เรื่อง ประมุขสำนักพันปี
การุ่โจมตีั้ี้ย่อมไม่รวบรัดเรียบง่ายเฉกเช่นการลงมือของสองเจ้าสำนัก ในเมื่อเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เลวร้ายทั้งหลาย ย่อมเป็นคนมีหัวคิด จัดเจนการวางแผน
ไท้หยูยังไม่แน่ใจว่าบุรุษชุดแพรไหมเป็นผู้ใด แต่หลังจากปะทะฝีมือกันหลายกระบวนท่าก็สามารถมั่นใจได้ว่าคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง ฝีมือยังเด่นล้ำกว่าเขาขั้นหนึ่ง
แน่นอนว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าสองเจ้าสำนัก พิรุณพายุและเมฆมังกรรวมกัน เป็นผู้ฝึกพยุหะแน่นอนว่ามีความเกี่ยวโยงกับราชวงศ์ มิทราบว่าเขาเป็นผู้ใดกันแน่
ประกายสามสายหวังปลิดชีพโบ๋เวินให้สำเร็จในคราเดียว การโจมตีทั้งสามล้วนลงมือเป็นมั่นเหมาะ มาตรว่าโดนโบ๋เวินสังหารให้ตายยังยินดียกชีวิตให้การลงมือั้ี้ เพื่อให้มีคนประสบโอกาสสามารถสังหารผู้เหยียบเมฆผู้นี้ให้ได้
โบ๋เวินมีระดับฝีมือใกล้เคียงกับรุ่ยซวน สำหรับยอดฝีมือระดับเดียวกันห้ำหั่นประหารชีวิต โอกาสเพียงเสี้ยววิชั่วอึดใจเดียวนับว่าสามารถตัดสินผลแพ้ชนะ
อย่างเช่นในตอนนี้ โบ๋เวินู้กับรุ่ยซวน มีความได้เปรียบอยู่ส่วนหนึ่ง ทว่าเมื่อมีคนสอดมือเข้ามาในช่วงคับขัน ตาชั่งก็เปลี่ยนทิศไปอีกด้านแล้ว
อีกทั้งยามนี้โบ๋เวินยังพลาดท่า ถูกลมปราณพิสดารนั้นจู่โจมใ่จนชีพจรในร่างปั่นป่วน ยังไม่มีเวลาโคจรพลังจำกัดพิษก็มีคนหันกระบี่จู่โจมเข้ามา
ในห้วงคับขันโบ๋เวินที่หน้าเขียวคล้ำจนเปลี่ยนเป็นม่วงแค่นเสียงเย็นชา กวาดมองผู้ที่จู่โจมสังหารเข้ามา ล้วนเป็นผู้ฝึกตนระดับรวมกาย
“คิดว่าข้าโบ๋เวินมีเพียงวิชาบังคับเมฆเท่านั้นหรือ”
เมฆดำที่เขาทิ้งไว้ก่อนหน้านี้พลันสั่นสะเทือน บังเกิดเสียงครืนครั่น จากนั้นบังเกิดประกายแลบในชั่วพริบตา สายฟ้ามากมายพลันแตกกระจาย ในโรงเตี้ยมบังเกิดเมฆฝนบ้าคลั่ง สายวิชชุแลบลั่น ผ่าเปรี้ยงลงมาราวกับอสรพิษเงินมากมาย
สายฟ้านี้โจมตีโดยไม่สนใจสิ่งใด บดทำลายทุกสิ่งที่อยู่ในรัศมี แม้แต่ไท้หยูก็ถูกสายฟ้าผ่าใ่จนอาภรณ์ไหม้ไปบางส่วน เหล่าผู้เข้าร่วมการต่อู้หวังจะชิงโอกาสให้รุ่ยซวนสังหารคนกลับประสบผลล้มเหลว
ผลลัพธ์คือกลายเป็นนกย่างไหม้เกรียมไปในพริบตา โบ๋เวินเสื้อคลุมฟ้าเปลี่ยนเป็นดำ ทั้งร่างส่งกลิ่นไหม้รุนแรงออกมา วิชานี้หากมิใช่คับขันจวนเจียนเขาจะไม่ใช้ออกเด็ดขาด เพราะการโจมตีวงกว้างนี้ทำร้ายแม้กระทั่งผู้ใช้
วิชาเอกของสำนักเมฆมังกรคือหยิบยื่นเลียนแบบวิชาของฟ้า เมฆไม่เพียงสามารถเหยียบขี่ ทว่ามีความสามารถดั่งเมฆที่จริงแท้ เมฆจริงมีฝน เมฆมังกรก็มีฝน เมฆดำมีสายฟ้า เมฆมังกรก็สามารถปล่อยสายฟ้า น่าเสียดายที่การต่อู้ั้ี้จำกัดอยู่ในโรงเตี้ยม มิใช่บนยอดเขา หากต่อู้กันปลายฤดู ที่มักมีฝนตกจะยิ่งทำให้เขาได้เปรียบแล้ว
