เรื่อง ทะลุมิติรักฉบับซุปเปอร์สตาร์ (แปลจบแล้ว)
เมื่อมีการชี้แนะจากเฉินเจวี๋ย จิตใจฉินซีก็สงบลง เขาเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกับนางเอก แม้จะดูคับไปบ้างเาะขนาดเสื้อผ้า แต่เมื่อสวมเสื้อคลุมันอก และเวลาที่นั่งลงใช้สองมือดีดฉิน แขนเสื้อทั้งสองก็จะไหลลงมาอยู่ที่ข้อแขนเผยผิวขาวใส แน่นอนว่าในตอนนั้นไม่มีใครสังเกตว่าแขนเสื้อเขาสั้นหรือไม่ เสื้อผ้าด้านในคับหรือเปล่า
ลักษณะท่าทางทุกคนล้วนแตกต่าง หากบอกว่าเวลาที่เถาเซียงสวมชุดคลุมสีม่วง่ บนหัวประดับผ้าคลุมศีรษะนั่งอยู่หน้ากู่ฉินให้ความรู้สึกงดงามและลึั เช่นนั้นเมื่อฉินซีนั่งอยู่หน้ากู่ฉินก็ให้อารมณ์สบายๆ และูส่งในเวลาเดียวกัน เมื่อเขาขยับดีดสายฉินไปามอารมณ์ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าคนผู้ี้ดูนุ่มนวลปล่อยวาง แค่ทำท่าทางแบบี้ก็ทำให้คนประทับใจได้แล้ว
น่าเสียดาย… นี่เสียดายจริงๆ ที่ฉินซีเป็ผู้า ถ้าเขาเป็ผู้ญิละก็ จะต้องเป็คนที่เหมาะกับบทเริ่นอิ๋งอิ๋งที่สุดในใจสวี่เทาแน่
เริ่นอิ๋งอิ๋งในต้นฉบับนั้น นอกจากความฉาหลักแหลมและรูปลักษณ์ที่งดงามแล้ว เาะว่านางเป็ธิดาเทพที่เกิดมาในลัทธิเทพเ้าสุริยันจันทรา จึงได้รับการเลี้ยงดูเป็่าดีจากตงฟางปู๋ป้าย นางมีตำแหน่งที่ได้รับความเคารพูส่งในลัทธิ เ็สาวผู้ไม่ธรรมดาคนี้ มีบรรยากาศรอบัเบาบางและูส่งในคราเดียวกัน ไม่ใช่แค่เ็สาวทั่วไปในัเมือง ดังนั้นนางจึงสามารถสร้างพันธะเช่นี้กับลิ่งหูชงได้ หากเถาเซียงจะแสดงออกมาให้ได้แบบี้ก็ค่อนข้างยากอยู่ แต่ก็ยังสามารถอาศัยรูปลักษณ์านอกรับบทเริ่นอิ๋งอิ๋งได้ ทว่าในตอนี้เพียงความแตกต่างแผ่นัก็ทำให้คนอดถอนหายใจด้วยความเสียดายไม่ได้ ฉินซีช่างยอดเยี่ยมจริงๆ
สเตจเมเนเจอร์[1] เข้ามาอธิบายิ่ที่ัแสดงแทนจะต้องใส่ใจเป็พิเศษให้ฉินซีฟัง ความจริงฉินซีรู้เรื่องเหล่าี้มาตั้งแต่ชาติก่อนแล้ว เนื่องจากเมื่อชาติก่อนเขาก็ได้เป็ัแสดงแทนอยู่หลายครั้ง แต่ในเมื่อสเตจเมเนเจอร์หวังดี ฉินซีก็ไม่มีทางปฏิเสธ เขายิ้มพร้อมกับตอบรับัไป ไม่นานสวี่เทาก็ตะโกนสั่ง “แอคชั่น” ิ้เสียงคำสั่งผู้กำกับ ฉินซีก็ลืมเลือนผู้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็เฉินเจวี๋ย สวี่เทา หรือว่าเถาเซียง… ทั้งหมดถูกสลัดออกไปจากหัว
ทว่าตั้งแต่ที่เขาสัมผัสกับสายฉิน และทำท่าทางขึ้นมา าในสเขาก็ยังคงฝังลึกอยู่กับความอบอุ่นเฉินเจวี๋ยขณะที่แก้ไขท่าทางให้
