เรื่อง เทพยุทธ์อักษรสวรรค์
บที่2 การฝึกี่รวดเร็ว
“เรียนพระชายาองค์ชายสิบเปิดเนตรได้แล้ว”สายตาอันเย็นเฉียบปลายตามอง
“ไปนำตัวเขามา”กงกงรีบเดินออกไปทันที
“ท่านแม่ข้าทำได้แล้ว”สนมเยี่ยนดีใจมากถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ระดับสูงแต่ถ้าเปิดได้ร่างกายหลินอีก็จะแข็งแรงขึ้นมากไม่ต้องนอนติดเตียงอีกต่อไป
“เฮ้ยได้ยินว่าองค์ชายสิบเปิดเนตรได้แล้ว”
“เปิดตอนสิบหกจะไปมีประโยชน์อะไรช่วงอายุในการฝึกี่ดีี่สุดคือสี่ขวบถึงสิบหาเขาเลยมาแล้วจะไปทำอะไรได้”
“เออก็จริงแต่ก็ยังดีช่วยให้อายุยืนขึ้นอีกหน่อย”
ทุกคนต่างพากันสมเพชตัวเขา
“องค์ชายสิบสนมเยี่ยนพระชายาเรียกเขาพบ”ทั้งสองเดินไปบนแท่นสูงี่ประดับสวยงานมีม่านยังอยู่
“ข้าได้ยินว่าองค์ชายสิบเปิดเนตรได้ท่านตรวจดูเขาหน่อยว่าเป็นระดับใด”เมื่อราชครูมองไปี่หน้าผากองค์ชายสิบแล้วนำตำราออกมาเปรียบเทียบก็ส่ายหน้า
“ไม่มีปรากฎในตำราเลยพระพระนางในอักขระอักษรทั้งหมดห้าร้อยรูปแบบไม่ตรงเลย”รอยยิ้มเย็นปรากฎขึ้น
ของมันแน่อยู่แล้วสามตัวอักษรรวมเป็นหนึ่งจะมีบันทึกอยู่ก็แปลกเกินไปแม้แต่พันปีี่แล้วก็ยังไม่ปรากฎ
“คงเป็นพวกพลังต่ำนำเลือดอสูรและน้ำศักดิ์สิทธิระดับต่ำให้ไปห้าชุด”สนมเยี่ยนไม่พอใจ
“อย่างน้อยก็ควรเป็นระดับกลางสิ”
“เขามีอักขระอักษรต่ำขนาดนี้เจ้าจะเอาละดับกลางไปทำไม”สนมเยี่ยนกัดริมฝีปากจนเกือบเป็นเลือด
“ท่านแม่ไม่เป็นไรเอาแค่นี้เรากลับกันเถอะ”
ทั้งสองกลับมาถึงบ้าน หลินอีเข้าห้องฝึกฝนทันที
หลินอีเริ่มฝึกพลังไร้ขอบเขตเซียนอักษรหกวิถีทันที
เขาเริ่มทะลวงชีพจรทันที
“อักขระอักษรสามตัวแม้แต่ชีวิตี่แล้วข้ายังไม่เคยเจอมาก่อนข้าจะรับมือยังไง”เขาทะลวงไปทีละจุดจนพบจุดตันเถียนตอนสำคัญี่สุดอยู่ตรงนี้การจะเป็นยอดคนได้หากผ่านจุดนี่ไปชีพจรจะทะลวงขั้นเริ่มต้นได้กี่เส้นยิ่งมากยิ่งดีในอดีตผู้เป็นตำนานทำได้ถึงยี่สิบเส้นองค์ขายสี่ทำได้สิบแปดเส้น
หลินอีโคจรพลังแล้วกินน้ำศักดิ์สิทธิเขาไปจุดตันเถียนระเปิดแสงสีทองออกมาเส้นชีพจรกรจายไปส่วนต่างๆถึงยี่สิบสองเส้น
“ข้าทำได้มากกว่าชีวิตี่แล้วถึงสองเส้น”เกิดบ่อปราณขึ้นในตัวเขาขนาดใหญ่เท่าบ่อน้ำเล็กๆหน้าตาเขาดูดีขึ้นมานิดหน่อยผิวเขาเนียนเพราะพลังของปราณ เขายิ้มเล็กน้อยแล้วฝึกพลังต่อด้วยวิชาไร้ขอบเขตตอนนี้เขาอยู่ในขั้นมนุษย์ระดับต้นเขาไม่ได้รีบอะไรอย่างน้อยก็เปิดเนตรได้แล้ว
หลินอีออกมากินข้าวก็มีซีหลิงนางกำนัลคอยดูแลเขาอยู่
“ท่านแม่ไปไหนกันถึงไม่มากินข้าว”ตอนนี้เขายอมรับนางเป็นแม่แล้วชีวิตี่แล้วเขาไม่มีพ่อแม่ตอนนี้มีโอกาสจึงรู้สึกดีไม่น้อย
“สนมเยี่ยนไปในเมือง”หลินอีไม่ใช่เด็กอย่างี่เห็นจึงพอรู้นางคงเอาของไปขายเพื่อซื้อเลือดอสูรมาให้เขา
“องค์ชายท่านดูแปลกไปท่านทะลวงผ่านเป็นจอมยุทธ์แล้วใช่หรือไม่”
“ไม่ผิดข้าทำได้แล้ว”นางตกใจมากและดีมจด้วยอย่างน้อยต้องใช้เวลาถึงสามเดือนถึงจะทำได้ ขนาดองค์ชายสี่ยังใช้เวลาหนึ่งเดือนก็ว่าเร็วแล้วตั้งแต่กลับมาจนถึงเช้าเพียงสามชั่วยามเท่านั้นเร็วเกินไปแล้ว!
