เรื่อง ร้าน ณ กาลเวลา
บที่ 21 ในัืมีห่อขนมหวาน
ผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าเหลียงซวี่ยังไม่ตอบอะไร ก็รู้สึกแปลกใจ “นี้ ตอบสิ! ไอ้สโตกเกอร์!”
“หา?”
“อะไรของนาย? นายบื้อหรือแกล้งเอ๋อกันเนี่ย?”
เหลียงซวี่รู้สึกประหลาดใจ “เธอ...ไม่คิดว่าฉันเป็นตัวประหลาดเหรอ?”
ผู้หญิงคนนั้นมองเหลียงซวี่ด้วยท่าทางสงสัยงุนงง “หา? ทำไมฉันต้องคิดว่านายเป็นตัวประหลาดล่ะ? นายก็ดูเป็นคนปกตินี่นา หรือว่านายอ่านัืมากไปจนกลายเป็นไอ้ซื่อบื้อ? ถ้างั้นขออยู่ห่าง ๆ ดีกว่า เดี๋ยวถ้าติดเชื้อเข้าะยุ่งเอา” เธอมองเหลียงซวี่แบบรังเกียจแล้วรีบเดินจากไป
เหลียงซวี่มองดูเธอเดินจากไป ทั้งยังมีสายตารังเกียจอีก เขาเองก็พูดอะไรไม่ออก คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนบื้ออยู่เหมือนกัน
เหลียงซวี่ได้แต่ถอนหายใจ
พะาทิตย์ค่อย ๆ ลับขอบฟ้า ท้องฟ้าสีดำค่อย ๆ ถูกแทนี่จากดวงอาทิตย์ด้วยพระจันทร์ี่ลอยอยู่บนท้องฟ้า
ไป๋อิงนั่งอยู่ริมหน้าต่างของอาคารเรียนในมหาวิทยาลัย รับสายลมเย็นี่พัดมา มองผู้หญิงข้างล่างี่ไปหาไอ้ผู้ชายสารเลวนั้น ทั้งสองคนพูดกันไม่กี่คำก็ทะเลาะกัน แล้วผู้ชายก็เริ่มลงมือ แน่นอนว่าผู้หญิงก็ต้องขัดขืน แต่ก็สู้ผู้ชายไม่ได้ ในตอนนั้นเอง เหลียงซวี่ี่แอบดูอยู่พอเห็นผู้ชายเลวนั่นชกผู้หญิง ก็รีบวิ่งไปต่อยผู้ชายเลวนั่นกลับ
เมื่อเจอการต่อยเข้าแบบไม่ทันตั้งตัว ยังไงผู้ชายเลวคนนั้นก็ไม่มีทางสู้ได้ เหลียงซวี่ยิ่งต่อยก็ยิ่งหนัก
พอผู้หญิงเห็นเหลียงซวี่โผล่มาแบบไม่ทันคาดคิด แล้วยังไปต่อยผู้ชายเลวนั้นอีก เลยรู้สึกทั้งตกใจแล้วก็ดีใจ “อ๊ะ! นายมาี่นี่ได้ยังไง? แล้วยังไปต่อยไอ้สารเลวนั่นอีก”
เหลียงซวี่เตะผู้ชายสารเลวี่อยู่ใต้เท้า “ฉันดูแล้วไม่สบอารมณ์ ี่หมอนี่มาลงมือกับผู้หญิง...”
ผู้หญิงพูดแบบเขิน ๆ “อย่างนี้เอง...งั้นขอบคุณนะ” พอพูดจบก็ตั้งใจะเดินจากไป
เหลียงซวี่เห็นผู้หญิงกำลังะเดินจากไปเลยพูดว่า “เอ่อ เธอพอะบอกชื่อให้ฉันรู้ได้ไหม?”
ผู้หญิงหันกลับมามองเหลียงซวี่ “ลู่อิง แล้วนายล่ะ?”
เหลียงซวี่รู้ชื่อของลู่อิงแล้ว ก็ยิ้มออกมา “เหลียงซวี่ เธออยู่ชั้นปีอะไรเหรอ?”
ลู่อิง “ฉันเหรอ ใกล้ะจบแล้ว...”
“อย่างนั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉัน...”
