เรื่อง ยอดมนุษย์ทะลุเกมกลายพันธุ์
“เพี้ยะ! เพี้ยะ! เพี้ยะ! ......”
ตอนที่เจี่ยไท่ใช้ฝ่ามือตบเข้ากลางกะโหลกศีรษะของตัวเอง
จู่ ๆ ก็มีเงาหนึ่งกระโดดลงมาจากเบื้องบน เพียงชั่วพริบตาร่างนั้นก็ปะทะเข้าใส่ร่างของนักรบโครงกระดูกอย่างฉับพลัน
เสียงปะทะกันเป็นจังหวะดังอึกทึกกึกก้องไปทั่วทุกสารทิศ
เสียงที่เกิดขึ้นราวกับฝนที่กำลังตก-่าใหญ่ หลังจากเสียงนั้นสิ้นสุดลงหมอกขาวขนาดใหญ่ก็ปกคลุมทั่วทั้งร่างของนักรบโครงกระดูก
ฟัง ๆ ดูแล้วอาจจะดูยาวนาน แต่อันที่จริงแล้วทุกอย่างเริ่มต้นและสิ้นสุดลงเพียงแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น
หลังจากนั้นหมอกสีขาวก็มลายหายไป ทุกคนมองไปที่ตำแหน่งที่นักรบโครงกระดูกเคยยืนอยู่
บัดนี้ที่นั่นมีเงาของใครบางคนยืนตระหง่านอยู่ตรงนั้น
ร่างของหญิงสาวกำลังยืนหอบหายใจอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังมีโครงกระดูกสีขาวนอนนิ่งอยู่บนพื้น
ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ร่างของเธอ
ท่าทางยโสโอหังของนักรบโครงกระดูกที่น่าสะพรึงกลัวก่อนหน้านี้ จู่ ๆ ก็มีใครบางคนปรากฏตัวขึ้นอีกทั้งยังจัดการกับมันจนสะบักสะบอมภายในไม่กี่อึดใจ
“เธอเป็นใคร?”
หลิวซิ่นเห็นนักรบโครงกระดูกของตัวเองถูกฆ่าตายก็เอ่ยถามออกไปด้วยเสียงทุ้มต่ำที่แฝงไปด้วยความเกรี้ยวกราด
ทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับจากเจ้าของเงาผู้นั้น
ในที่สุดหมอกขาวก็หายไปจนหมด ภายใต้แสงจันทร์สีเหลืองทอง การมองเห็นของทุกคนจึงชัดเจนมากยิ่งขึ้น
บุคคลผู้นั้นสวมใส่ด้วยหน้ากากโจ๊กเกอร์และเสื้อสีดำทั้งชุด ดูจากรูปร่างของเขาแล้ว บุคคลผู้นี้คือผู้ชายต่างหากล่ะ
ยากเกินกว่าที่จะเชื่อได้ ร่างกายที่ไม่ได้แข็งแรงหรือกำยำเช่นนี้ แต่กลับจัดการกับนักรบโครงกระดูกจนกลายเป็นกองกระดูกได้ภายในไม่กี่อึดใจ
“หึ! พรางเป็นเทพแสร้งเป็นผี!”
