เรื่อง เมื่อข้ากลายเป็นสามียอดยุทธ์ของท่านแม่คนงาม
เมื่อีชุดาผู้ึ่เป็นเ้าำัที่แท้ิมายืนอยู่้า ซูหยวนเย่จึงเอ่ยถามนางว่า
“เจ้าจะปิดบังใบหน้าไปไย คิดหรือว่าข้าจำเจ้าไม่ได้ น้องหญิง หรือ...จะเรียกแม่นางซูอิ๋งอิ๋งดี” เมื่อมันกล่าวจบก็พลันเกิดเสียงอื้ออึงเซ็งแซ่ขึ้นจากทางด้านล่างเวที
“โอ้ ที่แท้นางก็คือภรรยาที่หายตัวไปของจอมยุทธ์ซูี้เอง มิน่า เขาถึงสนอกสนใจนางนัก”
“ตาแหลม สมกับที่เป็นผัวเมียกันมานาน มองปราดเดียวก็ทราบว่านางหลบอยู่ด้านหลัง”
“ขอแสดงความยินดีกับจอมยุทธ์ซูด้วย ที่ท่านภรรยาสักที เช่นนั้นพวกข้าก็คงไม่มีธุระอันใดที่นี่อีกแล้วขอตัวก่อน” จอมยุทธ์ผู้หนึ่งเอ่ยพร้อมยกสองมือประสาน ึ่อีกหลายคนก็ทำตามเช่นกัน จากนั้นพวกมันก็หมุนกายหันหลัง ค่อย ๆ ทยอยเดินจากไป ซูหยวนเย่ มิอาจกล่าวลาทุกคนได้ทั้งหมด มันจึงทำเพียงประสานสองมือ พร้อมก้มศีรษะเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับมารดาคนงามที่ไม่พบหน้ากันมานานแสนนาน
“เจ้าเป็นผู้ใดกัน? แล้วทราบนามข้าได้อย่างไร...” นั้นคือประโยคแรกที่หลุดออกมาจากปากของซูอิ๋งอิ๋ง มันทำเอาซูหยวนเย่กับเบิกตากว้างด้วยความตื่นตกใจ
“เจ้าพูดอะไร? ข้าก็คือบุตร.. ไม่ ๆ ข้าคือซูอี้หนานสามีของเจ้าไง ล้ออะไรข้าเล่นเนี่ย หรือว่ายังไม่หายโกรธเรื่องเมื่อตอนนั้น” ซูหยวนเย่แค่นฝืนยิ้มก่อนเอ่ยขึ้น ทว่า...สีหน้าของซูอิ๋งอิ๋งยามี้บึ้งตึง แะมองาที่อยู่้าเหมือนเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่เคยพบกันมาก่อน
“ขออภัยด้วยจอมยุทธ์ซูอี้หนานข้าไม่ทราบิ ๆ ว่าท่านกำลังพูดเรื่องอะไร บางทีท่านอาจจะจำผิดคนกระมัง...”
“จะ...จำผิดหรือ? จะจำผิดได้อย่างไร ก็ข้าอยู่กับท่านมาตั้งแต่เกิด มะ...หมายถึงตั้งแต่เกิดเรื่องที่เราได้พบกัน ได้รักกัน ได้แต่งงานมีลูกด้วยกัน ต่อให้เจ้าเป็นผุยผงข้าก็จำได้” ในใจของซูหยวนเย่ทราบว่า มารดามัน คงยังทำใจไม่ได้เรื่องกับราวน่าอายในวันนั้น นางถึงพยายามบ่ายเบี่ยง แสร้งทำเป็นไม่รู้จักมัน
“จะ...เจ้าหยุดทำแบบี้เถอะ ไม่รู้หรือไงว่าข้าคิดถึงเจ้ามากแค่ไหน” ซูหยวนเย่แค่นยิ้มก่อนจะก้าวเข้าไปหาซูอิ๋งอิ๋งทว่า...ในเวลานั้น กระบี่ในมือของนางก็พลันยกขึ้นมาจอที่คอหอยของมัน
“นะ...นี่เจ้า...”
“ข้าบอกชัดเจนไปแล้ว ว่าไม่รู้จักท่าน เพราะฉะนั้นเชิญกลับไปเถิด อย่าให้ข้าต้องใช้กำลังเลย” ซูอิ๋งอิ๋งพูดด้วยแววตาแข็งกร้าว ใบหน้าดุดัน ึ่ซูหยวนเย่บอกได้เลย ว่ามารดามันเอาิ แต่ก่อนที่จะเกิดเรื่องรุนแรงขึ้น เซียงเซียง ก็ได้เดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า
“ท่านเ้าำัโปรดลดกระบี่ลงเถิด ให้ข้าเป็นผู้อธิบายกับจอมยุทธ์ซูเอง”
“เช่นนั้นก็ได้ อธิบายให้เขาฟัง จากนั้นก็เชิญเขาออกจากสำนักของเราไป” ซูอิ๋งอิ๋ง กล่าวเสียงเรียบ ก่อนเก็บกระบี่เข้าฝักจากนั้นก็หมุนกายเดินจากไป
“อธิบาย? อธิบายสิ่งใดหรือ แม่นานเซียงเซียง”
“อธิบายว่าเหตุใดนางถึงปฏิบัติตัวเช่นนั้นกับท่าน...” ซูหยวนเย่ถึงกับพลันขมวดคิ้วมุ่นด้วยความงุนงง ก่อนจะตั้งใจฟังที่ เซียงเซียงบอก
เซียงเซียงเล่าว่าเมื่อ... ก่อน ตอนที่จอมยุทธ์ซูอิ๋งอิ๋งมาที่เมืองแห่งี้ แะช่วยเหลือทุกคนจากพวกโจร ตอนนั้นนางได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะมาอยู่แล้ว ึ่นางจำไม่ได้ว่าเป็นเพราะฝีมือผู้ใด แะจำอะไรเลยไม่ได้นอกจาก ชื่อตนเอง หรือก็คือสูญเสียความทรงจำไปนั้นเอง...
