เรื่อง อสุราพลิกฟ้า ท้าบัญชาสวรรค์

ติดตาม
บทที่ 1202: กลิ่นคาวเลือดในหิมะ
บทที่ 1202: กลิ่นคาวเลือดในหิมะ
  • ปรับสีและขนาดตัวอักษร

บทที่ 1202: กลิ่นคาวเลือดในหิมะ


สายลมกรรโชกแรงพัดพาม่านหิมะสีขาวโพลนให้ปลิวว่อนไปทั่วหุบเขาที่เงียบงัน มันไม่ใช่หิมะที่บริสุทธิ์ แต่เป็นหิมะที่เจือปนด้วยเถ้าถ่านสีเทาจากการระเบิดครั้งใหญ่ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ท้องฟ้าเหนือซากปรักหักพังของโรงงานหมายเลข 9 ยังคงมืดครึ้มด้วยเมฆหมอกหนาทึบ ราวกับว่าสวรรค์กำลังไว้ทุกข์ให้กับความตายที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้


ไคยืนอยู่บนซากกำแพงคอนกรีตที่สูงที่สุดในแนวป้องกันรอบนอก ร่างกายของเขาห่อหุ้มด้วยเสื้อคลุมขนสัตว์หนาหนักเพื่อต้านทานความหนาวเหน็บที่กัดกินไปถึงกระดูก แต่เหงื่อเย็นๆ กลับซึมออกมาตามไรผมและแผ่นหลัง


ดวงตาของเขาที่ซ่อนอยู่หลังกล้องส่องทางไกลวิญญาณ กวาดมองไปทั่วภูมิประเทศสีขาวโพลนเบื้องหน้าอย่างไม่วางตา


"เงียบเกินไป..."


เขาพึมพำกับตัวเอง เสียงของเขาแผ่วเบาจนแทบจะถูกกลืนหายไปในสายลม


มันเงียบเกินไปจริงๆ


หลังจากที่เย่เฉินสละแขนขวาเพื่อขับไล่ "ราชินีองค์ใหม่" และยานแม่เนเมซิสออกไป กองทัพหุ่นเชิดของกลุ่มเกล็ดหิมะก็ถอยร่นไปอย่างรวดเร็ว... เร็วและเป็นระเบียบจนน่าขนลุก ไม่มีหน่วยลาดตระเวนหลงเหลือ ไม่มีกับดักทิ้งท้าย ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของสัตว์อสูรท้องถิ่นที่ควรจะกลับเข้ามาหากินในพื้นที่หลังจากสงครามสงบ


สัญชาตญาณของไคกรีดร้องเตือนภัย มันไม่ใช่ความรู้สึกโล่งใจ แต่เป็นความรู้สึกเหมือนหนูตัวเล็กๆ ที่กำลังถูกจ้องมองโดยงูพิษที่ซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า


"หน่วยเงาเหยี่ยว รายงานสถานะ" ไคกดปุ่มสื่อสารที่หู ฟังเสียงซ่าๆ ของคลื่นรบกวน


"ทิศเหนือ... เคลียร์ครับท่านแม่ทัพ" เสียงตอบกลับดังมาจากหน่วยลาดตระเวนที่ 1


"ทิศตะวันตก... ไม่พบสิ่งผิดปกติ"


"ทิศตะวันออก... เงียบสงบครับ"


ทุกอย่างดูปกติ แต่หัวใจของไคกลับเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เขารู้ดีว่าในโลกของผู้ฝึกตน ความเงียบงันมักจะเป็นบทนำของหายนะเสมอ โดยเฉพาะเมื่อผู้นำจิตวิญญาณอย่างเย่เฉินไม่อยู่


เย่เฉิน...