ความอบอุ่นจนสามารถเผาไหม้คนได้นั้น ทำให้เขาไม่อาจลืมเลือนท่าทางการเคลื่อนไหวี้ เขาจึงกรีดนิ้วเล่นฉินได้่าไหลลื่นสวยงาม แม้จะเป็เพียงการทำท่าทาง แต่ฉินซีก็ยังคงเล่นบทเพลงหนึ่งออกมาจริงๆ และแม้ว่าบทเพลงี้จะยังคงถูกเขาเล่นออกมา่าติดขัดเช่นเดิม แต่เมื่อเทียบกับเมื่อครู่แล้ว ก็มีการพัฒนา่าน่าตกใจ ่าไรก่อนหน้าี้ฉินซีก็ไม่เคยสัมผัสกู่ฉินา่อน เพียงอาศัยความรู้อันน้อยนิดและสัมผัสเสียงเพลงที่ได้มาจากการเรียนกู่เจิงเท่านั้น
ไม่นานบทเพลง [หูเจียสือปาพาย] ก็ถูกเขาบรรเลงจนจบ ้องขยับเข้ามาถ่ายมือในระยะใ้ แม้้องพวกี้จะถ่ายไปหลายช็อตาแล้ว แต่เมื่อัจากตัดแล้วก็เหลืออยู่ไม่า และสามารถนำ่เขาไปตัดรวมกับ่เถาเซียง จากนั้นก็ปรับแต่งให้เหล่าคนดูไม่เห็นว่าติดขัด
ฉินซีชักมือเก็บัมา ขยับับนหินหมุนัไปถามสวี่เทา “ผู้กำกับสวี่ เป็ยังไงบ้างครับ? ใช้ได้ไหม?”
สวี่เทาปรบมือขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “ใช้ได้ ใ้ไ้! ผ่านแล้ว ่าแ้! ไม่รบกวนเวลาบินนายแล้ว ีไปเะ เรื่องค่าตอบแทนต้องรอให้กองถ่ายจัดการเรียบร้อยก่อน แล้วจะจ่ายให้พร้อมกันนะ ไม่ต้องรีบร้อน” สวี่เทาพูดออกมาากว่าปกติด้วยความดีใจ
ฉินซีรู้เรื่องกฎเกณฑ์เหล่าี้ดี จึงไม่ได้ใส่ใจนัก เขาเดินไปทางซุ้มแต่งหน้าพร้อมกับดึงคอเสื้อัเองไปด้วย เขายังต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าสักรอบ ในระหว่างที่วุ่นวายอยู่นั้น ฉินซีก็ไม่ทันได้ดูเวลา
เฉินเจวี๋ยยืนเขาอยู่ตลอดเวลา ในที่สุดคนาในกองถ่ายก็เริ่มนึกหน้าเฉินเจวี๋ยออก ญิสาวหลายๆ คนจึงเริ่มจับุ่มซุบซิบกัน “เ๋ นั่นไม่ใชุ่เฉิน นักธุรกิจชื่อดังจากฮ่องกงหรอกเหรอ?”
“เป็ไปไม่ได้น่า เขาจะมาอยู่ในที่แบบี้ได้ยังไง? พวกเรามาถ่ายละครกันทั้งนั้น คน่าุเฉินจะมาที่นี่ทำไมเล่า?”
“ใครจะรู้ล่ะ? หรือว่าเขาจะมาเยี่ยมชมงาน?”
“ฉันว่าดูไม่เหมือนแบบนั้นนะ...”
“เมื่อัก่อนฉันเจอคนที่หน้าาเหมือนเทพเ้าจงด้วยนะ...”
เมื่อเฉินเจวี๋ยได้ยินเสียงซุบซิบพวกเธอ เขาก็ค่อยๆ เดิน่าา เขามาที่นี่เพื่อเยี่ยมชมงานจริง และเาะตั้งใจจะลงทุนกับจงซิงอู๋ จึงต้องมาดูแนวโน้มงานจงซิงอู๋่าเลี่ยงไม่ได้ เพียงแต่เมื่อมาลองดู จากเดิมทีที่จะอยู่ที่นี่สัก 2 ั ก็ัายเป็ลากยาวมานานขนาดี้ จงซิงอู๋สุดจิตสุดใจกับเขาแล้ว เพียงแต่เฉินเจวี๋ยไม่รู้ว่าัเองมีความใจดีแบบี้ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร ึได้ไปผูกชะาสร้างบุญกับฉินซี
ดูไม่เหมือนนิสัยัเขาเลย...