เมื่อเห็นชายสวมใส่ด้วยหน้ากากโจ๊กเกอร์ยืนนิ่งไม่พูดไม่จาอีกทั้งยังไม่ปล่อยพลังลมปราณใด ๆ ออกมา โจวหลางก็รู้สึกโกรธจนแทบระเบิด
ก่อนหน้านี้เขาเกือบจะชนะอยู่แล้วเชียว จู่ ๆ ก็มีใครบางคนโผล่ออกมาขัดจังหวะโดยไม่ได้คาดคิด เขาย่อมรู้สึกไม่พอใจเป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อเห็นว่าหลิวซิ่นไม่ขยับเขยื้อน โจวหลางก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
“พวกนาย...ไปจัดการมันซะ”
เขาหันไปสั่งบอดี้การ์ดทั้งสี่ของตัวเอง
หลิวซิ่นหันไปมองโจวหลางปราดหนึ่ง แต่กลับไม่คิดจะห้ามอีกฝ่าย บุคคลที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นมีความสามารถในการสังหารนักรบโครงกระดูกของเขา
“ปล่อยให้คนงี่เง่าผู้นี้ได้ค้นพบความจริงสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน”
เมื่อบอดี้การ์ดร่างกำยำทั้งสี่ได้รับคำสั่งจากหัวหน้า พวกเขาก็สบตากันก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ยืนอยู่
พวกเขารีบแยกตัวจากกันและพุ่งตัวเข้าใส่ชายสวมหน้ากากโจ๊กเกอร์จากทั้งสี่ทิศอย่างไม่ลังเล
เซี่ยฮุยปล่อยแขนทั้งสองข้างไว้ข้างลำตัว เขาคอยเฝ้าสังเกตพลังลมปราณของบุคคลทั้งสี่ที่กำลังพุ่งทะยานเข้ามา ทว่าสายตาของเขากลับไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
เขาคอยสังเกตหน้าต่างควบคุมที่อยู่ตรงหน้า
“ผู้เล่นเซี่ยฮุยสังหารนักรบโครงกระดูก ท่านจะได้รับแต้มเสริมความแข็งแกร่ง1,000แต้ม”
นักรบโครงกระดูกหนึ่งตัวสามารถแลกกับแต้มเสริมความแข็งแกร่ง1,000แต้ม สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายของเซี่ยฮุย
แต่เมื่อย้อนกลับไปคิด ๆ ดูแล้ว มันก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
ก่อนหน้านี้เป็นเพราะเขากระโดดลงมาจากด้านบนจึงทำให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้
การโจมตีครั้งแรกที่ปะทะเข้าใส่ร่างของนักรบโครงกระดูกทำให้กระดูกของมันหักเป็นท่อน ๆ ในเวลาเดียวกันเขาก็เกือบจะได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกเช่นกัน
ถ้าหากไม่ใช่เพราะค่าสเตตัสพิเศษจากนวมอำนาจจักรพรรดิที่ทำให้นักรบโครงกระดูกเข้าสู่ค่าสถานะมึนงง หากปล่อยให้มันโต้ตอบกลับมาเขาก็คงตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน
เซี่ยฮุยมองนวมในมือด้วยท่าทางดีใจและตกตะลึงไปพร้อม ๆ กัน ไม่แปลกใจเลยที่มันเป็นไอเท็มระดับตำนาน
เพียงชั่วครู่สติของเขาก็กลับคืนมาอีกครั้ง ตอนนี้บอดี้การ์ดทั้งสี่กำลังพุ่งเข้ามาใกล้เขาแล้ว
คนเหล่านี้คงคิดจะลงมือโจมตีพร้อม ๆ กัน นิ้วทั้งห้านิ้วที่เป็นกรงเล็บโค้งงอแหวกอากาศที่อยู่ตรงหน้า และพุ่งเป้ามาที่กะโหลกศีรษะของเซี่ยฮุย
แม้ว่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ก้าวเข้ามาครึ่งหนึ่งของขอบเขตพิเศษและไม่ได้มีการฝึกพลังลมปราณ
แต่กรงเล็บที่โจมตีออกมาเมื่อแหวกอากาศเสียงดังแหลมแสบแก้วหูก็ดังขึ้น พลานุภาพที่ทรงพลังเช่นนี้จะประมาทไม่ได้อย่างเด็ดขาด
แสงสว่างใกล้เข้ามา กรงเล็บนั้นกำลังจะปะทะเข้าใส่ศีรษะของเขาแล้ว
เซี่ยฮุยเบือนสายตามองไปยังกลุ่มคนเหล่านั้น ภายใต้หน้ากากโจ๊กเกอร์ แสงสว่างปรากฏขึ้นภายในดวงตาที่นิ่งสงบคู่นั้น
วินาทีต่อมา
อ้าก! อ้าก! อ้าก! อ้าก!
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นติดต่อกันถึงสี่ครั้ง เมื่อเทียบกับความเร็วที่พุ่งเข้ามา ร่างของบอดี้การ์ดทั้งสี่ดูเหมือนว่าจะกระเด็นลอยออกไปได้เร็วยิ่งกว่า
โจวหลางที่ยืนมองตั้งแต่ต้นตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น หลังจากนั้นเหงื่อก็เริ่มซึมออกมาจากหน้าผากและไหลไปตามสันกรามของเขา
ภาพที่เขาเห็นไม่ได้มีความชัดเจนเลย และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าบอดี้การ์ดทั้งสี่ถูกโจมตีจนกระเด็นลอยออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่
ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!
ร่างของบอดี้การ์ดกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้นมาจากพื้น ร่างของคนเหล่านั้นนอนนิ่งอยู่กับที่และไม่ไหวติงอีกต่อไป
ตายแล้ว!
