เรื่อง ข้ามเวลามาเพื่อรัก
ตอนที่ 11 การประมูล
หลังจากวันที่บ้านกั๋วกับบ้านจิ่งได้หมั้นหมายกัน ข่าวก็ได้แพร่ออกไปอย่างกับ-่าฝน จนคนทั่วทั้งเมืองรับรู้ บ้างก็ว่าบ้านจิ่งโชคหล่นทับที่ได้ดองกับบ้านกั๋วที่ร่ำรวย บ้างก็พูดไปว่าเหวินุ่ใช้มารยาเพื่อล่อลวงให้กั๋วเฟิงหานมาชอบพอ จนกระทั่งข่าวนั้นได้ไปถึงหูของหวังต้าฟ่ง เขาที่พึงพอใจแม่นางจิ่งอยู่แล้วหลายส่วนถึงกับหงุดหงิดลุ่มร้อนใจ แต่พอเห็นสีหน้าเฉยเมยของผู้เป็นพ่อ เขาก็ทำได้แค่ส่งยิ้มให้เมียรักที่ทำหน้าน้อยอกน้อยใจอยู่ข้างๆ
“ข้าก็ว่าแล้วทำไมวันนั้นบ้านกั๋วถึงได้ไปอยู่ที่ร้านผ้าไหมบ้านจิ่ง ที่แท้พวกเขาก็กำลังสู่ขอจิ่งเหวินุ่นี่เอง” หงเหมยหลิวพูดจาเอาใจพ่อสามี และไม่ลืมที่จะรินชาให้ท่าน
“แม่นางจิ่งเหวินุ่งดงามปานนั้น ทั้งยังเพียบพร้อมหากข้าอายุมากกว่านี้สักหน่อยข้าก็จะไปขายขนมจีบให้นางเช่นกัน ช่างน่าเสียดายจริงๆ” หวังเฟยเหยียนน้องชายของหวังต้าฟ่งกล่าวขึ้นอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“ช่างเถอะ นางกับบ้านเราคงไม่มีวาสนาต่อกันก็ให้มันจบไปเพียงเท่านั้น ส่วนเจ้าก็ไม่ควรไปที่บ้านจิ่งหรือร้านผ้าของพวกเขาอีก เจ้าทำกับนางไว้เช่นนั้นแล้วหากเป็นข้า ข้าคงจะจับเจ้าโยนออกมาจากร้านเป็นแน่” หวังซ่านหลงหันไปบอกลูกสะใภ้ที่พึ่งพูดว่าตนได้ไปหาเหวินุ่มา
“เจ้าค่ะท่านพ่อข้าทราบแล้ว” หงเหมยหลิวก้มหัวอย่างนอบน้อม ท่านจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่าข้าไม่ถูกโยนออกมา ข้าขายหน้าจะแย่อยู่แล้ว เหวินุ่นะเหวินุ่ข้าขอให้เจ้าไม่สมหวังในความรัก หงเหมยหลิวได้แต่สาปแช่งจิ่งเหวินุ่ในใจ
“เฟยเหยียน วันนี้เจ้าก็ไปกับลุงใหญ่ของเจ้าเถอะนะ จะได้ไปเรียนรู้งานจากท่านลุงของเจ้าด้วย” หวังซ่านหลงหันไปพูดกับบุตรชายคนเล็ก
“ขอรับท่านพ่อ เช่นนั้นข้าขอไปเตรียมก่อนนะขอรับ” เฟยเหยียนลุกขึ้นยืน และไม่ลืมหันไปยิ้มเยาะพี่ชายที่ไปคว้าผู้หญิงมาจากข้างทางเพราะความทะนงตนและไม่รอบคอบ
หวังซ่านหลงเห็นสายตาที่ไม่เป็นมิตรของต้าฟ่งที่มองไปยังน้องชาย เขาจึงบอกให้หวังต้าฟ่งไปที่ร้านขายถ่าน และเรียนรู้งานจากที่นั่นและจับแยกสองพี่น้องออกจากกันโดยสมบูรณ์
“ร้านขายถ่านไม้หรือขอรับ แต่ท่านพ่อ…”
“ทำไม!! ร้านขายถ่านไม้แล้วจะทำไม! ก็เพราะถ่านไม้นี่ไม่ใช่หรือถึงทำให้เราลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้” หวังซ่านหลงที่ได้ยินเสียงคัดค้านจากบุตรชายถึงกลับบันดาลโทสะขึ้นมา เขาพึ่งรู้ว่าบุตรที่เขาประคบประหงมมาอย่างดีกลายเป็นพวกเลือกงาน ผิดกลับเฟยเหยียนบุตรชายที่เขาไม่ค่อยสนับสนุนเจ้าเด็กนั่นยังเอาการเอางานกว่าพี่ชายของเขาเสียอีก
“เจ้าค่ะท่านพ่อ เดี๋ยวข้ากับท่านพี่ต้าฟ่งจะไปที่ร้านขายถ่านไม้เพื่อแบ่งเบาหน้าที่แทนท่านเองนะเจ้าคะ” หงเหมยหลิวที่เห็นว่าพ่อสามีกำลังเคืองโกรธนางจึงรีบฉุดรั้งสามีให้ออกไปจากห้องโถงเล็กทันที
