เรื่อง ขุนช้างขุนแผนภาคพิศดาร
ณ ีมุมึ่ของเืสุพรรณบุรี ัเป็ที่อยู่ของัศรโา และนางศรีประจัน ซึ่งเป็นพ่อค้าใหญ่ มีการค้าที่คึกคักไม่น้อย ซึ่งวันนี้เองเป็นวันที่ัศรโากลับมาจากการไปค้าขายที่ต่างเืนานถึง 3 เดือน ยังผลกำไรให้กับัศรโาอย่างงาม ดังนั้นคืนนี้จึงเป็นคืนฉลองรับขวัญเมียหลังจากที่จากกันไปนาน
"ซี๊ดส์ พี่ัจ๋า พี่ั น้องใจจะขาดแล้วจ๊ะ พี่จ๋า ซี๊ดส์ โอยยย เสียวจังเลย โอยยย พี่จ๋า" เสียงครวญครางดังจากปากของนางศรีประจัน อดีตคนงามแห่งเืสุพรรณบุรี แต่ในขณะนี้กำลังบิดกายด้วยความเสียวซ่านจากรสลิ้นของสามี ที่กำลังเลียกลีบส้มโอของนางอยู่อย่างเมามัน ทั้งดูด ทั้งไช จนน้ำเงี่ยนไหลเยิ้มเต็มออกมา
ไม่ไยดีที่ัศรโา จะดูดกลืนกินไปจนหมดสิ้น แถมยังเอานิ้วแหย่เข้าไปในร่องหลืบสีชมพูที่ฉ่ำเยิ้ม และชอนไชนิ้วไปจนทั่วร่องเสียวอย่างทุกซอกทุกมุม ปากก็ดูดเน้นไปที่แตดสีชมพูที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ สั่นระริกชูชันสู้ลิ้นของัศรโา สองมือของนางศรีประจันก็บดบี้ไปที่สองเต้าขาวอล่องฉ่องที่ตั้งชูชัน นิ้วมือก็บดบี้หัวนมสีชมพูที่แข็งเด่มีขนาดเล็กกระจิดริด แต่แข็งชูสู้นิ้ว สะโพกของนางเด้งขึ้นรับตาม
จังหวะนิ้วของัศรโาที่ชักเข้าออก และคว้านในรูหีอย่างรู้จังหวะ
หลังจากที่พ้นศรโาดูดดุนจนสาแก่ใจแล้ว ก็ลูกขึ้นยืนพลางถอดกางเกงออก ฉับพลันนั้นเจ้าใบ้หัวโต ขนาด 5 นิ้วก็โผล่ออกมาดูโลก แต่ถึงแม้พ้นศรโาอาจมีขนาดที่ไม่ใหญ่โตนัก แต่ด้วยความที่เขาได้เดินทางไปยังต่างเื และที่ต่างๆ มากมาย ก็ทำให้เขาได้พบกับนักรักมากมาย ได้รับประสบการณ์มาก และที่สำคัญก็คือ เขาได้ไปพบกับอาจารย์ผู้ึ่ซึ่งมีวิชาการในการผ่าตัดฝังมุก และติดแผงคอม้า ซึ่งัศรโาได้เห็นประสิทธิภาพมาแล้ว จึงได้ขอผ่าตัดบ้าง และครั้งนี้แหละเขาได้ลองเอามาใช้กับเมียสาวของเขาเป็นครั้งแรก
นางศรีประจัน เมื่อได้เห็น-วยของผัวที่มีลักษณะผิดแผกไปจากปกติ ก็ตกตะลึงตาค้าง เพราะไม่เคยเห็นมาก่อนว่าทำไม่-วยของผัวจึงมีปุ่มปมไปทั่ว แถมที่ตรงหัวตรงเงี่ยงยังติดอะไรที่เป็นขนยื่นออกมา ด้วยความกลัวนางจึงหุบขาไม่ยอมให้ไอ้ของแปลกนี้มันเข้าไปในรูหีของนาง
แต่ัศรโาก็ก้มลงดูดเม้มที่หัวนมสีชมพูของนางีมือึ่ก็เอานิ้วชอนไช เข้าไปในร่องหลืบที่คับติ้วของนางและบางครั้งก็เกี่ยวโดนเอาแตดของนาง ทำให้นางศรีประจันเริ่มตาเยิ้มและมีน้ำเงี่ยนไหลออกมาจากรูหี เริ่มที่จะบิดส่ายสะโพกให้สวนกับนิ้วของัศรโาที่คว้านเข้าไปในรูหีให้ถ้วนทั่ว
ัศรโานั้นเมื่อเห็นเมียรักเริ่มเคลิบเคลิ้มแล้ว ก็ค่อยจ่อหัว-วยที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เข้าไปจรดที่รูหี แล้วค่อยๆ ดันเข้าไป กลีบแคมของนางศรีประจันก็ค่อยๆ ม้วนตามหัว-วยเข้าไป พอถึงส่วนที่เป็นเงี่ยงก็ทำให้นางศรีประจันสะดุ้งแล้วจับแขนของัศรโาเอา ไว้แน่น เพราะมีความรู้สึกว่าปากรูหีของนางถูกขนอะไรบางอย่างมันครูด ทำให้เกิดความรู้สึกแสบๆ คันๆ เสียวๆ แปลกดี แถมพอถึงจุดที่มุกมันเข้าไปมันจะสะดุดเข้าไปถูกจุดในส่วนกระสันของนางอย่าง ทั่วถึง
