เรื่อง ยุทธวิจิตรพิชิตจักรภพ
พันวายุวิ่งตะบึงหลบหนีการตามล่าของทัพมหาการีย์มาทั้งคืน มันมาหยุดยืนที่ต้นไม้ใหญ่บนภูเขาสูง เมื่อมองลงไปเห็นแสงคบเพลิงมากมายกระจายอยู่ตามเชิงเขา คาดว่ากองกำลังทหารนับพันได้ทำการโอบล้อมภูเขาลูกนี้เอาไว้แล้ว
อ๊ากกก .. พันวายุทิ้งร่างคุกเข่ากระอักโลหิต ผลจากการประมือกับจอมตรีภูตสร้างความบอบช้ำแก่อวัยวะภายในอย่างสาหัส
พันวายุครุ่นคิด ‘ต้องฝ่าวงล้อมออกไปให้ได้ก่อนตะวันขึ้น หาไม่แล้วคงต้องฝังร่างอยู่บนภูเขาแห่งนี้เป็นแน่’
ทัพมหาการีย์เป็นดังฝูงสุนัขป่าหิวโซตามล่ามันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยเฉพาะกองภูตทมิฬ พวกมันตามติดอย่างไม่ลดละ ไม่ว่าจะหลบหนีไปทิศทางใดก็ไม่สามารถสลัดหลุดไปได้
พันวายุผู้มีจิตใจอันกล้าแข็งต้องหลบหนีจนท้อใจ ตลอดเส้นทางต่อสู้ตะลุมบอนอย่างไม่หยุดหย่อน กำลังกายยิ่งเสื่อมถอยทั้งยังมีอาการบาดเจ็บที่ยากเยียวยา
กองทหารทัพมหาการีย์คงต้องบุกขึ้นมาบนภูเขานี้ในไม่ช้า เมื่อถึงเวลานั้นต่อให้มันมีวิชาคงกระพันที่สุดยอดกว่านี้ก็คงไม่อาจรักษาชีวิตเอาไว้ได้
“เพื่อมัธยปุรา .. ถึงตาย .. ข้าก็ต้องทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วง” มันกล่าวกับตัวเองเพื่อปลุกขวัญกำลังใจ
พันวายุปลดห่อผ้าที่บรรจุสิ่งของและถอดเสื้อออก วางทั้งหมดไว้บนโล่โลหะที่ตรงหน้า แล้วจึงนั่งขัดสมาธิเพื่อเดินลมปราณ
.. มันหวังช่วงชิงเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อกระทำการบางอย่าง
คนเข้าสู่ภวังค์สมาธิอย่างลึกล้ำ พลังการฝึกปรือของพันวายุอยู่ในช่วงปลายของระดับ ‘อัคระปราณ’
สุดยอดวิชา ‘มงกุฎยอดคงกระพัน’ เป็นไสยเวทที่ก่อให้เกิดสุดยอดพลังปราณ ทั้งแปรเปลี่ยนร่างกายให้แข็งแกร่งประดุจโลหะ ทำให้ผู้ฝึกอยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้า
แก่นของวิชาคือการฝึกพลังจิตควบคุมพลังวิเศษจากตะกรุดที่ทำด้วยวัตถุธาตุพิสดาร
.. พันวายุอยู่ในระดับสิบห้าตะกรุด .. ผู้ฝึกวิชาอันแก่กล้าบางคนฝังตะกรุดอยู่ในร่างกายนับร้อยๆ ชิ้น
พลังธรรมชาติจากพื้นดินถูกดูดเข้าสู่ร่างกายของพันวายุ ตะกรุดทั้งสิบห้าชิ้นที่ฝังไว้ใต้ผิวหนังเริ่มสั่นสะท้าน
พันวายุสำนึกตัวดีว่าในเวลาอันสั้น .. มันไม่สามารถฟื้นคืนร่างกายและพลังปราณได้ดังเดิมแล้ว ด้วยภารกิจของชาติบ้านเมืองมันจึงตัดสินใจใช้วิชาต้องห้ามของมัน
.. ยอดมงกุฎประสานชีวา !
