เรื่อง ระบบสุดยอดอาจารย์ ศิษย์ของข้าลิขิตฟ้าด้วยตัวเอง
ณ ุ่ญ้ากว้างีเีสดใสึ่เงียบงันาัไร้ีิ แต่กลับเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเืที่ะุ้ไปั่ ดินใบริเวณูกวาดเป็น่ลึกาการฟั
กลางุ่นั้น... ร่างของอู๋เวินูสับเป็นชิ้นๆ อย่างน่าสยดสยอง แขนขาูตัดเหลือเพียงลำตัวที่ยังดิ้นกระตุกเบาๆ
เขาแหงนหน้าขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาหงุดหงิด
“อ๊า น่ารำคาญชะมัด ข้าเข้าใกล้ตัวเจ้าก็ไม่ได้เลยสักนิดเดียว...” อู๋เวินกัดฟัสบถเสียงดัง
เล่ยเฉินไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงยกกระบี่ขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะฟัคลื่นดาบสังหารใส่ร่างของอู๋เวินอย่างไร้ปรานี
แต่ใเสี้ยววินาทีนั้นเอง คลื่นดาบสีเงินเสี้ยวหนึ่งพุ่งแทรกตัดผ่านแนวฟัของเล่ยเฉิน พร้อมกับเงาร่างของหญิงสาวทั้งเจ็ดที่ร่อนลงมาาท้องฟ้าเบื้องบน
หนึ่งใพวกนางก้าวขึ้นมาขวางหน้าเขา พลางเอ่ยเสียงเฉียบขาด
“เจ้าหนีไปเถอะ ที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเรา เจ้าอยู่ไปก็เกะกะเท่านั้น”
เล่ยเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย
อู๋เวินที่นอนกองอยู่กับพื้น มองเหล่าหญิงสาวตรงหน้าอย่างเย็นชา แม้นางทั้งเจ็ดจะไม่ใช่ลูกใสายเืของอู๋เวินก็จริง แต่คำพูดของพวกนางที่พูดกับเขาเหมือนว่าพวกนางกำลังคุยกับขยะชิ้นหนึ่งนั้นเป็นสิ่งที่เขารังเกียจที่สุด และมันไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับเขา แม้แต่อู๋จ้าว พวกนางก็ปฏิบัติด้วยท่าทีไม่ต่างกัน
อู๋เวินไม่สนใจอีกต่อไป เขาใช้ดินสร้างแขนขาขึ้นก่อนจะมุดดินหายวับไปเพื่อหาสมุนไพรมารักษาลูกชายของเขาโดยไม่แม้แต่จะมองกลับ
แต่ใขณะที่เขากำลังจะหายไปกับพื้นดินนั้นเอง หางตาของเขากลับสะท้อนภาพหัวของหญิงสาวคนที่เจ็ดูตัดขาดและร่วงลงพื้นเสียงดัง
ทว่าเขาก็ไม่ได้หยุด หรือหันกลับไปมองเลยแม้แต่น้อย เพราะเขารู้ตัวว่าไม่มีทางสู้กับเล่ยเฉินชนะแน่นอน ตอนแรกเขานึกว่าลูกชายของเขาอ่อนแอแต่กลับกลายเป็นว่าเล่ยเฉินนั้นแข็งแกร่งเกินไป ตลอดหลายนาทีที่พวกเขาสู้กันมา เขาไม่สามารถแตะตัวของเล่ยเฉินได้แม้แต่ครั้งเดียวด้วยซ้ำ
อีกหกคนที่เหลือดวงตาของพวกนางเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นหัวของน้องสาวร่วงหล่นแต่พวกนางก็ไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรมาก
ร่างไร้หัวของนางบินลงไปหยิบหัวตัวเองขึ้นมาต่อเข้ากับลำคออย่างหน้าตาเฉย แต่ใชั่วพริบตาถัดมา ร่างของนางก็ูฟัแหลกเป็นชิ้นอีกครั้งจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
เสียงกรีดร้องยังไม่ทันจาง ร่างของหญิงสาวอีกหกคนก็พุ่งเข้าใส่เล่ยเฉินพร้อมกันด้วยความเร็ว
แต่แทนที่เล่ยเฉินจะถอยหนี เขากลับพุ่งเข้าไปหาทั้ง 6 คนแทน เขาพุ่งตรงไปยังหญิงสาวผมสีขาวที่ดูอ่อนแอที่สุด
“อ๊าาาาา!!”
