เรื่อง มหาตำนานวิถีสวรรค์: จารึกมังกรบรรพกาล
บที่ 927: รังไหมสีเลือดและผู้ถักทอความตาย
ความเงียบคือสิ่งี่น่ากลัวี่สุดในป่าทมิฬ
มันไม่ใช่ความเงียบสงบยามราตรี แต่เป็นความเงียบี่เกิดจากการ "สูญหาย" ของสรรพเสียง แมลงกลางคืนี่เคยส่งเสียงระงมหยุดร้อง ลมี่เคยพัดผ่านยอดไม้หยุดนิ่ง แม้แต่เสียงฝีเท้าของสัตว์อสูรี่ออกหากินก็เลือนหายไป ราวกับว่าโลกใบนี้ถูกตัดขาดออกจากความเป็นจริง
เย่เฟิงหยุดเดินกะทันหัน เขาไม่ได้ส่งสัญญาณมือ แต่แผ่นหลังี่เกร็งตัวขึ้นภายใต้เสื้อคลุมขาดวิ่นนั้น เป็นสัญญาณี่ชัดเจนยิ่งกว่าคำพูด
"หยุด" เขาออกคำสั่งเสียงแผ่วเบา
หลงจ้านและเฟิ่งซีอิงหยุดชะงักทันที หลงจ้านกวาดตามองไปรอบๆ ด้วยความงุนงง เบื้องหน้าของพวกเขามีเพียงทางเดินโล่งกว้างระหว่างต้นไม้ใหญ่ ดูปลอดภัยและเชื้อเชิญให้เดินต่อไป
"มีอะไรหรือนายท่าน?" หลงจ้านกระซิบถาม "ข้าไม่เห็น..."
"อย่าขยับ" น้ำเสียงของเย่เฟิงเฉียบขาด "แม้แต่นิ้วเดียว"
เย่เฟิงก้มลงหยิบก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นขึ้นมาจากพื้น เขาชั่งน้ำหนักมันในมือครู่หนึ่ง ก่อนจะดีดนิ้วส่งหินก้อนนั้นพุ่งออกไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง
ฟุ่บ!
ก้อนหินพุ่งฝ่าความมืดไปได้เพียงสามก้าว...
กริ๊ก.
เสียงเบาหวิวดังขึ้น มันฟังดูเหมือนเสียงเส้นผมขาด แต่ผลลัพธ์กลับน่าสะพรึงกลัว
ก้อนหินก้อนนั้นแยกออกเป็นสองส่วนกลางอากาศ รอยตัดเรียบเนียนราวกับถูกผ่าด้วยเลเซอร์ ก่อนี่เศษหินทั้งสองชิ้นจะร่วงลงสู่พื้นดิน
หลงจ้านกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เหงื่อเย็นซึมออกมาตามแผ่นหลัง หากเมื่อครู่เย่เฟิงไม่สั่งหยุด ร่างของเขาคงกลายเป็นสภาพเดียวกับก้อนหินนั้นไปแ้
"เส้นใยวิญญาณ..." เฟิ่งซีอิงพึมพำ นัยน์ตาของนางส่องประกายเรืองรองเมื่อนางโคจรพลังเนตรดารา "มันบางจนตาเปล่ามองไม่เห็น และคมกริบยิ่งกว่ามีดดาบ... มันขึงอยู่เต็มไปหมด"
"ไม่ใช่แค่ขึงอยู่..." เย่เฟิงกล่าว เขาหลับตาลง ปล่อยให้ 'ญาณทิพย์' ี่หลงเหลืออยู่ทำงานผสานกับประสาทสัมผัสอันเฉียบคมของกายาบรรพกาล
ในคลองจักษุของเขา ความมืดเบื้องหน้าไม่ได้ว่างเปล่า แต่มันคือ 'ตาข่ายมรณะ' ี่ถักทอซ้อนทับกันหลายสิบชั้น เส้นใยเหล่านี้ไม่ได้อยู่นิ่ง แต่มันสั่นไหวแผ่วเบาตามจังหวะชีพจรของบางสิ่ง... บางสิ่งี่กำลังรอคอยเหยื่ออยู่ี่ปลายทาง
"มันคือค่ายกล..." เย่เฟิงลืมตาขึ้น แววตาของเขาสงบนิ่งแต่น่ากลัว "ค่ายกลี่มีชีวิต"
เขาหันไปหาสหายทั้งสอง
"เดินตามรอยเท้าข้า... อย่าให้พลาดแม้แต่ชุ่นเดียว"
เย่เฟิงก้าวเท้าออกไป ไม่ใช่การเดินตรงๆ แต่เป็นการเคลื่อนไหวี่บิดเบี้ยวและแปลกประหลาด เขาเอียงตัวหลบความว่างเปล่า ก้มศีรษะลอดผ่านอากาศี่ดูเหมือนไม่มีอะไร และก้าวข้ามช่องว่างี่มองไม่เห็น
หลงจ้านและเฟิ่งซีอิงเดินตามอย่างระมัดระวัง ทุกย่างก้าวคือการเดิมพันด้วยชีวิต พวกเขาได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองดังก้องในความเงียบ และทุกครั้งี่เย่เฟิงหยุดชะงัก หัวใจของพวกเขาก็แทบหยุดเต้นตาม
การเดินทางดำเนินไปอย่างเชื่องช้าแต่ตึงเครียด ยิ่งลึกเข้าไป กลิ่นอายบางอย่างก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น
กลิ่น...
