผลด้วยระบบวิเคราะห์จิตใจสังคมนิยม ทำความเข้าใจพื้นฐานสังคมมนุษย์ วิเคราะห์จิตวิญญาณผ่านฐานข้อมูล” เดโม่หันหน้ามาตอบชายหนุ่ม ภาพนี้ทำเอาชายหนุ่มขมวดคิ้วพร้อมตั้งคำถามกับมัน
“ฉันให้แกเรียนรู้แบบมนุษย์ เข้าใจความรู้สึกเหมือนมนุษย์ ไม่ได้ให้แกประมวลผมมันออกมา ไม่งั้นแกจะมีจิตวิญญาณวิเคราะห์เองได้ยังไงวะ และไหนประวัติศาสตร์ที่ให้แกศึกษา”
“ยืนยัน พบข้อผิดพลาดในคำสั่ง ทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้
พบข้อผิดพลาดในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ทำการเชื่อมต่อฐานข้อมูล เปรียบเทียบข้อมูล ประมวลผล
ผิดพลาดไม่สามารถทำความเข้าใจ...รีบูทข้อมูล...จัดเรียบเรียงกระบวนเรียนรู้ใหม่...ยืนยัน! ปรับเปลี่ยนเรียนรูปแบบการเรียนรู้สำเร็จ” แสงสีฟ้าใสดวงตาเดโม่กะพริบไม่หยุด ชายหนุ่มนั่งมองมันจัดการระบบตัวเอง ซึ่งก็ยังมีข้อผิดพลาด
“ไหนประวัติศาสตร์จริง ๆ ที่แกเรียนรู้ ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ผิด ๆ ถูก ๆ เหมือนในโฆษณานั่นนะ” ชายหนุ่มถามเดโม่ มันจึงทำการประมวลผลอีกรอบทันที ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็หยุดมันเอาไว้
“หยุดเลยไอ้เวร แกเชื่อไหมเดโม่ ตอนแรกฉันคิด่าแกกำลังดูประวัติศาสตร์มนุษยชาติ แต่พอได้ยิน่ามันมีโปรโมชั่นพิเศษก็รู้สึกกำหมัดแล้วโว้ย
แกรู้ไหม่าฉันสร้างแกมาให้เป็นผู้ช่วยมือซ้ายตอนลงไปล่าอสูรดวงดาวและเก็บวัสดุสร้างอุปกรณ์ ไม่ได้ให้ทำตัวไร้สาระเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ชอบดื้อไม่ฟัง-่าอะไรสักอย่าง ถึงแกจะมีจิตวิญญาณเหมือนเด็กมนุษย์ แต่ไม่รู้จักโตมันจะฉิบหายกันหมด เพราะฉะนั้นเรียนรู้และเติบโตซะ”
“ยืนยัน” เดโม่ตอบกลับ ชายหนุ่มก็ส่งเสียงตวาดใส่มัน
“แม่งเอ๊ย หยุดใช้คำ่ายืนยัน ใช้คำ่า ครับ ค่ะ หรืออะไรก็ได้ที่บ่งบอก่าจิตวิญญาณแกได้เริ่มกลายเป็นมนุษย์ที่พัฒนาบ้างแล้ว”
ชายหนุ่มทำให้ตัวเองใจเย็นลงอยู่ครู่หนึ่ง ขณะเดียวกันก็มองเดโม่ที่เริ่มสำนึกผิดอย่างพิจารณา
“เอาเถอะ ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ แล้ว ถึงฉันสอนแกมายี่สิบปี สอนอีกสักหน่อยคงไม่เป็นไร จำเอาไว้ให้ดีเหมือนที่ผ่านมา” ชายหนุ่มบ่นออกมา ก่อนจะเริ่มสอนเดโม่