.. ตะกรุดทั้งสิบห้าสั่นกระตุกด้วยความเร็วพร้อมปลดปล่อยพลังความร้อนอย่างรุนแรง
เปรี๊ยะ! ตะกรุดศักดิ์สิทธิ์ที่หน้าผากแหลกสลาย
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! ตะกรุดที่หลังคอและแผ่นหลังมีเสียงดังตามมา
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เสียงตะกรุดทั้งสามที่หน้าอก
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เสียงตะกรุดที่แขนและหมัดซ้ายขวา
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เสียงตะกรุดดังจากขาทั้งสองข้าง
ตะกรุดศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบห้าถูกทำลาย พลังจากตะกรุดถูกแปรเปลี่ยนเป็นพลังปราณภายในชีพจรปราณ พันวายุรู้สึกถึงพลังอัดแน่นเพิ่มพูนนับร้อยเท่า .. เป็นพลังปราณสุดแข็งแกร่งอย่างไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ..
เวลาผ่านไปราวสิบนาทีพันวายุจึงลืมตาขึ้น .. ..
ตูมมมม!!! พลังปราณระเบิดออกจากร่างกายจนต้นไม้ในป่ารอบข้างเอนลู่
.. ดวงตาของมันสุกใสลึกล้ำดุจห้วงมหานที .. พันวายุกลับมาสมบูรณ์ถึงขีดสุด
.. ร่างกายและพลังปราณแข็งแกร่งกว่าในช่วงเวลาปกติของมันเสียอีก ..
แต่ .. ความแข็งแกร่งที่ได้รับนี้ต้องแลกมาซึ่งชีวิตของมัน
พันวายุต้องฝ่าวงล้อมของทัพมหาการีย์ออกไปให้ได้ จึงตัดสินใจสละชีวิตใช้เคล็ดวิชา ‘ยอดมงกุฎประสานชีวา’ เพื่อใช้พลังชีวิตเพิ่มพูนพลังปราณในฉับพลัน
.. มันเหลือเวลาหายใจบนโลกนี้อีกเพียงสิบห้าวันเท่านั้น !!!
เพื่อสิ่งของวิเศษของราชวงศ์นพเทพที่มันช่วงชิงกลับมา .. ของสิ่งนี้ต้องส่งให้ถึงมือขุนอินทรพิทักษ์เจ้านายของมันให้จงได้
พันวายุลุกขึ้นยืน .. จ้องมองมายังห่อผ้าที่เบื้องหน้า ..
แต่ .. สิ่งได้พบเห็นทำมันหัวสมองอื้ออึง !!!
“เฮ้ยยย!!!” พันวายุร้องอุทานตกใจถึงขีดสุด
.. ที่เบื้องหน้าคงเหลือเพียงพื้นว่างเปล่า !!!
ของวิเศษที่ใช้ชีวิตปกป้องมาได้อันตรธานหายไปแล้ว !!!
พันวายุเข่าแทบทรุด .. มันเข้าสมาธิเพียงสิบนาที .. กลับมีมือดีมาหยิบฉวยสิ่งของไป ..
“เป็นไปไม่ได้!” พันวายุร้องเสียงหลง มันมองค้นหาไปทั่วบริเวณแต่ก็ไม่พบเจอสิ่งของ
ระหว่างนั้น .. ที่ยอดไม้ไหววูบวาบ เส้นสายสีดำดังเงาของภูตผีร้ายโผบินอยู่เบื้องบน ..
กองภูตทมิฬค้นหาพันวายุจนเจอแล้ว !!!
