เรื่อง เทพยุทธ์อักษรสวรรค์
บที่3 กำไลมิติของหลินอี
เมื่อมาถึงป่าหวนกลับหลินอีเดินเข้าไปคนเดียว ป่าหวนกลับเป็นป่าี่มีหมอกหนามากพลังเขาตอนนี้สัตว์ระดับหนึ่งขั้นต่ำพอจะสู้ได้แต่ถ้าจอละดับกลางหนีเท่านั้นเขาเอาแผนี่ออกมาดูมันลึกพอสมควรหลินอีเดินอย่างระวังพยายามกลบกลิ่นไอตัวเองด้วยพลังปราณ หูของเขาสัมผัสได้ถึงเสียงฝีเท้าร่างกายเขามีอะไรบางอย่างวิ่งรอบตัวเขา
“คิดจะเล่นงานข้าไม่ง่าย”พริบตาเงาดำกระโดดใส่เขาทันที
เปรี้ยง
หลินอีแตะมันกระเด็นอัดไปกับหินมันรีบลุกขึ้นทันที
“แมวป่าขนแดงสัตว์ระดับหนึ่งขั้นต่ำพลังข้ายังน้อยเกินกว่าจะฆ่ามันต้องเล่นงานจุดอ่อน”มันพุ่งใส่เขาอีกครัง หลินอีตั้งท่า
หมัดเจ็ดนักล่าหมัดกลหน
เปรี้ยง
หัวแมวป่าขนแดงแตกเลือดออกนอนนิ่งไปเขาตัดชีพจรของมันี่หัวทำให้มันตายทันที หากเป็นคนธรรมดาคงไม่อาจจัดการมันได้ไวขนาดนี้แต่หลินอีเคยฆ่ามันมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วเมื่อชีวิตี่แล้ว
เมื่อมาถึงส่วนี่เหมือนกับหินก้อนใหญ่เป็นแนวตั้งี่มีอักษรคำว่าอีอยู่มันมีตะไคร่น้ำขึ้นจนแทบมองไม่เห็นตัวอักษรหลินอีเอามือปัดออกก็ปรากฎตัวอักษรชัดเจนขึ้น
“ผ่านมาพันปียังอยู่ได้ยังไงเป็นโชคดีของข้าจริงๆ”
เขาใช้นิ้วชี้ไปี่หินเหนือคำว่าอีแสงสีแดงก็พุ่งออกจากนิ้วแล้วเขาก็เขียนคำว่าหลินลงไป เกิดแสงสีแดงผ่ากลางหินออกมาหินแยกออกเผยให้เห็นกล่องเหล็กสีดำด้านในเขาเปิดออกก็พบกำไลในนั้นเขาหยิบมันขั้นมา
“ยังอยู่ดี”เขาสวมมันแล้วเดินพลังเขากำไลก็พบช่องว่ามิติี่มีขนาดใหญ่มากถ้าขายก็คงราคาแปดแสนเหรียญทองข้างในมีเงินอยู่หนึ่งล้านเหรียญทองและมีดสั่นหนึ่งเล่มี่เป็นระดับเก้าสีเงินมีตัวอักษรอยู่สี่ตัวบนมีดโชคดีี่เหรียญเงินยังไม่เปลี่ยนไปใช้แบบอื่นไม่งั้นพวกนี้คงไร้ค่าเขาเอากำไลใส่มือแล้วเอากระบี่คาดไปี่เอวด้านหลัง
โฮงงงงง
เสี่ยงสัตว์ป่าดังออกมามันอยู่ใกล้ๆ วัวเขาเหล็กพุ่งออกมาตัวมันสูงสองเมตรสัตว์ระดับหนึ่งขั้นกลาง
“ซวยแล้ว”เขาวิ่งหนีทันที ความเร็วของมันมากกว่าหลินอีเขาของมันข้างหนึ่งตรงมาด้านหลังเขา หลินอีหยิบมีดสั่นขึ้นมา
เคร้งงงง
มีดปะทะกับเขามันทันทีด้วยพลังของวัวมีมากกว่าเขาส่งผลใด้เขาถลาไปข้างหน้าล้มกลิ้งไปไปไกลหลายเมตรเขารีบลุกขึ้นทันทีมันตามมาไม่หยุด มันกระโดดมาขวามหน้าเขาหลินอีวิ่งสวนไปตรงๆแล้วตีลังกาข้ามหัวมันแต่ว่ามันยกขาขึ้น หลินอีรีบเอามีดกันไว้วิธีจับมีดของเขาคือการเอาด้านแหลมลงด้านล้าง
เคร้งงงง
เขาม้วนตัวไปด้านหลังของมันแล้ววี่งหนีต่อ
“บ้าจริงเกือบไปแล้ว”ด้วยกำลังของเขาอาวุธวิญญาณยังไม่สามารถทำให้มันแสดงพลังออกมาได้
เสียงฝีเท้าของวัวยังตามมาติดๆ
ตู้ม!
