เรื่อง วาสนาผัวแก่ของอีแบมปิ้งไก่
บทที่สามสิบเอ็ด
หมั้นหมาย
“ลูกชายฉันมันก็แค่พ่อม่าย แต่ใจมันดันใฝ่สูง ดันมาตกหลุมรักเด็กสาวอย่างหลานเอ็งเสียได้นี่สิมะลิ ช่างไม่เจียมตัวเอาเลยคล้าวเอ๊ย” อดีตกำนันหลายสมัยอย่างค้าม ผู้เป็นพ่อของคล้าวเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่กลั้วหัวเราะ
“กำนันค้ามก็พูดไป คนอย่างพ่อคล้าวใช่ว่าจะด้อยไปกว่าใครเลย หลานของฉันเสียอีกที่ดูอาจเอื้อมมากเกินไป” ยายมะลิเอ่ยตอบคนที่กำลังจะกลายมาเป็นคู่ดองกันในไม่ช้าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ญาติทั้งสองฝ่ายได้แต่พูดถ่อมตัวกันไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งก็เรียกเสียงหัวเราะให้กับบรรดาญาติสนิท ที่มาร่วมนั่งเป็นพยานในการหมั้นหมายของคล้าวและแบมแบมได้เป็นอย่างดี
หลังจากที่คล้าวและแบมแบมปรับความเข้าใจกันเสียใหม่จนความสัมพันธ์กลับมาเข้าร่องเข้ารอยแล้ว จากวันนั้นจนถึงวันนี้เวลาก็ล่วงเลยมาสองสัปดาห์เข้าให้แล้ว เป็นอันถึงเวลาอันดีงามที่คล้าวได้พาพ่อและแม่มาทำการหมั้นหมายคนรักตามที่เคยให้คำมั่นสัญญาเอาไว้
“พูดชมกันเกินไป เอาเถอะในวันนี้ฉันเองที่เป็นผู้ใหญ่ฝั่งเจ้าคล้าวมัน ก็ขอออกตัวในการขอหมั้นหมายนังหนูใบบัวให้ลูกชายฉันได้ไหมล่ะแม่มะลิ” กำนันค้ามเอ่ยเข้าเรื่อง เมื่อเห็นว่าได้นั่งพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอแล้ว
“เด็กมันรักกันชอบกัน คนแก่อย่างฉันก็ไม่ได้คิดจะขัด” ยายมะลิเอ่ยตอบกลับไป
“โชคดีของเอ็งแล้วคล้าว” ผู้เป็นพ่อหันไปพูดแซวลูกชายของตัวเองเสียงดังลั่น
“ขอบคุณมากครับ” คล้าวแย้มยิ้มให้กับผู้เป็นพ่อ ก่อนจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณยายของคนรัก
“ขอบคุณจ้ะยาย” แบมแบมยกมือไหว้ขอบคุณผู้เป็นยายของตัวเองบ้าง ร่างเล็กยกยิ้มเขินอายออกมา เมื่อสบตากับคนอื่น ๆ
“โชคดีของครอบครัวฉันแล้ว ที่ได้หนูมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวในอนาคต” สายพิณผู้เป็นแม่ของคล้าวเอ่ยพูดขึ้นกับว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยความเอ็นดู
“ขอบคุณมากนะจ๊ะ ที่ไม่รังเกียจหนู” ร่างเล็กยกมือไหว้แม่ของคนรัก ดวงตากลมโตแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความตื้นตันใจ
ก่อนหน้านี้คนรักเคยพาเธอไปทำความรู้จักกับครอบครัวของอีกฝ่ายมาแล้วครั้งหนึ่ง และโชคดีที่คนทางบ้านของคนรัก ไม่ได้คิดรังเกียจเธอที่เป็นแค่แม่ค้าไก่ปิ้งเลยแต่อย่างใด กลับให้การต้อนรับที่อบอุ่นและเป็นกันเอง เสียจนเธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นอยู่ในความฝัน
“ลูกฉันมันก็เป็นข้าราชการเงินเดือนน้อยนิด ฐานะก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ของหมั้นหมายวันนี้ ก็เตรียมมาตามสมควร เอ็งเปิดหนูเสียหน่อยเถอะนังหนู แล้วค่อยให้ยายเอ็งตัดสินใจอีกครั้ง ว่าจะอนุญาตให้หมั้นหมายกันหรือเปล่า” กำนันค้ามเอ่ยพูดขึ้น ก่อนจะแตะไหล่ให้ลูกชายดันพานที่ใส่สินสอดหมั้นหมายไปให้ฝ่ายผู้หญิง
