เรื่อง กัมปนาท
“มึงกลับไปเดี๋ยวนี้!”
เสียงกระซิบเร่งเร้าของอรดังแผ่วพร่า ทว่าเต็มไปด้วยแรงกดดัน เธอพยายามสะกดเสียงให้เบาที่สุดเพื่อมิให้ร่างที่กำลังไล่ล่าข้างหน้าล่วงรู้ ก่อนจะหันไปไล่ก้านพลูให้ถอยกลับ
“กูไม่กลับ ถ้ามึงไม่กลับไปกับกู” น้ำเสียงของก้านพลูหนักแน่นและจริงจังเกินกว่าจะตีความว่าเป็นเพียงการดื้อดึง
“คำปุ่น!”
อรเรียกกุมารน้อยด้วยความหวังเต็มเปี่ยมว่าจะให้มาช่วยพาตัวก้านพลูออกไปจากที่นี่ ทว่าเสียงก้านพลูกลับแทรกขึ้นอย่างฉับพลัน
“น้องไม่มาหรอก…”
คำพูดนั้นกระแทกหูหนักหน่วงจนหัวใจอรเต้นสะดุด ราวกับก้านพลูรับรู้บางสิ่งที่เธอเองยังไม่เข้าใจ ลำตัวของก้านพลูสั่นไหวเล็กน้อย ทว่าแววตากลับไม่หลบเลี่ยง
แต่เวลานี้ไม่อาจหยุดอยู่กับที่ เธอสะบัดความคิดออกไป แล้วรีบหันกลับไปยังทิศทางที่ยาเดินลับตา อรจึงเร่งก้าวกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปข้างหน้า โดยมีก้านพลูติดสอยห้อยตามไปด้วย
“เมย์!”
พวกเธอเดินตามทางไปได้ไม่นานนัก ก็พบร่างของเพื่อนร่วมคณะ ‘เมย์’ นอนแน่นิ่งอยู่กลางเส้นทาง พออรสาวเท้าเข้าไปใกล้ ความจริงที่เผยปรากฏหาใช่เพียงคนที่สลบไป หากทว่าร่างนั้นกลับซูบซีดแห้งเหี่ยว หนังตึงติดกระดูก ศีรษะโกร๋น ดวงตาเบิกโพลงแข็งค้าง ริมฝีปากอ้าออกกว้างดุจถูกตรึงด้วยเสียงกรีดร้องครั้งสุดท้าย… เมย์สิ้นลมหายใจไปแล้วอย่างมิอาจย้อนกลับ
ก้านพลูสะท้านเฮือก ก่อนจะเขยิบเข้ามาใกล้อรจนชิด มือบางเกาะแขนของอรแน่น ราวกับหวังยึดเหนี่ยวสติจากความหวาดกลัวที่ก่อตัวขึ้นรอบกาย ลมหนาวหอบใหญ่พัดโหมเข้ามา เสื้อผ้าของพวกเธอสะบัดปลิวว่อนตามแรงลม บรรยากาศหนาวเย็นห่มคลุมไปทั่วจนถึงกระดูก เบื้องหน้าของทั้งคู่ คือจุดหมายที่อรรู้แก่ใจตั้งแต่แรกว่า ยา จะต้องมุ่งตรงมาที่นี่อย่างไม่ผิดเพี้ยน
เขากาฬภพ
อรค่อย ๆ ก้าวเท้าเข้าใกล้หน้าผา ฝ่าดงไม้ใหญ่ที่กิ่งก้านแผ่ห้อยระโยงลงมาตามทางราวกับบานประตูมืดหม่น กั้นสิ่งลี้ลับบางอย่างไว้อย่างแน่นหนา และเป็นไปตามที่เธอคาด ร่างของยา กำลังยืนแน่นิ่งอยู่ตรงปลายหน้าผานั้น
“อึก…ฮืออออ”
ก้านพลูบีบแขนอรแน่นยิ่งกว่าเดิม ใบหน้าเล็กซุกหลบแผ่นหลังของอร ราวกับไม่กล้าแม้จะปรายตามองภาพเบื้องหน้านั้น เธอจับแขนอรไว้แน่นเพื่อไม่ให้เดินไปหาร่างตรงหน้า แต่กลับไม่เป็นผล
“ยา!”
