เรื่อง เทพกระบี่เงาอสูร
บที่129 การแข่งรอบแรก
คนทั้งยี่สิบลงสนามแข่งขันเนี่ยฟงมารูhทีหลังว่าคนทั้งห้าของตำหนักเซียนมีชื่อว่า ไป๋ชิงอู๋ เซียงหูตง เมิ่งชิงซวง หนานกงหยุน และชุยเย่ เนี่ยฟงไม่รู้ความสามารถของทั้งสี่คนเลยแต่เขาก็ไม่ใส่ใจยังไงเขาต้องการเอาชนะอยู่แล้วแต่เนี่ยฟงก็อดไม่ได้ี่จะแปลกใจถึงบรรดาอาจารย์ของทั้งสองสำนักไม่มีใครมาเลยแม้แต่คนเดียวไม่ใช่ว่าจะเกิดเรื่องหลอกรึเดิมทีเขาคิดว่าเพราะเรื่องเขาคัดเลืองสำนักครึ่งดาวแต่ตอนนี้เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วตอนนี้มิโฮและเสี่ยวเอินไม่อยู่เขาไม่สามารถส่งให้ไปสืบข่าวได้ ก่อนมานี่มิโฮบอกว่านางขอกลับไปป่ามายาสักพักร่างกายนางกำลังเปี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต้องใช้เวลาบางทีอาจเป็นปีทำให้เนี่ยฟังเศร้าในมากยังดีี่มีไห่ถางมาด้วย แม้ว่าเขาจะกังวนใจแต่ก็ปล่อยไปก่อนยังไงการแข่งวันนี้ก็สำคัญ
เนี่ยฟงเองก็มีงานใหญ่ของตัวเองเช่นกันคืออีกไม่ถึงเดือนเขาต้องเขาคัดเลือกตัวแทนไปเข้าสำนักทั้งสิบดังนั้นห้าวันผ่านมาแม้เขาจะยุ่งกับการสอนคนทั้งห้าแต่ก็ไม่ได้ละเลยการฝึกฝนของตัวเองแต่อย่างใดเขาคิดรูปแบบการใช้ำลังสายฟ้าหลายรูปแบบบ้างครั้งเขาสร้างมันเป็นอาวุธต่างๆทว่าก็ไม่เป็นไปตามี่คิดเอาไว้เขาจึงเปี่ยนมาใช้แบบอื่นเขาใช้นิ้วทั้งสองควบแน่นสายฟ้ารวมี่นิ้วชี้และนิ้งกลางนิ้วทั้งสองกลายเป็นสีฟ้าทันทีเนี่ยฟงพอใจมากข้าจะตั้งชื่อว่า นิ้วสายฟ้า อย่างไรก็ตามการตั้งชื่อของเนี่ยฟงนำว่าอยู่ในระดับต่ำมากเขาจึงปรึกษาไห่ถางดูนางก็อดขำไม่ได้ถึงความสามารถการตั้งชื่อของเขา นางเปี่ยนแปลงชื่อให้เขานิดหน่อยเป็นดัชนีสายฟ้าเนี่ยฟงมองไปี่นาง แล้วยิ้มแห้งเพราะความหมายเดียวกันแต่ทำไมฟังดูดีกว่าเขากัน เนี่ยฟงคิดค้นหลายสิงหลายอย่างเขาพยามฝึกกระบี่เงาอสูรท่าี่สามแต่ยังไม่ไปถึงไหนี่อูไทมีพลังวิญญาณไม่พอี่จะใช้ฝึกเพลงกระบี่ชั้นสูงนี้นั่นทำเอาเขาผิดหวังมากเขาจึงตัดใจแล้วพัฒนากระบี่สี่ทัศนาท่าี่สองแทนเนื่องจากในตำราเขียนไว้แบบลวกๆเขาจึงอาศัยความรู้มากมายี่เคยอ่านหนังสือทักษะมามากเอามาปรับปรุงท่าี่สองจำสำเร็จส่วนหนึ่งอย่างไรก็ตามแม้เขาจะเก่งด้านทำความเขาในในวิชาแต่ให้เขาสร้างมันขึ้นมาเองไม่ใช่เรื่องง่ายนักเขาคิดถึงเรื่องของสำนักหญ้าสีครามในหัวเขาเต็มไปด้วยคำถามเขาตัดสินใจได้ทันทีว่าจะเขาสำนักนี้แม้ว่าเขาอยากจะเข้าสำนักเทพกระบี่ก็ตาม