พอัศรโากด-วยเข้าไปจนมิดก็เริ่มชักออก พอเริ่มที่ชักออก ไอ้แผงคอม้ามันก็เริ่มออกฤทธิ์ มันเริ่มครูดเนื้อในของนางจากด้านในสุด ออกมาจนกระทั่งแคมของนางปลิ้นติด-วยออกมาเป็นสีแดงก่ำ ซึ่งมันส่งผลให้นางศรีประจันรู้สึกแสบคันในช่องเป็นอย่างยิ่ง กำลังจะอ้าปากผัวรักให้หยุดเพราะนางรู้สึกแสบคันที่ในรูหี
ัศรโาก็กระแทกกลับเข้าไปดังฟุบ หนอกควยกระทบกับหนอกหีขาวสะอาดของนางดังพั่บ แล้วก็ซอยเข้าออกเข้าออก เสียงดังฟูบฟาบ น้ำเงี่ยนไหลออกมาเป็นฟองฟอด แคมหีปลิ้นเข้าออกๆ เข้าออกอย่างต่อเนื่อง ทำให้นางศรีประจันเด้งรับการกระเด้าของผัวรัก อย่างไม่กลัวหีพัง กามกิจนี้ดำเนินอย่างต่อเนื่องนานถึง 2 ชั่วโมง ทำให้นางศรีประจันรู้สึกเสียวซ่านมากที่สุดในชีวิตสาวของนาง ทั้งแผงคอม้าและมุก มันทั้งครูดทั้งสะดุดต่อมเสียวของนางอย่างต่อเนื่อง ทำให้นางถึงจุดสุดยอดอย่างที่ในชีวิตนี้ไม่เคยได้ถึงเลย และก็ถึงจุดต่อเนื่องไปีหลายครั้ง
แต่ตัวัศรโาเองอยู่ๆ ก็หยุดนอนทับร่างนางแน่นิ่งไป ทำให้นางตกใจอย่างมาก รีบลุกขึ้นมาแต่งตัว และเขย่าเรียกผัวรัก แต่อนิจจาเรียกอย่างไรก็คงไม่ตื่นแล้ว เนื่องจากัศรโานั้น หัวใจวายอันเนื่องมาจากการออกแรงกระเด้าเมียรักให้ถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งแรกในชีวิตได้ จึงกระเด้าอย่างไม่คิดชีวิต จนถึงแก่ความตายในที่สุด
กล่าวถึงพลายแก้ว และนางทองประศรีที่ได้เดินทางอพยพมาอยู่ ณ เขาชนไก่ จังหวัดกาญจนบุรีนั้น ในช่วงแรกที่เดินทางมาถึงนั้น นางทองประศรีก็ได้มาอาศัยอยู่กับนางแก้ว ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของนาง นางแก้วถูกเลี้ยงดูมากับนางทองประศรีในตอนที่ยังเด็กอยู่ แต่ตอนนี้นางแก้วก็ได้อยู่กินกับคนจีนที่เข้ามาตั้งรกรากค้าขายอยู่ที่เื กาญจนบุรีนี้ ซึ่งทั้งนางแก้วและสามีของนางคือเจ๊กซุ่น ก็ได้ให้ความช่วยเหลือแก่นางทองประศรีเป็นอย่างดี โดยความช่วยเหลือของครอบครัวนี้ ทำให้นางทองประศรีได้เริ่มมีฐานะที่ดีขึ้นจนได้เป็นเจ้าของที่ดินมากมาย ที่ปล่อยให้คนได้เช่า ให้นางได้กินค่าเช่าไม่ต้องไปทำงานหาเลี้ยงลูกให้เหน็ดเหนื่อยีต่อไป
สำหรับพลายแก้วนั้น ไม่ต้องห่วงเลย เนื่องด้วยเป็นเด็กฉลาด และกตัญญู เป็นที่ึ่ พลายแก้วนั้นไม่ดื้อไม่ซนและขยันช่วยเหลือแม่ในการค้าขาย และเมื่อนางทองประศรีเห็นว่าฐานะของนางมั่นคงพอแล้ว นางจึงคิดจะฝากให้พลายแก้วได้ศึกษาเล่าเรียน เพื่อจะได้เป็นคนที่เก่งเหมือนกับขุนไกรพลพ่ายผู้เป็นพ่อ นางจึงเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับนางแก้วว่าจะให้พลายแก้วได้ไปศึกษาต่อที่ใดดี