แบมแบมทำเพียงแค่รับมาถือเอาไว้และปรายตามองเพียงแค่ครู่เดียว ก่อนจะยื่นพานขนาดใหญ่ให้กับผู้เป็นยายต่อ หัวใจของเด็กสาวในตอนนี้เต้นรัวเสียจนแทบจะหลุดออกมาอยู่ด้านนอก เพราะทำยังไงก็ไม่หายตื่นเต้นสักที
ความตื่นเต้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมาก่อนที่จะมาถึงวันนี้ ยังเทียบไม่ได้เลยสักเสี้ยวเดียว กับความตื่นเต้นของเธอที่มีอยู่ในตอนนี้ ร่างเล็กลอบสบตากับคนรัก ก่อนจะยกยิ้มให้กันอย่างสุขใจ ที่ในท้ายที่สุดแล้ววันนี้ที่รอคอยกันก็มาถึงสักที
“ฉันอนุญาตให้ใบบัวมันหมั้นหมายกับพ่อคล้าว” ยายมะลิเองก็ทำเพียงแสดงท่าทางตรวจนับแบบหลอก ๆ เพียงเท่านั้น ก่อนจะเอ่ยพูดตอบกลับไป
“มันต้องอย่างนี้สิ ฮะฮ่าฮ่า” กำนันค้ามเอ่ยพูดออกมา ก่อนจะหัวเราะเสียงดังด้วยความชอบใจ
แม้จะพูดว่าสินสอดทองหมั้นในวันนี้เตรียมมาแค่พอสมควร หากแต่ในพานทองนั้น ก็มีทองคำรูปพรรณทั้งสร้อยคอ แหวน และสายข้อมือรวม ๆ กันแล้วเก้าบาท เงินสดอีกสองแสนเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาท และรวมไปถึงโฉนดที่ดินแปลงเล็กที่มีเนื้อที่อีกเก้าไร่
ซึ่งถ้าหากตีมันออกมาเป็นมูลค่าจริง ๆ แล้ว ก็ถือว่าทางครอบครัวของคล้าวให้เกียรติมะลิและแบมแบมเป็นอย่างมาก แม้ว่าฝ่ายหญิงจะมาจากครอบครัวที่ฐานะด้อยกว่าอยู่มากโขก็ตามที
ยายมะลิร่วมหัวเราะไปกับคนอื่น ๆ เธอรู้สึกดีเป็นอย่างมากที่ทางครอบครัวของว่าที่หลานเขยให้การต้อนรับหลานสาวของเธอเป็นอย่างดี เดิมทีเธอเองก็มั่นใจในตัวของคล้าวมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ว่าอีกฝ่ายจะสามารถดูแลหลานรักของเธอได้โดยที่ไม่ต้องไปตกระกำลำบาก
หากแต่ยิ่งได้เห็นอย่างนี้ มันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกมั่นใจ ว่าถ้าหากในวันหนึ่งที่เธอจำต้องลาจากโลกใบนี้ไป หลานสาวของเธอก็ยังคงเหลือที่ให้พักพิง และยังมีคนอีกหลายคนที่พร้อมจะมอบความรักให้กับเด็กคนนั้นแทนเธอ
หลังจากที่มอบสินสอดของหมั้นให้กันเสร็จสิ้น คล้าวและแบมแบมก็คลานเข่าเข้าไปหาผู้หลักผู้ใหญ่ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานให้กับการหมั้นหมายในครั้งนี้ เพื่อให้ทุกคนได้ผูกข้อไม้ข้อมือและกล่าวคำอวยพรสั้น ๆ ให้แก่พวกเขาทั้งคู่
งานหมั้นที่ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรมากมาย หากแต่บรรยากาศกลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความครื้นเครงเป็นอย่างมาก เนื่องจากญาติ ๆ ของทั้งสองฝ่ายนั้น ต่างก็คุ้นหน้าคุ้นตากันมานาน รู้จักกันมาหลากหลายปีตามชั่วอายุคน
ความสัมพันธ์ดั้งเดิมที่เคยดีต่อกันอยู่แล้ว ในวันนี้ก็กลับแน่นแฟ้นขึ้น เมื่อทั้งสองครอบครัวได้มาเกี่ยวดองกัน ซึ่งทุกคนก็ต่างตั้งตารองานมงคลสมรสระหว่างเด็กทั้งคู่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้านี้กันใจจดใจจ่อ