เสียงร้องของหญิงสาวผมขาวดังลั่น เมื่อกระบี่ของเล่ยเฉินแทงทะลุลำคอของนางโดยที่นางไม่สามารถตอบโต้ได้ก่อนที่เล่ยเฉินจะพุ่งทะลุอีก 5 คนไปโดยที่ยังมีร่างของหญิงสาวผมขาวทีู่กระบี่แทงคอติดไปด้วย
ก่อนที่เขาจะตวัดกระบี่เพื่อตัดคอนางให้ขาดสะบั้น แต่ทว่าพี่สาวคนโตของพวกนางก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า พร้อมยกดาบขึ้นสกัดดาบของเขาไว้ได้อย่างเฉียดฉิว
เสียงปะทะดังขึ้น เงาสะท้อนของคมดาบวูบวาบใแสงแดด
นั่นคือจังหวะที่หญิงสาวอีกสี่คนพุ่งเข้าโจมตีารอบด้านพร้อมกัน
แต่เล่ยเฉินไม่ได้หวาดกลัวหรือลังเลแม้แต่น้อย
เขาหันหมัดหนึ่งใส่หญิงสาวผู้มีดวงตาเป็นรูปหัวใจสีชมพู!
ตูมมม!!
เสียงกระแทกดังสนั่น ร่างของนางกระเด็นกระแทกพื้นจนกระดูกแทบแหลกไปั่ทั้งตัว นางร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
“อ๊าาาาา!!”
ส่วนการโจมตีของหญิงสาวอีกสามคน กลับไม่สามารถทะลุผ่านพลังป้องกันไปถึงร่างของเล่ยเฉินได้เลยแม้แต่น้อย พวกนางูพลังบางอย่างป้องกันเอาไว้ได้
ทันใดนั้น กระบี่ใมือของเล่ยเฉินพลันเปลี่ยนรูปลักษณ์ กลายเป็นดาบแส้สีเงินยาวหลายลี้ ก่อนที่เขาจะตวัดดาบแส้นั้นไปรอบตัว
ติง ติง ติง ติง!
เสียงดาบแส้ฟาดเข้ากับดาบของพี่สาวคนโตที่เข้ามารับการโจมตีของเล่ยได้หมด เปิดช่องว่างให้คนที่เหลือกระโดดถอยหลังไปพร้อมกันเพื่อถอยตั้งหลัก
แววตาของเล่ยเฉินแปลเปลี่ยนเป็นสีขาวทองที่น่าดึงดูดเป็นอย่างมาก
เล่ยเฉินหัวเราะเยาะเบาๆ พร้อมเหลือบมองเหล่าสตรีที่ยังลอยตัวอยู่โดยรอบ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามปนเบื่อหน่าย
“สู้กับลุงคนเมื่อครู่นี้... ยังรู้สึกว่าได้แรงมากกว่า พวกเจ้ากับอู๋จ้าวนี้ไม่ใช่พี่น้องต่างสายเืกันจริงงั้นเหรอ?”
ซุยอี้ ที่เป็นพี่สาวคนโตและผู้ฝึกวิชาดาบก็พูดขึ้น
“ทำไมล่ะ พวกข้ามีส่วนตรงไหนที่เหมือนกันงั้นเหรอ?”
