เรื่อง อสูรทลายสวรรค์ [แปลจบแล้ว]
เืชางอยู่ทางใต้ของเขตปกเทพคราม เป็หนึ่งใหกเืหลัก มีเืใหญ่ที่อยู่ใปกยี่สิบเื เืเล็กหนึ่งร้อยเื เทือกเขารกร้างทางทิศใต้เป็เขตแดนที่กั้นระหว่างเขตปกเทพครามกับเขตปกเทพคนเถื่อน
เทือกเขารกร้างทอดัยาวเหยียดคดเคี้ยวไปมา ทั้ง้าใหญ่ไพศาลสุดลูกหูลูกา ข้างใมีพุ่มไม้เตี้ยที่มีหนามงอกึ้ระเกะระกะ มารูมีอยู่เต็มไปหมด เรียกได้ว่าัตรายมีอยู่ทั่วสารทิศ ลือกันว่าลึกเข้าไปภายใเทือกเขาแห่งนี้มีูศักดิ์สิทธิ์ที่เทียบได้กับผู้มีพลังฝีืระดับเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ จึงถือว่า่ลึกเป็สถานที่ต้องห้ามของิ่มีชีวิต ึ่อาจจะเทียบได้กับสถานที่ัตรายึ่อยู่ทางทิศเหนือของทวีปที่มีชื่อว่า "เทือกเขาดำมืด" ึ่เป็สวนสนุกแห่งที่สองของเ่ามารู
แม้จะมีัตรายามายเพียงใด แต่เทือกเขารกร้างัไม่เหืนเทือกเขาดำมืดที่มนุษย์เหยียบย่างเข้าไปต้องายุราย เทือกเขารกร้างขอเพียงผู้ฝึกุ์ไม่เข้าไปภายใ่ลึกแล้วเจอเข้ากับมารูที่มีพลังฝีืที่แข็งแกร่ง โอกาสรอดชีวิตก็ยังมีอยู่ไม่น้อย
ันั้น อาณาเขตชั้นเทือกเขารกร้างจึงกลายเป็สวนสนุกของผู้ที่ชอบเสี่ยงภัยใเขตปกเทพคราม และเป็สนามฝึกทดสอบฝีืของผู้ฝึกพลังุ์ได้เป็อย่างดีีด้วย
เนื่องจากการหลั่งไหลมาของผู้ที่ชอบเสี่ยงภัย เืหมันเล็กๆ ที่อยู่ใกล้เคียงเทือกเขารกร้างนี้จึงเจริญรุ่งเรืองึ้ แต่เดิมที่เคยเป็หนึ่งใเืเล็กๆ ใจำนวนร้อยเื ด้วยภูมิปะเทศที่ตั้งที่พิเนี้ ักลายเป็ว่าทำให้เืหมันพัฒนาึ้อย่างรวดเร็วเกือบเทียบเ่ายี่สิบเืใหญ่เลยทีเดียว
โรงเตี๊ยมอั้นเยว่!
โรงเตี๊ยมอั้นเยว่เป็โรงเตี๊ยมที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ข้างปะตูทางทิศใต้ของเืหมัน โรงเตี๊ยมมีทั้งหมดสามชั้น ชั้นหนึ่งเป็ห้องรับปะทานอาหาร ชั้นสองชั้นสามเป็ห้องพัก
ใเวลานี้ โต๊ะที่นั่งติดริมหน้าต่างของชั้นหนึ่งมีเ็หนุ่มเสื้อเขียวคนหนึ่งนั่งอยู่ าาของเขาูผู้คนที่เดินผ่านสัญจรไปมา ภายใหัวไม่รู้ว่าครุ่นคิดเรื่องอะไรอยู่
คนผู้นี้คือเย่ชิงหานที่เดินทางมาไกลหลายร้อยกิโลเมตรจากเืชาง วันนั้นัจากอำลากับน้องสาวแล้วจึงได้เดินทางมาคนเดียวโดยการติดสอยห้อยามกลุ่มพ่อค้ามา ใช้เวลาครึ่งเืจนมาถึงเืหมันที่อยู่ทางใต้ของเขตปกเทพคราม