ต้นไม้หักล้มไปตามทางี่มันวิ่งตามเขาหลินอีมุดโพรงไม้ออกมาอีกด้าน
ตู้มมม
โพรงไม้กระจายเมื่อเขามันกระแทกตามหลังเขามา
“พี่ซิหลิงออกรถเร็ว”นางนั่งรออยู่แล้วก็กระตุ้นสัตว์คล้ายม้าแต่มีขนาดใหญ่กว่า(เรียกว่าม้านั้นแหละครับ)
แล้วเขาก็กระโดดขึ้นรถไปด้วยความไวม้าสี่ตัวมันไม่อาจตามทันได้
“องค์ชายสิบท่านเข้าไปทำอะไรกันแน่ตัวท่านจึงเป็นเช่นนี้ถ้าสนมเยี่ยนรู้ว่าข้าพาท่านมาข้าตายแน่”
ซิหลิงอายุนางเพียงยี่สิบปีมีใบหน้าี่สวยแบบปกติเอวเล็กแต่ดูแข็งแรง
หลินอียิ้มแต่ไม่ตอบ
“เท่านี้บ้านเราก็ไม่จนและคงต้องซื้อของสำหรับฝึกสักหน่อย”หลินอีคิดในใจ
เมื่อกลับมาถึงหลินอีทำการฝึกอีกครั้งตอนนี้เขาต้องการเลือดอสูรระดับกลางและอาจต้องใช้ผลึกอสูรด้วย
ผลึกอสูรไม่ได้ว่าจะมีทุกตัวในสิบตัวจะมีสักหนึ่งอันมันจึงมีราคาแพงมากระดับต่ำอยู่ี่ห้าพันเหรียญเงินแล้ว
และต้องใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์ด้วยเพื่อขยายบ่อปราณ
เช้าวันรุ่งขึ้นหลินอีจะเข้าเมืองไปซื้อของแต่ว่าองค์หญิงเจ็ดมาหาเขาพอดี
“น้องสิบมากับข้าหน่อย”หลินอียังไม่ทันตอบนางก็มากอดแขนกลิ่นหอมจากตัวนางทำให้หลินอีใจอ่อนตามนางไป
นางพามาี่สนามฝึกยุทธ์กลางี่คนตระกูลใหญ่เท่านั้นถึงเข้ามาได้โดยทางราชสำนักได้ให้ครูฝึกเขามาสอนทุกวัน
“พี่หญิงพาข้ามาทำไมี่นี่”
“ก็ให้เจาดูวิธีการฝึกหากสงสัยก็ถามอาจารย์ได้ทุกท่านเลย”หลินอีเข้าใจความหวังดีของนางแต่ว่าเขาผ่านของพวกนี้มาหมดแล้วไม่จำเป็นต้องมาี่นี่เลย
“องค์ชายสิบก็มาอย่างนั้นหรือเสียเวลาเปล่าหน้า”เสียงเย็นชาของเตียซือหลิงก็ดังขึ้นมาพร้อมกลิ่นหอมี่ชวนหลงใหล หลินอีทำไม่สนใจแล้วนั่งดูการฝึก
“เจ้าไม่ชอบน้องข้าแล้วจะมาหาเรื่องเขาทำไม”องค์หญิงเจ็ดของขึ้นสาวงามสองคนมาอยู่ี่นี่มีหรือชายหนุ่มจะอยู่เฉยพวกเขายืนเชยชมทั้งสองอยู่ห่างๆ
“ข้าก็แค่หวังดีแค่เปิดเนตรได้อย่าทำเป็นได้มจนักหากลงแข่งก็คงไม่ติดหนึ่งในยี่สิบหลอก”นางพูดอย่างเย็นชา
“แม่นางเตียเราไม่จำเป็นต้องทักทายกันก็ได้หากท่านไม่ชอบข้า แต่ขออย่ามาหาเรื่องข้าเลยขาอยากอยู่เงียบๆ”นางกัดริมฝีปากหน้าแดงจัด
“เป็นไงน้องข้าพูดชัดเจนแล้วนะตอนนี้เขาไม่สนเจ้าแล้ว”
“ผู้หญิงนี่เขาใจยากจริงไม่ชอบหน้าข้าใยต้องเขามาหาเรื่อง”หลินอีคิด
“น้องสิบเจ้าเสียใจหรือไม่พี่ขอโทษเจ้าด้วยไม่คิดว่านางจะมาทั้งี่บ้านนางี่ฝึกใหญ่กว่าี่นี่สะอีกก็ยังจะมา”
“พี่หญิงคิดมากไปแล้วข้าไม่ได้รู้สึกอะไร”องค์หญิงเจ็ดมองเขาด้วยสายตาสับสนแต่ก่อนหลินอีรักนางมากมีอะไรก็เอาไปให้นางคอยตามนางตลอดแม้ว่าตัวเองจะป่วยแต่ก่อนนางเองก็ดูเหมือนจะชอบเขาแต่พอเขาเปิดเนตรไม่ได้ก็ทำตัวห่างเหินไป
หลินอีมองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งี่กำลังรำกระบี่นางงดงามมากจนเขาต้องมองตามนางหมุนตัวเขาก็เห็นใบหน้าของนางี่เหมือนกับเทพธิดาแก้มนาแดงราวกับดอกไม้ี่เพิ่งผลิบานยามเช้าเอวนางเล็กอกสวยงามตามตำราปากของนางสีชมพูผมสีดำสยายราวกับระอองน้ำตก และเพลงกระบี่ี่นางร่ายรำคือกระบี่สิบบุปผาร่วงโรย เพลงกระบี่ชุดเป้าระดับธรรมดาขั้นกลางมีทั้งหมดสิบท่า แบ่งเป็นขั้นเริ่มต้น ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง ขั้นสำเร็จ มีความร้ายกาจมากหากฝึกถึงขั้นเร็จสามารถสู้คนยี่สิบคนี่ระดับเดียวกันได้สบาย
“น้องสิบชอบนางรึนางเป็นลูกสาวเจ้าสำนักอักษรี่สร้างอาวุธชื่อดังหลายอย่างเลยนางคือหันชิวหลาง”
“ท่านพี่หญิงข้าแค่ชื่นชมเพลงกระบี่นางเท่านั้นเกือบจะสมบูรณ์แล้ว”เหมือนนางจะได้ยินนางเดินตรงมาี่เขา
“เจ้าว่าเพลงกระบี่ข้าไม่สมบูรณ์ไหนเจ้าว่ามาสิว่าตรงไหน”หลินอียิ้ม
“แน่นอนเพลงกระบี่แม่นางงดงามจนข้ามิอาจหยุดมองได้แต่ว่าแม่นางเพลงกระพี่ชุกนี้ไม่ได้เน้นความเร็วแต่เน้นความแม่นยำและหนักแน่นแม่นางก้าวเท้าไวไปหนึ่งจังหวะในท่าี่สามและท่าี่แปดไม่เชื่อแม่นางลองทำตามข้าบอก”นางเอาลิ้นดุนแก้มแล้วมองหลินอี
“เจ้ารู้จักเพลงกระบี่ข้าด้วยรึ”
“ไม่ผิดเพลงกระบี่สิบบุปผาร่วงโรย”นางเอาลิ้นเลียปากแล้วยิ้ม
“งั้นข้าจะลองดูถ้าไม่จริงดังว่าเจ้าต้องทำตามี่ข้าขอหนึ่งอย่าง”หลินอีทำหน้าเหมือนจะสำลักน้ำ แล้วนางก็ร่ายรำตามคำแนะน้ำของเขา เกิดเป็นปราณกระบี่รอบตัวนางมองเห็นเป็นกระบี่พุ่งออกไปแล้วแตกออมมาหลายสิบเล่มพลังรุนแรงมาก
“นางคงอยู่ในระดับมนุษย์ขั้นกลางและใกล้ขั้นปลายเต็มที”
นางยิ้มอย่างพอใจทุกคนมองด้วยความตะลึงถึงอนุภาพของพลังกระบี่พ
“ไม่น่าเชื่อเป็นอย่างี่เจ้าบอกจริงๆ”นางกระโดดกอดแขนเขาทันทีกลิ่นหอมจากตัวนางก็ออกมามันหอมราวกับดอกไม้
“ในเมื่อเจ้าช่วยข้าสำเร็จไปขั้นหนึ่งข้าจะตอบแทนเจ้า”ชายหนุ่มี่อยู่ในสนามต่างอิจฉาเขา
“แม่นางท่านจะทำอะไรข้ามากับพี่หญิงคงทำตามใจท่านไม่ได้”นางเอาลิ้นดันแก้มแล้วทำตาโต องค์หญิงเจ็ดกอดอกยืนตัวตรงเผยให้เห็นสัดส่วนนางกำลังงอน
“องค์หญิงเจ็ดหรือว่าเจ้าคือ”
“ใช่นั่นน้องข้าองค์ชายสิบ”
“ไม่คิดเลยว่าองค์ชายสิบจะมีความสามารถขนาดนี้ี่ลือกันคงไม่เป็นความจริงเพียงมองไกลๆก็รู้ว่าขาผิดพลาดตรงไหนเห็นี่ข้าต้องสนิทเขามากๆสะแล้ว”หันชิวหลางคิด แล้วองค์หญิงเจ็ดก็กอดแขนเขาอีกข้างหนึ่ง
หลินอีทำหน้าอึดอัดเพราะอกของนางทั้งสองมันดันแขนเขา
“งั้นพวกท่านพาข้าไปซื้อของหน่อยจะได้ไหมจะได้ไม่กวนคนอื่นเขา”พวกนางพาตัวเขาออกไปทันที สายตาของเตียซือหลิงโกรธจัดนางกัดริมฝีปากจนแดง...
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??