“เดโม่แกเป็นชีวจักรกลรูปแบบมนุษย์ มีจิตวิญญาณเหมือนเด็กสิบขวบ มีฐานข้อมูลที่ฉันกับโมบิท(Mobit)ช่วยกันเก็บรวบรวมและวิจัยมาตลอดหนึ่งร้อยแปดสิบปีที่ผ่านมา ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มนุษยชาติฉันจะบอกแค่คร่าว ๆ เน้นเรื่องสำคัญเป็นหลัก เรื่องยิบย่อยแกสามารถเรียนรู้ได้ในฐานข้อมูล แต่แกห้ามก็อปข้อมูลเป็นความทรงจำเด็ดขาด ใช้มันให้เหมือนเสิร์ชเอนจิ้นเข้าใจไหม”
เดโม่พยักหน้า ชายหนุ่มเห็น่ามันเข้าใจจึงเรียกโมบิทมาเป็นผู้ช่วย
“โมบิท เริ่มฉายภาพประวัติศาสตร์มนุษย์ ช่วงสงครามกวาดล้างแย่งชิงทรัพยากร” หลังจากชายหนุ่มพูดจบ โดรนทรงกลมสีขาวขนาดเท่าลูกบอลก็ลอยออกมาจากผนังห้อง ก่อนจะเริ่มมีรอยแยกบนโดรนและเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นหุ่นยนต์น่ารักขนาดจิ๋วลอยอยู่เหนือระดับสายตาเดโม่และชายหนุ่ม
“เนื่องจากระบบหลักกำลังวิเคราะห์สภาพดวงดาว ควบคู่กับการวิจัยสิ่งมีชีวิตอันตรายและค้นหาสายแร่อัญมณีสีชาด บนดาวปีศาจแดง(RD-x1) ด้วยอุปกรณ์จำนวนมาก โมบิทระบบหลักจึงเปิดระบบคำสั่ง ควบคุมผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ระดับต่ำ(AI-Rank C)”
เสียงแจ้งเตือนจากโมบิทหายไป หุ่นยนต์น่ารักขนาดจิ๋วก็เริ่มฉายภาพสงครามวงกว้าง ชายหนุ่มจึงเริ่มเล่าประวัติศาสตร์แบบย่อในรูปแบบเขาให้เดโม่ฟัง
“ช่วงสงครามกวาดล้างแย่งชิงทรัพยากร เป็นช่วงก่อนเข้าสู่ยุคเดินทางข้ามดวงดาว ในยุคนั้นมีการใช้หุ่นรบสังหาร กำจัดประเทศด้อยพัฒนา ฆ่าล้างประชากรมนุษย์ไปเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมด
เหตุเกิดจากสงครามนิวเคลียร์ครั้งที่สาม กัมมันภาพรังสีจากระเบิดนิวเคลียร์ก่าร้อยลูกแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดินและผืนน้ำในมหาสมุทรทั่วโลก สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่เริ่มตายไป โชคยังดีมีองค์กรสี่แห่งสามารถตั้งถิ่นฐานอยู่บนดวงจันทร์ได้สำเร็จ มนุษย์ที่โชคดีจึงไปอยู่บนดวงจันทร์ พร้อมกับเมล็ดพันธุ์พืชหลายแสนชนิดและดีเอ็นเอตั้งต้นของสิ่งมีชีวิตบนโลกส่วนใหญ่