รุ่ยซวนหอบหายใจอย่างหนักหน่วง แขนทั้งสองข้างห้อยลง ทั้งร่างส่งกลิ่นไหม้รุนแรง ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเผือดราวกระดาษ แขนเขาบาดเจ็บสาหัส เป็นบาดแผลเหวอะหวะราวกับถูกราชสีห์ขย้ำ เศษผ้าสีดำขยับเขยื้อนกำลังม้วนพันแขนทั้งสองข้างห้ามเลือดไม่ให้ไหลมากเกินไป
โบ๋เวินโคจรพลังจำกัดพิษ ยามนี้ทั้งสองอยู่ในช่วงคับขัน ไม่มีผู้ใดกล้าขยับเขยื้อน เปลี่ยนเป็นคุมเชิงซึ่งกันและกัน
โรงเตี้ยมพังไปครึ่งแถบ ด้านนอกเริ่มมีชาวบ้านมามุงดู แต่เพราะรู้สึกถึงอันตราย จึงยืนชมอยู่ไกลๆ ไม่กล้าเข้าใกล้มากนัก
ไท้หยูพอเห็นบุรุษชุดแพรไหมเปลี่ยนพัดเป็นสีขาวพลันรู้สึกถึงอันตรายมากมายถาโถม เมื่อหิมะหายไปเขารู้สึกว่าอากาศในโรงเตี้ยมเปลี่ยนเป็นหนืดข้น ทุกสิ่งรอบด้านคล้ายอยู่ในบึงโคลน แม้แต่ตนเองก็ขยับเขยื้อนช้าลงส่วนหนึ่ง
บุรุษชุดแพรไหมยิ้ม สองตาเย็นชานัยน์ตาดำลุ่มลึกราวมหรรณพปรากฏอักขระไหลหลั่งออกมา
ผู้ฝึกพยุหะเชี่ยวชาญการใช้สิ่งแวดล้อมสังหารคน ในระดับแรกรับแสงปราณ ไม่มีความสามารถใด เพียงสามารถรับรู้เสียงของสรรพสิ่งที่อยู่รอบด้าน ได้ยินและสื่อสารกับสิ่งแวดล้อม
เมื่อเลื่อนสู่ระดับหลอมจิต จะสามารถดึงพลังหนึ่งส่วนจากสิ่งแวดล้อม อย่างเช่นต้นไม้ พวกเขาสามารถดึงพลังจากต้นไม้ใช้สอดส่องสิ่งรอบด้าน คล้ายส่งจิตเข้าไปในต้นไม้มองสังเกตสิ่งรอบด้าน ผู้ฝึกพยุหะสามารถดึงพลังจากสิ่งต่างๆได้ ยกเว้นสิ่งมีชีวิต
เมื่อถึงระดับรวมกาย จะสามารถเปลี่ยนสรรพสิ่งเป็นอักขระ อักขระหนึ่งตัวมีพลังแฝงของสิ่งที่เลียนแบบมาจากสิ่งนั้น อย่างเช่นเมื่อครู่ มีหิมะตก นั้นเป็นอักขระที่เลียนแบบจากหิมะ
เมื่อหิมะตกใ่ยังบาดผิวหนัง เป็นอักขระสองชั้นที่เลียนแบบความแหลมคมกับหิมะเข้าด้วยกัน แต่ในระดับรวมกายยังไม่สามารถปลดปล่อยอักขระตามใจชอบเช่นนี้ ที่ทำได้มากสุดคือการวางอักขระด้วยตนเอง เป็นเสมือนการวางกับดัก ขีดพยุหะเอาไว้
ความสามารถระดับที่บุรุษชุดแพรไหมใช้ออกเป็นความสามารถของระดับจิตไร้ขอบ สามารถปลดปล่อยอักขระโดยไม่ต้องวางไว้ สามารถเลียนแบบพลัง จนใช้สร้างจากสิ่งที่ไม่มี ปลดปล่อยหิมะให้ตก แน่นอนว่าความสามารถที่เหนือชั้นของบุรุษชุดแพรไหม มีส่วนช่วยสำคัญมาจากพัดมังกรในมือของเขา
พัดมังกรเล่มนี้เป็นพัดที่บรรจุอักขระเลียนแบบไว้มากมาย แน่นอนว่าด้วยระดับของบุรุษชุดแพรไหม ย่อมไม่มีทางจดจำและเลียนแบบอักขระมากมายระดับนี้ ทั้งยังใช้ออกโดยไม่กลัวเปลืองพลังปราณ ทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นพลังจากพัดมังกรที่ไม่ทราบที่มาเล่มนี้