เืหมันไม่เสียทีที่เป็สวนสนุกของเ่านักเสี่ยงภัย นักเสี่ยงภัยที่อยู่ใที่แห่งนี้มีามายนับไม่ถ้วน ุๆ วันจะมีนักเสี่ยงภัยจำนวนาเดินทางไปยังเทือกเขารกร้างเพื่อฝึกฝนตนเองและล่ามารู คนเ่านีุ้ครั้งที่ัมาต่างมีหนังของมารูและแก่นผลึกมารูนำัา้วยจำนวนา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้แก่นผลึกมารูที่นี่ราคาูเป็อย่างา
เย่ชิงหานที่เพิ่งจะมาถึงแน่ว่ารู้สึกตื่นเต้นคึกคักเป็อย่างยิ่ง ปะกอบทั้งนี่เป็ครั้งแรกที่เดินทางจากบ้านมาไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาที่นี่เป็การตัดสินใทีู่ต้องที่สุด เขาซื้อแก่นผลึกมารูได้อย่างามายใราคาที่ต่ำเป็อย่างา
นับรวมวันนี้เป็วันที่สิบสามที่เย่ชิงหานมาถึงเืหมันแห่งนี้ ัจากที่กว้านซื้อแก่นผลึกมารูเป็ปะจำุวัน นี้เงินที่มีอยู่ติดัก็เหลือไม่าแล้ว แต่เ้าสัตว์ูเสี่ยวเฮยัยังคงเหืนเดิม กินแล้วก็ แล้วก็กิน ไม่มีเค้าลางว่าจะข้ามผ่านช่วงระยะอ่อนแอให้เห็นเลยสักนิด ิ่เดียวที่เปลี่ยนแปลงคือร่างกายที่ใหญ่ึ้เล็กน้อย เมื่อ่ที่เพิ่งเรียกออกมามีขนาดเ่ากำปั้น ่นี้ัมีขนาดใหญ่เ่าฝ่าืแล้ว เย่ชิงหานเิ่จะปวดหัวกับเรื่องนี้ึ้มาี ไม่มีกะจิตกะในั่งฝึกฝนพลังปราณรบเหืนเช่นุๆ วันที่เคยกระทำ จึงเดินลงไปยังห้องรับปะทานอาหารสั่งเหล้าูๆ าื่มอยู่คนเดียวเงียบๆ
“เวลาก็ผ่านไปเกือบจะหนึ่งเืแล้ว ไม่รู้ว่าเ็โง่ชิงอวี่อยู่ที่บ้านสบายดีหรือเป่า? เสี่ยวเฮยเอ้ยเสี่ยวเฮย...เ้าจะกินแก่นผลึกมารูีเ่าไรถึงจะข้ามผ่านช่วงระยะอ่อนแอ?” คนที่เดินสัญจรไปมาบนท้องถนน ใของเย่ชิงหานคิดไปต่างๆ าา าาค่อยๆ เิ่เลือนรางราวกับว่าได้เห็นลานที่พักเล็กๆ ัเงียบบของตน ที่แห่งนั้นน้องสาวที่ร่างบอบบางนั่งอยู่ภายใาาเหม่อมายังทิศทางที่ตั้งของเืหมัน
เฮ้อ!
แต่เมื่อนึกถึงสถานการณ์ของตนเองใะนี้ าาอดไม่ได้ที่จะเลือนรางาึ้ไปี พรสวรรค์! ข้าต้องการพรสวรรค์! พรสวรรค์ของตนเองไม่ไหวเอาเสียจริงๆ ยี่สิบวันมานี้ไม่มีวันไหนที่ไม่ฝึกฝนเลย แม้จะเพียรพยายามขนาดนี้ก็ยังไม่มีอะไรดีึ้
เวลาครึ่งเืที่เดินทางบนถนน เวลาเกือบจะทั้งหมดเขาใช้ไปใการฝึกฝนอยู่บนรถม้าโดยตลอด เมื่อมาถึงเืหมัน จากที่ออกไปซื้อแก่นผลึกมารูแล้ว เวลาที่เหลือก็ทำการฝีกฝนอยู่แต่ภายให้อง
ผู้ที่ฝึกุ์ลำดับแรกต้องทำร่างกายให้แข็งแรงเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับเขตปุถุชน ลูกหลานของะูเย่เิ่ฝึกุ์ตั้งแต่เ็ อายุได้ห้าถึงหกปีก็เิ่ก้าวเข้าสู่ระดับเขตปุถุชนแล้ว จากนั้นเิ่ฝึกูดซับพลังฟ้าดินเข้ามายังภายใร่างกายแล้วเปลี่ยนเป็พลังปราณรบก็จะก้าวเข้าสู่ระดับเขตผู้กล้า!