ฮิ .. ฮิ .. ฮิ .. เสียงหัวเราะบาดแก้วหู .. กลุ่มมือสังหารภูตทมิฬทำการโอบล้อมพันวายุเอาไว้
“อยู่นี้เอง! เจ้าเต่าน้อย .. ฮา” เสียงกล่าวหยอกเย้าจากมือสังหารผู้หนึ่ง
.. ฟิ๊ววววว .. ฟิ๊ววววว .. ฟิ๊ววววว .. ลูกศรสามดอกแผงปราณสังหารพุ่งแหวกอากาศมาจากมุมสูง
เป็นมือสังหารสามตนยิงลูกศรจากอุปกรณ์ที่ท่อนแขน มือสังหารภูตทมิฬอีกสามร่างก็พุ่งตามลงมาติดๆ มือของพวกมันกระชับดาบสีดำสนิท
.. ฉึกกก! ฉึกกก! ฉึกกก! .. ลูกศรทั้งสามพุ่งผ่านอากาศธาตุปักลงบนพื้นดิน
ร่างของพันวายุไหววูบหลบรอดลูกศรเหล่านั้นอย่างง่ายดาย .. แล้วจึงพุ่งเข้าใส่เงาดำที่พุ่งตามมานั้น
“เจ้าหนีไม่พ้นหรอก .. เจ้าลูกเต่า .. ฮึ ฮึ” เสียงมือสังหารร่างผอมสูง
“หนีหัวซุกหัวซุนเช่นเจ้า .. ยังมีแรงเหลืออีกหรือ ฮา ..” มือสังหารร่างเล็กกล่าวแดกดัน
มือสังหารภูตทมิฬฟาดฟันดาบเข้าใส่ ประกายปราณเฉียบคมสองสายถูกส่งเข้ามาทางด้านหน้าของพันวายุ
มือสังหารอีกตนกระโดดอ้อมมาด้านหลัง แล้วจึงกระหวัดดาบสองมือฟันใส่กลางหลังของพันวายุ
.. เปรี๊ยงงง! .. เปรี๊ยงงง!! เสียงดังสนั่น
“!!!” มือสังหารทั้งสองที่ด้านหน้าใจหายวาบ ดาบของพวกมันฟันถูกวัตถุบางสิ่ง แรงกระแทกทำแขนของพวกมันเจ็บสะท้านจนดาบแทบหลุดมือ
ที่รับปราณดาบคือท่อนแขนอันเปลือยเปล่าสองข้าง!
.. เปรี้ยง! .. เปรี้ยง!! ปราณดาบอีกคู่หนึ่งฟันใส่แผ่นหลังอันเปล่าเปลือยของพันวายุ
“เอ้ยยย!!!” มือสังหารที่ด้านหลังร้องเสียงหลง ดาบของมันหยุดกึกไม่ระคายผิวของพันวายุแม้แต่น้อย
ด้วยพลังจากตะกรุดศักดิ์สิทธิ์และเคล็ดวิชา ‘ยอดมงกุฎประสานชีวา’ ทำเนื้อหนังกระดูกของพันวายุแข็งแกร่งประดุจโลหะ มันใช้ท่อนแขนและแผ่นหลังรับดาบอันคมกริบทรงพลังเอาไว้
พันวายุกระแทกพลังปราณผ่านแผ่นหลัง ... เปรี้ยง!!! มือสังหารที่ใช้ดาบคู่ถูกพลังปราณกระแทกใส่จนตัวลอย
“ยังมีเรี่ยวแรงเหลือพอล้มพวกเจ้าในหมัดเดียว .. ฮึ ฮึ” พันวายุยิ้มเยาะมุมปาก ท่าเท้ากระแทกพื้นพุ่งเข้าหามือสังหารด้านหน้า
.. ปั๊กกก! .. ปั๊กกก!! หมัดซ้ายขวาถูกปล่อยออกชกถูกหน้าอกและช่องท้องของมือสังหาร
อ๊ากกก! อ๊ากกก! เสียงร้องอย่างเจ็บปวด ร่างทั้งสองผงะลอยละลิ่ว
พันวายุหันร่างกลับอย่างรวดเร็ว คนสืบเท้าดีดกายเข้าหาภูตทมิฬที่ด้านหลังในทันใด
.. ปั๊กกก! แข้งขวาเตะใส่ชายโครงมือสังหารผู้นั้นจนล้มตัวงอเป็นกุ้งเผา
มือสังหารภูตทมิฬถูกกำจัดไปสามตน อีกสามตนขยับดาบพุ่งกายจากยอดไม้เข้าหาพันวายุ
“ฮึ ..” ท่าเท้าของพันวายุก้าวอย่างต่อเนื่องกระโดดเข้าหามือสังหารที่อยู่ใกล้สุด
.. ปุ๊กกก! หมัดซ้ายของพันวายุชกถูกดาบที่พันลงมา ดาบถูกหมัดกระแทกจนโค้งงอ
.. เปรี้ยงงง! พันวายุเอี้ยวตัวใช้หมัดขวาชกใส่ใบหน้าของมือสังหารตนนั้น
อ๊ากกก! มือสังหารร่างปลิวกระเด็นโลหิตพุ่งกระฉูดออกจากปากจมูก
พันวายุยังเคลื่อนไหวต่ออย่างว่องไว
.. ปุ๊กกก! มันใช้หมัดซ้ายชกใส่หน้าอกของมือสังหารอีกตนจนหน้าอกยุบดัง กร๊อบ!