“หงุดหงิดชะมัด ทีเจ้าเฟยเหยียนนั่นกลับได้ไปที่โรงตีเหล็กมันน่าจับมาทุบตีเสียให้เข็ดจะได้ไม่ต้องมาหยามหน้าข้าอยู่แบบนี้” หวังต้าฟ่งก่นด่าน้องชายไปตามทาง
“เอาน่าท่านพี่ เราค่อยๆ เริ่มจากร้านถ่านไม้นี่ไปก่อน ข้าเชื่อว่าคนที่มีความสามารถเช่นท่าน อีกไม่นานท่านพ่อจะต้องมองเห็นอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”
“เจ้าพูดได้ดี เอาเถอะในเมื่อท่านพ่อให้ข้าทำ ข้าก็จะทำไปก่อน อีกไม่นานท่านจะได้รู้ว่าข้าก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้าเฟยเหยียนนั่นนักหรอก”
“ใช่แล้วเจ้าค่ะท่านพี่ ข้ารู้อยู่แล้วล่ะเจ้าค่ะว่าสามีของข้าไม่มีทางเป็นรองใครอย่างแน่นอน” เหมยหลิวรีบเอาอกเอาใจสามีของนางและส่งกำลังใจไปให้เขา นางก็หวังเอาไว้เช่นกันว่าหากต้าฟ่งทำงานถูกใจพ่อสามี ในภายภาคหน้าเขาจะต้องได้ไปยืนอยู่ในจุดที่ดีกว่านี้อย่างแน่นอน
ร้านค้าบ้านจิ่ง
“ข้าได้ชุดสร้อยคอนี่มาครอบครองจริงหรือนี่ งามเหลือเกิน ท่านพี่เจ้าคะดูนี่สิเจ้าคะมันเหมาะกับข้ามากมายเหลือเกินเจ้าค่ะ” เศรษฐีนางหนึ่งที่ประมูลสร้อยคอของเหวินุ่ในราคาที่สูงลิ่ว รีบถือชุดเครื่องประดับไปอวดสามีของนาง
“ใช่มันงามและมีความประณีตมากจริงๆ” สามีของแม่นางผู้นั้นกล่าวชม
“ขอบคุณท่านมากๆ นะเจ้าคะ ข้าดีใจที่ชุดเครื่องประดับนี้ได้พบกับเจ้าของของมัน ท่านดูเหมาะกับมันมากเลยเจ้าค่ะ” เหวินุ่ที่สวมชุดสีเขียวสดใสยิ้มหวานให้กับแม่นางผู้โชคดี
“ขอบใจเจ้ามากนะที่สร้างสิ่งนี้ขึ้นมา ข้าชอบมันมากจริงๆ ตอนแรกข้านึกว่าจะไม่ได้มันมาครองแล้วเสียอีก พอเจ้าบอกว่างานชิ้นนี้ต้องแข่งขันกันข้าถึงได้โล่งใจ” แม่นางผู้ที่ได้รับเครื่องประดับกล่าวขอบคุณเหวินุ่
“เอ่อ ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่าอะไรหรือเจ้าคะ หากครั้งหน้ามีงานที่เหมาะกับท่านอีกข้าจะได้ให้คนไปแจ้งให้ท่านได้ทราบเจ้าค่ะ” เหวินุ่พูดจายิ้มแย้มแล้วถามไถ่แม่นางที่ถือเครื่องประดับเอาไว้อย่างกับว่าเป็นสิ่งหวงแหน
“หากครั้งหน้ามีเครื่องประดับมาอีก เจ้าให้คนไปที่จวนเสนาบดีได้เลย” แม่นางผู้นั้นยิ้มกว้างและจากไปพร้อมกับสามีทันที
“คนของจวนเสนาบดีนี่เอง มิน่าเล่าถึงได้มือหนาเงินถึงเช่นนี้ สร้อยคอราคาหลายสิบตำลึงทองยังซื้อไหว” เหวินุ่เห็นว่าแขกที่มาเข้าร่วมสนุกจากกันไปหมดแล้วนางถึงได้พูดขึ้นมา
“จวนที่กู้หนิงไปอยู่แล้วเสียชีวิตนั่นสินะ” ฮุยหลานน้ำตาคลอแล้วพูดออกมาอย่างคับแค้นใจ
“คงจะมีจวนเสนาบดีไม่กี่จวนหรอก ว่าแต่เจ้าได้ถามนางหรือไม่ว่านางเป็นคนของจวนไหน” กั๋วเฟิงหานเดินมาโอบไหล่เหวินุ่แล้วถามไถ่