ไคหันกลับไปมองกองซากปรักหักพังขนาดมหึมาที่ทับถมอยู่ใจกลางหุบเขา ภายใต้ภูเขาคอนกรีตและเหล็กกล้านั้น คือที่ที่เพื่อนรักและเจ้านายของเขาถูกฝังอยู่ เย่เฉินสั่งไว้ชัดเจนว่า "ห้ามใครเข้ามารบกวนเด็ดขาด"


คำสั่งนั้นศักดิ์สิทธิ์ แต่ความกังวลในใจของไคก็หนักอึ้งไม่แพ้กัน เขาต้องปกป้องที่นี่... ปกป้องหลุมศพที่มีชีวิตแห่งนี้ด้วยชีวิต


"ทิศใต้..." ไคขมวดคิ้วเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังขาดรายงานจากทิศสุดท้าย "หน่วยลาดตระเวนที่ 4 รายงานสถานะ!"


ความเงียบคือคำตอบ


"หน่วย 4! ได้ยินข้าไหม!" ไคตะโกนใส่เครื่องสื่อสาร เสียงของเขาเริ่มเจือด้วยความร้อนรน


ซ่า... ซ่า...


มีเพียงเสียงคลื่นรบกวนที่ดังตอบกลับมา


"บ้าเอ๊ย!" ไคสบถ เขากำลังจะสั่งให้หน่วยสำรองเคลื่อนที่ไปตรวจสอบ แต่ทันใดนั้น เสียงจากเครื่องสื่อสารก็เปลี่ยนไป


มันไม่ใช่เสียงพูด แต่เป็นเสียง...


แคว่ก!


เสียงเหมือนผ้าใบหนาๆ ถูกฉีกกระชากอย่างรุนแรง ตามมาด้วยเสียงของเหลวที่สาดกระเซ็น และเสียงวัตถุหนักๆ ตกลงกระแทกพื้น


ตุบ.


แล้วทุกอย่างก็เงียบกริบไปอีกครั้ง


ขนแขนของไคลุกชันขึ้นพร้อมกัน ความเย็นเยียบที่ไม่ได้มาจากหิมะแล่นปราดจากปลายเท้าขึ้นสู่สมอง เขาจำเสียงนั้นได้ดี... มันคือเสียงของเนื้อและกระดูกที่ถูกตัดขาดในพริบตา


"ศัตรูบุก!" ไคตะโกนลั่น เสียงของเขาก้องกังวานไปทั่วค่าย "ทุกคนประจำสถานีรบ! กางม่านพลังเดี๋ยวนี้!"


แต่ดูเหมือนว่าคำสั่งของเขาจะช้าไปก้าวหนึ่ง


เงาสีดำสายหนึ่งทอดยาวออกมาจากซากเสาหินที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล มันไม่ได้ทอดยาวตามทิศทางของแสงอาทิตย์ แต่กลับเลื้อยไหลไปตามพื้นราวกับมีชีวิต มุ่งตรงไปยังทหารยามสองคนที่ยืนรักษาการณ์อยู่หน้าค่าย


"ระวัง!" ไคตะโกนเตือน


ทหารยามทั้งสองหันขวับไปมอง แต่พวกเขาก็เห็นเพียงความว่างเปล่า


วินาทีต่อมา "เงา" ของพวกเขาเองที่ทอดอยู่บนพื้น ก็ขยับไหว


ฉัวะ!


โดยไม่มีสัญญาณเตือน ไม่มีจิตสังหาร เงาสีดำที่อยู่ใต้เท้าของทหารทั้งสอง พลันยืดตัวขึ้นกลายเป็นใบมีดสีดำสนิท ตัดผ่านร่างของพวกเขาจากล่างขึ้นบนอย่างเงียบเชียบ


ไม่มีเสียงร้อง


ร่างของทหารทั้งสองแยกออกจากกันเป็นสองซีก เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นย้อมหิมะสีขาวให้กลายเป็นสีแดงฉานในพริบตา ก่อนที่ร่างไร้วิญญาณจะล้มลงกองกับพื้น


ท่ามกลางฝุ่นผงและละอองเลือด ร่างในชุดคลุมสีดำสนิทค่อยๆ "ก้าว" ออกมาจากเงาของศพที่เพิ่งล้มลง ราวกับก้าวออกมาจากอีกมิติหนึ่ง


ชายผู้นั้นสวมหน้ากากโลหะสีเงินที่ปิดบังใบหน้าครึ่งล่าง ดวงตาเรียวยาวที่โผล่พ้นหน้ากากออกมาฉายแววอำมหิตและเย้ยหยัน มือทั้งสองข้างถือมีดสั้นคู่รูปทรงประหลาดที่โค้งงอเหมือนเขี้ยวอสูร และมีไอสีดำระเหยออกมาตลอดเวลา