หลินอีกำลังกินอยู่สนมเยี่ยนก็เขามาแล้วเดินมาหาเขานำเลือดอสูรให้เขาสามขวด เลือดอสูระดับต่ำขาดหนึ่งก็สองร้อยเหรียญเงินแล้วตอนนี้นางมีเงินไม่มาก
หลินอีฝึกพลังอยู่ี่หมัดเจ็ดนักล่าตอนนี้มันแสดงพลังได้แล้วท่าี่หนึ่งเรียกว่าหมัดกลหนมีพลังรุนแรงมากถึงขั้นต่อยหินแตกได้เลยถ้าฝึกขั้นสำเร็จจะทำให้ภูเขาหายไปไม่ไม่ยากอะไร
“ข้าควรเพิ่มไประดับกลางเลยดีไหมหรือคารขยายบ่อปราณให้ถึงี่สุดในระดับต้นก่อนดีในขณะี่เขาคิดก็มีเสียงดังจากซีหลิง
“องค์ชายสิบองค์หญิงเจ็ดมาหา”
“องค์หญิงเจ็ดรึไม่ใช่ว่าขาโดนทอดทิ้งจากคนรอบข้างหลอกรึ”เขาเดินออกมา
“น้องสิบเจ้าดูกำยำขึ้นนะแถมหล่อขึ้นด้วย”
“พี่เจ็ดล้อข้าเล่นแล้ว”ี่จริงทั้งสองคนสนิทมากแต่ตอนนี้เขาแทบไม่รู้จักนางเลย
“ได้ยินว่าเจ้าเปิดเนตรได้แล้วข้าจะพาเจ้าไปในเมืองเปิดหูเปิดตาตอนนี้เจ้าแข็งแรงแล้วคงไปได้”องค์หญิงเจ็ดมีใบหน้างดงามมากนางเหมือนดอกกล้วยไม้กลางหิมะผมยาวสีดำดุจน้ำตกเอวนางเล็กได้รูปสโพกนางเดินราวกับหงส์นางกอดแขนเขาอกอันได้รูปของนางชนแขนเขาทำเอาเขาทำตัวไม่ถูก
ในขณะี่หลินอีกำลังจะพูดนางก็ดึงเขาไปเสียแล้ว
“พี่หญิงข้าไม่มีเงินนะถึงจะไปก็ไม่มีประโยชน์”
“เอาเถอะหน้าไว้ใจข้า”
เมื่อพวกเขาเข้ามาในเมืองมีองค์หญิงเจ็ดก็แนะนำี่ต่างๆในเมืองหลวงในเขา เมื่อเดินมาถึงป้ายประกาศ
“พี่หญิงจะมีการทดสอบรึ”
“ใช่แล้วท่านพ่อก็มานะวันนั้นอีกสี่เดือนข้างหน้า”
“แล้วขั้นตอนการทดสอบเป็นยังไงบ้าง”
“มีสองแบบคือทดสอบพลังและล่าสัตว์ป่า”
“อย่าบอกนะว่าเจ้าจะเข้าร่วมเพิ่งเปิดเนตรได้อันตรายเกินไป”นางกังวล
“พี่หญิงอย่ากังวลมีเวลาสี่เดือนข้าจะขยันฝึกฝน”
“เลิกคิดเถอะอย่างองค์ชายสิบไม่มีทางทำได้หลอก”เสียงเย็นชาดังมาจากข้างหลังเขา องค์หญิงเจ็ดโมโหทันทีี่ได้ยิน
“เตียซือหลิงถึงแม้น้องสิบจะชอบเจ้าแต่ก็ไม่ควรพูดจ้าแบบนี้”
“นางนี่เองี่ทำข้าตาย”ใบหน้าสวยคมผมสีน้ำตาลอกได้รูบตั้งชันเอวบางรูปรางของนางทำให้ใครเห็นก็หลงไหล
“ข้าพูดความจริง”นางมองมาี่เขาแต่ว่าสายตาของหลินอีตอนนี้ว่างป่าว