ลำดับต่อมาคือระดับเขตั้สูง ระดับเขตนี้จำเป็ต้องใช้พลังปราณรบที่มีอยู่ภายใกายมาทะลวงุชีพจรเล็กทั้งเก้าุคือ อินม่าย า่า ชงม่าย ้่า จั๋วเส่าจู๋ม่าย โย่วเส่าจู๋ม่าย จั๋วโส่วสีม่าย โย่วโส่วสีม่าย เจว๋ม่าย หรือเรียกโดยรวมว่า โจเทียนจิ่วม่าย ึุ่ชีพจรเล็กที่อยู่ภายใกายทั้งเก้าุนี้หากทะลวงได้ทั้งหมดก็จะบรรลุถึงระดับเขตยอดุ์
การจะเลื่อนระดับพลังฝีืจากระดับเขตยอดุ์ึ้สู่ระดับเขตเยี่ยมุ์นั้น จำเป็จะต้องทะลวงุชีพจรใหญ่ทั่วร่างีสามุคือ เิ่่า ตูม่ายและฉีม่าย พร้อมทั้งทำการสร้างตันเถียน เมื่อทะลวงุชีพจรใหญ่ได้ทั้งหมดและสร้างตันเถียนึ้มาได้ก็จะบรรลุถึงระดับเขตเยี่ยมุ์
ระดับเขตั้สูงและระดับเขตยอดุ์ทั้งสองระดับเขตนี้ต้องอาศัยศักยภาพทางร่างกายและพรสวรรค์่บุคเป็อย่างา คนจำนวนาใเขตปกเทพครามต่างติดอยู่ใสองระดับเขตนี้ทั้งชีวิต และเย่ชิงหานก็เป็คนจำพวกนั้น ิ่อุดตันที่เกาะอยู่ภายใุชีพจรภายใร่างทั้งสิบสองุมีามายมาหาศาล หากคิดคำนวณออกมาคงปะมาณแปด่เห็นจะได้
ันั้น แม้เย่ชิงหานฝึกฝนาว่าสิบปีก็ทำได้เพียงแค่ทะลวงุอินม่ายและุา่าเพียงเ่านั้น นี้กำลังพยายามอย่างสุดกำลังที่จะทะลวงุชงม่ายให้ได้
ยี่สิบวันที่ผ่านมาเขาพยายามฝึกฝนพลังปราณรบเพื่อทะลวงุชงม่าย แต่ผลลัพธ์ที่ได้ัเล็กน้อยาเพียงแค่ร้อยละสองสามเปอร์เซ็นต์
เสี่ยวเฮยยี่สิบวันมานี้กินแล้วก็ แล้วก็กิน ไม่มีเค้าลางว่าจะข้ามผ่านช่วงระยะอ่อนแอให้เห็นเลยสักนิด นึกถึงคำพูดของผู้อาวุโสเทียนสิงแห่งหอสัตว์ูที่กล่าวว่า “สัตว์ูยิ่งระดับคุณภาพสูงยิ่งใช้เวลาข้ามผ่านช่วงระยะอ่อนแอยาวนานาึ้” ูท่าจะให้เสี่ยวเฮยข้ามผ่านช่วงระยะอ่อนแอใช่วงระยะเวลาัสั้นคงเป็ไปไม่ได้แล้ว
แผนที่ตนเองคิดไว้เกิดข้อผิดพลาดจนได้ เดิมทีคิดว่าอาศัยเงินเก็บสะสมที่มีเดินทางมาเืหมันซื้อแก่นผลึกมารูระดับหนึ่งก็จะสามารถทำให้เสี่ยวเฮยข้ามผ่านช่วงระยะอ่อนแอไปได้ สามารถรวมร่างสัตว์ูได้ ตนเองก็จะสามารถเดินทางัไปเข้าร่วมเป็ศิษย์าใของะูได้อย่างภาคภูมิใ
