เรื่อง ทะลุมิติรักฉบับซุปเปอร์สตาร์ (แปลจบแล้ว)
“ปีกไก่ 5 ไม้ ปาึ 10 ไม้ เื้แะ 10 ไม้ เนื้อวัว 10 ไม้...” ฉินซีสั่งอาหารในร้านปิ้งย่างอย่างคล่องแคล่ว แต่เจี่ยงถิงเฟิงที่เป็นฝ่ายชวนมาับจิตใไมู่่กับเนื้อกับั ดูเหมือนว่าเขาจะมาสถานที่แบบี้น้อยาๆ
แม่ค้าหมุนัไปจัดาอาหารให้ ฉินซีหมุนัับมาหาที่นั่งมุมึ่กับเจี่ยงถิงเฟิง าู่ที่นี่ไม่จำเป็น้ัวว่าจะถูกปาปารัสซี่แอบถ่าย ึอย่างไรภาพยนตร์และละครหลายเื่ก็มาถ่ายทำที่ใ้ๆ แถวี้ามาย เกรงว่าแม่ค้าเก็ได้เจอกับดาราไม่รู้ั้กี่คนแ้ ตอนี้ถ้าพวกเขาจะมานั่งทานปิ้งย่างู่ที่นี่ก็ไม่น่าแปลกใเท่าไร
เจี่ยงถิงเฟิงยังไม่สามารถดึงัเับมาจากบทบาทในละครได้ เขาพูดคุยเล่นกับฉินซีไปึฉากในละครเพื่อปกปิดความรู้สึกอึดอัดในตอนางวัน เจี่ยงถิงเฟิงจึงจงใพูดล้อฉินซีเล่น “วันี้นายเล่นซีนนั้นได้สวยงามดึงดูดใเกินไปแ้...”
าที่พวกผู้ชายจะพูดเื่ลามกึ้ในระหว่างดื่มสุราด้วยกันนั้นไม่ใช่เื่แปลก เพียงแต่พอฉินซีได้ิเจี่ยงถิงเฟิงพูดแบบี้ เขาก็มักจะรู้สึกแปลกๆ ู่เอ จึงอกตามองบนปกปิดความรู้สึก และตอกับเจี่ยงถิงเฟิงไป “ไม่มีั้หน้าอก ไม่มีั้ก้น จะไปดึงดูดใได้ยังไงเล่า?”
เจี่ยงถิงเฟิงหัวเราะร่า “มีต้นขาขาวๆ ไง...”
ฉินซีทุบเขาเล็กน้อย “ไปเลยไป”
ในตอนนั้นแม่ค้านำอาหารเข้ามาเสิร์ฟพี และซุ้มปิ้งย่างที่ถูกั้ึ้แห่งี้ก็เริ่มมีคนเข้ามาเยอะึ้เรื่อยๆ บ้างก็เป็นทีมงานจากกองถ่ายอื่น บ้างก็เป็นดาราที่ไม่ค่อยสะดุดตาเท่าไร… ไม่นานนักบรรยากาศในยามค่ำคืนก็ถูกทำให้คึกคัก
หลายวันมาี้ฉินซีกับเจี่ยงถิงเฟิงใช้เวลาร่วมกันมาตล เมื่อพูดคุยไปึเื่าแสดง ก็สนทนากันได้อย่างรส พวกเขาพูดคุยกันไปเรื่อย บรรยากาศก็นับว่าเป็นกันเ ความอึดอัดในช่วงางวันค่อยๆ ถูกืเื แต่รอจนึตอนที่แม่ค้านำเบียร์มาเสิร์ฟ ู่ดีๆ ด้านข้างก็มีเีงึ่ดังขัดึ้ เขาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “วันี้พวกนายถ่ายกันเสร็จแ้เหรอ?”