.. ปั๊กกก! แข้งขวาของพันวายุ เตะฟาดใส่ก้านคอของมือสังหารตนสุดท้ายจนร่างหมุนปลิวราวลูกข่าง
การต่อสู้ใช้เวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจมือสังหารทั้งหมดทอดร่างกองแน่นิ่งอยู่บนพื้น
“เจ้าพวกผี-่า เอ้ยยย” พันวายุสบถด่า .. มันหาสนใจพวกมือสังหารเหล่านี้ไม่ .. ยังคงมองค้นหาสิ่งของของมัน
.. ปรากฏที่ยอดไม้ห่างไปสามสิบก้าวเกิดการเคลื่อนไหว!
เงาร่างเล็กๆ ร่างหนึ่ง .. มีดวงตากลมวาวสีแดง เป็นสิ่งมีชีวิตลักษณะดังวานรตัวน้อย ทั้งตัวปกคลุมด้วยขนสีขาว หางเล็กยาวของมันพันเกี่ยวกับกิ่งไม้ทิ้งตัวชมการต่อสู้อย่างจดจ่อ
.. มือมันถือโล่โลหะ ภายในมีเสื้อและห่อผ้าบรรจุสิ่งของวิเศษของพันวายุเอาไว้
“อยู่นั่น! เอาสิ่งของข้าคืนมา” พันวายุตวาดก้องจ้องมองจนตาแทบถลน
จั๊กก .. จั๊กก .. เจี๊ยกกกก! เสียงร้องของเจ้าวานรตัวน้อย มันจ้องมองพันวายุตากลมแป๋ว
“เจ้าลิงบ้า!” เสียงด่าของพันวายุ ในเวลาเร่งรีบเช่นนี้กลับมาเสียเวลากับวานรน้อยตัวหนึ่ง .. พันวายุพุ่งกายทะยานออกอย่างรวดเร็วหมายจับเจ้าวานรน้อยนั้น
จ๊ากกกก! เจ้าวานรร้องตกใจหน้าตาแตกตื่น ทำการเหวี่ยงขว้างสิ่งของเข้าใส่
พันวายุกระโดดเข้าหาเพียงสามก้าว ที่เบื้องหน้าของมันมีบางสิ่งตรงรี่เข้ามา
“!!!” พันวายุท่าร่างชะงัก พบเห็นวัตถุจานทรงกลมบินเข้ามาอย่างรวดเร็ว มันไม่ปะทะโดยตรงกระโดดขึ้นกลางอากาศในทันใด
.. ฟ้าววว! .. ฉึกกกก!!! วัตถุจานทรงกลมพุ่งหมุนราวกงจักรปักลงพื้นดินอย่างแรง
พันวายุก้มมองลงมา .. วัตถุสิ่งนั้นคือโล่โลหะของมันนั่นเอง เจ้าวานรแปลกประหลาดสามารถเหวี่ยงวัตถุทำร้ายผู้คน
จั๊กก .. จั๊กก .. เจี๊ยกกกก! .. เจ้าวานรน้อยยิ้มยิงฟันทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่
“หนอยยย .. บิดามัน .. เจ้าลิงผี ..” พันวายุก่นด่าด้วยความโมโห มันทิ้งตัวลงพื้นใช้มือดึงโล่โลหะขึ้นมา
เจ้าวานรหน้าทะเล้นแกะห่อผ้าสีดำที่พันไว้อย่างแน่นหนา ปรากฏแสงขาวนวลส่องลอดออกมา .. สิ่งที่อยู่ในมือคือหินสลักก้อนหนึ่ง ..
