เรื่อง ฉันอยู่ในภาพวาดสยดสยอง
*มุมมองของธีเลียส*
หลังจากหลบหนีการโจมตีของแอนนาได้สำเร็จก็เหลือบมองหน้าท้องซึ่งมีเลือดไหลจำนวนมาก ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะกล้าทำขนาดนี้โดยไม่สนใจเถาวัลย์บนหัวไอ้เวรนั่น
ธีเลียสพยายามตั้งสติ วิ่งออกไปโดยประคองตะเกียงในมือและท้องตนเองขณะเก็บดาบลงในฝัก ปราบใดที่สามารถหนีจากต้นไซเปรสได้ก็สามารถหาเฮเลนได้
“แมร่งเอ๊ย! ฉันน่าจะคิดได้ว่าทำไมเธอไม่มาที่นี่!” ธีเลียสพยายามหามุมหลบก่อนจะทรุดตัวลงด้วยสีหน้าสิ้นหวัง
…อีกไม่นานเลือดจะหมด และเกิดอาการช็อกซึ่งเฟนริลคงจะตายก่อนฉัน ฉันไม่นึกว่ามันจะอยู่รอดมาถึงจุดนี้
…ในโรงเรียนเขามักหาผู้หญิงไปทั่วแต่ก็ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษนอกจากให้อมแล้วจากไป ฉันไม่ใช่พวกเงี่ยนไล่เย็ดคนไปทั่ว
ยกเว้นกับอีฟเพราะเธอคนนี้เสนอตัวเอง แถมยังพยายามใส่ยานอนหลับ และยาปลุกเซ็กส์ในงานปาร์ตี้
ตนจึงสนองเธอในทุกวันเพราะไม่งั้นอาจเกิดปัญหาใหญ่ซึ่งตนไม่อยากนึกถึง
แน่นอนว่าคุณครูที่ฉันเกลียดก็พยายามต่อว่าฉันเพราะเข้าใจผิดว่าฉันโกงข้อสอบจนถูกพักการเรียน และโดนพ่อแม่ด่าเป็นบ้าเป็นหลัง
พอมีเด็กใหม่เข้ามา ไอ้ครูเวรนั่นกลับพยายามช่วยให้เฟนริลโกงข้อสอบนั่นทำให้ฉันเกลียดเข้าไปใหญ่ทั้งเด็กกับอาจารย์
จากนั้นฉันก็ต่อยเฟนริลจนเข้าโรงพยาบาลหลายครั้งจึงมารู้ตอนหลังว่าครูที่ฉันเกลียดก็เกลียดเฟนริลเหมือนกัน
และพยายามยัดข้อหาให้โกงข้อสอบเพราะเฟนริลนั้นเหมือนจะคุยกับลูกสาวมัน และลูกสาวมันคล้ายจะชอบเฟนริล
เมื่อฉันรู้แบบนั้นก็เลยเลิกต่อยไปแต่ถึงแบบนั้นก็รู้สึกไม่ชอบหน้าอยู่ดี สีหน้าเฉยชากับสถานการณ์ เบื่อหน่าย เลิกคิ้ว คิ้วขมวด
แม้ไม่ได้แสดงอาการมากนักแต่ในสายตากลับรู้สึกเหมือนโดน ‘กวนตีน’ ตลอดเวลาราวกับว่าเฟนริลเห็นตนเป็น ‘ลิง’ หรือพวกบ้า ‘ไร้สมอง’ เขาจึงต่อยอีกฝ่ายครั้งคราวด้วยความหงุดหงิด
ฉันทำแบบนั้นจนติดเป็นนิสัย และเกิดความสงสัยว่าหากเย็ดอีฟต่อหน้ามันจะเกิดอะไรขึ้นนั่นทำให้ฉันเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไป เช่น อึดอัด รำคาญ ลำบากใจ และอะไรหลายอย่างนอกจากความเฉยชาที่เคยเป็น
