เรื่อง ตำรับรักข้าวโพดหวาน จบแล้ว (yaoi)
ฝักี่ 1
“ ~ ..” หญิงัาท่าทางใีเอ่ยปุบุตรชายี่ัี้ตื่นาผิดาทุกวัน ึ่ปกติแ้จะตื่นั้แ่เช้าเื่าช่วยทำงานบ้าน าแ่เช้านี้ัยังไ่ตื่นนอนทำใหู้้ึเป็นห่วง้เข้ามาูเสียหน่อย
ผู้เป็นมารดาเอาหลังมืออังแนบกับศีรษะเล็กของบุตรชายเื่อตรวจวัดหาอาการไข้ แต่ก็ไ่พบว่าร้อนผิดปกติแต่อย่างใด นั่นทำให้นางยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ เราะบุตรชายคนนี้เป็นเด็กขี้โรคมาั้แ่ไหนแต่ไรแ้ อาจจะเป็นเราะว่าช่วงี่นางกำลังตั้งท้องอยู่นั้นไ่เคยไดู้แลบำรุงครรภ์เลยก็เป็นได้ ยิ่งไปกว่านั้นนางกับสามีั้โหมทำงานหนักมากยิ่งขึ้นไปอีก เื่อจะเก็บเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายในยามี่บุตรคลอดออกมาแ้ ยามนี้บุตรชายนั้นมีอายุครบ 15 ปีแ้ แต่ร่างกายัแคระแกร็นไ่โตสมวัยอย่างี่เด็กวัยนี้ควรจะเป็น
เมื่อเห็นว่าเจ้าเด็กหนุ่มบนเตียงยังไ่มีทีท่าี่จะตื่นขึ้นมา นางจึงเริ่มเขย่าตัวคนขี้เซาเื่อให้ลุกขึ้นมากินข้าวเช้า ด้วยกลัวว่าอาการโรคกระเาะของเจ้าตัวนั้นจะกำเริบขึ้นมา ึ่อาหารเช้าของครอบครัวนั้นมีเียงโจ๊กใสๆ กับผัดผักี่พอหาได้ข้างๆ บ้าน ส่วนเนื้อสัตว์พวกเขาจะได้กินกันในโอกาสพิเศษเท่านั้น ทั้งๆ ี่ข้างบ้านของนางนั้นติดกับผืนป่าขนาดใหญ่ ี่มีพืชผักและสัตว์ให้เข้าไปหาเก็บมาเป็นอาหารมากมาย แต่ติดปัญหาี่การจะเข้าไปในป่าได้นั้นจะ้มีป้ายศิลาเวทย์เื่อใช้ปลดผนึก ึ่ทางอำเภอไกรคีรีแห่งแคว้นศศินนี้จะเป็นผู้ออกให้
แ้การขอป้ายศิลาเวทย์นั้นผู้ขอจะ้จ่ายภาษีรายปีให้กับทางอำเภอเสียก่อน และจำนวนเงินี่้จ่ายในระยะหลังๆ มานี้นั้น ได้ถูกปรับเิ่มสูงขึ้นเกินกว่าี่ชนชั้นรากหญ้าอย่างครอบครัวของนางจะจ่ายได้ ดังนั้นความเป็นอยู่ของพวกนางจึงอัตคัดมาก อาหารการกินนั้นเป็นไปแบบอดมื้อกินมื้อ ยิ่งเมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้าก็ทำให้ร่างกายนั้นทรุดโทรมอย่างเลี่ยงไ่ได้ แต่ไ่ได้มีเียงครอบครัวนางเท่านั้นี่้พบเจอกับชะตากรรมเช่นนี้ าแ่มีมากกว่าครึ่งของคนในแคว้นแห่งนี้ก็ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ กันอีกด้วย
ดินนั้นรับรู้ได้ว่ามีคนกำลังเรียกขานชื่ออยู่ าแ่นั้นไ่สามารถลืมตาขึ้นมาได้ และในความทรงจำสุดท้ายี่เขาจำได้ก็คือ นั้นกำลังเดินกินลูกชิ้นปิ้งเจ้าดังี่้ต่อคิวซื้อนานนับชั่วโมง มากินเล่นในระหว่างทางี่้เดินัห้องเช่าขนาดเท่ารูหนูของนั้น
!
!!
ปี้น
ปี้น ปี้น ปี้นนนน
เสียงแตรบีบดังลั่นและลากยาวขี้หูี่ไ่ได้แคะมาหลายเดือนนั้นแทบจะออกมาเซิ้งจังหวะสามช่าเสียให้ได้ และเมื่อหันไปมองหาต้นกำเนิดของเสียงแตรี่ดังนรกแตก แถมยังกดลากยาวผิดปกติวิสัยของคนสันดานดีๆ เขาพึงจะทำกัน จึงได้เห็นว่าตัวต้นตอของเสียงนั้นเป็นรถเมล์าแปร๊ดแปร๊ดแปร๊ดแปร๊~ ในตำนาน ‘ สปีดเร็วกว่านรก..’ ึ่มันกำลังแล่นพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง และมุ่งหน้ามาทางฟุตบาธี่นั้นยืนอยู่โดยี่ไ่มีการเหยียบเบรกหรือชะลอความเร็วแม้แต่น้อย ก็ไ่รู้ว่าตอนี่เจ้าของรถเมล์ไปซื้อรถคันนี้มานั้นได้ต่อรองราคามากเกินไปหรือเปล่า เลยทำให้ทางโรงงานผู้ผลิตรถจำเป็น้ลดต้นทุนลง โดยการถอดเอาเบรกออกไปหรืออย่างไรก็ไ่รู้
ดังนั้นเจ้ารถเมล์คันนี้จึงอาจจะมีแค่คันเร่งเียงอย่างเดียวก็เป็นได้ หากเป็นเช่นนั้นถ้าคนขับ้การจะหยุดรถเื่อเข้าป้ายส่งผู้โดยสาร ก็จำเป็นจะ้หาเสาไฟสักต้นเื่อทำหน้าี่แทนเบรกี่หายไป และการี่จะหยุดรถให้ได้อย่างนิ่มนวลคนขับก็้หาอะไรสักอย่างี่นิ่มๆ มาคั่นกลางระหว่างตัวรถกับเสาไฟเอาไว้ เื่อผู้โดยสารบนรถจะได้ประทับใจในสกิลการจอดรถขั้นเทพ ึ่อะไรี่ว่านั้นก็คงจะเป็น ‘ ตรูนี่เอ๊งงงงง WTF!!!’