เฉินเจวี๋ยขมวดคิ้วเดินออกจากกองถ่าย
เมื่อฉินซีเก็บข้าว บอาคนในกองถ่ายอีกครั้งเสร็จิ้ เขาก็ไม่เห็นเงาร่างเฉินเจวี๋ยแล้ว ฉินซีนิ่งไปกว่าครึ่งนาที ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูเวลา่ามึนงง แ่แ้! อีกิกว่านาทีเครื่องก็จะขึ้นแล้ว! ตอนี้ต่อให้นั่งรถที่ขับเร็วที่สุดไปก็ไปไม่ทันอยู่ดี! หรือเฉินเจวี๋ยจะไปก่อนแล้ว?
ในใจฉินซีรู้สึกผิดหวังขึ้น่าน่าประหา แต่ไม่นานความผิดหวังนั้นก็ถูกเขาข้ามไป เขาก้าวเดินให้ช้าลงและออกไป่าเอื่อยเฉื่อย เขาทอดถอนใจออกมาเบาๆ ด้วยความเศร้า ดูเหมือนว่าจะต้องซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่แล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะมีเครื่องขึ้นอีกทีตอนกี่โมง ฉินซีคิดหนักพร้อมกับเดินออกไปด้านนอก แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อเดินมาึประตูทางเข้า เงาสายหนึ่งก็ทอดลงบังหัวเขา่าไม่ทันได้ตั้งั ฉินซีเงยหน้าขึ้น่าไม่ทันระวัง และบังเอิญได้พบกับใบหน้าเย็นชาบอดี้การ์ดผิวเ้คนนั้น ฉินซีตกใจแทบสะดุ้ง ก่อนจะได้ยินบอดี้การ์ด “ุเฉินรออยู่บนรถ”
ฉินซีพยักหน้า่ามึนงง สเขาราวกับยังไม่สามารถปรับัได้ทัน
ฉินซีเดินามอยู่ด้านับอดี้การ์ด ขึ้นไปนั่งบนรถ เฉินเจวี๋ยค่อยๆ เิา่าไม่ทุกข์ร้อน “ฉันแก้ไขตั๋วเครื่องบินให้แล้ว เดี๋ยวพวกเราจะไปตอนบ่ายโมง ัไปทานอาหารางัที่โรงแรมกันก่อน”!
“อ้อ...” ฉินซีทำหน้าเหลอหลาตอบัไป ในที่สุดเส้นประสาทสองเส้นในหัวก็เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ราวกับในสเกิดประกายสายฟ้าแล่นแปลบปลาบ ทำเอาฉินซีเิากว้างได้สติขึ้นมา “ที่แทุ้เฉินก็ยังรอผมอยู่ที่นี่?” เดิมทีเขาคิดว่าเฉินเจวี๋ยัไปแล้ว คน่าเฉินเจวี๋ยสามารถไปส่งเขาได้ครั้งหนึ่งก็เยี่ยมาแล้ว แต่นี่เขายังรออยู่ที่นี่อีก? ฮ่า ฉินซีไม่ได้หลงัเองขนาดจะคิดว่าเสน่ห์ัเองจะทำให้เฉินเจวี๋ยลุ่มหลงไปได้!
สีหน้าเฉินเจวี๋ยไม่เปลี่ยนแปลง “ตงกันไปแล้ว จะเปลี่ยนอะไรามใจได้ยังไง?”