หัวใของฉินซีเต้นระรัว ในองของเขาปรากฏคำึ่กระโดดึ้มาทันที “ซวยแ้”
เขากับเจี่ยงถิงเฟิงเงยหน้าึ้พร้อมกัน จงซิงอู๋ยืนู่ข้างโต๊ะของพวกเขา และไม่ห่างไปยังมีเฉินเจวี๋ยที่ขมวดคิ้วหน้าตาไม่พอใู่ด้วย ตอนที่ฉินซีกวาดาตาไปก็สบตากับเฉินเจวี๋ยพี าตาเย็นยะเยือกคู่นั้นทำเอาฉินซีรู้สึกผิด อย่างไรคนที่ผิดสัญญา่ก็คือเขา และคนที่จะ้าผิดสัญญากับเฉินเจวี๋ยก็คงมีู่ไม่านัก!
“อาจารย์จง” ฉินซีละาตาับมา ่จะทักทายจงซิงอู๋่ เฉินเจวี๋ยยืนู่ไแบบนั้น ฉินซีจึงไม่สามารถทักทายเขาได้ ทำได้เพียงเงียบไป
เจี่ยงถิงเฟิงไม่เห็นเฉินเจวี๋ย เขาจึงเรียกจงซิงอู๋ว่า “อาจารย์” ด้วยความกระตือรือร้น ติดู่ที่เฉินเจวี๋ย จงซิงอู๋จึงไม่้านั่งลง และทำเพียงส่งาตาลอบมองไปยังเฉินเจวี๋ย เฉินเจวี๋ยขยับฝีเท้าเข้ามาที่โต๊ะอย่างเฉื่อยชา ่จะพูดึ้อย่างราบเรียบ “ที่นายลืมฉันไปสนิทก็เาะจะชวนเขามาทานข้าวนี่เ”
เจี่ยงถิงเฟิงพลันรู้สึกได้ึอันตราย หยาดเหงื่อไหลโชกไปทั่วแผ่นหลัง เขามองไปยังชายที่ไม่ทราบชื่อคนี้ อ้าปากอยากพูดแก้ัให้ฉินซี แต่ไม่ว่าอย่างไรก็พูดไม่ ราวกับู่ๆ ความ้าของเขาก็สูญหายไปหลังจากได้เผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
แม้เจี่ยงถิงเฟิงจะไม่รู้สึก แต่ท่าทางของคนตรงหน้าเขาคล้ายว่ามีแรงกดดันกระแสึ่ส่งมาเบาบาง
ฉินซีไม่ได้ต่างอะไรจากเจี่ยงถิงเฟิงนัก แต่เขาขนลุกด้วยความตื่นตระหนกไปั้ั เขามักจะรู้สึกว่าคำพูดของเฉินเจวี๋ยประโยคี้ดูแปลกๆ ฉินซีเก็ไม่้าคิดอะไรให้วุ่นวาย จึงรีบยืนึ้เอ่ยขอโทษ “ไม่อยากไปรบกวนอาจารย์จงที่กองถ่ายน่ะครับ...”
จงซิงอู๋ทีู่่ข้างๆ ายเป็นกังวลึ้มา เขาไม่อยากโดนลูกหลงไปด้วยหรอกนะ!
เฉินเจวี๋ยไม่ใช่คนใคอคับแคบ แน่นอนว่าเขาไม่มีทางโทษจงซิ่งอู๋ เขามองฉินซีด้วยาตาเย็นชา น้ำเีงแฝงไปด้วยความไม่พอใ “นายไม่อยากจะไปรบกวนจงซิงอู๋ หรือไม่้ามารบกวนฉันกันแน่? นายขี้ขลาดขนาดี้ั้แต่เมื่อไร?”
เมื่อถูกเฉินเจวี๋ยพูดแบบี้ ิี็มองแ้ ปกติแ้เฉินเจวี๋ยไม่มีทางใส่ใากระทำของพวกคนที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไร ฉินซีเผยรอยยิ้มมาอย่างกระตือรือร้น และเป็นฝ่ายพูดึ้ “ไม่ดีเครับ ยังไงคุณเฉินก็ู่ที่นี่แ้ งั้นขอชวนคุณเฉินมาทานอะไรด้วยกันเลยดีกว่า”
ในใของเฉินเจวี๋ยคิดึ้ “เ้าหมอนี่หัวหมอจริงๆ ั้ใจะใช้ปิ้งย่างมื้อเี่าเื่ี้ไปแบบงงๆ ั้ื” แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาึตอบรับไปง่ายๆ
รอจนแม่ค้ายกเก้าอี้เข้ามา เฉินเจวี๋ยนั่งลงแ้ ก็เพิ่งคิดึ้ได้ว่าตอนที่ัเมาจากฮ่องกง แม่บ้านของเขาได้กำชับเอาไว้นานแ้ว่า เวลาไปที่อื่นเธอไม่สามารถมาคอยดูแลเขาได้ เาะเมื่อ่เฉินเจวี๋ยคนี้เคยทานอาหารไม่สะอาดแ้เกิดเื่อันตรายึ้มา แม่บ้านจึงไม่ค่อยวางใมานานแ้!
