เรื่อง อสูรล้างสวรรค์
โจวเ่ แทบจะบ้า เพราะจ้าวหยางมักจะจ้องเขาด้วยความเกลียดชังอยู่ตลอดเวลา
"ซีเว่ย! ทำไมคนรักของเจ้าไม่พูดกับเจ้าเลยล่ะ?" จ้าวหยางถามทันทีด้วยสายตาดูถูกเล็กน้อย
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ โจวเ่ก็เหลือบมองจ้าวหยาง และพูดกวนส้น-ีนเบาๆ "ข้าไม่ชอบพูดเกี่ยวกับเรื่องขอผู้อื่น และในขณะกินข้าว พ่อและแม่ของข้าได้สอนว่าห้ามพูดขณะกินข้าว"
"ฮ่าๆๆ!"
ทันทีที่โจวเ่พูดแบบนี้ เถียนซีเว่ยก็หัวเราะลั่นและกล่าวว่า" พี่เ่ของข้าช่างเป็นคนตลกยิ่งนัก"
แต่ในขณะนี้ใบหน้าของ จ้าวหยางและคนอื่นๆน่าเกลียดเป็นอย่างมาก
"น้องชาย เจ้าควรเก็บปากของเจ้าไว้กินซะดีกว่า ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่มีโอกาสได้กินของอร่อยเหล่านี้อีกในอนาคต” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยความโกรธและความดูถูกในดวงตาของเขาไม่ได้ปกปิดเป็นความลับ
"ซีเว่ย! เจ้าไปเจอเขามาจากไหน เจ้าไม่อายเหรอ? ดูสภาพของเขาสิ เขามีอะไรดีกว่าพี่หยางของข้า" นายน้อยอีกคนพูดด้วยความรังเกียจ
เมื่อฟังคำดูถูกของคนเหล่านี้ โจวเ่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร และเพิกเฉยต่อมันโดยสิ้นเชิง
"เจ้ามีสภาพที่น่าดูตายล่ะ!" เถียนซีเว่ย พูดด้วยความรังเกียจ จากนั้นเธอดึงแขนของโจวเ่และพูดว่า "พี่เ่ ไปกันเถอะ ข้าจะพาพี่เ่ไปกินอาหารที่อื่น! ข้าไม่อยากกินอาหารที่นี่แล้ว!"
เถียนซีเว่ย ทนไม่ได้ที่เห็นพวกนายน้อยเหล่านี้ประจบประแจงจ้าวหยาง ซึ่งเธอไม่ชอบจ้าวหยางเลย สิ่งนี้ทำให้อารมณ์ที่ดีของเธอถูกทำลายลง ยิ่งไปกว่านั้นการดูถูกโจวเ่ทำให้เธออารมณ์หงุดหงิดขึ้นไปอีก
"โจวเ่ ข้าไม่ให้เจ้าไป” เมื่อเห็นเถียนซีเว่ยและโจวเ่ต้องการจากไป จ้าวหยางก็พูดอย่างไร้อารมณ์
"ถ้าข้าอยากไป! เจ้าจะทำอะไรข้าได้" โจวเ่ตอบโต้ด้วยอารมณ์หงิดหงิเ ตอนนี้เขาเริ่มอารมเสียแล้ว คนเหล่านี้รบกวนการกินอาหารของเขา และได้ยั่วยุเขาตลอดเวลา
จ้าวหยางหัวเราะเาะ "เจ้าหนุ่มน้อย! หากข้าต้องการสังหารเจ้า เจ้าคิดว่าใครจะหยุดข้าได้!"