เล่ยเฉินยิ้ม
“อ่อนแอไม่ต่างกันเท่าไหร่ ไม่สิพวกท่านทั้ง 7 คนรวมกันน่าจะประมาณอู๋จ้าว 4 คนและก็อีกครึ่งหนึ่งประมาณนั้น”
หญิงสาวทั้งเจ็ดที่ตอนนี้แยกย้ายกระจายตัวอยู่คนละมุม ต่างล้วงเอายารักษาสมบัติวิเศษาแหวนมิติ กลืนมันลงคออย่างพร้อมเพรียง พลังฟื้นฟูเริ่มแผ่ซ่านาร่างพวกนาง กระดูกที่ร้าวราน คอที่เกือบขาด แขนขาที่เคลื่อนไหวติดขัด ค่อยๆ ฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิมอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะร่างของหญิงสาวทีู่เล่ยเฉินฟัเป็นชิ้นๆ นั้นกลับฟื้นตัวมาพร้อมกับพลังที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้น
ทันใดนั้นเสียงของหญิงสาวคนที่เจ็ด ซุยฉี ผู้เคยูฟัจนร่างแหลกเป็นชิ้นๆ ก็ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
“หึ... พวกเราก็แค่ไม่ชินกับการูจำกัดพลังบ่มเพาะไว้ใระดับนักบุญและไม่สามารถใช้พลังของร่างกายพิเศษได้ก็เท่านั้นแหละ อย่าทำตัวหยิ่งยโสเกินไปหน่อยเลยนะ เจ้าหนู”
เล่ยเฉินหัวเราะเบาๆ เขาหลับตาลงเล็กน้อยพลางรวบรวมพลัง ขณะที่มือขวาเปลี่ยนดาบแส้ใมือให้กลายเป็นง้าวสีทองคำแวววาว พลังจิตวิญญาณถาโถมเข้าไปใอาวุธาัมหาสมุทรที่แปรเปลี่ยนเป็นพายุ
“ครั้งนี้... ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าฟื้นฟูร่างกายอีก”
ร่างของเขาแวบหายพร้อมกับง้าวสีทองที่ฟาดเข้าใส่หญิงสาวคนที่เจ็ดอย่างดุดันโดยไม่ให้เวลาตั้งตัว การโจมตีครั้งนี้รุนแรงเกินกว่าที่นางรับมาก่อนหน้านี้มาก
ตลอดช่วงที่ต่อสู้กันมา เล่ยเฉินเริ่มสังเกตได้ว่า ยิ่งเขาฆ่าซุยฉีมากเท่าไหร่ นางกลับฟื้นคืนด้วยพลังที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมทุกครั้งที่ตาย และครั้งนี้ เขาจึงตั้งใจจะทำให้ร่างของนาง สลายไปทั้งกายและจิตวิญญาณ
ทันใดนั้นที่ง้าวฟาดลงมาด้วยแรงทำลายระดับสูงสุด แต่ก่อนจะสัมผัสร่างของซุยฉี โล่ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นาเบื้องหน้าของนางทันที แสงศักดิ์สิทธิ์แผ่กระจาย ป้องกันการโจมตีของเล่ยเฉินได้อย่างฉิวเฉียด
ตูม!!
แรงปะทะสั่นสะเทือนจนพื้นดินเบื้องล่างแตกร้าว ทันใดนั้นเอง ลูกธนูนับพันดอกก็พุ่งลงมาาฟากฟ้า าั-่าฝนแห่งความตาย พุ่งตรงมายังร่างของเล่ยเฉินด้วยความเร็วเหนือเสียง
รูม่านตาของเล่ยเฉินหดแคบลงทันที ดวงตาของเขากลายเป็นสีขาวทอง เขาก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า พร้อมกับเบี่ยงตัวอย่างแม่นยำอย่างกับเต้นรำกับสายลม
เล่ยเฉินยืนนิ่งท่ามกลางพายุลูกธนูเหมือนว่าเขาไม่มีตัว ลูกธนูทั้งหมดพุ่งผ่านร่างเขาไปอย่างไร้ความเสียหายใดๆ เพียงแค่เล่ยเฉินก้าวสั้นๆ เท่านั้น ลูกธนูไม่โดนแม้แต่ชายผ้าของเขาด้วยซ้ำ ใขณะที่คลื่นอากาศเบื้องหลังเขาูฉีกขาดเป็นเส้นๆ าแรงกระแทกมหาศาลของลูกธนู
แต่ใเสี้ยววินาทีนั้นเอง ด้านหน้าเขา ปรากฏกองทัพนับพันที่สวมเกราะสีดำเงาสะท้อนของอาวุธใมือแต่ละคนเปล่งประกายวาววับน่าสะพรึง
เล่ยเฉินยกง้าวขึ้นเหนือหัว พลังบ่มเพาะไหลเข้าไปใอาวุธจนกลายเป็นลำแสงสีทองคำขนาดมหึมา
ก่อนที่เขาจะฟาดไปตรงไปที่กองทัพเหล่านั้นทันที!