“สูญเสียความทรงจำกระนั้นหรือ....?”
“ใช่ นางจำอะไรไม่ได้เลย นอกจากชื่อ แถมเมื่อพยายามจะนึกศีรษะก็จะปวดมาก ตั้งแต่เมื่อนั้นนางจึงเลิกสนใจอดีต แะใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันมาจนถึงบัดี้...” พอซูหยวนเย่ได้ฟังเรื่องราวทุกอย่างหัวใจของมันก็แทบจะแหลกสลาย มารดาที่มันออกตามหาไปทั่วทุกหนแห่ง เป็นเวลานานแสนนาน สุดท้ายได้เจอในที่สุด ทว่า...พอพบหน้ากัน กลับจำกันไม่ได้ สวรรค์ช่างโหดร้าย กับพวกมันสองแม่ลูกยิ่งนัก
“เรื่องราวของพวกท่านสองคน ข้าก็พอได้ยินมาบ้าง มิใช่ว่าข้าอยากจะสอดมือเข้าขัดขวางเรื่องของผัวเมีย ทว่า...ยามี้นางหาใช่คนเดิมอีกแล้ว ขอจอมยุทธ์โปรดเข้าใจนางด้วย” เซียงเซียงกล่าวพร้อมยกสองมือประสาน ซูหยวนเย่ที่เป็นนั้น ก็ทราบถึงความลำบากใจของนางดี
“ข้าเข้าใจแล้ว ในเมื่อยามี้ความทรงจำของนางหายไป ข้าก็จะไม่ฝืนใจให้นางจำข้าได้ แต่ข้าจะไปหาวิธีทำให้ความทรงจำนางกลับมาเอง ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรวิเศษ หรือ หมอยาที่เก่งที่สุดในแผ่นดินข้าก็จะพาตัวมา ระหว่างี้ข้าขอฝากให้เจ้าดูแลนางด้วย” ซูหยวนกล่าวด้วยแววตาท่าทางมุ่งมั่นก่อนที่มันจะหันหลัง แะกระโจนหายขึ้นไปกลางอากาศ เซียงเซียงทำได้แค่แหงนหน้ามองตาม ก่อนที่นางจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในสำนัก
เรื่องทุกอย่างในวันี้ดูเหมือนจะจบลงด้วยดี ทว่า...หาได้เป็นเช่นนั้นไม่
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ึ่อยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกไกลหลายร้อยลี้ ยามี้ในโถงปรากฏร่างของคนสองคนกำลังสนทนาบางอย่างกันอยู่ ผู้หนึ่งสวมใส่ชุดสีามุกที่ดูหรูหราราคาแพง ตามใบหน้า ตามแขนมีรอยฟกช้ำ บ่งบอกถึงอาการบาดเจ็บ อีกผู้หนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ สวมใส่ชุดผ้าสีดำ อายุอานามน่าจะประมาณ 50 ขวบปี ใบหน้าของมันยามี้ดูโกรธเกรี้ยวเดือดดาลเป็นที่สุด
เสียงฝ่ามือตบเท้าแขนเก้าอี้ดัง ปัง พลันนั้น รอยร้าวก็ลามไปทั่วบ่งบอกถึงกำลังภายในอันมหาศาลของคนผู้ี้
“บัดซบ!! มันกล้าพูดเช่นนั้นจึงรึ เอี้ยงจื่อ”
“ขอรับท่านอาจารย์ มันว่าหากท่านไม่ยอมกลับไปที่เกาะ-อก-องเพื่อรับ มันจะเป็นฝ่ายมาลากคอท่านอาจารย์ไปเอง”
“เหลวไหล ไร้สาระ! มันคิดว่าตนเองเป็นผู้ใดกัน ก็แค่ลูกเขยของ หลันเทียนหลง หาใช่ตัวของหลันเทียนหลงมาเองซะเมื่อไร พูดจาใหญ่โต คิดดูแคลนข้ารึ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน คิดจะมาเล่นงานข้า ไม่ต้องหรอก เพราะเดี๋ยวข้าจะเป็นผู้ไปล่ามันเอง คราี้บุตรสาวของหลันเทียงหลงคงได้เป็นม่ายเพราะสามีตายเป็นแน่ ฮ่า ๆ ๆ ๆ สั่งทุกคนให้เตรียมตัว อีกสามวัน ข้าจะบุกไปที่สำนักนั้น ไม่สิ บุกไปที่เมืองแห่งนั้น แล้วกวาดล้างทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง
“รับทราบขอรับท่านอาจารย์” ลิ่วเอี้ยงจื่อยกสองมือประสาน พร้อมค้อมศีรษะ ก่อนจะก้าวถอย ยามนั้นรอยยิ้มแห่งความชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปาก มันคิดในใจว่า คราวี้แหละจะได้แก้แค้น ซูอี้หนานที่ทำให้มันอับอายต่อหน้าผู้คน แถมจะได้ครอบครองสาว งามมากมายของสำนักีแห่งนั้นควบคู่ไปด้วย ึ่เหตุผลที่ลิ่วเอี้ยงจื่อ มั่นอกมั่นใจว่าสามารถทำได้ นั้นก็เพราะครั้งี้มี ‘ฟู่สิงซุน’ อาจารย์ของมันไปด้วยนั้นเอง...
จบบท
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??