ฉันจึงมีความสุขที่ได้เห็นอาการนั้นเพราะปกติตอนโดนต่อย อีกฝ่ายก็แค่กะพริบตาปริบ ๆ ประมาณว่าอยากทำอะไรก็เชิญ เบื่อแล้ว ทำนองนี้
ธีเลียสสูดลมหายใจเข้าลึก แอบรู้สึกว่าตนเข้าขั้นโรคจิตที่ทำร้ายคนดีทั้งที่ตนก็ไม่ได้เป็นคนนิสัยแบบนั้น มั้งนะ
บูม!! ขณะที่ครุ่นคิด โพรงรากไม้จำนวนมากของต้นไซเปรสก็สั่นไหวพร้อมกับเปลวเพลิงสีน้ำเงินจำนวนมากไหลทะลักเข้ามาทุกทิศทาง
ฉันรู้ได้ทันทีว่า ‘วาระสุดท้ายของฉัน…มาถึงแล้ว’ ตูม!! เมื่อการระเบิดเกิดขึ้น ต้นไซเปรสก็ถูกทำลายครึ่งึ่ เหลือเพียงตอที่เป็นซาก
เศษเนื้อจำนวนมากของผู้รอดชีวิต ปลิวละล่องไปทั่วบริเวณ ตึง พลันศพธีเลียสทรุดตัวลง เวลานั้นแสงสว่างจากท้องฟ้าก็ปรากฏ
ความมืดมิดหายไปทำให้เวลานั้นผีสางทุกตนได้สติกลับมาราวกับหลุดจากการควบคุม กรี๊ด! แต่แล้วเสียงโหยหวนนับพันก็ดังขึ้น
วิญญาณเหล่านั้นถูกโจมตีจากแสงสว่างจนกลายเป็นฝุ่นอย่างรวดเร็ว เวลาเดียวกันผีสางบางตนก็หนีไปหลบใต้ต้นไม้ บางตนก็กลายเป็นมนุษย์
ครืน! จู่ ๆ พลังมหาศาลก็ปรากฏขึ้นในร่างชายผมทอง บาดแผลของเขาสมานเข้าหากัน และงอกอวัยวะใหม่เพียงสามวินาที
ปึง เมื่อฉันลืมตาขึ้นก็พบว่าท้องฟ้าของผืนผ้าใบนี่สวยงามแค่ไหน ฉันแอบสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมยังไม่ตายแต่ไม่นานก็พอจะนึกสมมติฐานนึงออกได้นั่นคือสัญลักษณ์ของการมีชีวิต
และเหมือนจะมีเพียงครั้งเดียวจากการสังเกตผีพวกนั้น คาดว่าหากตายรอบนี้จะไม่สามารถชุบชีวิตได้อีก
“เฮเลน!!” ฉันไม่ได้ชอบเธอแต่ฉันอยากรอด เธอคือความหวังของฉัน ปึง! ธีเลียสพุ่งออกไปเปิดใช้พลังงานพิเศษคลื่นวายุพร้อมขอบเขตร่างกายกลับมาเป็นดั่งเดิม ระดับสอง!
บัดนี้ตนสามารถฉีกกระชากใครก็ตามที่ไม่เก่งเกินไป อีกทั้งตนเองยังอยู่ใกล้กับเนินเขาทิศตะวันตกมากด้วย นี่คือความโชคดี!!
ธีเลียสเงยหน้ามองดวงดาวที่สว่างสุดก็เกิดความคิดในใจว่าทำไมฉันต้องออกจากที่นี่ด้วยในเมื่อที่แบบนี้ก็สงบสุขดีเช่นกัน
ครืน! ขณะฉันเผลอตัวสร้อยคอก็แพร่ซ่านความอบอุ่นทำให้ได้สติกลับมา
“สัญลักษณ์ความสุข? การโจมตีทางจิตใจ?”