เสียงตะโกนของอรดังก้องสะท้อนลั่นไปทั่วผืนป่าราวกับจะปลุกสติผู้ที่ถูกจองจำอยู่ในเงามืดให้ตื่นขึ้นตามที่เธอนั้นคาดคิดไว้ เธอเปล่งเสียงเรียกตั้งใจให้เพื่อนที่เธอเชื่อว่ากำลังถูกสิงอยู่นั้นได้ยิน แต่ร่างซึ่งยืนแน่นิ่งอยู่ตรงปลายหน้าผากลับไม่สะทกสะท้าน ไม่แม้แต่จะเหลียวตามองมา
“ยา!” อรตะโกนเรียกอีกครั้ง คราวนี้พร้อมก้าวเท้าเข้าใกล้ร่างตรงหน้ามากขึ้น ขณะที่ก้านพลูยังคงยืนนิ่งอยู่เบื้องหลัง สองเท้าราวกับถูกตรึงไว้ด้วยความหวาดกลัวจนไม่อาจขยับตามไปได้
“โบราณเพิ่นเอิ้นว่า… ‘ฮู้ว่าเป็นงูพิษ กะยังสิเลี้ยง’ … บ่เคยได้ยินบ่ แม่หมอ?”
เสียงเอื้อนเอ่ยนั้นแผ่วเรียบ ทว่าก้องสะท้อนเย็นเยียบออกมาจากร่างของยา ซึ่งยังคงหันหน้าออกสู่ความเวิ้งว้างของหน้าผา ก่อนค่อย ๆ หมุนกายกลับมาเผชิญกับอรโดยช้า ๆ
สายตาที่สบมานั้นไม่ใช่แววตาของยาที่อรรู้จักอีกต่อไป ดวงตากลมคู่นั้นแข็งทื่อ เย็นชา ไร้ชีวิต ราวกับสิ่งมีชีวิตที่กำลังยืนตรงหน้าคือ เปลือกของยา หาใช่เพื่อนที่เคยพูดคุยกันเหมือนวันวาน สีหน้าและท่าทางภายนอกยังคงเป็นคนเดิม ทว่าในดวงตาที่กลายเป็นกระจกสะท้อนความมืดนั้น มีเพียงความน่ากลัวที่ค่อย ๆ กลืนกินบรรยากาศรอบข้างไปอย่างช้า ๆ “มาแล้วบ่ อิผีจัญไร”
เสียงเย็นเยียบแฝงแรงอาฆาตดังลอดออกมาจากริมฝีปากของอร น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยพิษแห่งความชิงชัง จนทำให้บรรยากาศรอบกายหนักอึ้งลงในบัดดล
“ฮึ…”
เสียงหัวเราะต่ำในลำคอราวกับเย้ยหยันดังสะท้อน ก่อนที่ผืนฟ้าจะกรีดร้องกึกก้อง สายฟ้าผ่าลงกลางป่าอย่างดุดัน ลมแรงหอบหวิวกรากผ่านกิ่งไม้ใบหญ้าโอนเอนไปทั่วราวกับโลกทั้งผืนกำลังสั่นสะเทือน ราวกับสวรรค์และปฐพีกำลังเปิดทางให้สองผู้แกร่งอาคมได้เผชิญหน้ากันในค่ำคืนนี้
“บ่ได่พ้อกันนาน สติสตังบ่มีอยู่กับโตเลยบ่” มันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน
“ไปเสีย ผีจัญไรคือมึง สู้อาคมพ่อกูบ่ได่ดอก”
“ฮึ….”
“แล้วต่อกัน กลับหลุมมึงไป แล้วกูสิไว้ซีวิตมึง อย่าสร้างเวรสร้างกรรมคือกันอีกเลย”
“ฮึ…ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ” มันตรงหน้าหัวเราะร่าราวกับสติหลุด “มึงคึดว่าอาคมส้นตีนของพ่อมึงสิทำอิหยังกับข่อยได้แม่นบ่?…..อั่น ถ้าเฮ็ดได่ เป็นจั่งได๋ ข่อยถึงแดกเด็ก ๆ ทั่วหมู่บ้านคือจั่งซี่ได่ล่ะแม่หมอ…ฮึฮึ”
คำพูดของมันเหมือนเข็มที่จี้เข้าตรงกลางใจของอร ทำให้อารมณ์ที่เธอพยายามสงบนิ่งตั้งแต่ต้น เริ่มเดือดพล่านทวีคูณขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ร่างของยาที่เธอรู้จัก กำลังถูกบงการให้ต่อกรกับเธอเอง ราวกับเงาที่เคลื่อนไหวตามคำสั่งของผีร้าย ทุกท่าทาง ทุกการเคลื่อนไหวของยาเต็มไปด้วยความแข็งกร้าวและไร้อารมณ์ความเป็นตัวเอง ทำให้อรทั้งสับสน ทั้งโกรธ และหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน
“มึงออกไปจากหมู่กูซะ แล้วมาคุยกันโตต่อโต”
“ฮึ…มึงนี่มันปึกแท้หน้อแม่หมอ”
อรไม่ใส่ใจคำพูดเยาะเย้ยนั้นอีกต่อไป เธอก้าวเท้าอย่างมั่นคง มุ่งตรงไปทางหน้าผาเพื่อจะเข้าไปหา
