เรื่อง ทะลุมิติรักฉบับซุปเปอร์สตาร์ (แปลจบแล้ว)
ฉินซีคุ้นชินกับการแสดงโดยไ่ีคนต่อด้วยมาาแล้ว แม้นี้เาจะไม่ได้แต่ง้าหรือสวมชุดการแสดง ดูๆ ไปก็ยังคงเป็นเ็ชายผอมบางที่มีใบ้างดงามสะกดใจคนเช่นเดิม แต่เมื่อฉินซีเดินเข้าไปยังพื้นที่ว่างที่ปูพรมไว้อย่างไม่รีบไม่ร้อนและหมุนักลับมา ุคนบนโต๊ะก็้ตกตะลึงเมื่อพบว่าท่าทางของเาคล้ายว่าเปลี่ยนแปลงไป
ความจริงแล้วสำหรับฉินซี ตงฟางปู๋ป้ายกับฉินฮ่องเต้อิ๋งเจิ้ง[1] ั้มีจุดที่เหืนกันอยู่ ั้สอง่าวัยเ็มาด้วยความยากลำบาก และัจากั้ก็ประสบความสำเร็จได้รับตำแหน่งที่ไม่ธรรมดา ในืเต็มไปด้วยอำนาจ เชื่อมโยงผู้คนามาย กระทำโหดเหี้ยม ใจคออำมหิต ่บาปหนักหนา ภาพลักษณ์ของพวกเาต่าีั้ความกดดันและความเย่อหยิ่ง เพียงแต่ฉินฮ่องเต้อิ๋งเจิ้ีความทะเยอทะยานา่าตงฟางปู๋ป้าย เามีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและความรักเอาใจใส่ สำหรับพวกขุนนางที่เชื่อฟัง เาก็ตกรางวัลให้อย่างงาม ไม่สงสัยในับริวาร แต่หา่าเป็นศัตรูกับเาแล้ว เาย่อมโหดเหี้ยมและเคร่งครัดไ่ีหย่อนเช่นกัน
ขอเพียั่นใจในจุดที่เหืนและแตกต่างของพวกเา ฉินซีก็สามารถอาศัยความเคยชินจากการแสดง่น้า มาทำให้แสดงบาทอิ๋งเจิ้งมาได้อย่างใกล้เคียงไม่น้อยแล้ว
นัยน์ตาของฉินซีมองไปข้าง้า ในแววตาเปล่งประาเย็นยะเยือกและการข่มขู่ บนใบ้าของเาคือความทะนงตนจากการเป็นฮ่องเต้ตั้งแต่เยาว์วัย นี้ใบ้างามสะกดใจคนของเาก็ยิ่งเปล่งประา ทำให้คนไม่กล้ามองตรงๆ
นี้แววตาของเฉินเจวี๋ยเองก็เปล่งประาไม่ต่างกัน เามองไปทางฉินซี ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจึได้เต้นเร็วึ้เล็กน้อย ฉินซีในท่าทางแบบนี้ดึงดูดาตาของผู้คนาที่สุด หากในวันั้ไม่ใช่เพราะเาได้พบกับฉินซีผู้ซื่อตรงและสง่างามแบบนี้ เาคงไ่ีทางช่วยฉินซีไว้ ไม่ได้พากลับไปส่งึบ้าน และัจากั้ก็คงไม่ได้ช่วยจัดการล้างต้นตอของคลิปวิดีโอนั่นี
เฉินเจวี๋ยหรี่ตาลองีฝ่าย
......
าตาของฉินซีพุ่องไปด้าน้า นี้ปากของเากำลังเอ่ยพูดด้วย้ำเสียงไม่รีบไม่ร้อน “700 ปีที่่ามา ใต้หล้าแตกเป็นเสี่ยง อำนาจของุแคว้นูแบ่งกระจายไป ุฝ่ายต่าีอักษรที่แตกต่าง ภาษาที่แตกต่าง การใช้ชีวิตที่แตกต่าง ความเชื่อและประเพณีก็แตกต่าง เช่นั้ึได้เกิดสงครามึ้อย่างไร้เุ ั้ยังไม่เคยหยุดมาตล 700 ปี ข้าทำลายแคว้นั้หกเพื่อขจัดสิ่งกีดขวางเ่านี้ เมื่อไ่ีการแบ่งแยกของแคว้น ไ่ีความเข้าใจผิดทางภาษา ผู้คนก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมเกลียว แคว้นเช่นนี้เ่าั้จึงจะเรียกได้ว่าเป็นดินแดนแห่งความสุข!”