ช่วงเวลานั้นสงครามเกิดไปพร้อมกับคนบนดวงจันทร์คิดค้นวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวหน้า เป็นเวลาก่าห้าสิบปีสงครามกวาดล้างถึงจะจบลง แต่เป็นเวลาก่าร้อยปี คนบนดวงจันทร์ถึงจะลงไปช่วยคนบนโลกและเริ่มฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาอาศัยได้
เวลาผ่านไปเกือบห้าร้อยปีโลกถึงจะกลับมาอยู่อาศัยได้เหมือนในอดีต แต่ยังมีบางจุดบนโลกที่อันตราย เป็นผลมาจากสัตว์และมนุษย์ที่กลายพันธุ์ ผู้คนจากดวงจันทร์เรียกยุคนี้โลกใหม่(New World) เพราะจำเป็นต้องขยายพันธุ์พืชและสิ่งมีชีวิตเกือบทุกชนิดบนโลก ให้ธรรมชาติเกิดสมดุล
ยุคโลกใหม่ดำเนินอยู่ภายใต้ความพยายามฟื้นฟูโลก 11563 ปี ในที่สุดโลกก็กลับมาอาศัยอย่างสงบสุขได้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มนุษย์พัฒนาเทคโนโลยีและวิวัฒนาการไปไกลก่าหมื่นปีก่อน ยุคสมัยใหม่อย่างยุคโลกาวิวัฒน์ก็เริ่มนับปีที่หนึ่ง
ในยุคโลกาวิวัฒน์ แบ่งเป็นสองช่วงเวลา ช่วงเวลาแรก ช่วงเวลาสงบสุข ในช่วงนี้กินเวลาไปได้แค่ 3700 ปี โลกที่ไม่ค่อยมีภัยพิบัติก็เกิดภัยพิบัติ
ภัยพิบัติในยุคโลกาวิวัฒน์ค่อนข้างร้ายแรง มีทั้งแผ่นดินไหวระดับสิบห้า ธรณีสูบกินวงกว้างสิบกิโลเมตร คลื่นยักษ์สูงห้าสิบเมตร ส่งผลกระทบต่อเทคโนโลยีทางการเกษตร
ภัยพิบัติทำให้อาหารเริ่มลดน้อยลง ถึงมนุษย์จะมีเทคโนโลยีฝืนธรรมชาติยังไง ก็ไม่สามารถต่อต้านภัยพิบัติช่วงนี้ได้
ช่วงเวลาที่สองจึงเริ่มดำเนินจากเหตุการณ์นี้ มนุษย์เห็น่าภัยพิบัติรุนแรงเกินควบคุม ถ้าไม่สามารถอยู่บนโลกได้ การเดินทางข้ามอวกาศไปตั้งถิ่นฐานนอกโลก บนดาวดวงอื่นเป็นอะไรที่ง่ายก่า เทคโนโลยีในช่วงนั้นยังส่งเสริมให้มนุษย์มีเหตุผลดำรงชีวิตนอกโลกมากก่าในโลก
มนุษย์จึงหาทรัพยากรเท่าที่หาได้ในโลกและดวงดาวบริเวณใกล้เคียง มาสร้างเป็นยานอวกาศเดินทางสำหรับมนุษย์หนึ่งแสนคนก่านับร้อยลำ กินเวลาเพียง 1237 ปี มนุษย์สามารถเดินทางในอวกาศได้เหมือนขับรถเดินทางข้ามประเทศในยุคสมัยเก่า ยุคโลกาวิวัฒน์จึงจบลงและเข้าสู่ยุคกาลอวกาศที่แสนวุ่นวาย
ยุคสมัยกาลอวกาศ มนุษย์หนึ่งในสิบจากทั้งหมดเดินทางในระบบสุริยะข้ามไปมา ตั้งถิ่นฐานบนดวงดาวในระบบสุริยะ และไม่วายเกิดการแบ่งแยกเหยียดเชื้อชาติบนดวงดาว จากกลุ่มเล็ก ๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่โตอย่างสงครามข้ามดวงดาว