สำนักหญ้าสีครามก่อตั้งมาหลายพันปีมาแล้วทว่าเพิ่งมาโดงดังเมื่อห้าร้อยปีก่อนจาเจ้าสำนักี่คอกคนวิชาห้าธาตุขึ้นมาเขาสามารถควบคุมธาตุทั้งห้าในระดับสูงธาตุทังห้าประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ ทอง นอกจากนี้ผู้ี่ไปถึงขั้นสูงสุดจะสามารถผสมผสานธาตุได้อีกด้วย เช่น ดินและน้ำนะก่อกำเนิดธาตุไม้ หรือน้ำ ดิน ทองและไฟ ทำให้เกิดลาวา เมื่อควบคุมธาตุได้ดังใจนั่นจึงทรงพลังและเขายังมีวิชาควบคุมพืชตระกูลหญ้าอีกด้วยมาก ในศึกสิบสำนักครั้งล่าสุดมีศิษย์ในสำนักใช้เพียงต้นหญ้าในการเอาชนะคู่ต่อสู่ได้อย่างง่ายดายแต่ไม่มารู้ว่าเหตุผลอะไรพวกเขาจึงได้แค่อันดับเก้าทุกครั้งปัจจุบันเจ้าสำนักี่ชื่ออ้ายฮุยนั้นเข้มงวดมากในการรับศิษย์ความจริงแล้วการทดสอบของเขาง่ายนิดเดียวและเพียงแค่ด่านเดียวเท่านั้นแต่ก็ใช่ว่ามีคนี่น้อยมากในการผ่านเขาไปในสำนัก
กลับมาี่การแข่งในตอนนี้คนเริ่มหลั่งไหลเข้ามากันจนแน่นแล้วทั้งสี่ด้านของสนามผู่แข่งขันยืนเตรียมความพร้องมันอยู่อวิ๋นจูและมู่หลานเดินออกมาก็ได้ยินเสียงบรรดาชายหนุ่มส่งเสียงให้เป็นระยะๆด้วยความงามของทั้งสองคนไม่แปลกเลยี่จะมีชายรุ่นเดียวกันชื่นชอบแม้จะรู้ว่าทั้งสองเป็นคู่หมั้นของเนี่ยฟงส่วนชายทั้งสามเองก็ไม่น้อยหน้าทั้งสามมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาทีเดียวสาวๆหลายคนอกไม่ได้ี่จะส่งยิ้มให้พวกเขา ไม่นานจือซี ซวงซวง ซวงเหยียน และคนจากห้าตระกูลใหญ่ก็มานั่งี่เดียวกับเนี่ยฟง เนี่ยฟงหันไปป้องมือพวกเขาจากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากผู้ประกาศดังขึ้นว่าการแข่งขันเริ่มขึ้นแล้วคนทั้งยี่สิบกระโดดลงไปในสนามทันที ซุนจ้านรับหน้าี่เป็นหัวหน้าทีมเขานำไปี่จุดอับสายตาโดยเร็วี่สุดไม่นานพวกเขาก็มาหลบอยู่ี่มุมกลหนึ่งของสนามจากนั้นพวกเขาก็เริ่มกวาดสานตามอง
“ี่นี่ไม่เลวสามารถมองเห็นได้รอบด้านแล้วยังป้องกันการลอบโจมตีได้อีกด้วย”มู่หลานพอใจกับี่มั่นพวกเขามากจากนั้นจวี๋เชียงก็ยกกล่องไม้สีดำสองกล่องตั้งขึ้นด้านหน้าแล้วเปิดฝาออกเผยให้เห็นลูกธนูสองแบบคือแบบปกติและแบบสั้นกว่าปกติจากนั้นหมางกั่วเฉินก็นำธนูออกมาเมื่อคนดูเห็นก็ตกใจเพราะมันมีขนาดใหญ่กว่าปกติมากคนี่สามารถยิงได้ต้องมีพลังมหาศาลมาก