เรื่อง เมื่อข้ากลายเป็นสามียอดยุทธ์ของท่านแม่คนงาม
ครั้นั้งสี่มายืนอยู่หน้าเสาศิลาลวงตา ทุกคนก็พลันพลิกม้วนฝ่ามือก่อนจะฟาดเข้าใส่เสาเบื้องหน้าสุดแรง เสาแม้นมีขนาดใหญ่แต่หาได้แข็งแรงเลยแม้แต่น้อย มันโยกคลอนเสียการทรงตัวคล้ายจะพังครืนลงมา ทว่า...พริบตาเดียวความเสียหายก็ค่อย ๆ จางหายไปอย่างน่าเหลือเชื่อ
“เป็นจริงอย่างที่ตาเฒ่าลามกว่า การโจมตีครั้งเดียวไม่เพียงพอ เช่นนั้นก็ต้องลงมือต่อเนื่อง ทางท่านแม่กับ แม่นางลิ่วอี้ปายก็คงทำเช่นกันสินะ” ซูหยวนเย่เอ่ยขึ้น ก่อนที่มันจะโคจรลมปราณ และโจมตีเสาศิลาลวงตาอีกครั้ง ซึ่งอีกสามทิศก็ทำเช่นเดียวกัน จนเกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วป่า-อก-อง รุนแรงจนไปถึงคนผู้หนึ่งซึ่งกำลังบรรเลงพิณอยู่นอกบ้านต้องหยุดมือ และเอ่ยขึ้น
“โอ้ เจ้าเฒ่านั่นพบยอดฝีมือ สามคนแล้วกระนั้นรึ มันถึงสามารถทำลายเสาหินลวงตาของข้าได้” จากนั้นก็มีเสียงของสตรีอีกนางร้องดังมาแต่ไกล
“ท่านพ่อ!ท่านพ่อแย่แล้วมีคน...” ยังไม่ทันที่นางจะอ้าปากผู้จบ ชายวัยกลางคนในชุดสีเขียวครามซึ่งนั่งบรรเลงพิณอยู่เมื่อครู่ก็ได้ยกมือขึ้น ก่อนพูดว่า
“พ่อรู้แล้ว เจ้าเฒ่านั้นคงยืมมือยอดฝีมือที่ขึ้นเกาะให้ช่วยทำลายเสา”
“เช่นนั้นท่านพ่อจะให้ข้าไปหยุดพวกมันหรือไม่”
“ไม่ต้อง ๆ ปล่อยให้เจ้าเฒ่านั้นทำไป พ่อก็อยากรู้ว่ามันพบของสิ่งนั้นหรือไม่ หากไม่พบก็แค่จับขังมันไวในค่ายกลอีกรอบ ส่วนยอดฝีมืออีกสามคนพ่อไม่ทราบว่าพวกเขามีธุระอันใดจึงขึ้นเกาะมา รอสอบถามเสียก่อน หากมีประโยชน์ค่อยว่ากัน ทว่า..หากมาด้วยเหตุผลไร้สาระพวกมันจะได้กลายเป็นผีเฝ้าสวนดอกทองตลอดไป”
“งั้นลูกขอไปนำทางพวกมันมาพบท่านพ่อ” สตรีนางนั้นเอ่ยขึ้น ก่อนที่บิดาของนางจะพยักหน้ารับอย่างแช่มช้า
กลับมาทางด้านของซูหยวนเย่ยามนี้เมื่อลงมือโจมตีเสาศิลาลวงตาอย่างต่อเนื่อง ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็มิอาจฟื้นฟูได้ทันก่อนที่เสาทั้งต้นจะเริ่มเกิดรอยร้าวลามไปทั่วจากนั้นจึงค่อย ๆ แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ร่วงลงพื้น เมื่อนั้นภาพเบื้องหน้าของซูหยวนเย่จึงพลันเปลี่ยนไป มันพบว่าหมอกหนาสีขาวรอบกายได้หายไปแล้ว แถมด้านซ้าย ด้านขวา และด้านหน้ายังมี ซูอิ่งอิ๋ง ลิ่วอี้ปาย และ หู่เริงอี้ยืนอยู่
“สะ..สำเร็จภาพลวงตาของค่ายกลหายไปแล้ว พวกเราออกมาได้แล้ว” ซูหยวนเย่ยิ้มกว้างก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้นดใจสุดขีด ทว่า....ในเสี้ยวความคิดมันก็เห็นรอยยิ้มลามกชั่วร้ายของหู่เริงอี้ปรากฏขึ้น ซูหยวนเย่ทราบพลันว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อ นั้นก็คือมันต้องมอบสตรีนางใดนางหนึ่งตนนี้ให้เจ้าเฒ่าลามกล่วงเกินจนพึงพอใจ แต่เนื่องจากซูหยวนเย่ทำใจยอมรับเรื่องนั้นไม่ได้มันจึงคิดพาพวกนางหลบหนี
“น้องหญิง น้องลิ่งอี้ปายมาเร็ว” ซูหยวนเย่พลันพุ่งเข้าไปโอบเอวของพวกนางก่อนพาขึ้นไปเหยียบบนกิ่ง-อก-อง และพุ่งทะยานไปด้านหน้า ด้วยกำลังภายใน และความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ
“เกิดอันใดขึ้นท่านพี่ ไยพวกเราต้องหนี แล้วท่านไปเอากำลังภายในเช่นนี้มาจากไหน” ซูอิ๋งอิ๋งเอ่ยถามด้วยความตกใจ
“ท่านมะ เอ่อ...น้องหญิงเจ้าอย่าพึ่งถามมาก ยามนี้ต้องหนีไปให้ไกลจากเจ้าเฒ่าลามกนั้นก่อน”
“เจ้าแก่นั้นคิดจะทำอันใดพวกเราหรือ? ท่านพี่โปรดบอกมาเถิด ด้วยวรยุทธ์ของข้ากับนางน่าจะพอรับมือมันได้อยู่” ลิ่วอี้ปายเองก็เอ่ยถามเช่นกัน ซูหยวนเย่ไม่คิดตอบ มันมุ่งเพียงจะไปให้ไกลที่สุดเป็นอันดับแรก ทว่า...ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อจู่ ๆ ร่างกายของมันก็พลันหนักอึ้ง และขยับไม่ได้ ไม่ใช่แค่ตัวของซูหยวนเย่ ซูอิ๋งอิ๋ง และลิ่วอี้ปายก็เช่นกัน
“กะ..เกิดอันใดขึ้นเหตุใดร่างข้าถึง...”
“วะ...วิชาสกัดจุด...” ลิ่วอี้ปายเอ่ยขึ้นช้า ๆ ก่อนที่นาง กับอีกสองคน จะค่อย ๆ ร่วงลงมากระแทกพื้น และขยับไม่ได้ เมื่อนั้นเองก็ได้มีเสียงหนึ่งเอ่ยว่า “วิชาตัวเบาของเจ้าล้ำลึกยิ่งนักไอ้หนู ดูท่าเจ้าคงจะพบเคล็ดวิชา เทวะกามสูรท่อนล่างภายในถ้ำแห่งนั้นแล้วสินะ พบแล้วยังมีหน้ามาตอแหลข้าว่าไม่พบอีก เจ้านี่มันช่างปลิ้นปล้อนยิ่งนัก” แน่นอนว่าผู้เอ่ยขึ้นย่อมเป็น เฒ่าลามกหู่เริงอี้ มันตามมาทันก่อนจะใช้วิชาสกัดจุด สกัดจุดของทั้งสามคนในชั่วพริบตา
“แต่ถึงจะฝึกสำเร็จมันก็ไม่สมบูรณ์อยู่ดี หากคิดหนีข้าพ้นเจ้าจะต้องสำเร็จวิชาท่อนบนด้วย โอ้ เจ้าคงไม่รู้สินะ เด็กเอ่ยเด็ก ช่างคิดอะไรตื้นเขินนัก ความผิดของเจ้ามีอยู่สองข้อ ข้อแรกคือ โกหกข้าว่าไม่พบเคล็ดวิชา ส่วนข้อสองเจ้าผิดสัญญาที่รับปากไว้กับข้า แถมยังพยายามหลบหนี” พอซูอิ๋งอิ๋งได้ยินเรื่องสัญญานางก็พลันทำตาโตด้วยความตื่นตกใจ ก่อนจะส่งเสียงร้องถามซูหยวนเย่
“ท่านพี่!!สัญญาอันใด? ท่านไปรับปากสัญญาอะไรกับเจ้าแก่นี่ตอบข้ามา” ทว่า...ซูหยวนเย่ที่ได้ยินกลับนิ่งอึ้งน้ำท่วมปากพูดอะไรไม่ออก หู่เริงอี้จึงเป็นผู้ตอบคำถามแทน
“เจ้าไม่ตอบเมียหรือ เช่นนั้นข้าจะตอบแทนเอง ฟังให้ดีนะนังหนู สัญญาที่ว่าก็คือ หากข้ายอมบอกวิธีออกจากค่ายกลดอกทองให้มัน มันจะต้องมอบพวกเจ้าคนใดคนหนึ่งให้เล่นสนุกกับร่างกายจนกว่าจะพอใจอย่างไรเล่า” พอซูอิ๋งอิ๋ง กับลิ่วอี้ปายได้ฟังความจริงพวกนางก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นลิ่วอี้ปายจึงทำสีหน้าเป็นปรกติ ก่อนจะเอ่ยปากว่า
“โธ่ ข้าก็นึกว่าเรื่องอันใดร้ายแรง ที่แท้ก็แค่เรื่องใช้ร่างกายสนองตัณหาเจ้าแก่ลามกนี่เอง เอาสิมาเลย ข้ายินดี นางมารเช่นข้าไม่มีอะไรต้องอายอยู่แล้ว เจ้าอยากจะจับ อยากจะล้วง อยากจะลูบคลำ หรืออยากจะทำมากกว่านั้นก็เอาเลย” คำพูดของลิ่วอี้ปาย ทำเอาซูอิ๋งอิ๋งนิ่งอึ้งไปเลย ทีแรก นางคิดว่าลิ่วอี้ปายจะบอกว่าให้หู่เริงอี้เลือกตัวนางไปเชยชมเสียอีก
“โอ้ ไม่ต้องมองข้าด้วยแววตาซาบซึ้งขนาดนั้นซูอิ๋งอิ๋ง ข้าหาได้ทำเพื่อเจ้าไม่ หากแต่ข้าทำเพื่อท่านพี่ต่างหาก”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ เป็นสตรีที่ใจกล้ายิ่งนัก แบบนี้ข้าชอบแต่....”