ฉันโชคดีที่มีสร้อยนี้ซึ่งขโมยจากบ้านหลังึ่ ก๊าซ! เวลานั้นเสียงกรีดร้องเต็มไปด้วยเจตนาสังหารก็เกิดขึ้น
ฉันหันไปมองทางต้นไซเปรสครึ่งล่างก็พบว่าบริเวณรากไม้ปรากฏเงาสีดำบางอย่างกำลังปีนออกมา ปีศาจจากความมืด? ขอบเขตไม่ทราบระดับ?
ฉันตื่นตระหนกเแต่ทันทีที่อีกฝ่ายลืมตาสีเหลือง แรงกดดันมหาศาลก็ทำให้รอบต้นไซเปรสทรุดตัวลงหลายฟุตราวกับมีมือมองไม่เห็นกดลงมา
บูม…โพละ!! ฉันเห็นคนนับร้อยถูกบดขยี้ตายกันราวกับมดโดนเหยียบ ฉันเศษเนื้อมากมาย หย่อมเลือดสาดกระเซ็น กระดูกแหลกละเอียด นี่เป็นความแข็งแกร่งที่มากเกินไปจนไม่สามารถชนะได้
'หนี! ฉันต้องหนี!!'
ถ้าไม่อยากตาย ฉันต้องหนีออกจากสารเลวนี่ บูม! ฉันพยายามรีดพลังออกมามากที่สุด ในเวลาเดียวกันบนท้องฟ้าก็ปรากฏชายแก่ผมขาวพุ่งเข้าโจมตีปีศาจจนเกิดคลื่นสั่นไหวของแผ่นดิน
บูมๆๆ ฉันตกตะลึงกับความสามารถของทั้งสอง บัดนี้ในระยะห้าร้อยเมตรกลายเป็นซากปรักพักหักของต้นไม้ และแหล่งรวมศพคนตายนับไม่ถ้วน
ตูม! ทั้งสองฝ่ายโจมตีกันอย่างสูสีจนกระทั่งชายแก่ดีดนิ้วปรากฏลูกเต๋าบางอย่าง
“พลิกผัน”
ลูกเต๋าหมุนแสดงสัญลักษณ์ ‘ความตาย’ โพละ…ปีศาจจากความมืดหลากสลายกลายเป็นผง ฉันเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
ทันใดนั้นเงานับร้อยก็กระแทกตัวออกจากต้นไซเปรสพร้อมกับเงาึ่ที่มีขนาดมหึมา
บูม! จู่ ๆ ชายแก่ก็พ่นเลือดราวกับถูกโจมตีทางวิญญาณ เสี้ยววินาทีนั้นคนดังกล่าวก็กรีดร้อง จับปากตัวเองและฉีกออก
ฉัวะ…ฉันเห็นคนแข็งแกร่งฆ่าตัวตายก็หนาวสั่นไปทั้งตัว ฉันวิ่งมาถึงเนินเขาก็เห็นสิ่งคุ้นเคย
“กางเกงใน?” มันเป็นของอีฟ! ฉันตาเป็นประกายแสดงว่าฉันมาถูกทาง เฮเลนน่าจะอยู่แถวนี้ ไม่สิ ทางออกน่าจะอยู่ที่นี่!!
ฉันหอบหายใจเหนื่อยล้าเต็มทนจนกระทั่งเจอบ่อน้ำแห่งึ่ที่สะท้อนให้เห็นดวงดาวที่เจิดจำรัสสุดก็เผยสีหน้ายินดีไม่ปกปิด ฉันรอดแล้ว ฉันรอดแล้ว!