จากนั้นก้านหลังพวกเขาอวิ๋นจูนั่งลงบนก้อนหินก้อนหนึ่งแล้วเปิดใช้เนตรมายาทันที ไม่นานแสงสีขาวก็วิ่งไปบนฟ้าไม่มีใครรู้สึกตัวดวงตาขนาดยักษ์ก็ปรากฏขึ้นในชั้นเมฆาแน่นอนดวงนานี้มันมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ทันให้นั้นทุกพื้นี่ใดสนามก็ปรากฎภาพในหัวของอวิ๋นจูอย่างชั้นเจน
“กั่วเฉินทางซ้ายหลังเขาหินนั้นมีเผ้าสีแดงอยู่เรงต่ำลงมาจากยอดมันสองเมตร”กั่วเฉินง้างธนูแล้วควบแน่นพลังเขาไปในลูกธนูนี่คือศรทะลวงภูผาี่เนี่ยฟงสอนเขาเพลงสีฟ้าอันไปี่ลูกธนูจากนั้นเขาปล่อยมันออกไปความแรงของมันดันเขาถอยกลหลังมาหนึ่งก้าว มันพุ่งตรงไปี่ภูเขาหินนั้นด้วยคลื่นพลังี่มองไม่เห็นศรนี้ทำมาจากแร่แหล็กระดับห้ามันจึงแข็งมาก คนี่เห็นต่างหัวเราะี่เขายิงไปอย่างโง่เขลาเป้าหมายนั้นเห็นอยู่ว่าเป็นแค่ภูเขาหินนี่เป็นการสิ้นเปลืองพลังหล่มประโยชน์ไม่ใช่รึ เข่อซือซานยิ้มเยาะเมื่อเห็นการกระทำนี้คนของหลีอังต่างขบขันเมื่อเห็นอูไทกระทำการโง่งมเช่นนี้ ทว่าคนของอูไทนั้นนิ่งสงบไม่คิดว่ากระทำนี้ชั่งโง่เขลาแต่อย่างใดพวกเข้าได้ยินเสียงโหยหวนของคนทั้งห้าจากการฝึกอันโหดร้ายตลอดห้าวัน
ทันทีี่ลูกศรกำลังจะสัมผัสหอนสูงนั้นภูเขาหินี่สูงเหมือนแท่งเสาขนาดใหญ่ก็ถูกป่นทะลุออกไปด้านหลังทันทีลูกศรพุ่งออกไปถึงภูเขาแท่งสูงอีกอันี่มีเป้าสีแดงซ่อนอยู่อย่างแม่นยำ เสียงหัวเราะหยุดลงทันทีพวกเจาสูดหายใจเขาลึก
“นี่เป็นไปไม่ได้”หายคนตกตะลึงจากการเห็นภาพนี้ เนี่ยฟงยกปากเป็นมุมโค้งขึ้นอย่างพอใจ
“นี่มันวิชาธนูแบบใดกันถึงได้ทรงพลังเช่นนี้”มือธนูอีกสามทีมต่างตะตะลึงกับภาพนี้!
“ร้ายกาจมากอาจารย์ของเขาถึงขั้นปรมาจารย์เป็นแน่แม้แต่อาจารย์ข้าก็ไม่สามารถยิงศรทะลวงแบบนั้นได้จริงอยู่ี่ท่านอาจจะทำลายเสาหินนั้นได้ง่ายดายแต่คงไม่สามารถยิ่งมันทะลุทะลวงไปถึงเป้าหมายได้แม่นยำขนาดนี้”กวนเป้ย่อชื่นชมในฐานะมือธนูด้วยกัน
“เราต้องชนะอย่าไปยอมพวกมัน”เข่อชิงเน้นเสียง จากนั้นลู่ฟานและฮองตงก็กระโดดขึ้นี่สูงเพื่อมองหาเป้าหมาย
“นั้นหลังเนินหินนั้นห่างไปสามสิบเลเมตรเป้าเหลือง”กวนเป้ยอยิ่งศรด้วยความนิ่มนวลลูกศรพุ่งขั้นไปสูงแล้วโค้งลงมาเขาเป้าสีเลืองด้วยความแม่นยำ เสียงโหร้องดังขั้น เนี่ยฟงเดาะลิ้นเมื่อเห็นการยิงของนาง