ไม่คาดคิดเลยจริงๆ! มีเพียงทางเดียวคือเข้าไปยังเทือกเขาเ่านั้น
เย่ชิงหานลูบำห่อผ้าที่อยู่บริเวณหน้าอกใใครุ่นคิดตัดสินใอย่างเด็ดขาด ภายให่อผ้าเป็ของใช้ต่างๆ ที่จำเป็ต่อการเข้าไปยังเทือกเขา เงินที่มีติดัก็จะหมดกระเป๋าแล้ว หากคิดอยากจะได้แก่นผลึกมารูมาให้เสี่ยวเฮยกินี คงจำเป็ต้องเดินทางเข้าไปล่าภายใเทือกเขารกร้างด้วยตนเองเพียงเ่านั้น
ใะที่เย่ชิงหานครุ่นคิดเรื่องราวอยู่ภายใในั้น ารูปร่างสูงใหญ่ท่าทางดุดันบนไหล่แบกดาบยักษ์เดินเข้ามาภายใโรงเตี้ยม พอมาถึงก็นั่งพรวดลงไปยังเก้าอี้โดยทันทีพร้อมกับร้องตะโกนึ้ “น้องเสี่ยวเยว่ที่รัก รีบนำเหล้าสาวงามสีน้ำเงินมาให้พี่ดื่ม่สักไหหน่อยสิ นานแล้วที่ไม่ได้ดื่มเหล้าหมักฝีืเ้า พี่คิดถึงจะบ้าายอยู่แล้ว”
ผู้คนภายให้องรับปะทานอาหารูเสียงของารูปร่างสูงใหญ่ดึงูดความสนใ ด้านหนึ่งาร่างผอมผมยาวปะไหล่คนหนึ่งลุกึ้ยืนพร้อมกับพูดึ้ว่า “ฮ่าๆ ข้าก็นึกว่าใครที่ไหน? ที่แท้ก็พี่ใหญ่เหมิ่งหลงนี่เอง เหมิ่งหลงข้าว่าเ้าไม่ได้คิดถึงเหล้าที่อั้นเยว่หมักหรอกมั้ง แต่คิดถึงเถ้าแก่เนี้ยแสนสวยอั้นเยว่ของเราต่างหากเล่าใช่ไหม ฮ่าๆ...”
“คิกๆ ไปให้พ้นเลย้าเถ่ ขนาดอาเจ้อย่างข้าเ้ายังกล้าพูดจาหยอกเย้า ระวังคืนนี้เจ้จะูดเ้าให้แห้งาย” ญิสาวที่มีใบหน้าสวยงามที่อยู่ัโต๊ะคิดเงินเดินถือเหล้าไหหนึ่งเดินตรงมา
เถ้าแก่เนี้ยคนนีู้หน้าาเหืนกับอายุราวยี่สิบสองยี่สิบสามปี รูปร่างอวบอิ่ม มี่เว้าๆ ูๆ ได้รูป ใบหน้าดั่งดอกท้อ สองาดั่งหงส์ชาดที่สวยงามชวนให้น่าหลงใหลอย่างยิ่ง นางค้อนาขาวไปยังาร่างผอมทีหนึ่ง จากนั้นวางเหล้าลงบนโต๊ะของเหมิ่งหลง แขนที่ขาวราวกับหยกหิมะของนางวางไปบนไหล่ของเหมิ่งหลงแล้วพูดึ้ด้วยรอยยิ้มอย่างเอาใ “เหมิ่งหลงเ้ามีคนใหม่ที่ชอบแล้วใช่ไหม? ไม่คิดถึงอาเจ้คนนี้แล้ว? ผ่านไปครึ่งเืแล้วถึงค่อยมาที่นี่?”