ระห่างช่วงสงครามเทคโนโลยียกระดับสูงขึ้นไปอีกขั้นจากยุคก่อน ความเสียหายกินวงกว้าง ระบบดาวเคลื่อนตัว ส่งผลให้ระบบสุริยะเกิดความไม่เสถียร
แต่มนุษย์ไม่ได้สนใจและฆ่าแกงกันเหมือนในอดีต บางคนถูกจับเป็นเชลย บางคนกลายเป็นทาส บางคนถูกแยกส่วนเอาอวัยวะภายใน โดยเฉพาะสมองที่เอาไป ประกอบรวมกับเทคโนโลยี ‘นาโนบอท’ จะกลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่มีความนึกคิด แต่ไม่มีความเป็นมนุษย์และความยับยั้งชั่งใจ
สงครามในยุคกาลอวกาศกินเวลานาน 147 ปี สหพันธ์กาแล็กซีจึงถูกสร้างขึ้นภายในการร่วมมือของคนยุคเก่าที่มีอายุหมื่นปี สามคน สามคนเป็นผู้ทรงอำนาจด้านนวัตกรรมในยุคนั้น ใช้เวลาแค่ 15 ปี สงครามก็ยุติลง
หลังสงครามยุติลงไปสองปี เรื่องไม่คาดฝันอย่างสิ่งมีชีวิตนอกระบบสุริยะบุกรุกเข้าสู่ระบบสุริยะก็เกิดขึ้น กลายเป็นสงครามระห่างเผ่าพันธุ์ เหตุสงครามครั้งนี้เกิดจากความแปลกใหม่ สื่อสารกันไม่เข้าใจ โชคร้ายไปก่านั้นเป็นมนุษย์ยังมีความคลั่งสงครามจากช่วงเวลาที่ผ่านมา
ความบรรลัยของมวลมนุษย์พร้อมกับความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่เกิดจากจุดนี้ ความบรรลัยคือมนุษย์สร้างความขัดแย้งกับต่างเผ่าพันธุ์ สองเผ่าพันธุ์
หนึ่งซีโนม เอเลี่ยนรูปร่างคล้ายสุนัขขายาว มีผิวหนาสีดำด้าน ยืนสองขา ร่างกายมันเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตรูปแบบคาร์บอน จุดเด่นฉลาด มีความเป็นนักล่า ประสาทสัมผัสเฉียบไว เทคโนโลยีเหนือก่ามนุษย์ยุคกาลอวกาศขั้นหนึ่ง จุดอ่อนแพ้สารตะกั่วรุนแรง
สองไวท์นอม เอเลี่ยนมีหัวเป็นงู ลำตัวท่อนบนเป็นปลามีสองแขนคล้ายคางคก ลำตัวท่อนล่างเป็นงูมีขาเล็กหนึ่งคู่ไว้ทรงตัว จุดเด่นร่างกายมีความร้อนสูง ปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้ง่าย ต้านทานพิษประเภทโปรตีน ฟื้นสภาพร่างกายได้รวดเร็ว จุดอ่อน ไม่ค่อยฉลาด แพ้สารปรอท เทคโนโลยีอ่อนด้อยก่ามนุษย์
ส่วนความก้าวหน้าของมนุษย์คือการจับเอเลี่ยนสองเผ่าพันธุ์มาวิจัย ส่งผลให้มนุษย์เกิดวิวัฒนาการแบบบังคับ ควบคู่กับเทคโนโลยีถูกพัฒนาข้ามขั้น ขณะเดียวกันสหพันธ์กาแล็กซีได้กลายเป็นเสาหลักของมวลมนุษย์ กฎข้อบังคับจึงถูกสร้างตามมา เวลานี้เองมนุษย์จึงกำหนดอาณาเขต และเริ่มออกไปสร้างมิตรภาพกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวบางกลุ่ม