“ร้ายไม่เบาแม่หนูน้อย”เนี่ยฟงหัวเราะ หลายคนถึงกับซื่นชมนางี่สามารถยิงธนูได้ยอดเยียมอีกคนสายพลังอีกคนสายพริ้วไหวปีนี้หน้าตื่นตาตื่นใจจริงๆ อย่างไรก็ตามเนี่ยฟงยังไม่อาจวางใจได้สองสำนักยังไม่เคลื่อนไหวอันใดๆทั้งนั้น
ตำหนักเซียนเริ่มลงมือบ้างแล้วไป่ชิงฮู๋หยิบธนูเรียวบางออกมาจากนั้นศรสามดอกพาดบนธนูพลังสีม่วงเป็นเกลียวหมุนวนรอบธนูนางจากนั้น. ฟิ้ววว!!! ฉึกๆๆอสูร สองตัวตายมันทีและเป้าสีเหลืองถูกยิงอย่างแม่นยำ
“สุดยอดจริงๆทั้งสามดอกเรงไปทิศทางี่แตกต่างกันและยังคำนวณการเคลื่อนไหวของอสูรไว้ล่วงหน้าสมเป็นตำหนักเซียน”ใครคนหนึ่งพูดออกมาทุกคนต่างโหร้องด้วยความสะใจ ไม่นานสามงามอีกสี่คนก็หายไปจากสายตา เหลือไว้เพียงไป่ชิงอู๋ี่โบกมือให้คนดูด้วยความยิ้มแย้มทำให้ชายหนุ่มถึงกับเคลิ้ม
“เป็นกานยิงี่สุดยอดจริงๆนางไม่ธรรมดาเลยพรสวรรค์ของนางไม่ต่างจากเย่หวิ๋นเลยทว่านางอ่อนด้านพลังกว่าเย่หวิ๋นแต่ว่าถึงอย่างนั้นนางก็ยังแอบซ่อนพลังบางอย่างเอาไว้ช่างเป็นสำนักี่หน้ากลัวจริงๆตำหนักเซียนแม้ว่าจะเป็นศิษย์ใหม่แต่ว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆการี่ยิ่งธนูแบบนี้ได้อาจารย์จื่อเคยบอกว่าพรสวรรค์ของนักธนูไม่ได้อยู่ี่ความแม่นยำแต่เป็นการคำนวณี่ทำให้เกิดความแม่นยำนางทำได้ถึงขึ้นนี้ในอายุเท่านี้ได้ไม่เลวเลยหากนางสู้กับเย่หวิ๋นคงหน้าสนุก”เนี่ยไงคิดในใจอยู่พักหนึ่งก็ยิ้ม
“ทว่าแค่นี้ยังเอาชนะศิษย์ข้าไม่ได้หลอกนะ”เนี่ยฟงหัวเราะ
กลุ่มของหอเทพศาสตรายืนสงบนิ่งได้ไม่นานก็มีแขกมาเยือนนางพวกตางคือคนของตำหนักเซียน
“มีสาวงามาหาถึงี่เห็ี่เราต้องต้อนรับพวกนางหน่อยแล้ว”เกาอวี้พูดขึ้นจากรั้นกล่องไม้ก็เปิดออกดาบสีแดงพุ่งออกมาแล้วเขาก็พู่งไปหาพวกนาง ส่วนหยงกวงก็หยิบธนูขนาดยักษ์ขึ้นมามันใหญ่กว่าตัวเขาเสียอีกร่างกายเขาใหญ่โตกำยำมากทว่าเขาง้างศรอย่างง่ายดายจากนั้นก็เรงไปี่อสูรี่อยู่มาอากาศแมลงปอปีกทองี่บินห่างออกไปยี่สิบเมตรปัง!!!เสียงแหวกอากาศพุ่งออกไปราวกับเสียงปืน ฉัวะ มันทะลุร่างแมลงปอปีกทองจากนั้นมันทำมุมตั้งฉากพุ่งลงมาใส่อสูรด้านร่างอย่างแม่นยำด้วยคำบอกของ โจวซิงี่ ี่ลอยอยู่บนอากาศด้วยปีกเมฆา หลายคนแทบไม่อยากเชื่อสายตาเขาทำให้ลูกศรหักมุมลงมาได้เช่นไร ทุกคนต่างตกใจและไม่อยากเชื่อ…
*เปี่ยนชื่อ จากอ้ายหุยเป็นอ้ายฮุย โจวสิงี่เป็นโซิงี่
พ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??