“มึงฮู้บ่ ว่านี่เขากาฬภพ ฮู้บ่ ว่านี่ถิ่นไผ?” ราวกับเป็นคำขู่ แต่ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว สีหน้าเย้ยหยันของมันมิได้มีเจตนาจะทำให้อรหวาดกลัว เพียงแต่ต้องการปั่นประสาทและทดสอบความอดทนของเธอเท่านั้น
“นี่คือคำเตือนสุดท้าย กูบ่สนเด้อ ว่ามึงสิไซ้ร่างไผ กูเอามึงลงหม้อได้บ่ยากเด้อ”
คำเตือนของอรแทบไม่กระเทือนผีร้ายตรงหน้า มันยังคงทำหน้าเยาะเย้ยราวกับเล่นสนุกอยู่กับความพยายามของเธอ
สองมือของอรค่อย ๆ ประสานกันแน่นตรงหน้าอก ราวกับต้องการยึดเหนี่ยวจิตใจตัวเองไม่ให้สั่นไหว ท่ามกลางป่าลึก เสียงลมซุกซนพัดผ่านยอดไม้ ทำให้กิ่งก้านไหวพลิ้ว เหล่าใบไม้สั่นสะท้อนเสียงลมเบา ๆ ราวกับเป็นเสียงกระซิบลึกลับก้องอยู่รอบตัวเธอ เสียงเอ่ยเชิญพระภูมิ เจ้าที่เจ้าทาง ดังก้องกังวานในใจของเธอ เสียงนั้นทาบทับกับความสับสน ความหวาดกลัว และความมุ่งมั่นในเวลาเดียวกัน
“ข่อยขอเชิญพระภูมิ เจ้าที่เจ้าทาง โปรดสถิตอยู่เคียงข้างข่อย คุ้มครองพิธีนี้ให้สำเร็จทุกประการ…” เสียงของอรทุ้มต่ำ แต่ชัดเจน ราวกับทุกคำพูดมีแรงสั่นสะเทือนที่พลังอาคมสามารถสัมผัสได้
เธอเริ่มท่องอาคมอย่างระมัดระวัง จิตใจจดจ่อกับทุกถ้อยคำ มือขยับเป็นจังหวะสอดคล้องกับเสียงปรับจังหวะลมหายใจ ร่างกายของเธอสั่นเพียงเล็กน้อยจากความเครียดและพลังงานที่สะสมอยู่ภายใน
“โอม อาคูรี รามี หมัญญา อาลี ภติมันต์ ยะทามะ พาทา…” เสียงอาคมนั้นสะท้อนผ่านผืนป่า ราวกับเรียกสิ่งเร้นลับและพลังจากเบื้องบนให้เข้ามาคุ้มครอง
แต่แล้ว เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้น ปนความเย็นเยียบ ทำให้จิตใจเธอเกร็ง แข็งทื่อ เสียงหัวเราะนั้นมาจากร่างของยาที่ถูกสิงอยู่ มันหัวเราะใส่อรอย่างไร้ความเมตตา ปลุกความหวาดกลัวขึ้นในใจเธอ
“ฮึ ฮึ ฮึ…..”
“อร!!! ฮือออออ!” เสียงก้านพลูเรียกชื่อเธอสั่นพร่า แต่เธอกลับไม่สนใจ จิตใจของเธอมุ่งมั่นกับสิ่งตรงหน้า แววตาแน่วแน่ไม่หวั่นแม้เพียงเงาของความตาย
“ทุติยัมปิ ภาคะมณี สุวะชันต์ รามี” เสียงอาคมยังคงดังขึ้นต่อเนื่อง จังหวะของเสียงนั้นเหมือนสร้างเกราะบาง ๆ ปกป้องตัวเธอจากพลังมืดที่กำลังพยายามเข้าครอบงำ
ในขณะที่อรยังท่องอาคม ป่ารอบ ๆ กลับสงบลงราวกับเวลาถูกชะลอ มีเพียงเสียงอาคมของเธอและเสียงหัวเราะของปีศาจที่แฝงอยู่ในร่างของยา
“หมัญญา อาลี ราติมันต์ ยะทามะ โอม” เมื่อเธอเอ่ยจบ ทุกสิ่งทุกอย่างกลับสงบนิ่ง ดวงตาเธอมองไปรอบ ๆ ความเงียบมืดสงัดคลุมปกป้องร่างของเธอเหมือนปกติ ร่างตรงหน้าไม่ไหวติง ตาของทั้งคู่ประสานกันอย่างไม่ลดละ
ครู่หนึ่ง ร่างของยากลับกระตุกและร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด ราวกับว่าอาคมเมื่อครู่นั้นได้ผลเป็นอย่างดี ใบหน้าเริ่มแหงนขึ้นเหนือฟ้า ลำคอเริ่มปูดโปนด้วยเส้นเลือด ร่างของยาค่อย ๆ ทรุดลงผืนทรนีด้วยความทุกทรมาน
“ยา!” อรที่เห็นดังนั้นจึงจะเข้าไปช่วยยา แต่กลับถูกก้านพลูรั้งเอาไว้ เธอยังคงร้องไห้หวาดหวั่นออกมาด้วยความกลัว ก่อนจะค่อย ๆ ดึงอรถอยห่างจากร่างของยาที่กำลังชักด้วยความทรมาน
“ฮึ ฮึ….”
