เรื่อง เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)
....ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องผ่านยอดไม้ หลินเซียนนั่งขัดสมาธิใต้ต้นไม้เซียนอีกครั้ง คราวนี้มิใช่ด้วยความกังวลหรือฝืนใจ หากเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง คล้ายทะเลไร้คลื่น ส่วนเจ้าแนด้าน้อยยมันยังคงนอนเฝ้านายของมันอยู่ข้างๆด้วยความห่วงใย
หลินเซียนหลับตาเบา ๆ ลมหายใจยาวและมั่นคง ปราณที่เคยสับสนปั่นป่วนกลับค่อย ๆ หลอมรวมเป็นสายเดียว ลื่นไหลดุจสายน้ำใสไหลไปตามเส้นลมปราณทุกเส้นทาง
หัวใจเต้นช้าลง…แต่ละจังหวะประสานกับการไหลเวียนของพลังภายใน
ใจและปราณ…มิได้แยกจากกันอีกต่อไป
ในห้วงจิต เขามองเห็นภาพตนเองนั่งอยู่กลางมหาสมุทรที่ไร้ขอบเขต ดวงดาวนับล้านส่องประกายบนฟากฟ้า ปราณรอบกายแปรเปลี่ยนเป็นละอองแสงนับหมื่น ราวกับจักรวาลทั้งมวลกำลังหมุนวนรอบตัวเขา
ดวงแกนปราณในร่างเริ่มสั่นสะท้าน เปล่งประกายวูบวาบราวดาวเกิดใหม่ แสงสีทองและสีเงินปะปนกันเป็นเส้นสายไหลเข้าสู่แกนปราณทีละน้อย
“นี่คือ…การก่อกำเนิดดวงแกนแท้หรือไม่…” เสียงในใจเขาแผ่วเบา
แต่แล้ว แรงกดดันมหาศาลก็ถาโถมเข้ามา เส้นลมปราณบิดตัวอย่างรุนแรง ปราณก่อเป็นคลื่นโหมกระหน่ำราวมหาพายุ
หลินเซียนกัดฟันแน่น ร่างสั่นสะท้านโลหิตไหลซึมจากริมฝีปาก แต่เขายังคงไม่ปล่อยมือจากสมาธิ
หากปล่อยตอนนี้ ดวงแกนปราณจะแตกสลายเป็นผง!
เสียงในใจดังขึ้นอีกครั้ง “เจ้าจะทนได้นานแค่ไหนกัน…เจ้าจะล้มเหลวอีกเหมือนทุกครั้งหรือไม่?”
แต่หลินเซียนสงบนิ่งราวกับไม่สนใจอันตรายนั้น
“ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ใจข้าสงบแล้ว ปราณของข้าก็สงบแล้ว ต่อให้สวรรค์จะกดทับ ข้าก็จักหลอมรวมมัน!”
ประกายแสงภายในแกนปราณปะทุขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้แตกสลาย หากแต่รวมตัวแน่นขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ดุจการกำเนิดดาวดวงใหม่
ในห้วงจิต ทะเลไร้ขอบเขตพลันสงบนิ่ง คลื่นใหญ่สลายหายไป เหลือเพียงความเงียบสงัด ราวทั้งจักรวาลหยุดหายใจเพื่อเฝ้าดู
ดวงแกนปราณค่อย ๆ เปลี่ยนสีจากหม่นมัวเป็นใสกระจ่าง ราวผลึกคริสตัล เมื่อมองเข้าไปลึก ๆ คล้ายจะเห็นดวงดาวหมุนเวียนอยู่ภายใน
แต่แล้ว....
เสียงกัมปนาทดังขึ้นเหนือท้องฟ้าจริง เส้นฟ้าแหวกออกเป็นรอยแสงสีม่วง ฟ้าแลบเปรี้ยงลงมากลางป่า ต้นไม้รอบกายแตกหักสะบั้นเป็นชิ้น ๆ
นี่คือ “เทียนกังเจี๋ย” การทดสอบของสวรรค์!
สายฟ้าสวรรค์โดยปกติแล้วขั้นแกนปราณจะไม่มี เพราะเซียนต่างๆ "โกง" ด้วยการใช้สมุนไพรและสมบัติวิเศษช่วยให้บรรลุ
หากแต่หลินเซียนเขาบรรลุด้วยการตรัสรู้วิถีเต๋าด้วยใจของตนเองล้วนๆ นั่นทำให้สวรรค์ส่งสายฟ้าลงมาเพื่อเป็นบททดสอบที่แท้จริง
หากหลินเซียนผ่านได้และบรรลุ แม้เซียนระดับขั้นเดียวกันก็สู้เขาไม่ได้ เพราะพลังเขาได้รับมาจากสวรรค์โดยตรง
....หลินเซียนลืมตาขึ้นในทันที แววตาเปล่งประกาย ร่างเขาถูกห่อหุ้มด้วยสายฟ้านับสิบเส้น ราวกับกำลังจะถูกเผาเป็นเถ้าธุลี
แต่ในดวงตาของเขากลับไม่มีความหวาดกลัว มีเพียงความแน่วแน่
“หากใจและปราณเป็นหนึ่งเดียวแล้ว ต่อให้สวรรค์ก็ไม่อาจทำลายข้าได้"
"มาเลย! ข้าพร้อมรับบททดสอบแล้ว!”