นางแก้วกับสามีของนางเจ๊กซุ่น ก็ครุ่นคิดอยู่พักึ่ก็ว่า สมภารบุญที่วัดส้มใหญ่ มีวิชาอาคมมาก น่าจะให้พลายแก้วได้ไปศึกษากับท่านสมภารจะได้มีวิชาความรู้ติดตัว เจ๊กซุ่นก็รับปากจะไปพูดกับสมภารบุญให้เนื่องจากเจ๊กซุ่นและนางแก้ว เป็นอุบาสก อุบาสิกา ที่เคยช่วยเหลือกับทางวัดส้มใหญ่มามาก ตั้งแต่สมัยที่เริ่มสร้างวัดใหม่ๆ ซึ่งในที่สุดพลายแก้วก็ได้เข้าไปบวชเณร ซึ่งทำให้นางทองประศรีปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมากที่ลูกชายจะได้มีวิชาความรู้ เหมือนอย่างกับพ่อที่เสียไปของเขา
พลายแก้วนั้น เมื่อได้บวชเป็นสามเณรกับสมภารบุญนั้นก็ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หนังสือ การคาถาอาคม และการเข้าญาณสมาธิกับสมภารบุญ ด้วยความที่เป็นเด็กใผ่รู้และฉลาดเฉลียว ทำให้พลายแก้วเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของสมภารบุญมาก สมภารบุญจึงได้ถ่ายทอดวิชาให้จนหมดสิ้น แม้กระทั่งวิชาในการผูกควายธนู ก็ได้สอนใจแก่พลายแก้วไปจนหมดสิ้น จนกระทั่งวันึ่ ท่านสมภารก็ได้เรียกสามเณรพลายแก้วมาคุยกันที่ในโบสถ์
"เออ เณรแก้วเอ้ย เจ้ามาอยู่กับหลวงตาได้ย่างเข้า 3 ปีแล้วนะ หลวงตารู้ว่าเจ้าเป็นเด็กดี ขยัน ไม่เกียจคร้าน หลวงตาสอนอะไรเจ้าก็เรียนรู้ได้เร็ว จนหลวงตาไม่มีอะไรจะสอนแล้ว เอาอย่างนี้ หลวงตาจะส่งเจ้าไปเรียนกับท่านสมภารคงแห่งวัดป่าเลไลย์นะ ท่านน่ะเป็นอาจารย์ของหลวงตาีที เจ้าจะได้เรียนวิชาเพิ่มเติม เพราะหลวงตาสมองโง่ทึบ เรียนวิชามาไม่ได้ถึงึ่ในร้อยของท่านอาจารย์ ถ้าเจ้าอยากที่จะไปเรียนหลวงตาจะเขียนหนังสือฝากเจ้าไปให้ ดีมั้ย"
สามเณร พลายแก้ว ก้มลงกราบหลวงตา และตอบเสียงเบาๆ ว่า
"แล้วแต่หลวงตาเถิดขอรับ เพียงเท่าที่หลวงตากรุณาผมก็รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งแล้วขอรับ"
หลวงตาบุญ ลูบหัวสามเณรแก้วด้วยความรักใคร่ แล้วพูด
"อืม เจ้ามันเป็นคนดี หลวงตายังไม่เคยรักและเมตตาใครเท่าเจ้าเลยนะ ขอให้เจ้าตั้งใจและขยันอย่างนี้เรื่อยๆ ไปล่ะ แล้วพรุ่งนี้เจ้าก็ออกเดินทางไปที่วัดป่าเลไลย์ได้เลยนะ"สามเณรพลายแก้ว ก้มลงกราบหลวงตาีครั้ง แล้วลาหลวงตาออกมา หลังจากนั้นสามเณรพลายแก้วก็เดินทางไปยังบ้านของมารดา เพื่อกับมารดาว่าตนจะย้ายไปศึกษากับหลวงตาคง แห่งวัดป่าเลไลย์ในวันพรุ่งนี้แล้ว เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้าน หมาหลายตัวที่นางทองประศรีเลี้ยงไว้ก็เห่าใส่สามเณรพลายแก้ว สามเณรพลายแก้วก็หลับตาบริกรรมคาถา เพียงชั่วขณะเดียว หมาเหล่านั้นก็หยุดเห่า แล้วเข้ามาเลียแข้งเลียขากันเป็นการใหญ่ ฝ่ายนางทองประศรีนั้น กำลังนอนให้่าไ่นวดอยู่ ได้ยินเสียงหมาเห่า ก็กับ่าไ่ว่า
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??