หลังจากที่ผูกข้อมือกันเสร็จสรรพ ทางบ้านของฝ่ายหญิงได้จัดเลี้ยงส้มตำไก่ย่างให้กับบรรดาญาติของทั้งสองฝ่ายอย่างไม่อั้น ถือโอกาสจัดเป็นงานเลี้ยงเล็ก ๆ เพื่อสังสรรค์ให้กับงานหมั้นหมายของหลานสาวไปในตัว
“เต็มที่เลยนะทุกคน ขาดเหลืออะไรบอกฉันได้เลย” ยายมะลิตะโกนบอกแขกเหรื่อที่มากันในวันนี้ ในขณะที่มือก็กำลังเป็นระวิงอยู่กับการตำส้มตำอย่างไม่ขาดมือ
ใบหน้าของหญิงที่วัยใกล้จะโรยรา มีรอยยิ้มอยู่เต็มใบหน้า แม้ว่าจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่ไม่หยอก กับการต้องควงสากตำส้มตำหลายครกติดกันมาร่วมชั่วโมงแล้ว แต่พอได้รับคำเอ่ยชมเรื่องรสชาติที่ฝีมือไม่ตกของตัวเอง มันก็ทำให้เธอมีแรงฮึดในการโขลกเป็นอย่างมาก
“หน้าบานเลยนะเอ็ง” ยายพิกุลที่เป็นคู่ปรับกับแบมแบมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรเอ่ยพูดขึ้น เมื่อเด็กสาววางจานไก่ปิ้งลงบนโต๊ะที่ตัวเองนั่งอยู่
แบมแบมปรายตามองคนแก่ปากมอมเพียงเล็กน้อย หากแต่ก็เลือกที่จะไม่ตอบอะไรกลับไป วันนี้เป็นวันสำคัญของเธอและคนรัก เธอเองก็ไม่อยากจะเสียเวลามาพูดจาสาดน้ำลายกับคนที่ไม่มีวุฒิภาวะ ให้บรรยากาศที่กำลังดี ๆ แบบนี้ต้องมัวหมองไป
ร่างเล็กตัดสินใจหันหลังให้อีกฝ่าย ก่อนจะสาวเท้าไปหาคู่หมั้นของตัวเอง ที่ในตอนนี้กำลังถลกแขนเสื้อเชิ้ตยื่นปิ้งไก่อยู่หน้าเตา ใบหน้าสวยฉีกยิ้ม เมื่อเห็นว่าคนรักกำลังน้ำหูน้ำตาไหลเพราะโดนควันไฟเข้าตา
“มายืนเหนือลมสิจ๊ะพี่ ยืนตรงนั้นมันก็แสบตาเอาน่ะสิ” ร่างเล็กเอ่ยพูดขึ้น มือเล็กดึงต้นแขนของคนพี่ให้ขยับมาอีกทาง
“จริงด้วย พี่ก็รีบจนลืมคิดไปเลย” คล้าวได้แต่ยิ้มแป้นแก้เก้อส่งไปให้กับคนตัวเล็ก
แบมแบมส่ายหน้าให้กับความโก๊ะของคนรักเบา ๆ ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กของตัวเองซับเหงื่อให้กับคนขี้ร้อน หากแต่ก็ยอมมายืนปิ้งไก่แทนที่เธอโดยที่ไม่บ่นอะไรออกมาสักคำแบบนี้
“ขอบคุณครับ” ร่างหนาเอ่ยขอบคุณคนรัก มือหนาหยิบไก่ไม้ที่สุกแล้วมาใส่ถาดใบใหญ่เอาไว้ เพื่อรอให้คนตัวเล็กได้จัดใส่จานและนำไปเสิร์ฟให้กับแขกที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในวันนี้
ความวุ่นวายในฐานะเจ้าภาพของมะลิดำเนินไปร่วมสองชั่วโมง กว่าที่จะได้มีเวลามานั่งพูดคุยกับคนอื่น คู่หมั้นคู่หมายอย่างเป็นทางการอย่างคล้าวและแบมแบมก็เดินดูแลอำนวยความสะดวกให้กับทุกคนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
“เดินทางกลับกันปลอดภัยนะทุกคน วันนี้ขอบใจมาก” ญาติสนิทของทั้งสองวันนั่งพูดคุยสังสรรค์กันจนเกือบจะพลบค่ำ ถึงได้กล่าวคำลาแยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง ยายมะลิก็ทำหน้าที่ส่งญาติทางฝั่งของว่าที่หลานเขยด้วยตัวเอง
แบมแบมที่ยืนเยื้องอยู่จากผู้เป็นยาย ยกมือไหว้ลาญาติผู้ใหญ่ของคนรัก ใบหน้าสวยแจกจ่ายรอยยิ้มส่งไปให้กับทุกคน ก่อนจะปรายตามองไปที่คนรักที่ยืนอยู่ด้านหลังพ่อและแม่ของอีกฝ่ายเล็กน้อย