ธีเลียสวิ่งไปด้วยเรี่ยวแรงที่มี แม้มันจะห่างไกลแต่ก็ใกล้แล้ว ครืน! พริบตานั้นคมดาบก็ปรากฏพร้อมเจตนาฆ่าสังหาร
ฉัวะ…ฉูด! เฟนริลตัดศีรษะธีเลียสจนขาดสะบั้นโดยที่ชายผมทองไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกฆ่าตอนไหน ตุบ ชายหนุ่มมองศพอีกฝ่ายด้วยสีหน้าโล่งอก
โชคดีที่ธีเลียสสนใจทางออกและกางเกงในไม่งั้นตนไม่สามารถฆ่าได้ง่ายขนาดนี้ ต้องขอบคุณดาบที่มีวัสดุประหลาดสามารถฆ่าขอบเขตระดับสามและมีน้ำหนักเบา
ต่างจากอาวุธปกติจะหนักตามขอบเขต นี่รวมถึงความอ่อนแอของธีเลียสก่อนหน้าจึงไม่ยากจะจัดการ
เฟนริลมองต้นไซเปรสที่มีมือขนาดใหญ่สีดำดันตัวเองออกมาก็ขมวดคิ้ว ‘ต้องกลับแล้ว’ เขาไม่ลีลารีบโดดลงบ่อน้ำ
เสี้ยววินาทีก็ถูกกระแสน้ำกระชากลงก้นบ่อ พลันก้มมองก็เห็นผืนผ้าใบจิตรของวินเซนต์ แวนโก๊ะ
เขาเผยยิ้มพิมพ์ใจอย่างอารมณ์ดี ‘สำเร็จแล้ว’ สิ้นความคิดภาพนั้นก็ลากชายหนุ่มออกสู่โลกภายนอก
ปึง! เมื่อเฟนริลออกไป จู่ ๆ ดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดก็เลือนรางราวกับกุญแจที่แท้จริงของแก่นแท้ในภาพวาดไม่อยู่แล้ว นั่นเปรียบเสมือนการปิดทางออกตลอดกาล
ทุกคนในวาดภาพ วิ่งไปด้วยความกลัวแต่เมื่อถึงบ่อน้ำก็พบว่ามันกลายเป็นเพียงหลุดลึกขนาดใหญ่ เวลานั้นยักษ์สีดำก็จับจ้องไปที่ผู้รอดชีวิต
บูม! เสี้ยววินาทีนั้นทุกคนก็แหลกสลาย ตกตายคาที่ ร่างกายระเบิด เลือดสาดกระเซ็นนับพัน โผละ!
ทางฝั่งเฟนริล บัดนี้เขาลอยเคว้งอยู่กลางอากาศท่ามกลางความมืดมิดไร้แสง ติ้ง! เสียงแจ้งเตือนเย็นชาก็ดังขึ้น
[เนื่องจากคุณผ่านผืนผ้าใบระดับฝันร้ายสำเร็จ ภาพวาดิของวินเซนต์ แวนโก๊ะกำลังถูกทำลาย ระบบทำการประเมินผลงานของคุณเพื่อดึงรางวัลจากโลกดังกล่าวเป็นการตอบแทน ่าได้รับรางวัลดังนี้---กางเขนแห่งความหวัง 1 อัน, บัตรเ้าู่ขอบเขตระดับึ่ขั้นต้น 1 ใบ, สัญชาตญาณการเอาตัวรอดสิบปี]
[หนังสือสีดำถูกยกระดับจากทรัพยากรภายใน ‘Starry Night’ เป็นระดับึ่ , คุณสามารถละเลยผืนผ้าใบระยะเวลาึ่ปีก่อนเ้าู่โลกิอีกครั้งาั ขอให้่าโชคดี…]
ฟูม! เฟนริลลืมตาขึ้น เขาพบว่าตนเองกลับมาอยู่ในสนามกีฬาโดยที่ดวงอาทิตย์กำลังจะขึ้นจากขอบฟ้า ชายหนุ่มกวาดตามองโรงเรียนพบผู้รอดชีวิตเพียงสี่คน