“แต่อันใดไอ้เฒ่าลามก” ลิ่วอี้ปายแค่นเสียงถามด้วยความโมโห
“แต่ข้าบอกไปแล้วมิใช่หรือ ว่าไอ้หนูสามีของเจ้าผู้นี้ทำผิดกับข้าถึงสองข้อ แล้วแบบนี้ข้ายังจะรับของชดเชยชิ้นเดียวได้อย่างไร” หู่เริ่งอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม และสีหน้าที่ดูลามกชั่วร้ายเป็นที่สุด ซึ่งซูหยวนเย่ก็พลันเข้าใจในความหมายที่มันบอกทันที
“หยุดนะ!!อย่าทำอะไรพวกนาง หยุดเดี๋ยวนี้...!!!” ซูหยวนเย่ตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธจัด แต่มันก็ทำได้เพียงเท่านั้นเพราะไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ กำลังภายในที่เพิ่มขึ้นจากการฝึกเคล็ดวิชา เทวะกามาสูรท่อนล่างนั้นสามารถคลายจุดได้ แต่อย่างน้อย ๆ ก็ต้องใช้เวลาครึ่งก้านธูป ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นมารดาของมัน กับลิ่วอี้ปายจะโดนหู่เริงอี้ทำอะไรไปแล้วบ้างก็มิอาจทราบได้
“อย่าเข้ามานะไอ้เฒ่าลามกถ้าเจ้ากล้าล่วงเกินข้าแม้แต่ปลายเล็บข้าจะ....!!ซูอิ๋งอิ๋งตะโกนออกมาเสียงดังลั่นด้วยความโกรธ ทว่า...ยังไม่ทันพูดจบปากของนางก็อ้าค้าง จนไม่สามารถพูดต่อได้ ซูอิ๋งอิ๋งถูกจี้จุดส่วนศีรษะเพิ่มนั้นเอง
“ดูท่าเจ้าคงจะเป็นสตรีที่ใจเด็ดเช่นกันสินะ แบบนี้คงยอมกัดลิ้นฆ่าตัวตายตามที่บอกออกมาแน่ ๆ หึหึ แต่ข้าไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นหรอก เพราะปากงาม ๆ ของเจ้า ลิ้นอ่อนนุ่มของเจ้าต้องสร้างความสุขให้ข้าเสียก่อน” เจ้าเฒ่าลามกหู่เริงอี้ระบายยิ้มน่าเกลียดที่มุมปาก ก่อนที่มันจะปลดสายคาดเอวออก จนกางเกงหลุดไปกองที่ข้อเท้า เมื่อนั้น ทั้งหกตาจึงได้เห็นเข้ากับ แก่นกายดุ้นยาวตรงหว่างขาของหู่เริงอี้ ซึ่งมีเส้นเลือดปูดโปนน่ารังเกียจกำลังพองตัวแข็งชูชันอยู่ ซูหยวนเย่พลันทราบโดยสันดานว่าเจ้าเฒ่าลามกคิดจะทำอันใดกับมารดาของมัน “หยุดนะ!!!!!” มันตะโกนร้องสุดเสียงด้วยความโกรธจัด แต่ทุกอย่างก็ไร้ความหมาย เมื่อหู่เริงอี้ค่อย ๆ ใช้มือประคองแก่นกายน่าเกลียดดุ้นนั้นของมัน ป้อนเข้าปากงาม ๆ ของซูอิ๋งอิ๋ง จากนั้นก็เริ่มโยกเอวกระเด้าเข้าออกอย่างแช่มช้า....
“โอววว..ววว ซี้ดดด...ดด วิเศษ วิเศษจริง ๆ ใบหน้าหน้างดงาม ริมฝีปากบางงามเช่นนี้ ตายอีกสิบชาติข้าคงไม่มีวันได้พบเป็นแน่ ๆ คอยดูเถิด นังหนูคนสวย ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสน้ำสวรรค์ของข้าจนท่วมทะลักปากเลยทีเดียว ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
จบบท
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??