ฉากที่อยู่ตรงหน้าเงียบสงัด
พ่อลูกตระกูลเจี่ย โจวหลางและคนอื่น ๆ ต่างมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความตกตะลึง แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเกือบครึ่งนาทีพวกเขาก็ยังยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
เมื่อมองไปที่กลุ่มบอดี้การ์ดที่นอนแน่นิ่งกลายเป็นร่างไร้วิญญาณอยู่ที่พื้น หลิวซิ่นก็แสดงท่าทางเคร่งขรึมออกมา
จู่ ๆ ก็มีชายสวมหน้ากากโจ๊กเกอร์เข้ามาแทรกแซง ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายเหนือกว่าที่เขาคาดคิดไว้ สายตาของอีกฝ่ายก็แสดงออกถึงความขึงขัง
ผู้พิเศษ!
เขาคือผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตพิเศษขั้น2เองเหรอ?
พลังลมปราณที่เซี่ยฮุยปล่อยออกมาเมื่อลงมือกับเป้าหมาย หลิวซิ่นมั่นใจได้ว่าเป็นพลังลมปราณขั้น2เท่านั้น
แต่การที่เขาสามารถจัดการกับนักรบโครงกระดูกที่มีความแข็งแกร่งเกือบถึงขั้น6อีกทั้งยังสังหารบอดี้การ์ดที่เกือบจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตพิเศษถึงสี่คนเช่นนี้
ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าเหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก สิ่งนี้ทำให้หลิวซิ่นต้องแอบคาดเดาภายในใจ
สายตาของเขาจ้องมองไปที่นวมบนมือของเซี่ยฮุย จู่ ๆ เขาก็เกิดความร้อนใจขึ้น
อาวุธในตำนาน!
มีเพียงแค่อาวุธในตำนานเท่านั้นที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งได้มากขนาดนี้ สิ่งนี้ทำให้ขอบเขตพิเศษขั้น2ระดับสามารถสังหารคู่ต่อสู้ที่มีระดับสูงกว่าได้
“ฉันต้องครอบครองมันให้ได้!”
ถ้าหากเอาชนะคนคนนั้นได้ จะต้องมีรางวัลเจ๋ง ๆ ให้เขาแน่นอน
หลิวซิ่นคิดเช่นนั้นก็เกิดความตื่นเต้นขึ้นอีกครั้ง จากนั้นเขาก็เริ่มใช้กระแสจิตเพื่อเชื่อมต่อกับสิ่งอัญเชิญผ่านช่องมิติทันที
ในฐานะของพ่อบ้านตระกูลหลิว ความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้มีแค่การอัญเชิญนักรบโครงกระดูกเพียงตัวเดียวเท่านั้น
วินาทีต่อมานักรบโครงกระดูกสีดำสองตัวก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา
ทันทีที่พวกมันปรากฏตัวขึ้น พลังลมปราณที่เย็นยะเยือกก็แผ่กระจายไปรอบ ๆ
พลังลมปราณที่ถูกส่งออกมาแข็งแกร่งกว่านักรบโครงกระดูกก่อนหน้านี้มาก อีกทั้งยังมีจำนวนมากถึงสองตัวด้วย
“ไปจัดการมัน!”
ตูม!
เสียงกระแทกดังกึกก้องไปทั่ว นักรบโครงกระดูกสองตัวปรากฏขึ้นตรงหน้าเซี่ยฮุยอย่างฉับพลัน หนึ่งในนั้นใช้ร่างของมันปะทะเข้าใส่ร่างของเขา
ส่วนอีกตัวหนึ่งก็ชนเข้าใส่เขาแบบติด ๆ ด้วยเหตุนี้ร่างของเซี่ยฮุยจึงถอยผงะออกไปหลายก้าวอย่างห้ามไม่อยู่
ฉากนี้ทำให้ดวงตาของหลิวซิ่นเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย
“ไม่ได้เปิดใช้ความสามารถผันผวนทางจิต และไม่ได้เปิดใช้พลังลมปราณเข้ามาเสริม ใช้เพียงแค่พลังทางกายภาพเพื่อรับแรงปะทะจากนักรบโครงกระดูกดำ เป็นการโจมตีที่สูงขึ้นอย่างมาก!”