เมื่อแขกเหรื่อทยอยเดินทางกลับกันหมดแล้ว ยายมะลิก็เดินมาทิ้งตัวลงนั่งในซุ้มร้านขายส้มตำของตัวเองด้วยความเหนื่อยอ่อน แบมแบมเห็นอย่างนั้นก็กระวีกระวาดเอาน้ำเย็นมาให้ผู้เป็นยายได้ดื่ม เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะหน้ามืดจนเป็นลมไปเสียก่อน
“ขอบใจ” ยายมะลิเอ่ยพูดหลานสาว ก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นกระดกลงคอด้วยความกระหาย
“ซ่านัก เป็นยังไงล่ะยาย” แบมแบมเอ่ยแซวผู้เป็นยาย เพราะเธอเองก็ค้านแล้วว่าให้หาลูกมือสักคนสองคนมาคอยช่วยในวันนี้ หากแต่ผู้เป็นยายก็ปฏิเสธเสียงแข็ง เพราะอยากที่จะโชว์ฝีมือการตำส้มตำด้วยตัวเอง
“ตำไม่อร่อยขึ้นมา เสียชื่อยายเอ็งหมดน่ะสิ” มะลิเอ่ยตอบหลานสาวด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
สองยายหลานมองตากัน ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาด้วยชอบใจ แต่แล้วบรรยากาศดี ๆ ระหว่างคนทั้งคู่ ก็ถูกสกัดเมื่อยายพิกุลที่คิดว่ากลับไปแล้วพร้อมกับคนอื่น ๆ สาวเท้าเข้ามาในซุ้มอีกครั้ง
แบมแบมหันไปยกยิ้มให้กับอีกฝ่ายเล็กน้อยตามมารยาท อย่างน้อยในวันนี้อีกฝ่ายก็มาร่วมงานหมั้นหมายของเธอในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่ง เธอจะละเว้นการต่อปากต่อคำกับอีกฝ่ายอีกสักวันก็แล้วกัน
“หลานมึง มันไปทำอีท่าไหนละมะลิ กำนันคล้าวเขาถึงได้คว้ามันไปเป็นเมียได้” ร่างเล็กเตรียมผละที่จะไปจัดการถ้วยจานที่ยังวางอยู่บนโต๊ะ หากแต่เรียวขาก็ต้องชะงักเมื่อมีคำพูดบางคำที่เกี่ยวกับตัวเองดังขึ้นมาตามหลังมา
แบมแบมกลอกตาขึ้นมองบนด้วยความเบื่อหน่าย มือเล็กกำเข้าหากันแน่นด้วยความโกรธเคือง พยายามที่สงบสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ให้ได้ ก่อนจะกลั้นใจทำเป็นหูหนวก สาวเท้าเดินไปจัดการในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจทำเอาไว้ตั้งแต่ทีแรก
“แต่ก็คงจะหลายท่าอยู่ล่ะเนอะ หลานมึงมันเคียวเสียขนาดนั้น ผู้ชายเขาถึงได้วิ่งโร่มาขอหมั้น ก่อนที่ท้องมันจะโย้ออกมาประจานให้ได้ขายหน้ากันก่อนแบบนี้” ยายพิกุลยังพูดให้ร้ายเด็กสาวที่เธอไม่ชอบขี้หน้าอย่างสนุกปาก
ยายมะลิหลับตาลงเพื่อข่มอารมณ์ ที่ผ่านมาเธอเองก็พยายามปล่อยผ่านเรื่องที่เพื่อนคนนี้ชอบพูดจาเหน็บแนมหลานสาวของเธอมาโดยตลอด เพราะเข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นคนปากไม่ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จะให้มาแก้เอาตอนแก่ใกล้ลงโรงแบบนี้ก็คงจะยาก
หากแต่ในวันนี้ ความอดทนของมะลิเองมันได้หมดลงไปแล้ว เธอเลี้ยงหลานสาวของเธอมาจนโต แม้จะดุด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่เธอก็ไม่เคยใช้คำพูดเหยียดหยามหลานสาวของเธอเลยสักครั้ง
“มึงถือสิทธิ์อะไรมาว่าร้ายหลานกู” ยายมะลิผุดลุกขึ้น ก่อนจะชี้หน้าถามเพื่อนของตัวเองเสียงดังลั่นด้วยความโมโห
“เป็นห่าอะไรของมึงอีมะลิ” ยายพิกุลเอ่ยถามเพื่อนด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทีอย่างนั้น