เวลาผ่านไป ความขัดแย้งของมนุษย์กับซีโนมและไวท์นอม ส่งผลให้เกิดการปะทะบางครั้ง แต่ด้านมิตรภาพ มนุษย์มีถึงสามเผ่าพันธุ์คอยช่วยเหลือ
อย่างทรีต เอเลี่ยนเผ่าพันธุ์ไม้ทรงภูมิปัญญา รูปร่างเป็นต้นไม้ใหญ่เดินได้ จากดาราจักรแอนดรอเมดา
นีโอ เผ่าเอเลี่ยนยุคใหม่เกิดหลังมนุษย์ ร่างกายขาวซีด สูงสองฟุต รูปร่างคล้ายมนุษย์ มีหัวโตและดวงตาสีดำเงาไม่มีลูกตา อาศัยอยู่ในดาราจักรทางช้างเผือกเดียวกับมนุษย์ แต่อยู่คนละระบบสุริยะ
ไฮไลออน เผ่าสิงโตอวกาศ รูปร่างคล้ายสิงโตบนโลกในยุคเก่า แต่มีขนาดตัวใหญ่ก่าสามเท่า ยืนสองขาได้ ทุกตัวมีขนสีขาวปกคลุมทั่วร่าง อาศัยอยู่ในดาราจักรไลออนฮาร์ท
ช่วงเวลาดำเนินไปแบบนี้ ส่งผลให้มนุษย์ต้องพัฒนาต่อยอด จนกระทั่ง 7000 ปี ต่อมามนุษย์กลายเป็นเผ่าทรงภูมิปัญญา เน้นสร้างมิตรภาพ ไม่สร้างสงคราม คบค้ากับเอเลี่ยนหลายสายพันธุ์ บางคนถึงขั้นมีความรักข้ามสายพันธุ์ แต่น่าเสียดายความขัดแย้งกับเอเลี่ยนสองเผ่าพันธุ์ยังไม่จบลง
197 ปี ต่อมาสหพันธ์กาแล็กซีประกาศให้มวลมนุษย์ทราบโดยทั่วกันผ่านเครือข่ายดวงดาว่าจะก้าวสู่ยุคสมัยใหม่ ศักราชดาราจักรปีที่ 1 จึงถูกนับตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ ส่วนเรื่องบุคคลสำคัญ ช่วงเวลาเหตุการณ์สำคัญรองลงมาแกหาอ่านเองได้เลยเดโม่..อ่อ!”
“เกือบลืมไป อีกสิบเดือนศักราชดาราจักรจะครบรอบ 1000 ปี โฆษณาที่แกดูก็ไม่ได้ผิดไปหมด มนุษย์ใช้ระบบแลกเปลี่ยนัาจริง แต่มันมีแค่ัาไฟฟ้า ัานิวเคลียร์ ัาดวงอาทิตย์ำเรียกั้ ๆ ่า ‘โซร่า’ และัามืดที่เรียกอีกอย่าง่า ‘สสารมืด’
ระบบทุนนิยมผูกขาดเก็งกำไรไม่มีอีกก็จริง แต่มันแทนที่ด้วยคนมีความสามารถยึดครองได้หลายสิ่ง ตัวอย่างเช่นฉันที่สร้างแก ครอบครองดาราจักรห่างไกลแบบลับ ๆ หนึ่งแห่ง มีระบบสุริยะของตัวเองสามแห่งเป็นฐานที่มั่นหลัก ฐานลับสิบหกแห่ง กระจายไปทั่วดาราจักรและนอกดาราจักร ชีวิตนี้ไม่ต้องพึ่งพิงอะไรก็อยู่ได้สบาย ๆ เพราะฉันเป็นคนสร้างทุกอย่างใช้เองไม่ได้อยู่ใต้ใคร แค่มีการแลกเปลี่ยนสิ่งของในบางครั้ง ต่างกับพวกใช้ชีวิตภายใต้ปัญญาประดิษฐ์ที่สหพันธ์จัดสรร เหมือนจะดูดีและสุขสบาย น่าเสียดายมันไม่มีวันพัฒนาไปต่อได้ แถมยังอยู่ใต้กฎห่วย ๆ ถ้าไม่โชคดีไปเป็นนักสำรวจ ผู้ช่วยนักสำรวจหรือแต่งงานกับนักสำรวจก็อยู่แบบนั้นไปจนตาย