ตูมมมมมมมมมมมม!!
เสียงระเบิดดังสนั่น ฟ้าดินสั่นสะเทือน แรงฟาดของง้าวกวาดล้างทุกอย่างที่ขวางทาง กลุ่มกองทัพเบื้องหน้าตั้งโล่ขึ้นมาทันที
แต่ขณะนั้นเสียงขลุ่ยบางอย่างก็ดังแผ่วลอดผ่านกระแสลมเข้าไปยังหูของเหล่ากองทัพราชวงศ์อีกาทองคำ
เพียงชั่วอึดใจเดียว… หัวของพวกเขาก็ระเบิดอย่างพร้อมเพรียง!
เสียง ปัง ปัง ปัง ดังขึ้นรัวๆ ไม่มีหยุด เืและเศษเนื้อปลิวว่อนาาา
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินจะตั้งตัวได้ทัน
าท้องฟ้า ร่างหนึ่งค่อยๆ ลอยลงมา เงาของชายผู้หนึ่งที่รูปลักษณ์ดูเปลี่ยนไปาเดิมโดยสิ้นเชิง เขาคือ กวนจื่อซวน แต่ไม่ใช่กวนจื่อซวนคนเดิมอีกแล้ว
าผมสีเงินยาวตอนนี้กลายเป็นผมสีดำสนิทปกคลุมจนถึงกลางหลัง ใบหน้าที่เคยสง่างามกลับูแทนด้วยความบิดเบี้ยวเล็กน้อย และาั่ร่างของเขา แผ่คลื่นพลังประหลาดมาเรื่อยๆ
ทันใดนั้นคลื่นพลังาง้าวของเล่ยเฉินก็พุ่งตรงมาที่กองทัพเหล่านั้น
ตูมมมมมมมมม!!
เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว แรงปะทะนั้นรุนแรงจนบดร่างของเหล่าทหารราชวงศ์อีกาทองคำแหลกเป็นเศษผง เศษกระดูกปลิวกระจายไปั่ท้องฟ้า แผ่นดินใต้เท้าูฉีกเป็นทางยาว
คลื่นพลังนั้นเหมือนกับเสียงที่มองไม่เห็นและไม่สามารถป้องกันได้ และใเวลาเดียวกัน ร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งก็ก้าวมาาม่านหมอกพลัง พลังของนางไม่ได้ดูน่ากลัว หากแต่มันน่าอึดอัดอย่างประหลาด
นางคือ เย่ลี่อิน ใร่างที่ไร้ึ่ความน่าดึงดูดโดยสิ้นเชิง ผมสีม่วงูเปลี่ยนเป็นผมสีดำยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าเรียบเฉยไร้เครื่องประดับ ไม่มีเสน่ห์เย้ายวนใดๆ ดวงตาเรียบเฉยจนน่าขนลุก
หญิงสาวผมีเีนางหนึ่งที่เป็นหนึ่งใ 7 นางฟ้า และเป็นลูกสาวคนบุญธรรมคนที่ 2 ซุยเอ๋อร์กวาดสายตามองพวกเขาทั้งสามคน ก่อนจะพูดด้วยเสียงเข้ม
“พวกเจ้า... เป็นคนาดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำอมตะสินะ?”
“พวกเจ้าอยู่ฝ่ายของมู่หนานซือ หรือว่าโจวหลัวเฉิน?”
ทว่าทั้งสามไม่ได้ปริปากตอบแม้แต่นิด ไม่มีคำพูดใด ไม่มีคำอธิบายใด
พวกเขา… โจมตีทันที!
ตูมมมม!! ตูมมมม!! ตูมมมม!!
เสียงระเบิดดังสนั่นกลางท้องฟ้า คลื่นพลังซัดเข้าหากันจนพื้นที่โดยรอบเริ่มพังทลาย เสียงแห่งการฆ่าฟัก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับเืที่ากระเซ็นาาา
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??