หลิวซิ่นพูดชื่นชมอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยโดยไม่คิดจะปิดบัง
“ไม่เลวเลย นายสนใจเข้าร่วมกับตระกูลหลิวหรือเปล่า ถ้าหากนายอยากเข้าร่วมนายจะได้รับเงินทอง อำนาจและชื่อเสียง นายจะได้ทุกอย่างที่อยากได้ แน่นอนว่าก่อนอื่นนายต้องมอบนวมในมือของนายให้กับฉันก่อน”
ที่แท้เขาก็คือตระกูลหลิวจากเมืองหลวง ไม่แปลกใจเลยที่แข็งแกร่งถึงขั้นนี้
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลิวซิ่นพูด ภายในใจของเจี่ยไท่ก็แอบรู้สึกตกตะลึงขึ้นมา จากนั้นเขาก็หันไปมองเซี่ยฮุยด้วยสีหน้าตึงเครียด
เขาจะไปอยู่กับอีกฝ่ายหรือเปล่านะ?
เซี่ยฮุยเหล่ตามองหลิวซิ่น ขณะที่ภายในใจแอบคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้
การต่อสู้ก่อนหน้านี้ทำให้เขาค้นพบว่านักรบโครงกระดูกดำก่อนหน้านี้มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
ต่อให้สวมใส่นวมอำนาจจักรพรรดิ แต่การเผชิญหน้ากับพวกมันโดยการใช้นวมซัดเข้าใส่กะโหลกกลับสร้างรอยแตกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อเห็นท่าทางเคร่งขรึมของเซี่ยฮุย หลิวซิ่นก็แอบขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย สายตาของเขาเริ่มแสดงออกถึงความร้อนใจราวกับทนรอฟังคำตอบของอีกฝ่ายไม่ไหวอีกแล้ว
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ว่าไง ไม่อยากเข้าร่วมเหรอ?”
“เหอะ ๆ”
เซี่ยฮุยมองอีกฝ่ายและพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ในฐานะของสุนัขรับใช้ตระกูลหลิว นายก็ตาถึงดีเหมือนกันนะ”
พูดจบเซี่ยฮุยก็กำหมัดแน่นและสังหารนักรบโครงกระดูกดำที่อยู่ตรงหน้าทันที
หลิวซิ่นที่จากเดิมแสดงออกถึงความร้อนใจ จู่ ๆ สีหน้าของเขาก็ค่อย ๆ อึมครึมลง
นักรบโครงกระดูกดำทั้งสองตัวเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง กลางกะโหลกของพวกมันเกิดแสงสว่างสีแดงขึ้น
พวกมันแผดเสียงคำรามออกมาและปีนขึ้นมาจากพื้นเพื่อลุกขึ้นยืน จากนั้นพวกมันก็ใช้ความเร็วขั้นสุดพุ่งทะยานเข้าใส่เซี่ยฮุยอีกครั้ง
ภายในลานกว้างเกิดเสียงปะทะกันดังกึกก้องไปทั่ว
“ที่แท้เมื่อกี้ก็ยังไม่ได้ปล่อยพลังออกมาทั้งหมดอย่างที่คิดไว้สินะ”
เมื่อรู้สึกได้ถึงนักรบโครงกระดูกดำ เขาก็ค้นพบว่าพลังของมันแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด เซี่ยฮุยแอบพึมพำภายในใจ
แต่เพื่อให้เข้าใจความแข็งแกร่งของตัวเองให้มากขึ้น เซี่ยฮุยจึงไม่ได้เปิดใช้พลังลมปราณตั้งแต่แรกเริ่ม
เขาใช้แค่สกิลที่เพิ่งได้อัพเลเวลเมื่อไม่นานมานี้ในการต่อกรกับนักรบโครงกระดูกดำ
ป้าวเฉวียน!