ยังไม่ทันี่เหลียงซวี่ะพูดจบ ลู่อิงก็พูดแทรกขึ้นมา “พรุ่งนี้ฉันะไปยืมัื ตอนบ่ายพรุ่งนี้เจอกันี่ห้องสมุดนะ”
“โอเค”
ไป๋อิงี่นั่งอยู่หน้าต่าง จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนปวดท้องขึ้นมา “นี่...ซูหมิงเจี๋ย ฉันเริ่มเข้าใจความรู้สึกี่จุกในอกของนายแล้ว เดี๋ยวนี้วัยรุ่นจีบกันแบบนี้หมดเลยแล้วเหรอ หรือว่าฉันแก่เกินไป”
ไม่ต้องพูดถึงไป๋อิงเลย แม้แต่ซูหมิงเจี๋ยี่พอเห็นเหตุการณ์ก็ยังงง ๆ เหมือนกัน รู้สึกตามไม่ทันยุคสมัยแบบนี้ไม่ทัน
“ก็พอเข้าใจนะ แต่บางทีอาจเป็นเพราะเหลียงซวี่กับลู่อิงก็ไม่ใช่คนธรรมดามั้ง อย่างน้อย คนหนึ่งมองทะลุหน้ากากได้ ส่วนอีกคน...ะว่ายังไงดีล่ะ...วิธีคิดก็ไม่ปกติ”
ไป๋อิงพยักหน้า “ใช่ ลู่อิงดูเหมือนะไม่ได้ฉลาดอะไร แถมโดนผู้ชายสารเลวนั้นหลอกอีก แล้วกระเป๋าก็มักะเต็มไปด้วยขนม ดูเหมือนเด็ก ๆ ซื่อ ๆ แต่จริง ๆ แล้วมองออกทุกอย่าง แถมเมื่อกี้ี่พูดก็เหมือนแทงใจดำผู้ชายสารเลวนั้น แถมยังเอาความในใจออกมาหมดเลย นี่มันจิกกัดยิ่งกว่าฉันอีก ดูแล้วฉันคงต้องเรียนรู้วิธีจิกกัดจากลู่อิงบ้างแล้ว”
ซูหมิงเจี๋ยมีสีหน้ามองไป๋อิงเหมือนกำลังมองตัวประหลาด แล้วก็ยังถามอย่างด้วยความสงสัย “นายคงไม่ใช่คิดะใช้ไว้เพื่อเล่นงานฉันหรอกนะ?”
ไป๋อิงส่งยิ้มแสนสดใสให้ซูหมิงเจี๋ยแล้วพูดว่า “ฉันยังไม่คิดะเอามาใช้กับนายหรอกชั่วคราวอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ยังไม่ได้ไปเรียนกับลู่อิงเลย อีกอย่างนายยังเป็นผู้ช่วยของฉันอยู่ฉันไม่อยากให้ผู้ช่วยหมดความต้องการี่ะมีชีวิตอยู่หรอกนะ สบายใจได้”
ซูหมิงเจี๋ยฟังไป๋อิงพูดแต่ก็ยังไม่คิดเชื่อถือสักเท่าไหร่ ยิ่งเป็นไป๋อิงด้วยแล้วยิ่งไม่น่าเชื่อถือ ถึงตอนนี้ะยังไม่รู้จักไป๋อิงดี แต่สิ่งี่ได้ยินก็ทำให้เขาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“หวังว่าะเป็นอย่างนั้นนะ”
ไป๋อิงหันไปมองข้างล่างแทนแล้วก็ยิ้ม
หวังว่าะเป็นอย่างนั้นเหรอ….หวังว่าคงะไม่นานเกินไปหรอกนะ
ช่วงเวลา ปัจจุบัน ฤดูหนาว ในห้องสมุด
อันหยู่เปิดหน้ากระดาษี่อยู่ในมือ จู่ ๆ ก็หยุดมือ เพราะหน้าหนึ่งนั้นได้มีซองลูกอมสีเหลืองเก่าสอดไว้ “ยายแก่ นี่มันเรื่องอะไร?” อันหยู่หยิบซองลูกอมออกมาอย่างรังเกียจ ยังดีี่ตัวเองใส่ถุงมืออยู่ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่กล้าหยิบซองลูกอมี่ไม่รู้ว่าโดนอะไรมาบ้าง
เถ้าแก่หงตอนแรกก็นั่งชิล ๆ อยู่ี่โต๊ะผู้ดูแล สูบไปป์ด้วยความขี้เกียจ ๆ นั่งอยู่บนเก้าอี้มองดูท้องฟ้าี่มีหิมะตกกับน้ำแข็งข้างนอก “หืม?” พอได้ยินอันหยู่เรียก ถึงค่อยเลยหันไปมอง “มีอะไรเหรอ เรียกฉันทำไม?”