“มึงนั่นแหละอีพิกุล อี-่า หลานสาวกูมันไปทำอะไรให้มึงนัก” ยายมะลิเอ่ยถามออกไปเสียงสั่น
“แล้วกูพูดอะไรผิด ถ้าไม่ใช่เพราะมันไปยั่วกำนัน เขาจะชายตาแลมันหรืออย่างไร” ยายพิกุลผุดลุกขึ้นบ้าง ก่อนจะเอ่ยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดเช่นกัน
“โถ่ อีวอก มึงอย่าคิดว่ากูไม่รู้ มึงเอ็งก็จ้องจะจับกำนันให้ลูกสาวมึงเหมือนกัน แต่ฟ้ายังมีตากำนันคล้าวเขายังมีบุญ ที่ลูกสาวมึงมันติดผัวขี้ยาจนงอมแงม แล้วไม่ได้มีเวลาไปเทียวตามไล่ตามขื่อกำนันเขาให้รำคาญใจ” ยายมะลิพ่นคำพูดที่เก็บเอาไว้ในใจมาตลอดออกมาอย่างเหลืออด
“อีมะลิ!!!” ยายพิกุลตวาดออกมาเสียงดัง เมื่อถูกพูดแทงใจดำ
“มึงจะทำไมกู” ยายมะลิเอ่ยถามเสียงแข็ง ส่งสายตาฟาดฟันอย่างไม่คิดที่จะยอมแพ้เช่นกัน
“อี.. ฮึ่ย มึงกับกูไม่ต้องมาเผาผีกัน อีมะลิ!!” ยายพิกุลที่จุกจนคิดคำพูดไม่ทัน ได้แต่โวยวายพูดตัดขาดกับมะลิ ก่อนจะสะบัดตูดเดินหนีไป
“เออ ปากหมาแบบมึงก็อยู่ให้ได้จนตายแก่แล้วกัน คนที่แก่แล้วแก่เลยแต่ไม่มีหัวคิดแบบมึง กูก็ไม่อยากจะญาติดีด้วยหรอก มาทางไหนมึงก็กลับไปทางนั้นเถอะ ว่างมากก็เอาเวลาไปหาผัวดี ๆ ให้ลูกมึงนะ เลิกมาสาระแนกับหลานสาวกูสักที” ยายมะลิเอ่ยพูดไล่หลังของยายพิกุลไป ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งอีกครั้งด้วยความเหนื่อยหอบ
“พลาดแล้วอีแก่พิกุล มึงรู้จักยายมะลิน้อยไป” แบมแบมที่ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่นาน เอ่ยพูดกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะหันไปยกนิ้วโป้งให้กับผู้เป็นยายและตบมือให้เบา ๆ
มะลิที่ยังไม่หายจากอารมณ์โกรธเกรี้ยวสะบัดหน้าหนีหลานสาวตัวดีที่กำลังชอบอกชอบใจกับการที่ได้เห็นเธอด่าคน มือเหี่ยวย่นคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอีกครั้งเพื่อดับอารมณ์ที่ร้อนรุ่มของตัวเอง
แบมแบมเมื่อเห็นอย่างนั้น ก็ไม่ได้คิดที่จะไปแหย่อารมณ์ของผู้เป็นยายให้ปะทุขึ้นมาเพราะตัวเองอีกครั้ง ร่างเล็กเดินเก็บกวาดขยะตามโต๊ะที่เคยมีแขกนั่งด้วยความขยันขันแข็ง อย่างที่รู้จักเอาตัวรอดเป็นยอดดี
………………………………………………….
โอ๊ยยย และแล้ววันหมั้นก็มาถึงแล้วววววว แม้จะคลุกวงในกันไปจนฉ่ำแล้วก็ตาม แงงงง แล้วยายพิกุลก็คือเป็นบ้าติ เจอฤทธิ์ยายมะลิเข้าไปถึงกับเดินหนี 55555
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเม้นท์ส่งฟีดแบคกลับมาหานักเขียนอย่างเลดี้หน่อยนะคะ อยากบอกว่าการได้อ่านคอมเม้นท์ มันเป็นแรงผลักดันในการอัพนิยายมาก ๆ เลย // อ้อน
และอย่าลืมกดเข้าชั้น กดหัวใจ และที่สำคัญอย่าลืมกดติดตามนามปากกาอิสตรีเริงรมย์กันเอาไว้นะคะ เพราะตอนนี้กำลังเร่งสานต่อพล็อตมากมายที่ได้ทำการดองเอาไว้ในไหแบบเร่งด่วน และแพลนที่จะปล่อยงานในตอนนี้ก็ยาวทั้งปี ฮือออ // ะิาปริบ ๆ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??