แรงกดดันที่แผ่ออกมาจากร่างของเขาหนักอึ้งราวกับขุนเขา มันไม่ใช่แรงกดดันของขอบเขตทะเลวิญญาณ แต่เป็นแรงกดดันที่เหนือชั้นกว่านั้นมาก... แรงกดดันที่ทำให้หายใจไม่ออก


"ขอบเขต... สู่เซียน..." ไคกัดฟันแน่น เขารู้จักชายคนนี้


ศัตรูเก่าที่เคยพ่ายแพ้ให้กับเย่เฉิน ณ ป้อมปราการชายแดน...


"ผู้บัญชาการเงาสังหาร!"


"โอ้..." ชายชุดดำเงยหน้ามองไคที่ยืนอยู่บนกำแพง ดวงตาของเขาหรี่ลงเป็นรูปจันทร์เสี้ยว "เจ้าจำข้าได้ด้วยหรือ? น่าประทับใจ... สำหรับมดปลวกตัวหนึ่ง"


เสียงของเขาแหบพร่าและเสียดแทง ราวกับเสียงโลหะขูดกัน


"ข้านึกว่าจะเป็นเจ้า 'อสุรา' นั่นเสียอีกที่ออกมาต้อนรับข้า" ผู้บัญชาการเงาสังหารกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างดูแคลน "แต่นี่... มีแค่เศษสวะที่รอดตายมาได้งั้นหรือ?"


"เย่เฉินไม่อยู่ที่นี่" ไคตอบกลับ พยายามคุมเสียงไม่ให้สั่น แม้ขาของเขาจะเริ่มอ่อนแรงจากแรงกดดันระดับเซียน "กลับไปซะ! ที่นี่ไม่มีอะไรให้เจ้า!"


"ไม่อยู่?" ผู้บัญชาการเงาสังหารหัวเราะในลำคอ "ฮึ... อย่ามาเล่นลิ้นกับข้า เจ้าเด็กโง่ ข้ารู้ว่ามันอยู่ที่นี่... กลิ่นคาวเลือดของมัน... กลิ่นอายความตายที่หอมหวานของมัน... มันโชยออกมาจากใต้กองซากปรักหักพังนั่น"


เขาชี้ปลายมีดไปที่กองซากโรงงานที่ถล่มลงมา


"มันบาดเจ็บสาหัสใช่ไหม? หรือว่าตายไปแล้ว?" แววตาของเขาเป็นประกายวาวโรจน์ด้วยความโลภ "ดี... ดีมาก ถ้ามันตายแล้ว ข้าก็แค่มาเก็บศพ... แต่ถ้ายังไม่ตาย ข้าก็จะสงเคราะห์ให้มันตายอย่างทรมานที่สุด!"


"ปกป้องค่าย!" ไคคำรามลั่น "ยิง!"


ป้อมปืนพลังงานและหน้าไม้กลที่ติดตั้งอยู่บนแนวป้องกันระดมยิงใส่ผู้บุกรุกทันที ลูกศรแสงและกระสุนพลังงานพุ่งแหวกอากาศลงมาราวกับ-่าฝน


แต่ผู้บัญชาการเงาสังหารเพียงแค่ยืนนิ่ง


"ไร้ประโยชน์"


เขาสะบัดมือเบาๆ เงาสีดำที่อยู่รอบตัวเขาพลันขยายตัวออกกลายเป็นโดมครึ่งวงกลมปกคลุมร่างกาย การโจมตีทั้งหมดเมื่อกระทบกับโดมเงานั้น ก็ถูก "กลืนหาย" ไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับจมลงไปในบึงโคลนที่ไม่มีก้นบึ้ง


"ถึงตาข้าบ้าง"


เขากระทืบเท้าลงพื้น


ตูม!