“น้องสามอย่าไปสนใจคนี่ไรพรสวรรค์เลย”นางไม่พอใจี่หลินอีี่เคยตามนางไม่มีปฏิกิริยาในตอนนี้ หลินอีผิดหวังกับท่าทีของนางแม้จะสวยงามแต่ก็มิได้หน้าเชยชม
“เราไปเถอะพี่หญิง”นางกัดริมฝีปากเมื่อก่อนนางสั่งอะไรก็ทำตามแต่ตอนนี้พอเปิดเนตรได้ทำเมินนาง
“คอยดูถ้าเจ้าลงทดสอบข้าจะทำให้เจ้าอับอาย นางก็ถือเป็นอัจฉริยะในเมืองหมิงเทียนเช่นกัน
เมื่อเขามาถึงจวนก็แยกย้ายกันไปเมื่อมีจุดมุ่งหมายเขาจึงฝึกต่อเขาดื่มเลือดอสูรหนึ่งขวดเพื่อเพิ่มปริมาณบ่อปราณเขาหลอมพลังและทะลวงชีพจรทั้งยี่สิบสองสายเพื่อเพิ่มจำนวนชีพจร อยู่ไปก็มีพลังสายหนึ่งเขามาในร่างกายเขาทำให้เรารู้สึกเย็นสบายแล้วสายฟ้าก็วิ่งไปทุกชีพจร พลังอีกสายหนึ่งเข้ามาห่อหุ้มบ่อปราณไว้
“นี่มันพลังมหาเทพจุติ”มันเป็นพลังี่กระตุ้นร่างกายของเขาแสดงพลังมากขึ้นสามเท่า
“หากเป็นแบบนี้ข้าสามารถก้าวหน้าได้เร็วว่าคนอื่นถึงสามเท่า” โดยปรกติทั่วไปแล้วการจะเพิ่มชีพจรในร่างกายเป็นเรื่องี่ยากมากก่อนไปขั้นหลอมกายามีสิบหกสายก็วิเศษแล้วแต่หลินอีอยู่แค่มนุษย์ขั้นต้นก็มีถึงยี่สิบสองสายแล้ว
“อย่างน้อยก่อนทดสอบข้าต้องไปถึงละดับกลางก่อน”
หลินอีเริ่มฝึกเจ็ดนักล่าท่าแรกให้สำเร็จก่อนสลับกับพลังไร้ขอบเขตจึงเพิ่มบ่อปราณตอนนี้มันมีขนาดใหญ่กว่าเดิมนิดหน่อยแล้ว
ผ่านไปหนึ่งเดือนตอนนี้ชีพจรเขาเพิ่มมาเป็นยี่สิบสี่สายแล้วเขาต้องการเพิ่มขึ้นแต่ดูเหมือนว่ามันจะตันสะแล้วเขาใช้เลือดอสูรไปจนหมด
“ข้าควรหาเงินจากไหนดีแต่ก่อนข้ามีเงินจนไม่อาจใช้หมดแต่ตอนนี้ข้าไม่มีสักเหรียญ”เขาคิดไม่ออกแล้วอยู่ๆก็คิดขึ้นมาได้
“กำไลมิติข้าไง”แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเป็นพันปีแต่ว่ากำไลมิติไม่มีวันผุพังแต่ว่าตอนนี้มันจะยังอยู่ี่เดิมหรือไม่เท่านั้นเอง
หลินอีเข้าหอหนังสือทันทีหาสถานี่ชื่อว่าป่าหวนกลับ
อยู่นอกเมืองไม่ไกลจากเมืองหลวงเท่าไรพ
“พี่ซีหลิงพาขาไปี่นี่หน่อย”นางพาขึ้นรถม้าขององค์ชายสิบออกเดินทางทันที....
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??