“แหะๆ!” เหมิ่งหลงยื่นฝ่าืที่ดำมืดออกไปหวังที่จะลูบก้นงอนของอั้นเยว่สักครั้ง อั้นเยว่ราวกับรู้ตั้งแต่แรกแล้วจึงยื่นืออกไปปัดกระเด็นออกไป ค้อนด้วยาายั่วเย้าไปครั้งหนึ่ง่จะเดินส่ายสะโพกเดินจากไป
เหมิ่งหลงยิ้มอย่างลามกพูดึ้ว่า “น้องเสี่ยวเยว่เ้าพูดบ่อยๆ ว่าเ้าจะกับข้าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เพียงแค่ให้พี่จับลูบำูสักครั้งก็ยังไม่ได้”
“ูต้องที่สุด เถ้าแก่เนี้ยอั้นเยว่แสนสวยที่รัก เ้าพูดุครั้งว่าจะูดข้าให้แห้ง ทำไมถึงดีแต่พูดไม่ลงืปฏิบัติบ้างเล่า? หลอกให้ข้าอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณรอตั้งแต่หัวค่ำ แต่กลายเป็ว่าปล่อยให้พี่เฝ้ารอให้องน้อยอย่างเดียวดาย พี่เป่าเปลี่ยวอ้างว้างน่ะรู้ไหม...” าวัยกลางคนร่างผอมที่ชื่อ้าเถ่สะบัดผมทำท่าทางหว่านเสน่ห์
เหมิ่งหลงเห็นว่าุสนใโดน้าเถ่แย่งไปแล้วจึงหัวเราะแหะๆ ด่าึ้ “เ้าเฝ้ารอให้องน้อยอย่างเดียวดายห่าอะไร น้องเยว่ข้ามีเรื่องเกี่ยวกับ้าเถ่จะ ไม่นาน่หน้านี้เขาไปที่หอหมื่นบุปผามา ้าเถ่คนนี้ชีวิต่ัโคตรจะเหลวแหลกเลย ูเขาผอมขนาดนี้ ข้าว่าคงจะติดโรคจนระยะสุดท้ายแล้ว”
้าเถ่ได้ยินชักทนไม่ไหว ตบโต๊ะฉาดหนึ่งร้องด่าึ้ “เหมิ่งหลง เ้าอย่ามาผายลมแถวนี้! เ้าคิดว่ากลางคืนเ้ารูปอั้นเยว่แล้วฝึกวิชาสองืคว้าจับเป็ปะจำุคืน คิดว่าจะไม่มีคนอื่นรู้อย่างนั้นรึ?”
เห็นทั้งสองมีท่าทางจะลงไม้ลงืกัน สีหน้าของอั้นเยว่เย็นชาลงใทันใด นางถลึงาใส่แล้วพูดึ้ด้วยความโมโห “พอได้แล้วพวกเ้าทั้งสองคน คนกันเองก็ีเรื่องหนึ่ง...ที่ตบโต๊ะพังต้องชดใช้เพิ่มเป็สองเ่า...พวกเ้าต่างอยากจะได้ข้าใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็ได้ไม่มีปัญหา ไหนที่พวกเ้าสามารถเอาชนะข้าได้ ข้าจะขัดสีฉวีวรรณอย่างดีเดินไปหาเองถึงที่เตียงเลย”
“...”พ
ทั้งสองหดหัวัแทบไม่ทัน เมื่อสักครู่ยังทำท่าองอาจราวกับเสือ แต่นีู้้ายกับหนูที่เจอแมวเข้าอย่างไรอย่างนั้น เถ้าแก่เนี้ยอั้นเยว่คนนี้พลังฝีืลึกล้ำไม่อาจคาดเดา อย่าเห็นว่านางเวลาปกติธรรมดาเป็กันเองไม่ถือเนื้อถือั แต่ถ้าได้ลงไม้ลงืไม่มีการออมืเด็ดขาด
“ฮ่าๆ...” เห็นทั้งสองมีอาการบิดไปมาทำหน้าไมู่ ผู้คนที่อยู่ใชั้นรับปะทานอาหารต่างหัวเราะออกมาอย่างครื้นเครง เย่ชิงหานได้ยินก็ยังรู้สึกขบขันไปด้วย ัตลกทั้งสองคนนี้น่าสนใจริงๆ แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นเย่ชิงหานเองก็รู้สึกเลื่อมใสศรัทธาอย่างหมดจิตหมดใต่อเถ้าแก่เนี้ยที่พราวไปด้วยเสน่ห์ผู้นี้ วิธีการทำธุรกิจทำได้ถึงระดับั้สุดยอดเลยทีเดียว คาดว่าผู้า่าที่อยู่ใชั้นรับปะทานอาหารในี้ที่าันก็คงเพราะเถ้าแก่เนี้ยคนนี้อย่างไม่ต้องสัย
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??