ซีนการแสดงของอิ๋งเจิ้งในเรื่องตำายุคฉินมีไม่านัก ของเาน้อยแต่กลับูขัดเกลามาเป็นอย่างดี เมื่อพูดมาแล้วก็แฝงไปด้วยอารมณ์ูส่งของฮ่องเต้ แต่ไม่ใช่ว่าุคนจะสามารถแสดงความูส่งแบบนี้มาได้ โดยเฉพาะเมื่อฉินซีมีรูปลักษณ์ภายที่ไม่ได้เข้ากั่าทีแบบนี้ ความยากในการแสดงจึงเพิ่มูึ้อย่างไม่้สงสัย ฉินซีไม่ได้เลือกเพิ่มความดังของเสียงเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ัเอง เารู้ว่าความจริงการใช้ดวงตาส่ง่าความรู้สึกั้เป็นเรื่องยาก และน้อยคนที่จะสังเกตมายังดวงตาของเาตั้งแต่ในครั้งแ ดังั้จึงจำเป็น้ควบคุมอารมณ์บนใบ้า และใช้มันในการส่ง่าความรู้สึกเย็นชาและการข่มขู่อย่างไม่อาจขัดขืนไป สี้าของเาเฉียบคมา เมื่อในนี้แสดงอารมณ์สงบเยือกเย็น ก็ทำให้มีความูส่งและโหดเหี้ยมึ้มาได้
ต่อจากั้ก็เป็นาตาและพูด โดยทั่วไปละครโทรทัศน์จะสามารถพากย์เสียงทับลงไปได้ แต่ว่าฉินซีก็ยังคงพยายามใช้เสียงของัเอง เาคิดว่าพูดก็เป็นส่วนึ่ที่สำคัญต่อการแสดง ความรู้สึกและความไหลลื่นไม่อาจขาดหายไปได้
พูดที่เต็มไปด้วยความูส่งอยู่เบื้องบนนี้ แม้้ำเสียงของฉินซีจะราบเรียบ แต่บางครั้งยิ่งวาจาราบเรียบเ่าไร ก็ยิ่งสั่นสะเทือนใจคนได้าึ้เ่าั้
เมื่อเอ่ยจบปลายเสียงสุด้า โทนเสียงของฉินซีก็ูดึงึ้เล็กน้อยปรากฏให้เห็นความทะนงตนและความมั่นใจในัเองของเา
ฉินซีสามารถใช้ประโยชน์จากสี้าและอารมณ์ของชักนำผู้คนที่นั่งอยู่เ่านี้ไปอย่างง่ายดาย ขอเพียงหูของพวกเาเปิดรับฟัง ก็ย่อมู้ทำให้สั่นไหวโดยไม่รู้ั ้ำเสียักจะเกิดพลังสะกดคนึ้มาในยามเงียบสงัด
เพราะไ่ีใครต่อ และที่จำมาเองก็มีไม่า ฉินซีจึงไม่ได้ตั้งใจว่าจะแสดงต่อ เาเก็บอารมณ์บนใบ้ากลับมา ่นจะเผยรอยยิ้มราวกับกลับไปเป็นฉินซีืใหม่คนเดิมในชั่ววินาที “ต้อาดูแสดงอะไรโง่เขลากันเสียแล้ว รบกวนผู้กำกับช่วยชี้แนะส่วนที่ยังไม่ดีพอให้ด้วยนะครับ ฉินซีจะพยายามเรียนรู้ต่อไปให้ดี”
เฝิงผิงเฉิงเป็นคนฉลาด เาได้สติกลับมา และเห็นศักยภาพในัของฉินซีทันที ั้เายังคิดว่าที่ฉินซีพูดแบบนี้ ก็เพราะจงใจเย้ยหยันการดููของพวกเา่น้านี้ เฝิงผิงเฉินและหลินซองสบตากัน สุด้าหลินซงก็เป็นคนเปิดปากพูด “เฮ้อ ฉันว่าเสี่ยวฉินแสดงได้ดีอยู่แล้วไม่ใช่เ เหมาะาอยู่แล้ว ไ่ีอะไรขาดเหลือแล้วล่ะ มาๆๆ พวกเรานั่งทานอาหารกัน่น ทานอาหารพวกเราไม่ควรจะทำอะไรไปพร้อมๆ กันนะ”
กงเซ่าไม่พอใจึ้มา เาอยากจะพ่นตะปูปักลงบนัของฉินซีเสียให้ได้ “ว่าไม่เหมาะ”
ฉินซีขมวดคิ้วั ทว่ากลับไม่ได้โมโหอะไรนัก เาเพียงใช้าตาเฉยเมยมองไปทางกงเซ่า พลางถามึ้ “รบกวนผู้กำกับกงช่วยแนะนำด้วยครับ”
กงเซ่าคิดไม่ึว่าฉินซีจะควบคุมอารมณ์ดีขนาดนี้ ใบ้าของเาจึงแดงก่ำ “ว่ารูปลักษณ์ของเสี่ยวฉินไม่เหมาะกับนี้ พวกคุณคิดว่ายังไงบ้าง?”
ในนี้แม้จะไม่เหมาะอย่างไร หลินซงกับเฝิงผิงเฉิงก็จะมองข้ามไปอยู่ดี หลินซงส่งาตาให้เฝิงผิงเฉิง เฝิงผิงเฉิงรีบอาศัยชื่อของผู้กำกับชำนาญการพูดึ้ “คิดว่าภายของเสี่ยวฉินไม่ได้มีตรงไหนที่ไม่เหมาะนะ หรือแม้จะมีอยู่เล็กน้อย แต่ทักษะการแสดงของเาก็สามารถทดแทนได้ ึอย่างไรพวกละครที่สร้างจากการ์ตูนแบบนี้ รูปลักษณ์ภายจะเหมาะหรือไม่ ใครจะพูดได้ชัดเจนกัน?”
ใบ้าของกงเซ่ามืดมัวลง เาไม่ได้พูดอะไรี เาเองก็ไม่อยากจะเสียเงินลงทุนของเฉินเจวี๋ยไปเพียงเพราะ้การจะกำจัดนักแสดงคนึ่ เาเพียงอคติกับฉินซีเ่าั้ และแม้เาจะรู้ว่านั่นคือความอคติ แต่ในใจของเาก็ยังคงไม่พอใจ ในาตาของเา ฉินซีเป็นพวกเ็เส้น และเมื่อเข้ามาในกองถ่ายแล้ว คง้เป็นปัญหาใญ่อย่างแน่นอน!
ฉินซีไม่ได้โมโหเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากรู้อยู่แล้วว่าเาคือผู้กุมชัยชนะ เาเผยรอยยิ้มที่มุมปาก ่นพูดมาอย่าั่นใจ “ช่วงุแ้เจ็ด รูปลักษณ์งดงามดั่งหญิงจึงจะเรีย่าชายงาม ฉินฮ่องเต้อิ๋งเจิ้ีพ่อที่รูปลักษณ์หล่อเหลาอย่างอิ๋งอี้เหริน และมีแม่ที่ใช้ความงามชนะใจหลี่ว์ปู้เหวยและอิ๋งอี้เหรินได้อย่างจ้าวจี ดังั้จึงเห็นได้ว่าฉินฮ่องเต้อิ๋งเจิ้ีรูปลักษณ์ไม่ธรรมดา ในอนิเมชั่นตำายุคฉินเอง อิ๋งเจิ้งก็ไม่ได้มีภาพลักษณ์เป็นชายงามหรอกหรือครับ? หรือผู้กำกับกงคิดว่าจะ้เป็นชายที่เต็มไปด้วยเครา แขนใญ่ เอวหนา ูแปดฟุตึจะนับว่าเป็นชายชาตรีสมกับฉินฮ่องเต้เครับ? ฉินฮ่องเต้โดดเด่นด้านกลุ์ ความทะเยอทะยานและท่าทาง ไม่ใช่รูปลักษณ์ภาย ถ้าจะจำกัดเพียงภาย มันจะไม่ดูใจแคบไปหน่อยเครับ?”!
ฉินซีมักจะมีท่าทางไม่ทะนงตนและไม่ได้ถ่อมตนอยู่เสมอ ดังั้จึีเพียงเฉินเจวี๋ยที่เห็นเปลวไฟภายในแววตาีฝ่าย ฉินซีที่เป็นแบบนี้อารมณ์รุนแรงดั่งไฟ เาไม่เกรงกลัวที่จะแสดงความสามารถมาให้ใครเห็น เาภาคภูมิใจในความสามารถอันโดดเด่นของัเองา
เมื่อเาพูดแบบนี้ กงเซ่าก็ไร้คำจะพูดต่อ หลินซงกับเฝิงผิงเฉิงเองก็ประหลาดึ้มาบ้าง
“เอาเถอะ ั่” เฉินเจวี๋ยดูเรื่องสนุกมาาพอแล้ว ู่ๆ เาก็บอกให้ฉินซีมาั่ข้างๆ ัเอง
เมื่อเาพูดึ้ ใครจะกล้าทำอะไรไม่คิดี?
ในัุ้เสียง้เงียบไป ฉินซีกลับมานั่งข้างเฉินเจวี๋ย เฉินเจวี๋ยจึงพูดึ้อย่างราบเรียบ “อาหารจะเย็นหมดแล้ว”
เมื่อวุ่นวายไปแล้วรอบึ่ ฉินซีก็เริ่มจะหิวึ้มา เาหยิบตะเกียบึ้ ่นจะเผยรอยยิ้มเปล่งประามา “อย่าเอามองสิครับ ุคนรีบๆ ทานข้าวเถอะ”
คนอื่นต่างก็ไออ้อมแอ้มมาไม่ได้ ความดููามายในใจของพวกเาที่มีต่อืใหม่คนนีู้ขจัดหายไป ฉินซีใช้การแสดงตรงนี้เปลี่ยนเป็นความเคารพขั้นพื้นฐานให้แก่ัเอง อย่างไรก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เาไม่ใช่เพียงดอกไม้ในแจกัน และอาศัยเส้นาเข้ามาถ่วงกองถ่าย
าตาทีุ่คนมองเาึกับเปลี่ยนไป ัจากั้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็กลมเกลียวึ้มาไม่น้อย
หลินซงพูดคุยเรื่องเข้ากองถ่ายกับฉินซีึ้มา “เสี่ยวฉินส่งู้ัการมาเซ็นสัญญากับเราเมื่อไรก็เรียบร้อยแล้ว ่นจะเปิดกล้องอย่างเป็นทางการ พวกเราจะนำไปให้่น จากั้ก็รอเริ่มถ่ายทำอย่างเป็นทางการก็พอ”
ฉินซีลำบากใจึ้มาทันที เายังไ่ีู้ัการอย่างจริงจังเลยสักคน!
เมื่อาตาของฉินซีดูลังเลวุ่นวาย ก็เหลือบมองไปยังทางเฉินเจวี๋ยทันที มุมปากของเฉินเจวี๋ยโค้งึ้ ใบ้าเรียบเฉยปรากฏรอยยิ้มจางๆ ราวกับกำลังบอ่า “ให้เซ็นสัญญากับฉันก็ไม่เซ็น นี้จะมาขอกันก็าไปแล้ว”
ฉินซีละาตากลับมา หันไปยิ้มให้กับหลินซง “ู้ัการของ...” เากำลังจะพูดคำว่า ‘ไ่ี’ มา แต่กลับเห็นว่าหลินซงยื่นืมาตบบ่าของเา “เสี่ยวฉิน... นายนี่โชคดีจริงๆ ที่แท้คุณเฉินก็เป็นู้ัการให้นายนี่เอง”
หืม?
หืม?!
ทำไมแม้แต่ัฉันเองก็ยังไม่รู้ ว่ามีเฉินเจวี๋ยเป็นู้ัการส่วนั?
ฉินซีึกับเซ่อไป ัจากเพิ่งได้สติกลับมา ที่แท้ที่เามองไปทางเฉินเจวี๋ย หลินซงก็เข้าใจผิดคิดว่าเากำลังตอบกลับไปว่า เฉินเจวี๋ยก็คือู้ัการของเา ฉินซีรู้สึกอายึ้มา ในระหว่างที่กำลังจะอ้าปากอธิบาย เฉินเจวี๋ยก็พูดขัดึ้ “เมื่อทำสัญญาเสร็จแล้วก็ส่าที่ฉัน ฉันจะตรวจสอบให้ฉินซีเอง”
ฉินซีรู้สึกึบรรยากาศอึดอัดที่เกิดึ้รอบั รู้สึกราวกับมีคนแปลก้าสักคนมาเป็นห่วงัเาเอง ีั้คนแปลก้าคนั้… ยังเป็นคนที่ต่างจากเาราวฟ้ากับเหวี!
“ได้ๆๆ ไ่ีปัญหาเลยครับ ึเวลาแล้วจะไปส่งึที่อยู่ของคุณเฉินด้วยัเองเลย!” หลินซงหัวเราะร่า ่นจะรินสุราลงในแก้วัเอง
‘ัเอกของเรื่องนี้’ อย่างฉินซีสูญเสียสิทธิ์การพูดของัเองไปแล้ว เาถอนหายใจมาในใจ แต่กลับ้ยอมรับว่า ถ้าเฉินเจวี๋ยหนุนัให้เา ก็จะไ่ีใครกล้าทำกับดักในสัญญา ไม่เพียงเ่าั้ เกรงว่ายังจะให้ค่าตอบแทนที่ดีาแก่เาีด้วย ฉินซีสับสนไม่ได้ หรือความหมายัการเกิดใหม่ของเา จะเป็นการพบกับเฉินเจวี๋ย และอาศัยเาช่วยให้ัเองอยู่ในวงการบันเทิงได้อย่างปลภัยไปตลรฝั่ง ฉินซีรู้สึกขัดแย้งึ้มาอย่างน่าประหลาด
เฉินเจวี๋ยไม่รู้ว่าเากำลังเหม่อลอย เฉินเจวี๋ยก้ม้าลองข้อความในโทรศัพท์ืถือ ่นจะหันมาพูดกับฉินซี “จงซิงอู๋ชวนพวกเราไปทานข้าว”
“ชวน… พวกเรา?” ฉินซีนิ่งไป
เฉินเจวี๋ยพยัก้า “ใช่ เาน่าจะส่งข้อความไปให้นายแล้วเหืนกัน”
สนทนาระหว่างเฉินเจวี๋ยกับฉินซี ้ไม่พ้นหูของหลินซงและเฝิงผิงเฉิงที่กำลังตั้งใจฟังู่แ่ ได้ยินเช่นั้ของพวกเาจึงรู้สึกประหลาดใจ ดูเหืนว่าืใหม่คนนี้จะมีความสามารถจริงๆ ึได้รู้จักกับเทพเจ้าจงซิงอู๋ด้วย! พวกเาึกับตัดสินใจไปแล้วว่า อยู่ที่กองถ่ายจะดูแลเาให้ดีที่สุด
ฉินซีนึกสงสัยว่าจงซิงอู๋ชวนเาไปได้อย่างไร แต่โอกาสที่จะได้ผูกสัมพันธ์กับเทพเจ้าแบบนี้ เกรงว่าคงจะมีแต่คนบ้าเ่าั้ที่กล้าปฏิเสธ ฉินซีจึงพยัก้าตอบกลับไปเฉยๆ
และทางีฝั่ง การถ่ายทำกระบี่เย้ยยุทธจักรเองก็เข้าสู่ขั้นสุด้าอย่างเป็นทางการ ถ้าการตรวจสอบการอากาศเสร็จสิ้นรวดเร็ว การอากาศก็อยู่ีไม่ไกลแล้ว หรือถ้าจะให้พูดีแบบก็คือ ฉินซียังไม่รู้เลยว่า วันเดบิวต์อย่างเป็นทางการของเาใกล้จะมาึแล้ว!พ
……
[1] 秦始皇 = ฉินฮ่องเต้ หรือ อิ๋งเจิ้งที่ฉินซีแสดง คือ ปฐัพรรดิ หรือที่คนไทยเรียกกันว่า จิ๋นซีฮ่องเต้
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??