เาะว่ามีคนเข้ามาเพิ่มอีก 2 คน ฉินซีจึง้ให้แม่ค้านำอาหารมาเพิ่ม าที่จงซิงอู๋มาึตำแหน่งเทพเ้าได้นั้น ก็แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี ตอนี้แม้จะนั่งู่กับคนหน้าใหม่ในวงาบันเทิง จงซิงอู๋ก็ไม่ได้ดูถูกพวกเขา ั้ยังสั่งอาหารที่ัเชอบทานอย่างเป็นมิตรเข้าึง่าย ไม่ได้ทำัเป็นคนอื่นคนไแต่อย่างใด
“คุณเฉินชอบทานอะไรครับ?” ฉินซีหันไปถามเฉินเจวี๋ย
พูดกันตามความจริง หลังจากที่เฉินเจวี๋ยนั่งลงและได้เห็นคราบน้ำมันสีดำบนโต๊ะ ความอยากอาหารก็ลดลงไปไม่น้อย เมื่อฉินซีถามึ้ เขาก็จ้องเมนูอาหารู่สักพัก และุท้ายก็พูดมาประโยคึ่ “...เบียร์สักแก้วก็แ้กัน”
อาหารอื่นต่างก็มีรสชาติจัดจ้าน ั้ยังทำไม่ค่อยสะอาดนัก ไม่ใช่ว่าเฉินเจวี๋ยเื่า ทว่ากระเพาะของเขาไม่อาจรับของพวกี้ได้
เมื่อฉินซีได้ิดังนั้น เขาก็ดันแก้วเบียร์ของัเไปตรงหน้าเฉินเจวี๋ย “คุณเฉินดื่มแก้วี้ไป่เลยครับ ยังไม่ได้ดื่มเลย”
เดิมทีิี็อยากจะหาโอกาสไม่ดื่มแอลกอฮอล์ู่แ้ คนที่สั่งเบียร์ี้า็คือเจี่ยงถิงเฟิง ฉินซีไม่ชอบดื่มจนเมาับกองถ่ายนัก
คิ้วของเฉินเจวี๋ยเลิกึ้อย่างเงียบงัน เขายื่นมือึ้ไปจับแก้วใบนั้น เบียร์ถูกเติมน้ำแข็งมา่ ดังนั้นบนัแก้วจึงมีไอน้ำเกาะู่รอบๆ พอจับไปโดนก็รู้สึกเย็นสบาย เมื่อความคิดของเขาแล่นไป ก็ยกแก้วึ้มาจิบ
จงซิงอู๋รู้ว่าคนรวยบางส่วนมักมีงานิเรกแปลกๆ แต่เขาคิดไม่ึว่าเฉินเจวี๋ยจะดื่มมันลงไปจริงๆ เขาเกือบจะตื่นตระหนกจนทำตะเกียบในมือตก อย่าได้พูดึจงซิงอู่เลย แม้แต่ดวงตาของบี้า์ดของเฉินเจวี๋ยที่เร้นกายู่ก็ยังเกือบจะหลุดมาจากเบ้า
มีเพียงฉินซีที่สบายใทีุ่ เขามองไปากระทำของเฉินเจวี๋ย และได้รู้ว่าความจริงอีกฝ่ายไม่ได้มีภาพลักษณ์สูงส่งู่เบื้องบน ไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนทั่วไปเหมือนอย่างที่ัเในชาติ่คิด ้โทษว่าเมื่อชาติที่แ้เขาคิดึภาพลักษณ์ของเฉินเจวี๋ยเอาไว้ลึกซึ้งเกินไป จึงมักจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นพวกคนที่ยากจะรับมือู่เอ