"เจ้าหนุ่ม! อย่าหยิ่งจนเกินไปและอย่าทำให้พี่หยางขุ่นเคือง เจ้าควรรู้ผลที่ตามมา” นายน้อยคนหนึ่งตะโกนด้วยความโกรธ
"ใช่แล้ว! เจ้าไม่รู้เหรอว่า พี่หยาง กำลังได้เข้าร่วมกองทัพอัคคีเหล็กแล้ว"
"ฮึ! น่ารำคาญ พี่เ่เราไปกันเถอะ!" เถียนซีเว่ย ตะคอกอย่างเ็นชา เธอหันหลังกลับและควงแขนของโจวเ่เพื่อจากไป
จ้าวหยาง ที่อยู่ด้านข้างมองไปที่ สมาชิกในกลุ่มแล้วขยิบตา หลังจากที่อีกฝ่ายเข้าใจเขาก็ไม่ลังเลที่จะเคลื่อนไหว
ฐานการฝึกฝนของชายคนนั้นอยู่ในระดับที่แปดของอาณาจักรนักยุทธ์ เขาควบแน่นพลังอย่างรีบเร่งและกระแทกหมัดไปที่หลังของโจวเ่โดยเต็มกำลังของเขา.
"ปัง!"
โจวเ่ สังเกตเห็นการเคลื่อนไหว ของชายคนนั้นได้ตั้งแต่แรก เขาจึงรีบควบแน่นพลังชีวิตสร้างเป็นโล่คุมกันทันที พลังหมัดไม่สามารถสั่นคลอนโจวเ่ได้
"เขาสามารถป้องกันการโจมตีของข้าได้!” นายน้อยผู้โจมตีแอบตกใจ
"เขาพอมีความสามารถอยู่บ้าง" จ้าวหยาง ขมวดคิ้วและพูดอย่างลับๆ เขาเห็นว่าความแข็งแกร่งของโจวเ่นั้นไม่เหมือนกับระดับที่หกขั้นปลายของอาณาจักรนักยุทธ์ ทั่วๆไป
"มีอะไรก็พูดมา! ทำไมต้องใช้วิธีน่าสมเพชด้วย" โจวเ่พูดเบา ๆ
เถียนซีเว่ยในขณะนี้ตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของโจวเ่ และหลังจากฟื้นคืนสติเธอก็พูดด้วยความโกรธว่า "ตั๋วหมิง! ทำไมเจ้าถึงไร้ยางอายเช่นนี้!"
นายน้อยผู้โจมตี เมินเฉยต่อเถียนซีเวยโดยสิ้นเชิง เขาจ้องมองไปที่โจวเ่ด้วยดวงตาที่ดุร้าย และต่อยโจวเ่อีกครั้ง
"ปัง!"
ดวงตาของโจวเ่เฉียบคมมาก ในขณะที่ตั๋วหมิงเคลื่อนไหว เขาก็ชกหมัดออกไปกระแทกหน้าอกของตั๋วหมิงด้วยเสียงปัง! และทำให้ตั๋วหมิงถอยหลังกระเด็นออกไป
หมัดนี้ทำให้คนอื่นๆ ตกใจมาก ตั๋วหมิง มีพลังยุทธ์อยู่ในระดับที่แปดของอาณาจักรนักยุทธ์ เขาไม่สามารถต้านทานการโจมตีของโจวเ่ที่มีพลังยุทธ์อยู่ในระดับที่หกขั้นปลายของอาณาจักรนักยุทธ์ได้อย่างไร?
ไม่ใช่เพราะตั๋วหมิงอ่อนแอ แต่โจวเ่แข็งแกร่งเกินไป
" พี่เ่! ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?” เถียนซีเว่ย กล่าวด้วยความโล่งใจเมื่อเห็นว่าโจวเ่ สามารถต่อสู้กับตั๋วหมิงได้
ใบหน้าของจ้าวหยาง โกรธถึงขีดสุดแล้วในขณะนี้ เขาโกรธที่เถียนซีเว่ยเป็นห่วงโจวเ่มาก
"ข้าขอเตือนพวกเจ้าทุกคน อย่ามายุ่งกับข้า! ข้าไม่อยากทำร้ายคน!" โจวเ่ตะโกนอย่างเ็นชา แม้ว่าจ้าวหยางจะมีพลังยุทธ์ในระดับที่สามของอาณาจักรคุรุยุทธ์ โจวเ่ก็ไม่กลัว เขายังมีไป๋หมิงไพ่เด็ดของเขาอยู่
"พี่เ่ เราไปกันเถอะ!" เถียนซีเว่ยกล่าวกับโจวเ่และขวงแขนเขาออกไปทันที
ตั๋วหมิง อยากจะตามไป แต่ถูกจ้าวหยางขัดขวางไว้
"พี่หยาง จะปล่อยเขาไปแบบนี้เหรอ?” ตั๋วหมิง กล่าวอย่างไม่เต็มใจ
จ้าวหยางหัวเราะเาะ "มีโอกาสอีกมาก แต่ความแข็งแกร่งของชายคนนั้นมันไม่ธรรมดาเลย เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา และข้าไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนนี้ เพราะคนอื่นจะหัวเราะเาะข้า ถ้าข้ารังแกคนที่อ่อนแอกว่า แต่ข้าจะฆ่าเขาแน่นอน กล้าดียังไงมาแย่งซีเว่ยไปจากข้า!”