“นางไม่ได้บอกข้าน่ะ พอข้าได้ยินว่าเป็นคนของจวนเสนาบดี ข้าก็ไม่อยากไปข้องเกี่ยวด้วยแล้ว” จิ่งเหวินุ่ที่เริ่มคุ้นชินกับการแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของเฟิงหานแล้ว นางก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะให้เขาจับต้อง และปล่อยให้เขาเข้าใกล้นางตามที่เขาต้องการ แต่ก็ไม่ถึงขั้นเกินเลยแต่อย่างใด
“เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ควรตัดสินคนที่ภายนอก จวนเสนาบดีที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายก็มีไม่น้อย เจ้าอย่าได้ยึดติดกับชื่อเสียงที่ด่างพร้อยของคนจัญไรพวกนั้นเลย”
“ท่านไปรู้อันใดมางั้นรึ” เหวินุ่รีบเงยหน้าถามเฟิงหานที่สูงกว่านางหนึ่งคืบอย่างห้ามความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้
“เป็นเด็กเป็นเล็กจะไปสนเรื่องขี้หมูขี้หมาพวกนั้นไปทำไมกัน” กั๋วเฟิงหานเอามือหนาลูบสันจมูกคนตัวเล็กอย่างเอ็นดู
“ข้าไม่ได้เด็กเสียหน่อย” เหวินุ่เมินหน้าหนีเขา หากนับอายุของชีวิตก่อนรวมกับชีวิตนี้ที่นางได้ข้ามกาลเวลามา อายุของนางก็มากกว่าเด็กหนุ่มเช่นเขาหลายขุม
“ในเมื่อคุณชายกั๋วไม่อยากบอกข้าก็จะไม่เซ้าซี้แล้ว” เหวินุ่สะบัดมือปลาหมึกของคุณชายกั๋วออกและเดินงอนตุ๊บป่องเข้าไปยังที่ประจำของตนเอง
“เฮ้อ ว่ากันว่าผู้หญิงโกรธก็คือผู้หญิงรัก เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้ารักข้าแบบลืมไม่ลงไปเลยดีไหมนะ” เฟิงหานอมยิ้มน้อยๆ ทว่าสายตาอันคมกริบของเขาก็เอาแต่คอยจ้องมองร่างบาง ที่หยิบนั่นจับนี่อย่างน่าเอ็นดู
“น่ารักชะมัด แบบนี้ใครจะไปกล้าทำให้โกรธได้ลงล่ะ” เฟิงหานระบายยิ้มออกมา และหันไปก้มหัวให้กับว่าที่พ่อตาที่มองมาทางเขา
(นางทั้งงดงามมีเสน่ห์น่าดึงดูด แต่เจ้าบ้านั่นกลับมองข้ามไป แต่ก็ดีแล้วล่ะคนต่ำช้าเช่นนั้นไม่เหมาะสมกับนางเท่าข้าหรอกนะ) กั๋วเฟิงหานเดินไปทางเหวินุ่พร้อมกับรอยยิ้มที่อิ่มเอมใจ
“หึ วันๆ เอาแต่ยิ้ม แล้วก็ยิ้ม งานการที่บ้านไม่มีหรืออย่างไรถึงได้เอาแต่ตามข้าต้อยๆ เช่นนี้” เหวินุ่เงยหน้าขึ้นพอดีกับเห็นกั๋วเฟิงหานเดินมาทางตนนางจึงบ่นอิดออดไม่สบอารมณ์ออกมา
“แต่ข้ากลับคิดต่างจากคุณหนูนะเจ้าคะ เพราะข้าคิดว่าเขามีความเสมอต้นเสมอปลาย ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้คุณชายกั๋วก็ยังคอยติดตามคุณหนูอยู่ทุกวี่วัน และถึงแม้นว่าเขาจะไม่มา เขาก็จะส่งคนมาแจ้งคุณหนูทุกครั้งว่าเขาไปไหนหรือทำอะไรอยู่ ข้าว่าคุณชายคงรักคุณหนูมากเลยนะเจ้าคะ ต่างจากคนบ้านหวังที่ไปไหนมาไหนไม่เคยบอก แถมยังมาแอบตีท้ายครัวเพื่อนของคุณหนูอีก เหอะ พอข้าพูดถึงเขาข้าก็อยากอัดหน้าเขาสักเปรี้ยงขึ้นมาจริงๆ เจ้าค่ะ” ฮุยหลานที่นับวันจะเริ่มเอนเอียงไปทางคุณชายกั๋ว ทำสีหน้าไม่พอใจออกมาเมื่อนึกถึงผู้ชายไร้ยางอายคนนั้น
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??