สายฟ้าสวรรค์แผดร้องกึกก้อง ฟาดลงมาบนร่างหลินเซียนดุจอสนีบาตสังหารแห่งฟ้า
ประกายสีเงินฟ้าสาดแสงเจิดจ้า จนพื้นดินแตกสะเทือนสั่นไหวราวกับโลกทั้งใบกำลังคร่ำครวญ
ทุกคราที่ฟาดกระแทก เลือดเนื้อของเขาแตกสลาย แต่เจตจำนงยังแน่วแน่ไม่สั่นคลอน
เปลวอัสนีแล่นวนสับสน ซัดซ้ำร่างกายจนเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน แล้วชุบฟื้นด้วยความเจ็บปวด
ทุกครั้งที่สายฟ้าฟาดลงมา ความเจ็บปวดปานร่างถูกฉีกทำลายเป็นพันชิ้น
แต่ในดวงตาของหลินเซียนยังคงส่องประกาย ไม่เคยสั่นไหวแม้เพียงชั่วลมหายใจ
เขากัดฟันแน่น รับความทรมานราวนรกชำระ โดยไม่ยอมก้มหัวให้สวรรค์
ในห้วงลึกของมโนจิต เขาเริ่มเห็นประกายแสงแห่งการตื่นรู้ คล้ายวิถีใหม่กำลังจะบังเกิด
เจ็บปวดคือพันธะ แต่ความศรัทธาและเจตจำนงคือปีกที่จะนำพาเขาเหินสู่ความเป็นเซียน
....ต้นไม้เซียนลุกไหม้ เจ้าเสี่ยวหมิงถอยห่างออกจากบริเวณนั้นแต่มันก็ยังยืนมองนายของมันไม่กระพริบตา
เสียงระเบิดกัมปนาทของสวรรค์ก้องไปทั่วผืนฟ้า คล้ายจะประกาศว่านี่คือบททดสอบแห่งเซียนที่แท้จริง
แม้นภายิ่งใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด ยังต้องสยบต่อพลังอันศักดิ์สิทธิ์แห่งสายฟ้าสวรรค์
แสงอัสนีสาดกระจายดุจ-่าดาวร่วง เผาทุกสิ่งรอบกายให้เหลือเพียงความว่างเปล่า
หลินเซียนนั่งนิ่งไม่ขยับ ปล่อยให้ฟ้าผ่ากระแทกลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสียงกัมปนาทสะท้านไปทั้งขุนเขา แต่ทุกครั้งที่สายฟ้าพุ่งลงมา ละอองปราณในกายกลับซึมซับมันเข้าไป กลั่นแปรเป็นพลังบริสุทธิ์หล่อเลี้ยงแกนปราณ
ทีละน้อย…ทีละน้อย…
ดวงแกนปราณในร่างเริ่มเปล่งประกายเจิดจ้ากว่าที่เคย ใจและปราณรวมกันจนไม่อาจแยกออกได้อีก
เมื่อสิ้นสุดสายฟ้าฟาดในที่สุดแกนปราณแปรเปลี่ยนเป็น “ดวงแกนแท้” อย่างสมบูรณ์ ละอองแสงทองกระจายออกจากร่างหลินเซียน ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า คล้ายฝนดาวตกนับพันดวงที่พร่างพรูลงมา
ทั่วทั้งป่าสงัดเงียบ แม้แต่เสียงแมลงยังหยุดขับขาน ราวธรรมชาติทั้งหมดหยุดหายใจ เพื่อสดับการกำเนิดใหม่ของเขา
หลินเซียนลืมตาอีกครั้ง ดวงตาส่องประกายคล้ายดวงดาวในรัตติกาล รัศมีรอบกายสงบ แต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันมหาศาลที่ทำให้ต้นไม้รอบด้านโค้งก้มราวคารวะ
เขากล่าวเสียงเบาแต่กังวาน
“จิตไร้ขอบเขต…บัดนี้ ข้าได้ย่างเข้าสู่ดวงแกนแท้แล้ว”
หลินเซียนไม่ใช่แค่บรรลุแกนปราณขั้นปลาย แต่เขาบรรลุข้ามไปถึงขั้นปลายสูงสุด! (ครึ่งก้าวหยวนอิง)
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??