ดินถึงอยากจะหลบก็หลบไ่ทันเสียแ้ เมื่อถูกแรงกระแทกี่อัดเข้ามาระหว่างรถเมล์และเสาไฟ ก็ยังดีี่สวรรค์ยังปราณีี่ให้นั้นู้ึเจ็บแค่ชั่วขณะเดียวโลกทั้งใบก็มืดลงไปในทันที ก็หัวแบะไปแ้ คงจะู้ึอะไรได้อยู่หรอกนะผู้โดยสารบนรถเมล์ี่เห็นการพลีชีพของดินก็พากันหวีดร้องกันคอแทบแตก ประหนึ่งว่าได้เจอกับศิลปินเกาหลีในดวงใจยังไงยังงั้น ึ่นั่นก็ทำให้คนขับรถเมล์ี่ได้ยินเสียงนั้น เข้าใจผิดและคิดไปเองว่าเป็นการส่งเสียงชื่นชมี่ได้ทำหน้าขับรถได้ดีเยี่ยม จึงได้หันไปยิ้มรับพร้อมน้ำตาแห่งความปีติยินดีค่อยๆ รินไหลออกมาด้วยสุดจะกลั้นไว้ได้ ้ยกเอาผ้าขนหนูี่พาดบ่าขึ้นมาซับ แ้ยิ่งเมื่อเห็นว่ามีสักขีพยานี่รับรู้การกระทำอันน่าภาคภูมิใจของนั้นมีอยู่เต็มคันรถแ้เช่นนี้ ก็คิดไปว่าโลกจะ้จารึกไว้เป็นตำนานอย่างแน่นอน ดีไ่ดีรางวัลโนเบลไพรซ์ในปีนี้อาจจะตกเป็นของเขาผู้นี้ก็เป็นได้
คนขับรถเมล์เมื่อคิดได้เช่นนั้นก็ยิ้มกว้างออกมาเห็นฟันี่เหลืออยู่สามซี่สุดท้าย ก่อนี่จะเอื้อมมือไปหยิบถุงแกงใบใหญ่ ี่ด้านในนั้นบรรจุก้อนกาวี่มีกลิ่นฉุนของทินเนอร์ขึ้นมาครอบลงี่จมูก แ้สูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าปอดไปสี่ห้าทีก่อนี่จะวางมันลงข้างตัว
านั้นก็เริ่มปฏิบัติหน้าี่ในการรับส่งผู้โดยสารต่อไป ด้วยการเข้าเกียร์ถอยหลังเื่อี่จะออกตัวเดินหน้าใหม่อีกครั้ง เื่อี่จะไปส่งผู้โดยสารในป้ายถัดไปนั้นเอง แต่เมื่อกวาดตามองไปรอบๆ แ้ก็เห็นว่าบนท้องถนนในยามนี้นั้น มันเต็มไปด้วยรถจำนวนมากี่จอดติดกันอยู่เป็นแถวยาว แ้เมื่อมองกระจกมองหลังก็ได้เห็นว่าผู้โดยสารบนรถส่วนใหญ่นั้นเป็นผู้หญิงด้วย ก็อดี่จะู้ึเป็นห่วงเป็นใยและไ่อยากให้ผู้โดยสารเหล่านี้จะ้ับ้านมืดค่ำ ึ่อาจจะเป็นอันตรายตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพได้
จึงเริ่มคิดหาหนทางแก้ไขปัญหาี่มี เมื่อมองไปรอบๆ ก็เห็นมีเียงี่ฟุตบาธี่ยังไ่มีรถวิ่งหรือถ้ามีก็แค่มอเตอร์ไซค์เท่านั้น และาี่กะระยะด้วยาตาก็คิดว่าความกว้างของฟุตบาธนั้นน่าจะพอให้รถเมลคนนี้นั้นวิ่งเบียดๆ ไปได้ แต่อาจจะ้เสียสละกระจกมองข้างทั้งสองฝั่งไป พอคิดได้อย่างนั้นก็เข้าเกียร์เดินหน้าต่อในทันที
แต่แ้ก็มีผู้โดยสารี่เิ่งตัดสินใจว่าจะลงี่ป้ายแห่งนี้กัน
คนพวกนั้นจึงได้พากันกระโดดลงรถกันทางหน้าต่างี่เปิดอยู่
ึ่คนขับรถเมล์ี่เห็นเหตุการณ์นั้น้ถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา
พร้อมกับส่ายหน้าพร้อมกับแบะปากใส่อย่างเยียดหยาม
เราะรับไ่ได้กับพฤติกรรมของผู้โดยสารเหล่านั้น
พลางพูดออกมาเสียงดังว่า
พ
“
...
ว่าทำอย่างนั้นน่ะ
มันอันตราย
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??