สุดท้ายเรื่องนักสำรวจฉันจะรวมหลายเรื่องไปเลย นักสำรวจมีสองประเภท หนึ่งขึ้นตรงกับสหพันธ์กาแล็กซี สองไม่ขึ้นตรงกับสหพันธ์กาแล็กซี เจ้านายแกเป็นประเภทที่สอง ไม่ขึ้นตรงกับไอ้พวกเอารัดเอาเปรียบ หาข้ออ้าง่าเพื่อมวลมนุษยชาติโน่น ทำประโยชน์สร้างความสัมพันธ์ผูกมิตรกับเอเลี่ยนนี่...เข้าใจ๋!” เดโม่พยักหน้ารัว ๆ เอาใจชายหนุ่ม ชายหนุ่มกลับไม่สนใจและเล่าต่อ
“นักสำรวจแบ่งเป็นสี่ระดับตามผลงานและประสบการณ์ มือใหม่ มืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญ ตำนาน ตัดไอ้ระดับตำนานที่เอาไว้เชิดชูพวกเฒ่าหมื่นปีไป คนมีความสามารถจริงจะอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญ ถ้ามันเข้ามาแทรกแซงงานของเราต้องจัดการมันอย่างระมัดระวัง เพราะมันมักมาเป็นทีมห้าคน ส่วนพวกมืออาชีพมีประสบการณ์พอควร แต่ไม่ได้จัดการยากเย็นอะไร มือใหม่ไม่ต้องพูดถึงเอาปัญญาประดิษฐ์ระดับต่ำของเราจัดการก็เละเป็นโจ๊ก
พูดถึงด้านความเชี่ยวชาญให้แกฟังบ้าง นักสำรวจมีความเชี่ยวชาญหลัก ๆ อยู่สามอย่าง หนึ่งนักประดิษฐ์ สองนักวิจัยพันธุ์กรรม สามนักล่า
นักประดิษฐ์เป็นพวกพัฒนาเทคโนโลยี สร้างนวัตกรรม รังสรรค์สิ่งใหม่ ส่วนใหญ่พวกนี้มันจะเก็บตัวไม่ค่อยออกสำรวจ แต่ถ้ามันออกสำรวจรอบตัวมันจะมีอุปกรณ์เยอะเอาเรื่อง อุปกรณ์แต่ละอย่างยังช่วยให้มันอยู่ในดวงดาวสะดวก ไม่่าจะเป็นแขนกล หุ่นยนต์สำรวจสภาพแวดล้อม หุ่นยนต์ป้องกันติดตั้งระบบรักษาความภัยระดับดวงดาว บลา ๆ ๆ...ยกเว้นพวกนักประดิษฐ์ระดับสูงที่สร้างยานใช้เอง พวกนี้อันตรายและชอบใช้หุ่นยนต์ระดับสูงเป็นตัวแทน ถึงจะไม่มีประสิทธิภาพเต็มร้อย ความปลอดภัยมันมีเกินร้อยแน่นอน
นักวิจัยพันธุ์กรรม ไอ้พวกนี้มันจะสร้างสิ่งแปลก ๆ ออกมาเสมอ สร้างเรื่องไม่เว้นวัน ข้อดีมันมีสองอย่างคือวิจัยพันธุกรรมกับตัดแต่งพันธุกรรม คนส่วนใหญ่คิด่าพวกนี้ดัดแปลงตัวเองเล็กน้อย บางคนรูปร่างผิดแปลกไปจากมนุษย์ แต่ถ้าเจอพวกเชี่ยวชาญจริง ๆ มันดัดแปลงทั้งร่างได้เหมือนฉันและยังคงสภาพในรูปร่างมนุษย์ได้ ถึงจะดูสูงก่ามนุษย์ทั่วไปสามสี่ฟุตยังไงก็ต้องระวัง เพราะไม่รู้มันตัดแต่งพันธุกรรมแบบไหนมา