.. ตราหยกนพเทพ !!!
.. ตราหยกแผ่นดินแคว้นมัธยะปุรา .. ทำด้วยหินหยกสีขาวเนื้อใสบริสุทธิ์ สัณฐานเป็นจัตุรัสยาวด้านละห้านิ้วสูงสามนิ้ว ด้านบนแกะสลักเป็นรูปหงส์งามสง่าวิจิตรงดงาม
สิ่งนี้คือหนึ่งในเครื่องนพเทพทั้งเก้า .. วัตถุวิเศษจากสรวงสวรรค์ พลังงานบริสุทธิ์แผ่กระจายออกรอบด้าน
เจ้าวานรงุนงงเกาหัวแกรกๆ จ้องมองวัตถุคล้ายหินเรืองแสงได้ที่เบื้องหน้า
“บังอาจ ! เจ้าสัตว์หน้าขน ..” พันวายุร้องลั่น มันดีดร่างพุ่งทะยานด้วยความเร็วเป็นเท่าทวี ตรงเข้าหาเจ้าวานรอย่างไม่ให้ตั้งตัว
พันวายุกระโดดตัวลอยมาอยู่ตรงด้านหน้า แขนขวาไหววาบยืนออกหมายแย่งชิงของวิเศษกลับคืนมา ..
จั๊กก .. จ๊ากกกก! วานรน้อยร้องเสียงหลง
หมับบบ!!! มือของพันวายุคว้าจับได้เพียงใบไม้ใบหนึ่ง วานรขาวตัวน้อยย้ายไปห้อยอยู่ต้นไม้ต้นอื่นแล้ว
ฮึ .. พันวายุพลิกกายใช้เท้าถีบต้นไม้จนสั่นไหว ร่างของมันพุ่งตามวานรโดยไม่ลดละ
หมับบบ !!! พันวายุคว้าจับได้เพียงกิ่งไม้ .. ร่างของเจ้าวานรหลบรอดไปได้อีกครา
หมับบบ !!! พันวายุคว้าจับไม่ได้แม้เพียงเส้นขน .. เจ้าวานรน้อยปราดเปรียวว่องไวยิ่งนัก
เปรี้ยงง !!! กิ่งไม้ถูกพันวายุตบใส่จนแหลกกระจาย .. จากไล่จับเปลี่ยนเป็นไล่ทุบตีแล้ว
จั๊กก .. เจี๊ยกกกก! แปลลลล่!! .. วานรน้อยใช้นิ้วแหกตาแลบลิ้นใส่พันวายุ
พันวายุหนวดสั่นกระตุก .. โทษะพวยพุ่งจนใบหูร้อนฉ่า .. วันนี้มันจะทดลองรับประทานสมองลูกวานรดูสักครั้ง ..
จ๊ากกกก!! เสียงร้องของเจ้าวานร มันสัมผัสถึงจิตสังหารอันแรงกล้าของพันวายุ .. พันวายุก้าวขาเอี้ยวตัวใช้แขนเหวี่ยงโล่โลหะออกทันใด .. โล่โลหะหมุนบินเป็นเส้นโค้งเข้าใส่สัตว์ตัวน้อยที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้
เปรี้ยงงง !!! ... โล่บินพุ่งเข้าตัดต้นไม่เสียงดังสนั่น .. ต้นไม้ต้นเท่าขาขาดเป็นสองท่อน
จั๊กก .. จั๊กก .. วานรน้อยร้องเสียงอ่อย มันหลบรอดท่าสังหารมาได้อย่างเฉียดฉิว
โล่โลหะบินวกกลับมาหาเจ้าของราวมีชีวิต .. พันวายุจ้องมองวานรที่หลบรอดกระบวนท่าของมันอย่างไม่วางตา
เจี๊ยกกกก! เจ้าวานรน้อยไม่รั้งรอให้โล่โลหะบินมาหาอีกรอบ .. มันกระโดดย้ายตูดหอบสิ่งของหลบหนีในบัดดล .. ท่าร่างของมันรวดเร็วราวสายลมพัดพลิ้ว .. วานรร่างเล็กจ้อยหายวับไปต่อหน้าต่อตาเสียแล้ว ..
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??