จงซิงอู๋เป็นคนที่เลือกหัว้าสนทนาได้ดี แม้จะนั่งู่กับคนที่ไม่ไดู้่ในระดับเทพเ้าเช่นเีกับเขา และไม่ใช่คนสูงศักดิ์ร่ำรวยอะไร เขาก็ยังคงหาเื่มาพูดคุยได้อย่างมีความสุข อีกั้จงซิงอู๋ก็ถือได้ว่าเป็นอาจารย์ของเจี่ยงถิงเฟิง ไม่นานเจี่ยงถิงเฟิงก็พูดคุยสนุกไปกับเขา ฉินซีกับเฉินเจวี๋ยจึงนั่งเงียบู่ตรงข้ามกัน มองอย่างไรก็น่าอึดอัด ฉินซีคิดแ้คิดอีก ที่ัเผิดสัญญาก็เป็นความผิดของัเขาเ จึง้เป็นฝ่ายเปิดปากชดเชยความผิดของัเ
ดังนั้นฉินซีจึงพยายามอย่างหนักเพื่อคิดหัว้สนทนามา เขาเอ่ยถามเฉินเจวี๋ย “คุณเฉินมาที่นี่ได้ยังไงครับ?” าที่คนสูงส่งอย่างเฉินเจวี๋ยมาึเมืองเล็กๆ แบบี้ได้ นั่นทำให้เขาประหลาดใจริงๆ! ใครจะรู้ว่าตอนที่เขาได้เจอกับเฉินเจวี๋ยที่กองถ่าย เขาตื่นตกใาแค่ไหน หากดูจากอัตราความถี่ที่เขาได้เจอกับเฉินเจวี๋ยในช่วงี้แ้ มันก็เป็นเหมือนพรหมลิขิตอันยิ่งใหญ่! ควรจะรู้ว่ามีคนามายอยากเจอกับเฉินเจวี๋ยสักครั้ง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เจอู่
เมื่อฉินซีเป็นฝ่ายเปิดประเด็น เฉินเจวี๋ยเก็ดูราวกับถูกเปิดทาง เขาถามฉินซีับไป “ฉันจะซื้อบริษัทบันเทิงที่ึ่ นายมาเซ็นสัญญากับฉันไม่ดีกว่าเหรอ?”
ฉินซีึกับแข็งทื่อไป เฉินเจวี๋ยจะซื้อบริษัทบันเทิง? ไ่ใ่ิ เขาจำได้แม่นว่าเมื่อชาติ่ เฉินเจวี๋ยซื้อบริษัทบันเทิงเก่าแก่แห่งึ่หลังจากที่เขามีชื่อเีงแ้! หรือว่าชาติี้พอเขาับมาเกิดใหม่ มันก็ทำให้เกิดปรากฏาณ์ตามทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก[1] ึ้มา และเื่อื่นๆ ก็จะถูกเปลี่ยนตามไปด้วย?
ในใของฉินซีเกิดความลังเลึ้ ความจริงแ้เขากังวลเล็กน้อยว่า หลังจากี้เื่ราวจะเกิดาเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ึ้หรือเป่า หากว่ามันเปลี่ยนไปาเกินไป ้ได้เปรียบอันได้มาจากาับมาเกิดใหม่ของเขาก็จะสูญเีไป… เาะว่าเขาจะไม่มีความสามารถล่วงรู้เื่ราว่หน้าแ้!