เงาสีดำนับร้อยสายพุ่งออกจากใต้เท้าของเขา เลื้อยไหลไปตามพื้นดินด้วยความเร็วสูงราวกับงูพิษ พุ่งเข้าใส่แนวป้องกันของกองทัพรังพยัคฆ์


"อ๊ากกกก!"


เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วแนวหน้า ทหารที่ถูกเงาสัมผัสไม่ได้ถูกกระแทก แต่ถูก "เงา" ของตัวเองรัดพันและบีบรัดจนกระดูกแตกหัก หรือไม่ก็ถูกเงาที่เป็นใบมีดพุ่งขึ้นมาเสียบทะลุร่างจากด้านล่าง


การเข่นฆ่าฝ่ายเดียวเริ่มต้นขึ้น


ไคมองภาพเบื้องล่างด้วยความตื่นตระหนก นี่ไม่ใช่สงคราม... นี่คือการสังหารหมู่ กองทัพรังพยัคฆ์ที่เพิ่งผ่านศึกหนักมาและยังบาดเจ็บอยู่ ไม่มีทางต้านทานยอดฝีมือระดับเซียนที่มาพร้อมจิตสังหารเต็มเปี่ยมได้เลย


"ถอย!" ไคตะโกนสั่งการทั้งน้ำตา "ถอยเข้าแนวป้องกันชั้นใน! หลิน! กางม่านพลังป้องกันสูงสุด!"


หลินที่ยืนอยู่เบื้องหลัง กัดริมฝีปากจนเลือดซึม นางรีบประสานมือร่ายเวท เร่งพลังเฮือกสุดท้ายเพื่อเปิดใช้งานค่ายกลป้องกันที่เป้าเพิ่งซ่อมแซมเสร็จ


วูม!


ม่านแสงสีฟ้าจางๆ ปรากฏขึ้นครอบคลุมพื้นที่ส่วนกลางของค่ายและทางเข้าสู่ซากโรงงาน มันดูเปราะบางและสั่นไหว แต่ก็พอจะกั้นเงาสังหารเอาไว้ได้ชั่วคราว


ผู้บัญชาการเงาสังหารมองดูม่านแสงนั้นแล้วแสยะยิ้ม


"คิดว่ากระดองเต่าบางๆ นั่นจะหยุดข้าได้หรือ?" เขาค่อยๆ เดินตรงเข้ามาอย่างไม่รีบร้อน ทุกย่างก้าวของเขาเหยียบย่ำลงบนศพของทหารรังพยัคฆ์


กองทัพเงาอสูรเริ่มปรากฏตัวขึ้นเบื้องหลังเขา... นักฆ่าชุดดำนับร้อยคนที่โผล่ออกมาจากความมืด ล้อมรอบค่ายที่เหลือรอดไว้อย่างสมบูรณ์


"ส่งตัวเย่เฉินออกมา"


เสียงของผู้บัญชาการเงาสังหารดังก้องกังวานไปทั่วหุบเขา มันถูกขยายด้วยพลังปราณจนสั่นสะเทือนไปถึงหัวใจของทุกคน


"ข้าต้องการแค่ศพของมัน... และ 'กุญแจ' ที่มันขโมยไป" เขาประกาศกร้าว "ถ้าพวกเจ้าส่งมันออกมา ข้าจะพิจารณาไว้ชีวิตพวกมดปลวกอย่างพวกเจ้า"


ไคยืนอยู่หลังม่านพลัง มือของเขากำดาบแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด เขาหันไปมองหลินที่กำลังเร่งพลังค้ำจุนค่ายกล ใบหน้าของนางซีดเผือด


เขามองไปที่ทหารที่เหลือรอด... ทุกคนบาดเจ็บ เหนื่อยล้า และหวาดกลัว


และสุดท้าย... เขามองไปที่กองซากปรักหักพังข้างหลัง


เย่เฉินอยู่ที่นั่น... บาดเจ็บ... ไร้ทางสู้... และฝากฝังชีวิตไว้กับเขา


"ท่านแม่ทัพ..." เป้าเดินเข้ามายืนข้างๆ ไค ร่างกายของชายชราเต็มไปด้วยบาดแผล แต่แววตาของเขากลับสงบนิ่ง "พวกเรา... จะเอายังไงกันดี?"