นักล่า ไอ้พวกนี้มีความสามารถสูงเอาเรื่องเป็นพวกตัวชนปัญหา รับภารกิจส่วนมากจากสหพันธ์กาแล็กซี นอกจากตัดแต่งพันธุกรรมจนรูปร่างเปลี่ยนไป การใช้อาวุธยุทโธปกรณ์และการเอาตัวรอดมันสูงมาก ฆ่ายากยิ่งก่าแมลงสาบอวกาศ จุดเด่นจุดด้อยมีหลากหลายขึ้นกับตัวบุคคล วิธีจัดการต้องทำไปตามสถานการณ์ จะให้ดีเอาปืนใหญ่สสารมืดอัดตู้มเดียวให้จบไปจะง่ายก่า
นอกเหนือจากภาพรวมความเชี่ยวชาญสามด้าน ที่ครอบคลุมเกือบทุกอย่าง ยังมีคนเชี่ยวชาญสองอย่างอยู่ คนที่เป็นนักประดิษฐ์กับนักวิจัยพันธุ์กรรม นักชีวจักรกล จะสร้างสิ่งพิเศษที่เรียก่าชีวจักรกลได้ ปรับแต่งชีวจักรกลไม่ใช่เรื่องยาก เหมือนที่ฉันปรับแต่งแกตลอดยี่สิบปีมานี้ ข้อดีของคนถนัดสองอย่างไม่ใช่แค่มีจินตนาการสูงและความฉลาดเป็นกรด ฝีมือความสามารถการันตี่าจะสร้างของแปลกใหม่จากการผสมผสานออกมาได้แน่นอน ขึ้นอยู่กับ่าคนสร้างต้องการอะไร เอาไปใช้ประโยชน์แบบไหน
ผู้เชี่ยวชาญอีกแบบที่น่ากลัวคือ นักล่าพันธุกรรม พวกนี้เชี่ยวชาญพันธุกรรมไม่พอมันยังเชี่ยวชาญการล่าต่างสภาพแวดล้อม ปรับตัวในสภาพอากาศเป็นพิษได้สบาย ๆ ร่างกายเปลี่ยนสภาพได้ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศ โอกาสสำเร็จภารกิจจากข้อมูลที่โมบิลขโมยมาจากสหพันธ์กาแล็กซีและเอเลี่ยนเผ่าพันธุ์อื่น มันสูงอย่างไม่น่าเชื่อ และยังถูกระบุโดยเอเลี่ยน่าอันตรายห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยว ส่วนพวกนักล่าที่ชอบประดิษฐ์ไม่มีอะไรน่ากลัวไปก่านักล่าทั่วไป มันแค่พวกปรับแต่งร่างกายมา พอมีของเล่นล้ำยุคนิดหน่อย
จากที่ฉันพูดมายังมีผู้เชี่ยวชาญสามด้านเหมือนกับฉันที่โคตรน่ากลัวและน่ารำคาญ ถึงจะมีไม่มาก ถ้าโชคร้ายพบกันไม่หันหน้าหนีก็จำเป็นต้องไล่ล่า ฆ่ากันไปจนสุดขอบจักรวาล กรณีมันเป็นคนของสหพันธ์กาแล็กซีมาพบเจอกับความลับของเรา...เชือดทิ้งเท่านั้น พวกเอเลี่ยนก็เหมือนกันฆ่ามันอย่าให้รอดชีวิตไปได้ ที่สำคัญหลังฆ่ามันแล้วต้องเอาร่างมันมาวิจัยไว้เป็นฐานข้อมูลของเรา ถ้าโชคดีหน่อยดึงความทรงจำมันมาได้เราได้ทรัพยากรพร้อมกันฐานของมัน” ชายหนุ่มหยุดพูด แล้วเขาดีดนิ้วเบา ๆ หุ่นยนต์ตัวนึงก็เคลื่อนตัวเอาขวดน้ำดื่มมาให้เขา
แกร๊ก อึก อึก!
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??