หมัดของเขาถูกซัดออกไปอย่างดุเดือด หมัดที่ถูกส่งออกไปราวกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องก่อนจะค่อย ๆ ก่อตัวเป็นพายุที่โหมกระหน่ำจนทำให้ศัตรูสูญเสียความสามารถในการต้านการโจมตี
ช่วงนี้หลังจากที่เขาผ่านห้องสมุดของวิทยาเขตศิลปะการต่อสู้ เซี่ยฮุยก็ได้เรียนรู้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับระบบพิเศษของโลกใบนี้
โลกใบนี้มีความสามารถพิเศษจำนวนมาก ไม่เพียงแต่จะมีผู้ฝึกยุทธ์และผู้มีความสามารถเท่านั้น ที่นี่ยังมีการดัดแปลงพันธุกรรมด้านวิทยาศาสตร์ การเสริมสร้างกลไกและความสามารถแปลก ๆ อย่างอื่นด้วย
ความสามารถที่หลากหลายเหล่านี้มีการขยายวิธีการใช้งานที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำกัน และมีการแบ่งลำดับชั้นจากอ่อนแอไปจนถึงแข็งแกร่งโดยไม่มีขอบเขตที่ระบุไว้ชัดเจน
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นความสามารถชนิดเดียวกัน แต่ถ้าหากผู้ที่เปิดใช้งานต่างกัน ผลลัพธ์และพลังที่ถูกส่งออกไปย่อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่ข้อมูลกว้าง ๆ ในหนังสือ ถ้าหากสามารถเข้าสู่ขอบเขตพิเศษได้ มีไม่กี่คนหรอกที่จะไม่สามารถเปิดใช้ความสามารถของตัวเองได้
ระดับความสามารถที่เพิ่มสูงขึ้นสามารถสร้างเอฟเฟคในการกดดันคู่ต่อสู้ได้อย่างสมบูรณ์
เลเวลของผู้ฝึกยุทธ์เป็นตัวแปรสำคัญที่จะบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของบุคคลผู้นั้น นี่คือภาพรวมพื้นฐานโดยทั่วไปของโลกใบนี้
เซี่ยฮุยรู้สึกได้ถึงพลังลมปราณที่เขาได้รับจากระบบ พลังลมปราณที่ถูกปล่อยออกมาจากผู้ฝึกยุทธ์ภายในโลกใบนี้มีความแตกต่างกัน
พลังลมปราณที่อยู่ภายในร่างกายของผู้ฝึกยุทธ์ในโลกใบนี้ ต่อให้ไม่เปิดใช้งานในช่วงเวลาปกติ แต่มันก็ยังหมุนเวียนอยู่ภายในร่างกายตลอดเวลา
ส่วนพลังลมปราณของเขาถ้าหากไม่ได้เข้าสู่ค่าสถานะเพื่อเปิดใช้พลังลมปราณ ภายในร่างกายของเขาก็จะไม่หลงเหลือลมปราณแม้แต่เงา
นี่คือความแตกต่างทางกายภาพ ดังนั้นเมื่อเซี่ยฮุยอยู่ในโหมดปกติที่ไม่ใช่การต่อสู้ จึงทำให้ยากเกินกว่าที่จะจับพิรุธเขาได้
เมื่อเซี่ยฮุยต้องสู้กับนักรบโครงกระดูกดำที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าขั้น6ภายใต้การห้อมล้อมและรุมโจมตีที่ดุเดือด เขาก็ยังไม่เป็นสองรองใครโดยที่ไม่แม้แต่จะเปิดใช้งานพลังลมปราณด้วยซ้ำ
สิ่งนี้ทำให้คนอื่น ๆ ต่างพากันอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นความสามารถของเขา
เมื่อเห็นเซี่ยฮุยสามารถรับมือกับนักรบโครงกระดูกดำได้อย่างง่ายดาย หลิวซิ่นก็ค่อย ๆ ถอยออกไปด้วยความตกตะลึง เขาเห็นสายตาของคนที่อยู่รอบ ๆ ความพิโรธก็ค่อย ๆ ปะทุขึ้นภายในใจ
ไอ้โจ๊กเกอร์...สมควรตาย!
หลิวซิ่นรู้สึกได้ว่าถ้าหากเขายังสู้ต่อไป การต่อสู้ในคืนนี้ต่อให้เขาจะสามารถสังหารเซี่ยฮุยได้
แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ความแข็งแกร่งของเขาก็ถูกกดให้ต่ำลง นอกจากนี้การที่เขาถูกผู้ฝึกยุทธ์ที่เพิ่งจะเข้ามาอยู่ในขอบเขตพิเศษระดับต้นได้ไม่นานจัดการจนอยู่ในสภาพนี้ สิ่งนี้ย่อมกระทบต่อชื่อเสียงของตระกูลหลิวแน่นอน
ถึงเวลานั้น...
แค่คิดถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ หลิวซิ่นก็ตัดสินใจที่จะไม่ยืนเป็นผู้ชมอีกต่อไป
เขาดึงมือที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุมออกมา จากนั้นก็แกว่งคทาที่มีความยาวราว ๆ30เซนติเมตรไปด้านหน้าและชี้ไปที่เซี่ยฮุยทันที...
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??