"คราวนี้ข้ากลับมา และได้นำยาวายุปราณกลับมา ว่ากัันว่าตระกูลโจวแห่งเมืองไป๋หนาน ดินแดนทิศตะวันตก ได้มอบสูตรยาให้กับองค์รัชทายาทแล้ว ตอนนี้กองทัพอัคคีเหล็กกำลังใช้สมบัตินี้ในการฝึกฝน ผู้ที่ได้รับต้องอยู่ในอาณาจักรนักยุทธ์เท่านั้น และยานี้ช่วยเร่งความเร็วในการฝึนถึงสิบเท่า"
"ยาวายุปราณเหรอ?”
"เร่งความเร็วในการฝึกฝนถึงสิบเท่าเหรอ? มียาที่ทรงพลังขนาดนี้ด้วยเหรอ?” ทุกคนตกใจมาก
หากพวกเขารู้ว่าเจ้าของสูตรยาวายุปราณคือโจวเ่ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะแสดงออกอย่างไร
"พี่เ่! ข้าไม่คิดว่าท่านจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ตั๋วหมิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่านเลย!” หลังจากออกจากร้านอาหาร เถียนซีเว่ยก็พูดอย่างตื่นเต้น
โจวเ่ยิ้มเบา ๆ และกล่าวว่า "ตราบใดที่เจ้าฝึกฝนอย่างหนัก เจ้าก็สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้"
"ซีเว่ย! ขอบคุณสำหรับอาหาร ข้าจะไปแล้ว”โจวเ่พูดเบา ๆ
"พี่เ่ ท่านจะไปไหนเหรอ?” เถียนซีเว่ย ถามอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนเธอต้องการติดตามโจวเ่
"ไปหาสถานที่เงียบสงบนอกเมืองเพื่อบ่มเพาะ " โจวเ่พูดเบา ๆ
"บ่มเพาะเหรอ?” เถียนซีเว่ย รีบพูดทันทีว่า "พี่เ่! ข้ารู้จักสถานที่ดีๆ ในการบ่มเพาะ!"
"โอ้? อยู่ที่ไหนเหรอ?” โจวเ่ถาม
เถียนซีเว่ย พูดอย่างจริงจัง "อยู่ในภูเขาจันทราทมิฬ พลังงานแห่งสวรรค์และโลกที่นั้นเข้มข้นมาก โดยปกติแล้วไม่มีใครไปที่นั่น และข้าก็ค้นพบถ้ำที่นั่นด้วย"
"ไม่มีใครไปที่นั่น แล้วเจ้าไปทำอะไรที่นั่น” โจวเ่ถาม เขาดูไม่เชื่อเล็กน้อย
"พ่อของข้าเคยพาข้าไปเที่ยวตอนเด็กๆ และข้าได้พลัดหลงเข้าไปในถ้ำ เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกผู้ใด" เถียนซีเว่ยกล่าวอย่างนักแน่น
หลังจากหยุดชั่วคราว เถียนซีเว่ยพูดอีกครั้ง "ในถ้ำนั้นมีกลิ่นอายอันทรงพลังแทรกซึมอยู่ และอาจจะมีสมบัติซ่อนอยู่ในนั้น ในเวลานั้นข้าอ่อนแอเกินกว่าจะเข้าใกล้ได้"
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??