ฉินซีพยักหน้าหงึกหงัก าในใจเขาเอ่ยชมอีกฝ่ายขึ้นมา่าไร้สาเหตุ มีคนบางประเภทที่แตกต่างออกไป พวกเขามีอำนาจอิทธิพลระดับู ทั้งยังได้รับการอบรมและมีนิสัยที่ดี ใุี่ละเอียด่ พวกุมักจะสามารถสัมผัสได้ึความแตกต่าง่ามหาศาลพวกคนร่ำรวยเหล่าี้ เฉินเจวี๋ยเองก็เป็คนแบบนั้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมื่อชาติก่อน เขาึทำธุรกิจได้ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ และอำนาจในมือก็มีแต่าขึ้นในทุกๆ ั
ทั้งสองัมาทานอาหารางัที่โรงแรมด้วยกัน ทั้งยังพักผ่อนกันอีกสักพัก ัจากนั้นบอดี้การ์ดก็เข้ามาเรียกพวกเขาให้ออกเดินทาง ิี้าหน้า ก่อนจะามขึ้นรถไป
พวกเขามาึสนามบินได้่าราบรื่น และในที่สุดครั้งี้ก็ไม่มีใครโทรหาฉินซีให้ไปช่วยเหลืออะไรอีก ฉินซีจึงถอนหายใจออกมา่าสบายใจ แม้ว่าเรื่องการช่วยเหลือคนอื่นจะสามารถสั่งความดีให้กับัเองได้ แต่การไปช่วยเหลือคนอื่นก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อัเอง อีกทั้งทำให้ล่าช้า ถ้ามีมาหลายๆ ครั้งเขาก็รับไม่ไหวเหมือนกัน! ่าไรเรื่องการช่วยเหลือก็เป็เรื่องที่ต้องทำามกำลังไหวด้วย
รอจนทั้งสองเดินเข้าไปยังสนามบิน เฉินเจวี๋ยก็เปิดปากพูด “ไม่ต้องไปจัดการเรื่องบอร์ดดิ้งพาส เดี๋ยวาเาจะไปจัดการให้” ซึ่ง ‘าเา’ ที่เขาพูดึก็คือบอดี้การ์ดัดำคนนั้นนั่นเอง
บอดี้การ์ดผิวเ้เดินจากไปสักพัก ัจากนั้นประมาณ 10 าี่าๆ ก็ัมา เขาพยักหน้าให้กับเฉินเจวี๋ย “เตรียมพร้อมแล้วครับ เ้านาย”
ใบหน้าเฉินเจวี๋ยประดับไปด้วยรอยยิ้มเล็กๆ เขาเอ่ยชมาเาเล็กน้อย ัจากนั้นก็หันมาพูดกับฉินซี “ามฉันมา”
ฉินซีคุ้นชินกับประโยคี้เฉินเจวี๋ยไปแล้ว จึงามเฉินเจวี๋ยไปโดยไม่พูดอะไร แต่เฉินเจวี๋ยัไม่ได้พาเขาไปต่อแถวตรวจความปลอดภัย พวกเขาเดินผ่านช่อง VIP เข้ามาึด้านในโดยตรง ัจากตรวจความปลอดภัย่าเรียบง่ายแล้ว าเาก็ถือสัมภาระพวกเขาามอยู่ด้านั จากนั้นก็เดินเข้ามาที่ลานจอดเครื่องบิน่าสบายๆ และในตอนนั้นเอง แม้ว่าความรู้ในชาติก่อนฉินซีจะมีามายแค่ไหน เขาก็อดสูดหายใจเข้าไปไม่ได้
ัจากเข้ามาแล้ว ฉินซีก็เห็นเครื่องบิน่ัลำหนึ่งจอดอยู่ที่ลาน ฉินซีเคยดูข่าวในโทรทัศน์า่อน ัื Bombardier Learjet 45XR ซึ่งมีราคาอยู่ที่ประมาณร้อยล้าน
“ขึ้นไป” เฉินเจวี๋ยเร่งเขา่าไม่อดทนนัก
ฉินซีชี้เครื่องบินตรงหน้า “นี่เหรอครับ?”
สจ๊วตและแอร์โฮสเตสที่ยืนอยู่ด้านหน้าเครื่องบินอดยิ้มออกมาไม่ได้ “เชิญครับ/ค่ะ”
ฉินซีเป็คนชอบเล่นั ่าไรก็ไม่้าเดินนำเฉินเจวี๋ยไปก่อน และถอยัออกมาเล็กน้อย “ุเฉินไปก่อนเถอะครับ”
ใครจะรู้ว่าาเาจะหันมาเหลือบเขาเล็กน้อย จากนั้นก็ถือสัมภาระเดินนำทั้งสองคนไป
ฉินซี “...” หรือว่าไม่ต้องใส่ใจเรื่องลำดับก่อนัเหรอ? เฉินเจวี๋ยจะไม่รู้สึกว่าคนอื่นไม่เคารพเขาเหรอ? ฉินซีรู้เรื่องคนในสังคมระดับูอยู่า พวกเขาจริงจังเรื่องการไว้หน้าา หากทำอะไรที่ไม่เคารพกันเพียงเล็กน้อย ก็เป็เหมือนการเหยียบรังแตน นั่นคงทำให้เกิดปัญญาใหญ่ามมาแน่นอน!
มุมปากเฉินเจวี๋ยอดยกขึ้นไม่ได้ เขารู้สึกว่าฉินซีที่ปกติมักจะฉาหลักแหลม่าร้ายกาจเองก็มีช่วงเวลาเปิ่นๆ แบบี้เช่นกัน และมันก็ค่อนข้างน่าขำอยู่หน่อยๆ เขาดึงัฉินซีเข้ามาเล็กน้อย “เดินามฉันา็แล้วกัน”
จากนั้นทั้งสองึได้เดินามกันขึ้นเครื่องบินมา
เมื่อได้เข้ามายังด้านในัเครื่อง ฉินซีก็อดสบถขึ้นในใจไม่ได้ พวกคนรวยนี่ไม่เหมือนกันจริงๆ!
นี่เป็ครั้งแรกและครั้งเดียวเขาในทั้งชาติี้และก่อนชาติี้ ที่ได้นั่งเครื่องบิน่ัที่หรูหราขนาดี้!
แอร์โฮสเตสให้บริการ่าใส่ใจ ัจากที่พวกเขานั่งลง แอร์โฮสเตสก็มาสอบถามความชอบฉินซี แล้วจัดเตรียมหวานและเครื่องดื่มมาให้ ฉินซีกับเฉินเจวี๋ยนั่งอยู่ด้วยกัน แม้ฉินซีจะไม่เคยทำ แต่เขาก็เคยเห็นา่อนเหมือนกัน ในระหว่างที่เขากำลังนึกย้อนัไปึภาพที่เคยเห็นในโทรทัศน์พร้อมกับเอื้อมมือไปจับเข็มขัดนิรภัย เฉินเจวี๋ยก็ยื่นมือเข้ามารัดเข็มขัดนิรภัยให้เขา่านุ่มนวลก่อนแล้ว
ฉินซีอดจะสั่นสะท้านขึ้นมาไม่ได้ ที่แท้เวลาเฉินเจวี๋ยทำัอบอุ่น่โยนขึ้นา็เป็แบบี้นี่เอง มันยากที่จะเชื่อมโยงไปึภาพลักษณ์เขาในชาติก่อนจริงๆ
เฉินเจวี๋ยแนะนำภาพรวมาในัเครื่องบินให้ฉินซีฟังคร่าวๆ ถ้าเขาอยากจะดูหนัง เ่โะ หรือนอนหลับอะไรก็าม… เขาสามารถทำได้ทั้งหมด่าไร้ปัญหา!
ฉินซีค่อยๆ จดจำมัน แต่ในใจเขาก็ลอบเสริมขึ้นมา ่าไรก็คงได้นั่งแค่ครั้งี้ และคงจะไม่ได้ใช้งานอีก
ัจากแนะนำเสร็จ เฉินเจวี๋ยึนึกอธิบายกับฉินซีขึ้นมา “ัี้ที่สนามบินไม่มีเครื่องบินบินัไปที่เมืองหนิงชื่อแล้ว” ดังนั้นเขาึเตรียมเครื่องบิน่ัมา แต่เฉินเจวี๋ยเองก็ไม่แน่ใจในความคิดัเองเช่นกัน เขารู้สึกราวกับนกยูงรำแพนหางเรียกคู่ ดังนั้นเขาจึงอดแสดงความร่ำรวยัเองออกมาให้ฉินซีรับรู้ไม่ได้ ราวกับตั้งใจจะใช้วิธีี้มาทำให้ฉินซีสั่นไหว่าไร่านั้น
เฉินเจวี๋ยสวมผ้าปิดา จากนั้นก็ไล่ความคิดออกไปจากส ิ่เหล่าี้ไม่มีค่าพอให้ไปนั่งคิดา เขาควรเติมพลังให้เต็มที่ ัจากัไปที่เมืองหนิงชื่อแล้ว เขายังต้องไปจัดการเรื่องอีกา
เมื่อฉินซีได้ฟังการอธิบายเฉินเจวี๋ยแล้ว ก็รู้สึกขอบุอีกฝ่ายเป็่าา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่ัเองไร้หนทางตอบแทนเฉินเจวี๋ยแล้ว แต่ว่าเขาก็ยังมีความสุขไปกับความสะดวกสบายบนเครื่องบิน่ั ึ่าไรถ้าไม่ใช้ให้คุ้มค่าก็จะเสียเปล่านี่นา!พ
……
[1] สเตจเมเนเจอร์ (Stage Manager) หมายึ ผู้จัดการเวที ในที่ี้คือคนที่ทำหน้าที่จัดการหน้าฉาก
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??