ึ่ในนั้นคือ เฮเลน อีฟ ไลล่า และเขา นอกจากนั้นอีกสี่ร้อยเก้าสิบหกเสียชีวิตหมด ส่วนแอนนาน่าจะอยู่ในมหาลัยไม่ก็บ้านของเธอก่อนมายังผืนผ้าใบ
เฟนริลพยักหน้าเล็กน้อยเพราะตนขัดขวางไม่ให้คนอื่นเ้าู่ทางออกก่อนธีเลียสมาถึงเนื่องจากตนไม่รู้ว่าทางออกนั้นจำกัดจำนวนคนรึเปล่าตนจึงพยายามเซฟไว้ให้ได้มากที่สุด
แม้จะหลุดรอดบ้างเพราะแข็งแกร่งเกินไปแต่นั่นก็ไม่ใช่คนในโรงเรียนแต่เป็นภูตผีวิญญาณก่อนหน้าที่ถูกควบคุมจากต้นไซเปรส และออกมากลายเป็นมนุษย์
“เฟนริล…” ไลล่าวิ่งมากอดด้วยความคิดถึง นางเงยหน้ามองด้วยสายตาคะนึงหา
“นึกว่านายจะเป็นปุ๋ยซะแล้ว”
เฟนริลขมวดคิ้ว บีบแก้มนาง
“ปากดี! เดี๋ยวเย็ดแม่งเลย”
หญิงสาวสะดุ้งเผยยิ้มขบขัน
“เฟนริลอะ…คน…ลา…มก!”
ชายหนุ่มเหลือบมองเฮเลน กับอีฟที่เดินเข้ามาก็ขยี้ตาเล็กน้อยเพราะก่อนหน้านี้ที่สู้กับแอนนา จู่ ๆ สายตาเขาก็พร่ามัวมองไม่ชัด
จนกระทั่งตอนนี้ก็เช่นกัน เจ้าตัวใช้เวลาครู่ึ่ก็เริ่มเห็นว่าไลล่านั้นตัวโตขึ้นเยอะ ส่วนสูงน่าจะประมาณร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร ใบหน้าทรงไข่ นัยน์ตาสีชมพู ผมยาวสลวยโทนเดียวกัน กับหน้าอกหน้าใจใหญ่คับชุดจนเหมือนเธออายุเกินยี่สิบเจ็ดปี
ให้อารมณ์คล้ายเป็นคุณแม่สาววัยเอ๊าะๆ เฟนริลสูดลมหายใจเข้าลึก รู้สึกอยากกระเด้าหีนังนี่มากขึ้น
ไลล่าที่เห็นแบบนั้นก็นึกได้ว่าร่างกายตัวเองเปลี่ยนไปเพราะผลกระทบของพลังพิเศษจึงเผยยิ้มเจ้าเล่ห์
หรี่ตาลงพลางยกมือทั้งสองชิดไหล่ บีบหน้าอกจนโหนกนูนเผยให้เห็นหัวนมชมพูชูชันผ่านเสื้อผ้า
เฟนริลกัดฟันแน่นฉายแววตาหงุดหงิดที่ต้องอัดอั้นกลางโรงเรียน ไลล่าหัวเราะขำก่อนจะกระโดดไปมาอย่างยั่วยวน
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ เด้งๆๆ …ถ้ามี-วยสอดเข้ามา น้องคงเงี่ยนแตกแน่เลย อูยส์ อูว”
นางเบียดร่างมาชิดอกชายหนุ่มก่อนจะบดไปมาเป็นวงกลมพลางยื่นมือล้วงในกางเกง กำล่ำ-วยใหญ่ยาวด้วยความเงี่ยน ชายหนุ่มครางต่ำที่เธอชักรูดไปมาจนมือทั้งสองเขาอดไม่ได้ที่จะบีบแก้มก้นเพื่อระบาย
“เด็กๆ” ทั้งสองโดนขัดจึงหันมามองพบว่าอีกฝ่ายเป็นชายแก่ผมสีขาว ดูสุขุม ใจเย็น อ่อนโยน ‘ผู้อำนวยการ’ เผยสีหน้าอึดอัดที่นักเรียนตนทำแบบนี้ก่อนโรงเรียนเปิดช่วงเช้า
แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าวัยรุ่นเลือดมันร้อนแค่ไหนเพราะตนก็เคยทำ เพียงแต่ไม่กลางแจ้งอย่างนี้ เฮเลนเผยยิ้มขบขัน เข้ามาทักทาย
“สวัสดีผู้อำนวยการแฮโล ดิฉันเฮเลน ฟอร์ด ยินดีที่ได้พบคุณ”
แฮโลสะดุ้งรีบทำความเคารพ
“ยินดีที่ได้พบคุณหนูฟอร์ด กระผมจะทำหน้าที่ช่วยเหลือคุณหนูให้ดีที่สุด”
นางส่ายมือไปมา สีหน้ากลับมาเฉยชา
“หากผู้อำนวยการแฮโลรอนักเรียน่าอื่นคงเสียเวลาเนื่องจากผืนผ้าใบรอบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เด็กจะมีชีวิตได้"
"ดังนั้นขอให้ผู้อำนวยการแฮโลยื่นเรื่องการเสียชีวิตแก่รัฐบาลกลาง และชดเชยกองทุนเงินประกันก่อนหน้าที่ทำไว้กับโรงเรียนแก่ครอบครัว ทั้งหมดสี่ร้อยเก้าสิบหกราย”
ชายแก่ช็อกจนสติหลุด
“ตาย…ทั้งหมด…เลยเหรอ?” หญิงสาวกวาดมือแผ่วเบา พริบตานั้นก็ปรากฏหน้าต่างแจ้งเตือน
[ประวัติความสำเร็จของโฮสต์มีดังนี้---สำเร็จผืนผ้าใบระดับฝันร้าย 1 ครั้ง ,ระดับสยดสยอง 0 ครั้ง ,ระดับความน่าสะพรึง 0 ครั้ง ,ระดับวิตกกังวล 0 ครั้ง]
เมื่อชายแก่เห็น ตาดำก็หดตัวลงด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ ความทุกข์ราวกับหายไปด้วยความตื่นเต้น
“ฝันร้าย? ระดับฝันร้าย!? คุณหนู นี่่าผ่านระดับฝันร้ายเหรอ? ยอดเยี่ยมมาก! คุณหนูช่างประเสริฐสุด"
"กระผมไม่คิดเลยว่าผืนผ้าใบรอบนี้จะอันตรายขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าคุณหนูเป็นแกนนำคนถัดไปของโลก!?”
ผู้อำนวยการตื่นเต้นจนอดใจไม่ไหว เฟนริลเลิกคิ้วเล็กน้อย เขารู้สึกว่าหากเป็นตนจะช็อกกับการตายของนักเรียนมากกว่าการเคลียร์ระดับฝันร้าย
เจ้าตัวถอนหายใจเลือกที่จะเมินชายแก่เพราะกลัวจะติดนิสัยบางอย่างแม้ในอนาคตตนอาจมีก็ตาม
เฮเลนเอ่ยขัดอีก
“ดิฉันไม่ใช่แกนนำฝันร้ายค่ะ…เป็นเพียงอาวุโส่าึ่ในผืนผ้าใบเ่าั้นที่ผ่านด่านสำเร็จด้วยตัวเอง”
อีกฝ่ายตะลึงพรึงเพริด
“มีมากกว่าห้าร้อยคนงั้นเหรอ?” ชายตกใจกับจำนวนคนที่เข้าไปในฝันร้าย
หญิงสาวพยักหน้า
“ค่ะ เรารอดมาได้เพราะอาวุโส่านั้น ดิฉันไม่ใช่แกนนำในการผ่านระดับฝันร้าย”
ผู้อำนวยการถอนหายใจแต่ถึงแบนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกแย่เพราะเฮเลนเป็นึ่ในผู้รอดชีวิตจากระดับฝันร้าย