อันหยู่ถือซองลูกอม ขบคิดอยู่แวบหนึ่ง แล้วหันไปพูดกับฉวนี่อ่านัือยู่ข้างหลังว่า “ฉวน เข็นฉันไปหน่อย”
ฉวนได้ยินดังนั้นก็เดินไปหาอันหยู่ “ค่ะ คุณชาย” แล้วก็เข็นอันหยู่ไปหาเถ้าแก่หง
อันหยู่เอาัืวางไว้ี่โต๊ะหน้าเถ้าแก่หง “นี่ ซองลูกอมนี้ ช่วยอธิบายหน่อย ดูเหมือนะผ่านมานานมากแล้วนะ”
เถ้าแก่หงรับซองลูกอมเก่า ๆ ไปอย่างรังเกียจ “อันนี้เหรอ ฉันก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เหมือนกัน คงะมีเด็กนักเรียนเอามาใส่ไว้ แต่สักสองสามปีก่อน ห้องสมุดนี้ก็มีเรื่องเล่าว่า มีคู่รักคู่หนึ่ง ทั้งคู่รักกันมาก ฝ่ายหญิงชอบขนมหวานกับอะไรหวาน ๆ แล้วก็มีนิสัยแปลก ๆ คือชอบเอาซองลูกอมี่กินเสร็จแล้วใส่ไว้ในัื ทั้งสองคนะเขียนวันี่ ไดอารี่ หรือเขียนสิ่งี่ชอบไว้ด้วย
เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าจริงไหม แต่นับแต่นั้นมา เด็กนักเรียนก็ะชอบไปเจอซองลูกอมในัื บ้างก็มีข้อความเขียนอยู่ ตอนนั้นเหมือนว่าครูใหญ่ะรู้เรื่องแล้วเหมือนกัน ถึงกับต้องจัดการห้องสมุดครั้งใหญ่ แต่ก็ยังมีบางส่วนี่หลงเหลืออยู่
แต่พอเวลาผ่านไป นักเรียนี่เจอก็ยิ่งน้อยลง แต่เธอยังไปเจอได้อีกนะ ไม่รู้ะเรียกว่าดวงดีหรือดวงซวยดี หน้านั้นของัืน่าะมีกลิ่นลูกอมแรงแน่ ๆ เธอก็รู้ว่าตัวเองเกลียดของหวาน งั้นคงดวงซวยแล้วล่ะ”
อันหยู่สะบัดมืออย่างรังเกียจ แม้ะใส่ถุงมืออยู่ก็ยังรู้สึกแปลก ๆ “คงะซวยจริงๆ แหลาะ คุณรู้ไหมว่าคู่รักคู่นั้นชื่ออะไร?”
เถ้าแก่หงนึก “อืม...ฉันจำได้ว่าชื่อ เหลียงซวี่กับลู่อิง เธอรู้จักไหม?”
อันหยู่มองซองลูกอม “คุณคิดว่าฉันะรู้จักได้ไง ตอนนั้นฉันคงยังนอนอยู่บนเตียงอยู่เลย”
เถ้าแก่หง “ก็จริง ตอนนั้นมันก็ยังนานอยู่เลย เธอว่างั้นไหม ฉวน”
ฉวนหันมายิ้มให้เถ้าแก่หง “อาจะใช่ค่ะ แต่ว่าคุณชายพูดแบบนี้ ก็ต้องมีเหตุผลของคุณชาย เถ้าแก่หงไม่เชื่อเหรอคะ?”
เถ้าแก่หงแม้ะยิ้ม แต่ในใจก็กลับแอบด่าไม่หยุด “งั้นเหรอ งั้นฉันก็เชื่อละกัน แต่ฉันสงสัยว่าทำไมคุณชายถึงว่าฉวนเป็นคนเทียม ทั้ง ๆ ี่ฉวนก็สวย แล้วยังเป็นผู้หญิงน่ารักขนาดนี้อีก”
ฉวนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมอันหยู่ถึงพูดแบบนั้น ทั้ง ๆ ี่ตัวเองทำอะไรก็ออกะสมบูรณ์แบบ “ฉันก็ไม่รู้ค่ะ แต่ในเมื่อคุณชายพูดแบบนี้ ก็ต้องมีเหตุผลของคุณชาย ตอนนี้คุณไป๋อิงเองก็บอกว่าฉันยังไม่ได้ถึงขั้นสมบูรณ์แบบอย่างี่คุณไป๋อิงเคยพูดไว้” พูดจบก็เดินกลับไปนั่งี่เิอ่านัืต่อ
เถ้าแก่หงเลยต้องกลับไปนั่งเอนหลังมองหิมะข้างนอกี่เริ่มตกแรงขึ้น “ข้างนอกดูเหมือนหิมะะตกหนักแล้วนะ อันหยู่ เธอะดูแลตัวเองได้ไหม เดี๋ยวี่นี่อาจไม่ปลอดภัยแล้ว”
อันหยู่ค้นหาัืในตู้โดยไม่ใส่ใจ “มีฉวนอยู่ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าฉวนะปกป้องฉันได้จริงรึเปล่า”
เถ้าแก่หงเก็บจอนผมข้างหู “ฮะ ๆ ก็ดีเหมือนกัน ฉันก็อยากรู้ว่าฉวนเก่งขนาดไหน ฉวนพลังเธอคืออะไร แล้วอยู่ระดับไหนแล้ว?”