ผู้ฝึกพยุหะไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธ เอ่ยถึงด้านพลังรบโดยตรงพวกเขาอาจอ่อนด้อย ทว่าสิ่งที่พวกเขาเชี่ยวชาญคือการวางกับดักหรือการแปลงเลียนแบบ ในการต่อู้ ผู้ทีู่้ด้วยยากที่สุดคือผู้ฝึกพยุหะ เพราะการต่อู้ของพวกเขาพิสดารและพลิกแพลงได้มากยิ่ง
อักขระไหลออก เศษซากไม้ที่แตกกระจายพลันถูกอักขระห้อมล้อมจากนั้นลอยขึ้น อักขระเปล่งแสงเจิดจ้า เศษไม้ทั้งหมดลอยขึ้นกลายเป็นกระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งยาวสามจั้ง ไท้หยูอยู่ห่างจากบุรุษชุดแพรไหมไม่มาก เมื่อกระบี่เศษไม้ปรากฏขึ้นก็แทบจะจ่ออยู่ตรงหน้าเขา ปลายกระบี่ห่างเพียงไม่หนึ่งจั้ง
ด้านกำลังรบ บุรุษชุดแพรไหมผู้นี้หนึ่งคนยังแข็งแกร่งกว่าสองเจ้าสำนักพิรุณพายุและเมฆมังกรรวมกันเสียอีก
ดาบของไท้หยูใช้ไม่ได้ มีเพียงโล่ที่สามารถป้องกันได้ ทว่าภายใต้กระบี่ยักษ์ที่แฝงพลังมหาศาล แม้นว่ารวมโล่และร่างเหล็กดาราเขายังไม่มั่นใจว่าสามารถป้องกันได้ กระบี่นี้อาจไม่ทำให้เขาตายทว่าสามารถทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้อย่างแน่นอน
เมื่อเขาบาดเจ็บสาหัส บุรุษชุดแพรไหมที่สร้างการโจมตีได้ไม่จำกัดผู้นี้ คงสามารถปลิดชีพเขาได้ในไม่กี่กระบวนท่า ห้วงคับขันไท้หยูกำลังครุ่นคิด เวลาคล้ายเชื่องช้าลง สมองแล่นอย่างรวดเร็ว คำนวณหาวิธีร้อยพันเพื่อเอาชนะ
ยามนั้นะาทองเหลืองพลันลอยออกมา สิ่งที่แย่งชิงจากเจ้าสำนักเมฆมังกร
บุรุษชุดแพรไหมขมวดคิ้วคล้ายเอะใจ แน่นอนว่าเขาย่อมคุ้นเคยกับะาทองเหลืองนี้ ทว่ายังเขามองไม่ออกว่าไท้หยูนำของสิ่งนี้ออกมาทำไม ระหว่างกระบี่ยักษ์กำลังก่อตัว บุรุษชุดแพรไหมจึงเอ่ยขึ้นว่า
“วิธีนี้ของเจ้าใช้ไม่ได้ผล แม้นว่ากลืนมังกรจะมีความสามารถดึงวิญญาณได้ทุกสิ่ง แต่ความสามารถนี้ของกลืนมังกรมาจากสายพยุหะ แน่นอนว่าข้าย่อมมีวิธีป้องกันไม่ให้วิญญาณของตนเองหลุดออกจากร่าง”
แม้นปากกล่าวเช่นนี้ทว่าในใจกลับคาดหวัง เขากำลังคาดหวังให้ไท้หยูสร้างปรากฏการณ์แปลกประหลาดออกมา เขายังคิดชมดูว่าจะเกิดเหตุเช่นตอนสองเจ้าสำนักหรือไม่
หลังจากเห็นเหตุการณ์นั้นเขาอกสั่นขวัญแขวนอยู่ไม่น้อย หลังจากกลับไปรายงานให้เจ้านายฟังแล้ว เหล่าระดับสูงต่างลงความเห็นว่านั้นไม่ใช่พลังของเขา คาดว่าเป็นพลังจากของวิเศษหรือวิธีการบางอย่าง ยิ่งไม่สามารถใช้ได้ตามใจนึก เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีพลังเช่นนั้นอยู่ในโลก
เขายังได้รับคำสั่งมา หากเป็นไปได้ต้อนให้เขาจนมุมและใช้ของวิเศษชิ้นนั้น เมื่อใดที่เขาใช้ของวิเศษจะมีคนจัดการกับเขา แย่งชิงของชิ้นนั้นมา การที่กล้าลงมืออย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ พวกเขาย่อมมั่นใจว่ามีคนที่มีความสามารถจะสังหารเขาได้