ดังนั้นนี่คือชื่อเสียงมหาศาลของโรงเรียนเพราะตนสามารถป่าวประกาศได้ว่า โรงเรียนของตนมีคนรอดชีวิตจากระดับฝันร้ายสี่คนซึ่งไม่ใช่จำนวนที่น้อยเลย
แค่คิดก็รู้สึกดีมากแล้ว ทั้งคู่สนทนาอยู่สักพัก…ชายแก่ก็ออกไปทำธุระ เฮเลนเดินเข้ามาพลางมอบสมุดบันทึกกับเฟนริล
“เด็กดี วันนี้ทำผลงานเยี่ยมมาก”
เฟนริลเผยยิ้มเพราะทั้งหมดแค่สมมติฐาน บางอันก็ขีดเส้นไว้ให้ใส่ใจ เหตุผลที่เขาคิดว่าบ่อน้ำคือทางออกของ ‘Starry Night’ เพราะทุกคนเข้ามาในระดับฝันร้ายไม่ได้แกร่งพอจะบินบนฟ้า
ดังนั้นต้องมีบางอย่างที่เชื่อมโยงกับดวงดาวนั่นคือสายน้ำเพราะสามารถสะท้อนดวงดาวที่เจิดจำรัส และยังเป็นสัญลักษณ์ของหลายสิ่ง
เช่น การไร้น้ำหนัก แผ่วเบา เปราะบาง ปลดเปลื้อง กระจกสะท้อน จากภายในสู่ภายนอก แน่นอนมีทางออกเป็นไปได้มากกว่านั้น
เขาเลยขอให้เฮเลนไปตรวจสอบ และทำเครื่องหมายว่าจุดไหนอยู่บนแผนที่บ้าง เมื่อสัญลักษณ์สองถูกทำลาย
นางจะเช็กว่าแต่ละอันคือทางออกใช่หรือไม่ นี่แผนเขาที่ให้เฮเลนออกไปกับสองสาว
ชายหนุ่มเผยยิ้ม
“ขอบคุณ ฉันอยากรู้ตอนนั้นทำไมหาฉันเจอ?” หญิงสาวยิ้มพลางเอียงคอหาไปทางหญิงคนึ่ทำให้เขาเบิกตากว้างไม่อยากเชื่อสิ่งที่คิด ไลล่าจึงอธิบาย
“ร่างโคลนของอีฟมีขอบเขตเทียบเท่าร่างต้น ไม่สามารถแชร์ความรู้สึกได้ ถึงแบบนั้นก็สามารถกำหนดได้ว่านิสัยอย่างไร นอกจากนี้ร่างโคลนก็เหมือนกับชีวิตึ่ทำให้ร่างนั้นสุ่มพลังพิเศษใหม่"
"และพลังพิเศษที่ได้มาก็คือการทำนายอนาคต เราเห็นว่าเฟนริลโดนแอนนาโจมตีใส่จนเกือบตายเพราะนางทนการสะกดจิตของสัญลักษณ์ความสุขไม่ไหว"
"ฉันและอีฟที่ช่วยอะไรไม่ได้ก็ล่วงหน้าไปก่อน ส่วนเฮเลนกลับไปช่วยนายเพราะเร็วกว่า”
เฟนริลเต็มไปด้วยคำขอบคุณ เขามองอีฟราวกับเจอของนำโชค ถ้าไม่ได้เธอ เขาคงตายไปแล้ว
“ห้ามนะ! อย่ามองเพื่อนฉันด้วยสายตาคุกคาม” ไลล่ากอดอีฟแน่น ทำท่าทางหึงหวงแต่จริง ๆ กำลังขย้ำนมอย่างเอร็ดอร่อย
อื้อ! เสียงครางกระเส่าทำให้เฟนริลเบือนหน้าหนีเพราะหากมองต่อไป ตนคงจะสงบจิตสงบใจไม่ไหว
ในเวลาเดียวกัน เฮเลนก็โบกมือ เชื่องช้าในอากาศ ปรากฏดาบยาวสามสายในมือราวแสดงมายากล ดวงตาเธอส่องประกายขณะใช้นิ้วลูบไล้ใบดาบ
หญิงสาวยิ้มแผ่วบางแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์และเย้ายวน นางปรายตามองเฟนริล หรี่ตาลงด้วยความสนใจ
“เด็กดี…ชอบนี่รึเปล่า?”