ไคหลับตาลง สูดลมหายใจลึก


ทางเลือกมีอยู่สองทาง...


ทางหนึ่งคือยอมจำนน ส่งเย่เฉินออกไป แล้วหวังว่าปีศาจตนนี้จะรักษาสัญญา ซึ่งโอกาสแทบจะเป็นศูนย์


อีกทางหนึ่งคือสู้... สู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าอย่างเทียบไม่ติด สู้ทั้งที่รู้ว่าจุดจบคือความตาย


แต่มันมีทางเลือกที่สามไหม?


ไม่มี


ในโลกที่โหดร้ายนี้... ไม่มีปาฏิหาริย์สำหรับผู้อ่อนแอ


ไคลืมตาขึ้น แววตาที่เคยสับสนและกังวล บัดนี้เลือนหายไป เหลือเพียงความเด็ดเดี่ยวที่เย็นเยียบ


เขาดึงดาบออกจากฝัก ชี้ปลายดาบไปที่ผู้บัญชาการเงาสังหารผ่านม่านพลัง


"เจ้าอยากได้ตัวเขาเหรอ?" ไคตะโกนตอบ เสียงของเขาไม่สั่นเครืออีกต่อไป "งั้นก็ข้ามศพพวกเราไปก่อน!"


"โง่เขลา!" ผู้บัญชาการเงาสังหารคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว "งั้นก็จงตายไปพร้อมกับมันซะ!"


เขายกมือขึ้นสูง รวบรวมพลังเงาทั้งหมดในบริเวณนั้น ก่อตัวเป็นใบมีดเงาขนาดมหึมาที่ลอยอยู่เหนือศีรษะ ใบมีดนั้นใหญ่โตจนบดบังแสงตะวัน และแผ่จิตสังหารที่รุนแรงจนทำให้ม่านพลังเริ่มปริร้าว


"มหาเวทเงากลืนกิน... บดขยี้!"


ตูม!


ใบมีดเงายักษ์ฟาดฟันลงมา มุ่งเป้าที่จะผ่าทำลายทั้งม่านพลังและทุกคนที่อยู่ข้างในให้กลายเป็นเศษเนื้อ


ในวินาทีแห่งความตายนั้น ไคไม่ได้หันหลังหนี เขาปักดาบลงพื้น ยืนหยัดอยู่หน้ากองซากปรักหักพัง เป็นปราการด่านสุดท้ายให้กับเพื่อนของเขา


และในวินาทีเดียวกันนั้นเอง ทหารรังพยัคฆ์ทุกคน... ทั้งที่บาดเจ็บ ทั้งที่สิ้นหวัง... ต่างก็ลุกขึ้นยืน


พวกเขามายืนเคียงข้างไค ยกโล่และอาวุธขึ้นท้าทายความตาย


ไม่มีใครหนี


เพราะที่นี่คือรังของพวกเขา... และข้างหลังพวกเขา คือราชันย์ที่พวกเขาสาบานว่าจะปกป้อง


เปรี้ยง!

ตอนต่อไป
บทที่ 1203: รากเหง้าแห่งบรรพกาล

นิยายแนะนำ

นิยายแนะนำ

ความคิดเห็น

COMMENT

ปักหมุด

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited( Kawebook.com )

Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )
ที่อยู่ : 20 หมู่ที่ 6 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
เวลาทำการ : 08 : 00 - 18 : 00 จันทร์ - เสาร์
e-mail : contact@kawebook.com

DMCA.com Protection Status

เริ่มต้นเผยแพร่ผลงาน

เริ่มต้นเป็นนักเขียนออนไลน์ เขียนเรื่องราวที่ประทับใจ สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และแบ่งปันประสบการ์ดีๆ กับผู้คนทั่วโลก kawebook.com เป็นโอกาส เป็นสื่อกลาง และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการสร้างรายได้ให้กับนักเขียนมืออาชีพ และนักเขียนมือสมัครเล่นจากทุกมุมโลก เพียงสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์เพื่อเขียนหนังสือ การ์ตูน หรืออัพโหลดอนิเมชั่น ที่เป็นผลงานของท่าน และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชน

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา