เรื่อง ทะลุมิติรักฉบับซุปเปอร์สตาร์ (แปลจบแล้ว)
แม้ิีจะเสียดายโอกาสแบบี้มาก แต่ถ้าจะให้เขาไปขอร้องเฉินเจวี๋ย เขาก็ไม่สามารถรับปะกันได้ว่าจะสำเร็จ ึแม้ใสายตาของอื่น เขากับเฉินเจวี๋ยจะูสนิทสนมกันมาก แต่ตัวเขาเองรู้ชัดว่าความจริงเขากับเฉินเจวี๋ยไม่ได้มีความสัมพันธ์ล้ำลึกต่อกัน และเขาก็ไม่ได้มีอำนาจพอจะไปขอให้เฉินเจวี๋ยช่วยเื่ี้ ิีเงียบไปาวินาที ่ที่เขาจะยิ้มพร้อมดันแก้วเบียร์ตรงหน้าให้ห่างออกไป “ขอโทษด้วยนะครับ ผู้กำกับสวี่ แต่ว่าเื่ี้ผมคงช่วยอะไรไม่ได้”
สีหน้าของสวี่เทานิ่งแข็งไป เขาคิดว่าิีั้ใจจะหลีกเี่ จึงยกแก้วสุราเคาะลงบนโต๊ะเล็กน้อย จากั้ก็ถอนหายใจ “ิี นี่เป็โอกาสดีนะ”
ิียังคง่าหน้า “ใ่ว่าผมถือตัวอะไร แต่ว่าระหว่างผมกับุเฉินไม่ได้มีความสนิทสนมกันขนาดที่พวกุคิดจริงๆ ครับ”
สวี่เทาถอนหายใจเฮือกึ่ ด้วยรู้สึกเสียดายใความ ‘ไ้ไพริบ’ ของิี แต่ใเื่อีกฝ่ายไม่ยินดี เขาก็ไม่สามารถแนะนำต่อไปได้ “ถ้าอย่างั้ก็ไม่ต้องพูดเื่ี้ต่อแ้ หลังจากี้ถ้ามีละครอะไร ฉันจะเรียกให้ไปออดิชั่น ้ามปฏิเสธเชียว” สวี่เทาพูดหยอกล้อ เดิมทีใตอนแรกเขาก็ต้องตาิีอยู่่แ้ ั้ยังได้เห็นศักยภาพใตัวของิีแ้ด้วย ต่อมาเื่รู้ว่าเขารู้จักกับเฉินเจวี๋ย นั่นก็เป็เพียงการปักดอกไม้ลงบนผ้าไหมทอง[1] แม้จะไม่ได้ตามปะสงค์ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
ิีคิดไม่ึว่าสวี่เทาจะใจกว้างขนาดี้ เขายิ้มา “แน่นอนครับ ผู้กำกับสวี่สั่งมา ผมก็ไม่กล้าขัดหรอกครับ”
สวี่เทาเองก็ยิ้มตาม “นายเป็ึปรมาจารย์เทพตงฟางปู๋ป้าย ใครจะกล้าออกคำสั่งนายกัน?”
นอกจากตอนถ่ายทำแ้ สวี่เทาก็เป็ที่ง่ายๆ สบายๆ ึ่ เื่คิดูแ้ การที่เขาพาิีมายังร้านอาาเล็กๆ แบบี้ได้ นั่นก็หมายความว่าเขาไม่ใ่ที่ชอบวางท่าอะไร หลังจากพูดสิ่งที่ั้ใจจนหมดแ้ บรรยากาศการสนทนาของั้สองก็กลายเป็ผ่อนคลาย เื่คิดไปึอะไรก็พูดา และนั่นก็ทำให้การทานอาามื้อี้ไม่ได้อึดอัดไปเพราะการปฏิเสธของิี
สวี่เทาบอกว่าจะเป็ฝ่ายเลี้ยงิีเอง จากั้เพียงครู่เดียวเขาก็เข้าไปจ่ายเงินอย่างว่องไว ิีบอกว่าครั้งอื่นเขาจะเป็ฝ่ายเลี้ยงคืนด้วยรอยยิ้ม จากั้ั้สองก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
หลังจากึ้รถมาแ้ ิีก็ถอนหายใจ
ูเหมือนว่าใบางครั้งการผูกสัมพันธ์กับเฉินเจวี๋ยจะเป็ั้ความช่วยเหลือ และใบางครั้งยังสามารถนำพาความยุ่งยากมาให้ด้วยเช่นกัน
ู่ๆ โทรศัพท์ใมือของิีก็ั่ เื่สักครู่เขายังพูดึเฉินเจวี๋ยอยู่เลย และใตอนี้เฉินเจวี๋ยก็ส่ง้ความมาหาเขา เพื่อเตือนไม่ให้เขาลืมเื่ที่จงซิงอู๋ชวนไปทานข้าวมาพอดี ิีอ่านเนื้อหาภายใ้ความ จากั้ก็ตกเข้าสู่ภวังค์ความสับสนโดยไม่ได้คาดคิด เฉินเจวี๋ยเป็สิ่งนอกการคาดหมายเดียวของเขาหลังจากกลับชาติมาเกิดใหม่ หลังจากี้เขาควรจะรับมือกับเฉินเจวี๋ยอย่างไรดี?
…...
าวันมาี้ิีไม่มีเวลาเลย และท่ามกลางความยุ่งวุ่นวายี้ เพียงพริบตาก็มาึวันนัดหมายทานข้าวอย่างไร้การบอกกล่าวของจงซิงอู๋ ิีจัดการตัวเองอย่างทุกที หลังจากั้ก็เรียกรถไปยังสถานที่แห่งั้
เพราะสวี่เทาโพสต์คลิปพิเศษอย่างเป็ทางการของิีลงบนอินเทอร์เน็ต ทำให้จำนวนแฟนคลับของิีเพิ่มึ้ไม่น้อย แม้จะยังเป็เพียงนักแสดงหน้าใหม่ึ่ แต่ตอนี้เวลาออกไปไหนก็ต้องปกปิดกันบ้างแ้ ไม่อย่างั้อาจเป็เหมือนครั้ง่ที่เขาเิไปซื้ออาาที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เ็สาววัยรุ่นึ่ชี้มาที่เขาด้วยใบหน้าปะหลาดใจ จากั้ก็ตะโกนา “ิี!!!” ้ำเสียงของเ็สาวูราวกับดังก้องไปทั่วซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนั้ิีตกใจจนร่างกายโซเซจนทำกองกระป๋อง้ำโคล่าที่ถูกั้ไว้พังครืนลงมา ิีั้อายั้ทำอะไรไม่ถูก ทำได้เพียงอ่อนโยนกับแฟนคลับ แ้มอบลายเซ็นและปลอบอีกฝ่าย ่จะหนีาจากซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างว่องไว
และเพื่อเี่ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบั้อีก ิีจึงทำได้เพียงยอมจ่ายเงินเรียกรถแท็กซี่ออกไป อย่างน้อยพวกุลุงขับรถก็ไม่รู้ว่าเขาเป็ใคร
“ึแ้ครับ”
ิียื่นเงินออกไป จากั้ก็เปิดปะตูเิลงจากรถ ทว่าเื่เิลงมาก็ชนเข้ากับที่ยืนอยู่ข้างถนน เขารู้เพียงตัวเองชนเข้ากับแผ่นอกของอีกฝ่าย ิียกมือึ้กันศีรษะของตัวเองอัตโนมัติ ผลคือมีสองมือยื่นมาวางบนหัวของิี ิีเงยหน้าึ้มอง แอาทิตย์ทำให้ตาของเขาพร่าเลือนเล็กน้อย จนต้องหรี่ลงอย่างช่วยไม่ได้ จากั้เขาก็ได้ยินอีกฝ่ายพูดึ้ “ไม่เห็นฉันยืนอยู่นอกรถหรือไง?”
ร่างของิีั่สะท้านเล็กน้อย ่จะลดมือลง ที่อยู่ตรงหน้าเขา ถ้าไม่ใ่เฉินเจวี๋ยแ้จะเป็ใครได้อีก?
เพียงแต่ใตอนี้ ภาพของเฉินเจวี๋ยซ้อนทับกับภาพของเฉินเจวี๋ยใอดีต มันเป็เวลาแสนเนิ่นา กว่าิีได้เห็นเฉินเจวี๋ยใชุดสูทสีดำ ตัดเย็บพอดีตัว ปกปิดเรือนร่างผอมเพรียวทีู่แลมาเป็อย่างดีเอาไว้ภายใอีกครั้ง เนื่องจากกระดุมของตัวเสื้อถูกติดไว้อย่างเรียบร้อยให้ความรู้สึกสง่างามยากจะยับยั้ง ิีหลุดถามอย่างไม่ตัว “ทำไมวันีุ้ไม่สวมชุดลำลองมาล่ะครับ?”
่หน้าี้ใความคิดของิี พวกระดับสูงต้องแต่งชุดสูทผูกเนกไทเรียบร้อยตลอดเวลา แต่หลังจากได้รู้จักกับเฉินเจวี๋ย เขาก็ได้รู้ว่าไม่ใ่ทุกที่ต้องสวมใส่ชุดสูท แม้ว่าเฉินเจวี๋ยจะสวมชุดง่ายๆ าๆ แต่เื่ยืนอยู่ต่อหน้าผู้ ก็ยังให้ความรู้สึกสูงส่งกว่าใคร เดิมทีเขาไม่ได้ต้องการชุดสูทหรูหรามาช่วยเพิ่มภูมิฐานให้เลยสักิ และยิ่งเขาูธรรมดาเท่าไร มันก็ยิ่งทำให้เขาูแตกต่างจากอื่นมากเท่าั้
คิ้วของเฉินเจวี๋ยขมวดเข้าหากัน จากั้เขาก็ยกมือึ้คลายคอเสื้อออกโดยไม่ได้สนใจเลยว่าท่าทางของตัวเองจะทำให้อื่นต้องยับยั้งชั่งใจแค่ไหน เขาลากตัวิีเข้าไปด้านใอย่างเป็ธรรมชาติพร้อมพูดึ้ “เื่เช้ามีปะชุมก็เลยเปลี่ยนไม่ทัน”!
ิีเองก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน เพียงแต่ไม่ได้ขมวดคิ้วเพราะเื่เสื้อผ้า แต่เป็เพราะรู้สึกว่าตัวเองเิใกล้ชิดกับเฉินเจวี๋ยมากึ้เรื่อยๆ ต่างหาก
เฉินเจวี๋ยไม่ให้เขาได้มีโอกาสคิดอะไรต่อ ั้สองเิผ่านโถงทางเิออกไป จากั้ก็เปิดปะตูเข้าไปยังห้องส่วนตัว
จงซิงอู๋รออยู่ด้านใแ้ เดิมทีเขาก็กำลังขยับพวกชามและตะเกียบตรงหน้าอยู่ แต่เื่ั้สองเิเข้ามา จงซิงอู๋ก็รีบเผยยิ้มและลุกึ้จากที่นั่ง เขาพูดึ้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ุเฉินกับิีมาด้วยกันเหรอครับ?”
เฉินเจวี๋ยไม่ได้พูดอะไร
ิีจึงทำได้เพียงบังคับให้ตัวเองพูดแทนเฉินเจวี๋ย “เป่าั ผมกับุเฉินบังเอิญเจอกันด้านนอกพอดี เขาก็เลยพาผมเข้ามา”
ปากของจงซิ่งอู๋ตอบรับ “อื้อๆ” า แต่สีหน้าของเขากลับทำให้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย สีหน้าของเขาูราวกับได้เห็นความสัมพันธ์ที่ถูกซุกซ่อนของเฉินเจวี๋ยและิีอย่างทะลุปรุโปร่ง แม้ใหัวของิีจะมึนตื้อูงงงวย แต่เบื้องหน้าก็ยังต้องเผยรอยยิ้มเอาไว้ เขากับเฉินเจวี๋ยนั่งลงพร้อมกัน จากั้พนักงานก็เข้ามาเสิร์ฟอาาต่อ จงซิงอู๋รินชาให้พวกเขาด้วยตัวเอง หลังจากั้ก็อธิบายกับิีด้วยรอยยิ้ม “ุเฉินไม่ดื่มแอลกอฮอล์ พวกเราก็เลยดื่มอันี้กัน”
แน่นอนว่าิีไม่ได้ออกความเห็นอะไร เดิมทีเขาก็ไม่ชอบดื่มแอลกอฮอล์อยู่แ้ ิีจึงพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มและหยิบตะเกียบึ้เริ่มทานอาา
ูเหมือนว่าจงซิงอู๋จะรู้อะไรบางอย่างจากเฉินเจวี๋ย จึงเอ่ยถามนักแสดงหน้าใหม่อย่างิีึ้มาด้วยความสนใจ “ได้ยินว่านายจะไปถ่ายละครเื่ตำายุคฉินเหรอ?”
ิีพยักหน้า วางตะเกียบลงและเงยหน้าสบตากับจงซิงอู๋อย่างมีมารยาท การสบตาระหว่างสนทนากับผู้อื่นถือเป็มารยาทขั้นพื้นฐาน
และใตอนที่ิีคิดว่าจงซิงอู๋จะแนะนำเกี่ยวกับปะสบการณ์การถ่ายละครใฐานะรุ่นพี่ใการ จงซิงอู๋กลับยิ้มสดใสึ้มา “ุเฉินมีส่วนลงทุนใละครเื่ี้ด้วยใ่ไหม?”
ิีรู้สึกว่ามีหินก้อนึ่ตกลงไปใใจของเขาดัง “ุ” และนั่นก็คือความสิ้นหวังที่ได้เห็นว่าเทพเจ้าชอบเื่ซุบซิบขนาดี้...
หลังจากที่จงซิงอู๋พูดา และพบว่าไม่มีใครสนใจตัวเอง รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ูอึดอัด แต่โชคดีที่เขาเป็เทพเจ้าใการบันเทิงมาเนิ่นา ไม่าเขาก็หุบรอยยิ้มลง และเปลี่ยนหัว้สนทนาไป
“ผู้กำกับสองของตำายุคฉินคือเฝิงผิงเฉิงกับกงเซ่าใ่ไหม? ฉันเคยทำงานกับผู้กำกับั้สองมา่ เฝิงผิงเฉิงชอบนักแสดงที่รูปลักษณ์ภายนอกูดี สำหรับนักแสดงแบบี้ ต่อให้ทำฉากเสียเท่าไรก็ไม่มีทางถูกตำหนิรุนแ ส่วนกงเซ่าเป็พวกตรงไปตรงมา หากมีเื่อะไรไปทำให้เขาไม่ชอบใจ เขาก็จะมีอคติไปอีกา เกรงว่าต้องใช้เวลาหลังจากั้อีกสักพักกว่าภาพลักษณ์ใใจของเขาจะเปลี่ยนไปได้ กงเซ่าเป็ที่รับมือได้ยากึ่ แต่ถ้านายได้สนิทกับเขาแ้ ขอเพียงทักษะการแสดงของนายเต็มที่ เขาก็จะให้การแนะนำสนับสนุน เขาไม่เคยใจแคบที่จะให้คำแนะนำแก่พวกมือใหม่ เพียงแต่...” จงซิงอู๋พูดพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ “ตอนที่ฉันยังเป็มือใหม่ กงเซ่าเย้ยหยันฉันไว้ไม่น้อยเลย เขาไม่ค่อยเชื่อว่าพวกมือใหม่จะมีทักษะการแสดงที่ดี เขารู้สึกว่าตอนี้การบันเทิงวุ่นวายไปหมด ก็เลยยิ่งไม่ชอบพวกมือใหม่ที่พยายามโอ้อวดแสดงความสามารถ และตอนั้ฉันก็คือมือใหม่ที่พยายามโอ้อวดแสดงความสามารถั้สำหรับเขา...”
ิีรีบพยักหน้าตอบรับ เขารู้สึกราวกับตัวเองได้ฟังความลับเล็กๆ ้ๆ ใการบันเทิงมาไม่น้อย… คิดไม่ึว่าเทพเจ้าอย่างจงซิงอู๋จะมีช่เวลาแบบั้มา่
ูเหมือนว่าไม่ว่าใครต่างก็ต้องเิผ่านเส้นทางมือใหม่ไปด้วยกันั้ั้… ไม่มีใครพิเศษไปกว่าใคร!
เวลาจงซิงอู๋เล่นก็เล่น แต่เื่จริงจังึ้มา เขาก็เล่าปะสบการณ์ใกองถ่ายให้ิีฟังอย่างจริงจังไปไม่น้อย ั้แต่เื่ทักษะการแสดง ุสำคัญของบทบาท วิธีการฝึกบทไปจนึจะป้องกันตัวเองใกองถ่ายอย่างไร ูแลตัวเองอย่างไร เขาอธิบายั้หมดอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ิีฟังด้วยความั้ใจ เฉินเจวี๋ยเองก็ไม่รีบร้อน เขานั่งดื่มชาอย่างเอื่อยเฉื่อยที่ด้านข้าง แม้แต่อาาก็ไม่ได้สนใจจะทาน เหมือนว่าเขากำลังฟังการสนทนาของั้สองไปพร้อมกับคิดเื่อื่นอยู่
รอจนจงซิงอู๋เล่าปะสบการณ์จนจบ ู่ๆ ิีก็ได้ยินจงซิงอู๋ถามึ้ด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง “เขาเซ็นสัญญากับบริษัทของุเฉินหรือยังครับ?” แต่ปะโยคี้เขากลับหันไปถามเฉินเจวี๋ย
เฉินเจวี๋ย่าหน้า จากั้ก็วางแก้วชาลงบนโต๊ะ “ยัง”
รอยยิ้มบนใบหน้าของจงซิงอู๋ยังคงปะดับอยู่เช่นเดิม “ถ้าอย่างั้ก็ต้องพยายาม่นะ” แต่ปะโยคี้กลับไม่รู้ว่าเขากำลังบอกกับใครกันแน่ เื่ิีได้ยินแ้ เขาก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ ราวกับั้สองกำลังคุยเื่ที่เขาไม่อาจเข้าใจได้อยู่
เดิมทีุปะสงค์ใวันี้ของพวกเขาก็ไม่ใ่เพื่อมาทานอาา เพียงแค่นัดเจอกันเสีย่เท่าั้ ั้สามลุกึ้เิออกจากห้องส่วนตัว เื่มาึหน้าปะตู เฉินเจวี๋ยก็ได้รับโทรศัพท์สายึ่ เฉินเจวี๋ยตอบรับปลายสายไปด้วยใบหน้าตึงเครียด แ้รีบร้อนออกไป
แน่นอนว่าจงซิงอู๋ไม่มีทางทิ้งิีไว้ที่หน้าปะตู เขาหันมามองิี “ให้ฉันไปส่งจะดีกว่าไหม? พอจะบอกได้หรือเปล่าว่าพักอยู่ที่ไหน?”
“แน่นอนว่าบอกได้ครับ” ิีึ้รถของจงซิงอู๋ไป
ที่มุมมืดึ่ด้านหลังของพวกเขามีเงาร่างของขยับเบียดกันไปมาด้วยความื่เต้น จากั้เสียง “แช๊ะ แช๊ะ แช๊ะ” ก็ดังติดต่อกันเบาๆ ูเหมือนว่าจะมีแสีเงินเปล่งปะกายาจากตรงั้าเส้น แต่ผู้ที่เิผ่านไปมาบนท้องถนนมีมากเกินไป ทำให้ไม่มีใครสังเกตได้ึความผิดปกติี้
พ
……
[1] ปักดอกไม้ลงบนผ้าไหมทอง หมายึการทำให้สิ่งที่ดีอยู่แ้ ดีึ้ไปอีก
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??