ฉวนตอบคำถามของเถ้าแก่หง “พลังของฉันคือ‘ทำลาย’ส่วนระดับเมื่อสามปีก่อนคุณไป๋อิงบอกว่าอยู่ขั้น ‘หยวน (เริ่มต้น) ’ ตอนนี้ไม่แน่ใจค่ะ คุณไป๋อิงไม่ได้บอกฉัน”
เถ้าแก่หงทำหน้าตกใจ “ว้าว ระดับหยวนเลยเหรอ เก่งมากเลยนะ งั้นอันหยู่ก็ได้พี่เลี้ยงสุดเจ๋งแล้วสิ”
อันหยู่มองฉวนแวบหนึ่งแล้วก็ไปค้นหาัืต่อ ฉวนแค่ยิ้ม แต่ไม่รู้ทำไมรู้สึกบรรยากาศแปลก ๆ ไป
บางทีนี่แหละคือความกระอักกระอ่วน ทั้งี่ตอนนี้มันก็ยังดูน่าอึดอัดอยู่ก็ตาม
เหลียงซวี่มองลู่อิงี่กำลังใส่ซองลูกอมี่กินเสร็จแล้วลงไปในัือย่างโจ่งแจ้งแล้วเอาัืไปเก็บ “เธอกำลังทำอะไรน่ะ?”
ลู่อิงเคี้ยวลูกอมในปาก เหมือนกับกำลังทำเรื่องธรรมดามาก “เห็นไหมว่าฉันใส่ซองลูกอมไง ฉันใส่ซองลูกอมในัือยู่”
“ไม่ คือ….ทำไมต้องทำแบบนั้น?”
“เพราะแฟนเก่าฉัน ก็คือคนี่นายไปซัดมาเมื่อก่อนนั่นแหละ เขารำคาญี่ฉันชอบกินลูกอม บอกว่าฉันทำตัวเป็นเด็ก แล้วก็รำคาญี่ฉันชอบสะสมซองลูกอมอีก เลยแกล้งเอาซองลูกอมไปใส่ในกระเป๋าเขา หลัง ๆ ก็ชิน เพื่อนก็บอกให้เปลี่ยนี่ ฉันเลยนึกถึงห้องสมุดนี่”
เหลียงซวี่ฟังจบแล้วยังไม่เข้าใจ “แล้วมันเกี่ยวอะไร?”
ลู่อิงหันมามองเหลียงซวี่เหมือนมองคนโง่ “ไม่เกี่ยวหรอก แค่สนุกดี ฉันมีความสุขก็พอใคระสนว่ามันเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว”
“โอเค”
ลู่อิงยังคงแกะซองลูกอม แล้วเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ก็พูดกับเหลียงซวี่ว่า “มีปากกามั้ย?”
“มี มีอะไรเหรอ?” เหลียงซวี่หยิบปากกาออกมาจากกระเป๋า
ลู่อิงหยิบปากกาไป “ขอบใจนะ เมื่อกี้พอดีนึกขึ้นได้ว่าะเขียนสิ่งี่ไม่ชอบลงในนี้ ใส่ไว้ในัื ะได้ไม่ต้องเอาไปเก็บอีก ต่อไปถ้าอยากหาก็กลับมาเปิดดูได้ อ้อ ของี่ชอบก็เขียนด้วยนะ เผื่อะมีเวลาอยากกลับมาอ่าน”
“ต่อไปเหรอ? เดี๋ยวอาจะโดนคนอื่นเจอ ไปเปิดเจอก็ไม่รู้ะได้เห็นไหม”
“เรื่องนั้นไว้ทีหลังสิ ใคระสน ขอแค่ได้เขียนก่อนก็พอแล้ว”
เหลียงซวี่มองลู่อิงเขียนอะไรลงบนซองลูกอมแล้วเอาซองลูกอมคั่นไว้ในัื ก่อนะเก็บัืเข้าี่เิ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??