นางส่ายอาวุธไปมาจนชายหนุ่มมองตากระทั่งนึกได้ว่าถูกล่อลวงก็ย่นจมูก
"ชอบครับ อยากได้มากด้วย”
เฮเลนเอียงคอ หลับตาข้างนึงอย่างยียวนราวกับพิจารณาคำตอบเขาอย่างถี่ถ้วน
“อืม…นั่นสินะ…เราอยากอ่าน…บันทึกต้องห้าม...ของหอศิลป์…เด็กดีจะทำให้รึเปล่า?” เฟนริลอึ้งจะเกือบเบะน้ำตา ตอนนั้นตนโกหกเฉย ๆ ไม่คิดเลยว่าการโกหกครั้งนั้นจะทำให้ยุ่งยากถึงขนาดนี้
เฟนริลทำสีหน้าหนักใจจนไม่สามารถคิดอะไรได้เพราะตนไม่มีของแบบนั้น หญิงสาวเห็นจึงหลุดยิ้มเอ็นดู พยายามรั้งมือไว้ไม่ให้ลูบหัว
“งั้นไว้คราวหน้านะ"
"ราตรีสวัสดิ์…” นางโบกมือแผ่วเบา อาวุธดังกล่าวก็ลอยไปหาเฟนริลจนเขาสัมผัสไว้ พลันเงยหน้ามอง เฮเลนก็หายไปราวกับไม่มีตัวตน
เฟนริลเผยยิ้มกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายเบา ๆ เมื่อทุกอย่างกลับมาปกติ ชายหนุ่มกับสองสาวก็แยกย้ายไปพักผ่อน
เฟนริลเข้าห้องนอนในหออย่างเหนื่อยล้า เมื่อมาถึงก็เจอห้องขนาดใหญ่เพราะโรงเรียนนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงติดท็อปโลกแต่มาจากเอกชน
และมีเบื้องหลังไม่ได้ยิ่งใหญ่เพียงแค่สอนดีมากเ่าั้น อีกทั้งเฟนริลยังเป็นเด็กทุนที่มีชื่อเสียงระดับนึงเพราะพลังพิเศษระดับศูนย์กับความจำด้านวิชาการนับไม่ถ้วน
“เฮ้อ!” เขาอยากจะเอาหน้าฟุบเตียงแต่เสื้อผ้าเปื้อนมาก
ชายหนุ่มวางดาบลง ลักษณะของมันเป็นด้ามจับสีดำผูกด้วยเส้นสีดำแดงสามสายแต่ละเส้นถักกันเป็นอักษรปริศนาตรงกลาง
ขณะที่เฟนริลกำลังตรวจสอบก็มีเสียงดังจากด้านหลัง
“โฮ่! ห้องนายไม่เบานะเนี่ย”
เขาหันไปมองก็พบไลล่ากับอีฟผ่านประตูที่ตนยังไม่ล็อก โดยสายตาพวกนางมองรอบด้านด้วยความสนใจ
ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีเลยว่าค่ำคืนนี้คงอีกยาวไกล เจ้าตัวจัดแจงเสื้อผ้าตัวเองเล็กน้อยเพื่อตั้งคำถามกับสองสาวแต่เหมือนไลล่าจะรู้ทันจึงยกถุงขนมพร้อมเหล้ามากมายโชว์
“ปาร์ตี้กัน! ฉลองการอยู่รอด!”
เฟนริลกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะนึกได้
“นั่นสินะ…ดื่มเหล้าเสร็จ ค่อยนอน คงไม่มีปัญหาอะไร”
อีฟหน้าแดงเล็กน้อยเพราะเธอมีความตั้งใจอื่นมากกว่านั้น (?)
/// ไรท์ //////
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??