มันไม่ใช่กลิ่นเน่าเปื่อยของซากศพทั่วไป แต่เป็นกลิ่นหวานเอียนๆ ี่ชวนให้วิงเวียน กลิ่นของเลือดสดี่ถูกหมักบ่ม และกลิ่นของกำยานประหลาดี่กระตุ้นสัญชาตญาณดิบเถื่อน
ในี่สุด เย่เฟิงก็พาพวกเขาทะลุผ่านตาข่ายมรณะออกมาสู่ลานกว้าง
ภาพี่ปรากฏตรงหน้าทำให้แม้แต่หลงจ้านผู้ผ่านสมรภูมิมานับไม่ถ้วนยังต้องสูดหายใจลึก
มันคือ "วิหาร"
แต่มันไม่ได้สร้างจากหินหรือไม้... มันสร้างจาก "โครงกระดูก" และ "เส้นใย"
ต้นไม้ยักษ์ใจกลางลานกว้างถูกห่อหุ้มด้วยใยสีขาวขุ่นจนกลายเป็นรังไหมขนาดยักษ์ โครงกระดูกของสัตว์อสูรนับร้อย ทั้งวิหคยักษ์ พยัคฆ์ และอสรพิษ ถูกตรึงไว้ตามกิ่งก้านและรากไม้ราวกับเครื่องประดับี่น่าสยดสยอง กะโหลกของพวกมันว่างเปล่า แต่หันหน้าลงมาจ้องมองผู้มาเยือน
และี่ใจกลางของรังไหมนั้น... มีร่างหนึ่งถูกตรึงอยู่
ชายหนุ่มในชุดเกราะทองคำี่แตกหัก ร่างกายของเขาถูกพันธนาการด้วยเส้นใยสีแดงเลือด แขนขาถูกดึงกางออกในท่าตรึงกางเขน ผิวหนังของเขาซีดเผือดไร้สีเลือด ใบหน้าี่เคยสง่างามบัดนี้บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดทรมาน
"องค์รัชทายาท..." เฟิ่งซีอิงกระซิบ นางจำชุดเกราะสัญลักษณ์มังกรนั้นได้แม่นยำ
แต่สิ่งี่น่ากลัวกว่าสภาพของเขา คือสิ่งี่กำลังเกิดขึ้นกับเขา
เส้นใยสีแดงี่พันธนาการร่างของเขาไม่ได้แค่ตรึงเขาไว้ แต่มันกำลัง "สูบ" บางอย่างออกจากร่างของเขา เลือดสีทองจางๆ ไหลซึมออกมาจากบาดแผล ไหลไปตามเส้นใยเหล่านั้น ราวกับท่อลำเลียงอาหาร
ปลายทางของเส้นใย... คือ "ไข่" ขนาดเท่าศีรษะมนุษย์นับสิบฟองี่วางเรียงรายอยู่รอบโคนต้นไม้ ไข่เหล่านั้นเรืองแสงสีแดงวูบวาบตามจังหวะการเต้นของหัวใจ... หรือตามจังหวะการสูบฉีดเลือดของเหยื่อ
"เขายังไม่ตาย..." เย่เฟิงกล่าวเสียงเรียบ "แต่กำลังถูกใช้เป็นปุ๋ย"
"เราต้องรีบช่วยเขา!" หลงจ้านขยับตัวเตรียมพุ่งออกไป
"ช้าก่อน" เย่เฟิงคว้าไหล่ของหลงจ้านไว้ แรงบีบของเขาหนักหน่วงดุจคีมเหล็ก "ดูนั่น"
เย่เฟิงชี้ขึ้นไปด้านบน เหนือศีรษะขององค์รัชทายาท
ในเงามืดของกิ่งไม้ี่สานกันหนาทึบ มีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหว
มันค่อยๆ หย่อนตัวลงมาอย่างช้าๆ เงียบเชียบราวกับควันไฟ
สิ่งแรกี่ปรากฏคือขา... ขาเรียวยาวแปดข้างี่ปกคลุมด้วยขนแข็งสีดำมันวาว ปลายขาแหลมคมดุจหอกเจาะเกราะ
ตามมาด้วยลำตัวี่บวมเป่ง ลวดลายบนท้องของมันดูคล้ายกับดวงตามารี่กำลังจ้องมอง และสุดท้าย... คือส่วนหัว
เฟิ่งซีอิงยกมือขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียงอุทาน
ส่วนหัวของอสูรกายตนนั้น... ไม่ใช่หัวของแมงมุม
แต่มันคือร่างกายท่อนบนของ "สตรี"
สตรีี่มีผิวขาวซีดราวกับหิมะ เส้นผมสีดำยาวสยายปกคลุมแผ่นหลังเปลือยเปล่า ใบหน้าของนางงดงามหยดย้อย แต่ดวงตาของนางกลับมีสีดำสนิทไร้ตาขาว และริมฝีปากสีแดงสดนั้น... กำลังแย้มยิ้ม
ยิ้มี่ฉีกกว้างจนถึงใบหู เผยให้เห็นเขี้ยวแหลมคมี่ซ่อนอยู่ภายใน
"ราชินีแมงมุมหน้าคน..." เย่เฟิงเอ่ยชื่อของมันออกมา น้ำเสียงของเขาแฝงความเคร่งเครียด "สัตว์อสูรบรรพกาลี่ควรจะสูญพันธุ์ไปแ้"
นางพญาอสูรค่อยๆ ไต่ลงมาหยุดอยู่ตรงหน้าองค์รัชทายาท นางใช้มือเรียวยาวลูบไล้ใบหน้าของเหยื่ออย่างแผ่วเบา ราวกับคนรักี่กำลังปลอบประโลม
"อึก..." องค์รัชทายาทส่งเสียงครางในลำคอ เปลือกตาของเขากระตุก แต่ไม่อาจลืมตาขึ้นได้
"หอมหวาน..." เสียงของนางพญาอสูรดังขึ้น มันไม่ได้เป็นคำพูด แต่เป็นคลื่นเสียงี่สั่นสะเทือนเข้าไปในจิตวิญญาณโดยตรง "สายเลือดมังกร... ช่างหอมหวาน..."