เมื่อเห็นฉินซีก้มหน้าลงไม่รู้ว่าคิดอะไรู่ เฉินเจวี๋ยก็รู้สึกไม่สบายใึ้มาเล็กน้อย เขาคิดว่าฉินซีกำลังพยายามหา้อ้างในาปฏิเสธ เฉินเจวี๋ยคิดไปึว่าผู้กำกับของละครที่ฉินซีแสดงคือสวี่เทา สวี่เทาชอบเอาันักแสดงหน้าใหม่มาไว้ในสังกัดของัเ ไม่แน่ว่าเขาอาจเซ็นสัญญากับฉินซีไปแ้ก็ได้… เฉินเจวี๋ยไม่อยากให้สีหน้าของัเดูย่ำแย่าจนเกินไป เขาจึงพูดบคำถาม่หน้า และกระทำราวกับไม่เคยหยิบยื่นความหวังดีี้แก่ฉินซี “นายรับบทเป็นใครในละครของสวี่เทา?”
ฉินซีไม่รู้ว่าทำไมู่ๆ เฉินเจวี๋ยึถามเื่ี้ จึงถามเขาับไป “หรือว่าวันี้คุณเฉินไปดูู่ั้นาน ก็ยังมองไม่ว่ารับบทเป็นัละครัไหนเหรอครับ?”
เฉินเจวี๋ยรู้สึกกระอักกระอ่วนใึ้เล็กน้อย คิดไม่ึว่าตอนทีู่่ในกองถ่าย เขาจะสูญเีาควบคุมขนาดนั้น ไปกองถ่ายกับจงซิงอู๋โดยที่ไม่ได้สนใว่ากองถ่ายี้กำลังถ่ายทำเื่อะไร เพียงแต่พอเข้าไปดูก็ได้เห็นฉินซีแสดงฉากใ้ชิดกับคนอื่น าแสดงของฉินซีมีเอักษณ์ และจับใคนได้ดี โดยเฉพาะรูปลักษณ์ของเขาที่ไม่ธรรมดา และทักษะาแสดงที่ใช้าได้ดี เมื่อรวมกับฉากของกองถ่ายที่ถือว่าจัดึ้มาได้ค่อนข้างสวยงามมีความสุนทรียศาสตร์แ้ ตอนที่เฉินเจวี๋ยมองดู เขาก็ไม่ได้ิบทคำพูดเลยแม้แต่คำเี าธิของเขาไปหยุดู่ที่ัของฉินซีอย่างไม่ทันรู้สึกั
แต่ว่าคำพูดี้ เฉินเจวี๋ยไม่มีทางพูดมาแน่
สีหน้าของเขาราบเรียบและยังคงทำัไม่อาจคาดเดาได้เช่นเดิม “ฉันยังไม่รู้เลยว่าพวกนายแสดงละครอะไรกันู่”
ฉินซีกะพริบตาปริบๆ ่จะพูดึ้พร้อมรอยยิ้ม “ผู้กำกับสวี่นำ [กระบี่เย้ยยุทธจักร] มาถ่ายทำใหม่น่ะครับ เดี๋ยวตอนที่ปล่อยาาแ้ คุณเฉิน้ดูด้วยนะ!”
ู่ๆ เฉินเจวี๋ยก็รู้สึกว่าท่าทางที่ฉินซีมีต่อัเขาค่อนข้างปล่อยวางลงไม่น้อย และไม่ได้ตกใัวหรือคอยระแวดระวังขนาดนั้นแ้
มุมปากของเฉินเจวี๋ยยกยิ้มึ้อย่างไม่ได้ น้ำเีงที่พูดกับฉินซีเก็ไม่ได้ราบเรียบขนาดนั้นแ้ “แม้แต่ฉันก็ยังไม่ปล่อย่า จะ้ให้ฉันเพิ่มยเรตติ้งให้อีกเหรอ?”
จงซิงอู๋บังเอิญได้ิประโยคี้เข้าพี ในใของเขากำลังคาดเดาความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเจวี๋ยกับฉินซีึ้ใหม่ เขายิ้มตาหยีพร้อมกับขยับเข้ามาใ้ และพูดเสริมึ้ “ไม่ใช่แค่คุณเฉินเท่านั้นนะ เอาไว้าาแ้ ฉันก็จะเพิ่มยเรตติ้งให้ด้วย”
พ
……
[1] ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก (Butterfly Effect) คือาเปลี่ยนแปลงของัแปเล็กๆ อาจส่งผลไปึัแปใหญ่ และส่งผลต่อเนื่องสู่ภาพรวมได้
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??