แต่ร่างของยานั้นทรมานอยู่ไม่นาน เสียงหัวเราะในลำคอของเธอสะท้อนดังขึ้น ร่างที่ทรุดลงอย่างทรมานก่อนหน้าค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นมา ราวกับไม่เจ็บปวดกับอาคมก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง
“ข่อยบอกแล้วบ่ ว่าอาคมส้น-ีนของแม่หมอ ทำอีหยังข่อยบ่ได้ดอก"
ว่าจบมือของยากลับพุ่งมากระชากคอของก้านพลูไปเผชิญตรงหน้าก่อนเอ่ยมนต์ดำที่ไม่กล้าที่จะได้ยิน
“กะตะมาเร โชวะบันตา อัตตา มานา สัมภะวะ โน มะตา พา”
“ไม่!”
“แอ่ก ๆ”
มันท่องออกมาด้วยความรวดเร็ว มือบีบที่ต้นคอของก้านพลูแน่น เสียงไอของก้านพลูดังถี่เพราะหายใจไม่ออก
“จงหลุดจากเนื้อ จงละจากกาย จงมอบให้ข้า ผู้หิวกระหาย ชีวา วิญญา สังเวย นามสิ้น ซากสูญ”
ไม่ทันที่อรจะได้ยื่นมือเข้าช่วย มนต์ดำของมันก็จบลงพอดี ผนวกกับร่างของก้านพลูที่ค่อย ๆ กระตุกไปบทสวดสูบวิญญาณของผีร้าย
“ไม่! ไม่! ก้าน!” เสียงอรตะโกนด้วยความสิ้นหวัง
แต่ทุกอย่างช้าไปเสียแล้ว ลำตัวของก้านพลูค่อย ๆ พองขึ้นอย่างน่ากลัว ทำให้ขายืนไม่อยู่กับที่ คอพองเป่ง ตาเหลือกโพลน ปากอ้ากว้าง ราวกับร่างของเธอกำลังถูกผีร้ายจับจ้องและกลืนกิน กลุ่มควันโขมงลอยออกจากลำคอ ลามผ่านปากของก้านพลู ก่อนจะถูกดูดเข้าสู่ร่างของยาอย่างรวดเร็ว
“ไม่!!!!!!!!” เสียงกรีดร้องของอรดังลั่น ผสมกับความหวาดกลัวที่กัดกินหัวใจ
ร่างของก้านพลูหลุดร่วงจากมืออรที่พยายามประคองไว้แน่น บัดนี้กลับกลายเป็นร่างไร้วิญญาณ ไม่ต่างจากซากศพ ร่างที่ครั้งหนึ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวา กลายเป็นปริศนาอันน่าสยดสยองที่อรต้องเผชิญเพียงลำพัง
“ฮึ ฮึ ฮ่า ฮ่่า” เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังก้องกังวานในป่าราวกับท้าทายความทุกข์ทรมานของอร
“มึงฮู้บ่ แม่หมอ ว่าข่อยเก็บอีนี่ไว้ ให้ถึกมื้อแบบนี่ล่ะ… มื้อที่มึงซอยไผบ่ได้ แม้แต่อยู่ตรงหน้า สะใจกูอิหลี ฮ่า ฮ่า”
ความโกรธเยือกเย็นผสมกับความหวาดกลัวก่อตัวขึ้นในใจอร ร่างกายสั่นสะท้าน แต่สายตายังคงจับจ้องไปที่ผีร้ายตรงหน้า ทุกความเจ็บปวด ความสูญเสีย และความสิ้นหวัง ผสมรวมเป็นพลังเงียบ ๆ ที่เตรียมจะระเบิดออกมาอย่างไม่อาจยับยั้.
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??