นางก้มลงแลบลิ้นยาวเลียเลือดี่ซึมออกมาจากบาดแผลบนแก้มของชายหนุ่ม ดวงตาสีดำสนิทของนางเป็นประกายวาวโรจน์
"นางกำลังจะกินเขา..." หลงจ้านกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน "นายท่าน ข้าทนดูไม่ได้แ้!"
"ใจเย็นไว้" เย่เฟิงสั่ง สายตาของเขายังคงจับจ้องไปี่ศัตรู สมองประมวลผลหาจุดอ่อน "นางไม่ใช่แค่อสูรธรรมดา... กลิ่นอายของนางบิดเบี้ยว มีร่องรอยของพลังงานดาราปะปนอยู่ นางแข็งแกร่งกว่าระดับจักรพรรดิอมตะทั่วไป"
เขาหยิบกริชสั้นออกมาจากเอว เตรียมพร้อมสำหรับการปะทะ
"หลงจ้าน เจ้าอ้อมไปทางซ้าย รอสัญญาณจากข้า เฟิ่งซีอิง เตรียมค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตา... ทันทีี่เราได้ตัวเขา เราต้องหนีทันที"
แต่ในวินาทีี่เย่เฟิงกำลังจะออกคำสั่งโจมตี...
ตูม!!
เสียงะเิกึกก้องกัมปนาทดังมาจากทิศทางตรงกันข้าม!
แรงสั่นสะเทือนทำให้พื้นดินสะเทือนเลื่อนลั่น ต้นไม้รอบข้างสั่นไหว ใบไม้ร่วงกราวลงมาราวกับ-่าฝน
ราชินีแมงมุมชะงักกึก นางหันขวับไปทางต้นเสียง ดวงตาี่เคยยั่วยวนแปรเปลี่ยนเป็นความเกรี้ยวกราดอำมหิต นางกรีดร้องเสียงแหลมสูงี่ทำให้แก้วหูแทบแตก
กี๊ซซซซซซ!
เส้นใยรอบตัวนางสั่นไหวอย่างรุนแรง สัตว์อสูรแมงมุมบริวารนับร้อยตัวพุ่งออกมาจากเงามืด ไต่ยั้วเยี้ยไปทั่วบริเวณ เตรียมพร้อมรับมือผู้บุกรุก
เย่เฟิงรีบกดร่างของสหายทั้งสองลงต่ำ เขาหยิบ 'ชิปผ่านทาง' ขึ้นมาดู
หน้าจอโฮโลแกรมสีแดงฉานกะพริบเตือนภัย
<ตรวจพบสัญญาณพลังงานระดับสูง>
<รูปแบบพลังงาน: ปืนใหญ่พลังปราณสังเคราะห์>
<ฝ่าย: หอสิ้นสลาย / หน่วยกวาดล้างพิเศษ>
"พวกมันมาแ้..." เย่เฟิงกัดฟันกรอด เขามองเห็นเปลวไฟี่เริ่มลุกโชนขึ้นี่ชายป่า ควันไฟสีดำลอยคละคลุ้งขึ้นสู่ท้องฟ้า
กองทัพเงาไม่ได้มาเพื่อลอบสังหารอีกต่อไป
"พวกมันกำลังเผาป่า..." เย่เฟิงกล่าวเสียงเย็น "เพื่อบีบให้เราออกมา"
สถานการณ์พลิกผันอย่างรวดเร็ว จากผู้ล่าี่ซุ่มรอจังหวะ ตอนนี้พวกเขากลายเป็นคนกลางี่ติดอยู่ระหว่างสัตว์ร้ายบรรพกาลและกองทัพมัจจุราช
สมรภูมิสามเส้า... กำลังจะะเิขึ้นแ้
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??