ะากลืนมังกรตอนนี้ไร้ซึ่งวิญญาณอาวุธ กลายเป็นะาเปล่าที่มีความสามารถดึงวิญญาณที่ด้อยลง ทว่าจุดประสงค์ของเขามิใช่ดึงวิญญาณของบุรุษชุดแพรไหม ทว่าเป็นวิญญาณของอักขระ
อักขระเลียนแบบสิ่งของ ย่อมมีพลังวิญญาณ เมื่อปากะาจ่อใ่กระบี่ยักษ์ อักขระพลันหม่นแสงลง บุรุษชุดแพรไหมรับรู้ถึงความผิดปกติ ทราบแผนการของไท้หยู จึงไม่รอรวบรวมพลัง ปลดปล่อยกระบี่ยักษ์ออก
กระบี่ยักษ์แทงใ่ ไท้หยูถือโล่ต้านทาน กระบี่ยักษ์ยาวสามจั้ง ตัวเขากลายเป็นกระจ้อยร่อยกว่ายิ่ง เมื่อกระบี่ปะทะกับโล่สีดำ ตัวกระบี่สั่นสะเทือนจากนั้นแตกออกกลายเป็นกระบี่เล็กนับร้อยนับพัน พุ่งฉวัดเฉวียนแทงใ่สี่ด้านของไท้หยู คิดจะแทงเขาให้พรุนในคราเดียว
ไท้หยูกรอกลมปราณมหาศาลใ่ โล่ดำระเบิดพลังออกเป็นวงอากาศบังเกิดกระดองเต่าที่สมบูรณ์ครอบใ่ไท้หยู ผุยผงจากไม้มากมายปลิวเวียนว่อน รอบด้านไท้หยูบังเกิดเปลวไฟลุกโชน
กระบี่มากมายถี่ยิบยิ่งกว่า-่าฝน โล่สีดำต้านรับ ถูกกระบี่มากมายแทงใ่จนร้อนลวก สองแขนของไท้หยูสั่นสะท้าน กระดูกแขนแหลกเป็นหลายชิ้น ฝ่ามือง่ามมือฉีกขาดโลหิตไหลริน
ขณะต้านทาน บุรุษชุดแพรไหมพลันหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา กระดาษสีเหลืองเขียนอักษรชาด แฝงกลิ่นอายฆ่าฟันเข้มข้นมหาศาล กระดาษเขียนคำว่า “ดับสูญ”
ยันต์ใบนี้จึงเป็นอาวุธสังหารที่แท้จริงของบุรุษชุดแพรไหม
ยันต์ที่เขียนโดยผู้ใช้ยันต์ระดับเทพปรากฏ เป็นหนึ่งในยันต์สายโจมตีที่น่าสะพรึงกลัว ยันต์สีดำถูกเผาไหม้ อากาศพลันหยุดนิ่ง ปกคลุมด้วยกลิ่นอายของความตาย
โต๊ะ เก้าอี้ที่ยังสมบูรณ์ดีพลันสลายเป็นผุยผง จากผุยผงสลายกลายเป็นไม่มี เสา ขื่อคาน ผนัง หลังคาสลาย ทุกสิ่งทุกอย่างสลายเป็นผุยผงจากผุยผงหดหายเป็นความไร้ กระบี่มากมายแตกระเบิดออก สภาวะทำลายระเบิดใ่ร่างของไท้หยูจนอาภรณ์ฉีกขาด ทั้งร่างชุ่มโชกด้วยเลือด โรงเตี้ยมสองชั้นพังทลายกลายเป็นที่โล่งว่าง
ยามนั้นการสูญสลายมาถึงเบื้องหน้า วงอากาศที่ก่อตัวเป็นกระดองเต่าสูญสลาย โล่สีดำของไท้หยูเปลี่ยนเป็นซีดเซียว ไท้หยูรับรู้ถึงอันตรายพลันพุ่งถอยไปด้านหลัง
บุรุษชุดแพรไหมโบกพัดที่กลับเป็นสีเหลือง ที่ด้านหลังไท้หยูบังเกิดอักขระมากมายก่อเป็นกำแพงกั้น ไม่ให้เขาพุ่งถอยกลับไป
ยามนี้เขารู้ขีดจำกัดของตนเองแล้ว เขาู้ผู้อื่นไม่ได้
คราก่อนเพราะได้ชมการต่อู้สุดระทึกของสองเฒ่าทำให้เขากระหยิ่มย่องใจ ทั้งเพราะอยู่ในเทือกเขาหยกที่มีมหาพยุหะค่อยช่วยเหลือ ทำให้เขาเผลอไป
ความสามารถของเขามิได้เก่งกาจดั่งที่คาดคิดไว้ เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าระดับจิตไร้ขอบซึ่งตนเองเคยไปถึง เขากลับู้อีกฝ่าไม่ได้
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??