เรื่อง มหาเทพเซียนกลับมาเกิดใหม่ในมหานคร
บทที่ 1112 ซ่อมกำไลมิติ
พวกของเฉินหนานเดินทางผ่านป่าด้วยความเร็วสูงเฉินหนานติดยันต์ล่องหนให้ทุกคนเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย จากอสูรเฉินหนานพบว่าอสูรในป่านี้เป็นระดับสูงทั้งสิ้นไม่สิเรียกว่าอสูรครึ่งผีจะดีกว่า
เฉินหนาน “ถ้าโดนพวกนี้โจมตีเข้ามีหวังเราตายแน่” กูจู้เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
กูจู้” แม่นางซื่อเจ้าไม่คิดอยากได้พระอย่างข้าเป็นสามีบ้างหรือ “ซื่อจิ่นกลอกตา
” ข้าอยากได้คนที่มีผมเป็นสามีมากกว่าอย่างน้องชายเฉินนี่เหมาะเลย “เฉินหนานหน้ากระตุก
เฉินหนาน” อย่าเลยข้ามีภรรยาแล้ว “ทั้งสองมองหน้ากัน
ซื่อจิ่น “จริงหรือขนาดเราที่อายุจะเลขสามยังไม่คิดเรื่องนี้ไม่คิดว่าเจ้าจะนำเราไปก่อนแล้ว” ซื่อจิ่นกลอกตา
“นี่เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าตัวเองเป็นพระน่ะ” เฉินหนานคิดว่าซื้อจิ่นพูดจริงเจ้านี่เป็นพระยังอยากมีเมียอีก
กูจู้ “ข้าน่ะพระแบบพิเศษไง” เฉินหนานหน้ากระตุก
เฉินหนาน “ข้าว่าเจ้าสึกเถอะบวชไปเพื่ออะไรคนอย่างเจ้าน่ะ “กูจู้กลอกตา
กูจู้” ไม่มีทาง “เฉินหนานหมดคำจะพูดเขาเปิดจิตสัมผัส
เฉินหนาน “นี่เราก็เข้ามากว่าสามสิบกิโลแล้วนะยังไม่เห็นทางออกจากป่าเลยหรือว่าเราโดนอาคมมายาเสียแล้ว” เฉินหนานมองไปยังทั้งสองที่อยู่ในอาการสับสนเหมือนกัน
ซื่อจิ่น “ใจเย็นถ้าป่านี้มันง่ายขนาดนั้นคงมีคนเข้ามากันเพียบแล้วคงไม่ถึงเราหรอก” เฉินหนานคิดว่าก็จริง
เฉินหนาน “พวกเจ้าบ้ามากนะที่ตามข้าเข้ามาขนาดคนที่มีพลังสูงกว่าพวกเรายังไม่กล้าเข้ามาเลย
” ซื่อจิ่นยิ้ม
“บอกตามตรงข้าเห็นเจ้าก็เกิดความเชื่ออย่างประหลาดว่าเจ้าสามารถพาเราเข้ามาได้อย่างปลอดภัย” กูจู้มองไปที่นาง
” เจ้าเห็นข้าแล้วไม่มั่นใจบ้างหรือ “ซื่อจิ่นหน้ากระตุก
ซื่อจิ่น “มั่นใจในตัวเจ้าหรือพระลามกอย่างเจ้าเห็นข้างามก็ตามมาเท่านั้นแหละอย่าคิดว่าข้าไม่รู้” กูจู้ทำหน้าไร้เดียงสา
“เจ้ากล่าวหาพระแบบนี้ไม่กลัวตกนรกหรือ” นางแค่นเสียง
ซื่อจิ่น” ก่อนข้าจะตกนรกข้าว่าเจ้าน่าจะลงไปก่อนข้าเสียอีก “เฉินหนานถามขึ้น
เฉินหนาน” กูจู้ข้าสองคนมีเป้าหมายชัดเจนแต่ข้ายังไม่รู้เลยว่าเจ้ามีเป้าหมายอย่างไร “กูจู้ยิ้ม
” บอกตามตรงข้าตามนางมาน่ะสิ “เฉินหนานและซื่อจิ่นกลอกตา ทั้งสามพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วเวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนฟ้าเริ่มมืดอีกครั้ง ตอนนี้ทั้งสามต้องพักแล้วเขาเลือกต้นไม้ตนใหญ่เพื่อพักด้านบน หลังจากที่ทานอาหารแล้วพวกเขาก็หากิ่งไม้เพื่อนอนพักต้นไม้พวกนี้มีขนาดใหญ่มากสามารถนอนบนมันได้สบายๆ เฉินหนานมองไปบนฟ้าเห็นดาวสวยงามเขาก็คิดถึงภรรยาของเขาทั้งหกอีกครั้ง
เฉินหนาน “เหอะ ทำไมครั้งนี้ข้ารู้สึกคิดถึงพวกนางกว่าทุกครั้งนะ” เฉินหนานคิดอะไรเพลินๆ ก็หลับไปก่อนจะลืมตาขึ้นด้วยเสียงแปลกๆ ด้านล่างเสียงเหมือนคนกำลังลากอะไรบางอย่างอยู่เขาเปิดจิตสัมผัสก็พบว่ามีร่างของหญิงสามผมยาวสวมชุดแดงถือกระบี่สองเล่มที่หลังของนางลากโซ่ขนาดใหญ่หลายเส้นอยู่บนพื้น
เฉินหนาน “นี่มันอสูรหรือผีกันแน่วะเนี่ย” แน่นอนว่านี่คือป่าผีสางจะไม่มีผีได้หรือ นางเงยหน้าขึ้นแล้วใช้กระบี่ตวัดไปที่ต้นไม้ที่เขานอนอยู่ ตูมมมมม ต้นไม้ระเบิดแตกกระจายทันที ทั้งสามหลบออกมาได้ทันเฉินหนานทำสัญญาณให้ทุกคนเงียบไว้ เมื่อมันเดินเลยจุดที่พวกเขาอยู่เฉินหนานก็สั่งสัญญาณอีกครั้ง
เฉินหนาน “ไป” ทั้งสามที่อยู่ในโมทล่องหนก็เผ่นทันที เหงื่อทั้งสามผุดขึ้นผีตัวเมื่อครู่ต่อให้พวกเขาร่วมมือกันใช้ทุกอย่างพวกเขาก็อาจตายได้ในกระบี่เดียว
เฉินหนาน “ป่านี้โคตรน่ากลัวเลย” หางตาเฉินหนานเหมือนเห็นอะไรบางอย่าง
เฉินหนาน” ซื่อจิ่นเจ้าเห็นอะไรหรือไม่ “ทุกคนสงสัย
กูจู้” ไม่นะข้าเห็นแต่ความมืด “ซื่อจิ่นก็พยักหน้า
ซื่อจิ่น “ข้าก็ไม่เห็นนะ” เฉินหนานส่ายหน้า
เฉินหนาน” ไม่พวกเจ้าดูดีๆ “เมื่อนางตั้งใจมองก็ขนลุกทันทีเพราะพวกเขาเห็นไอ้ตัวแบบเมื่อครู่เป็นพันๆ เดินอยู่ด้านล่าง
ซื่อจิ่น” นี่มันโคตรบ้าเลยแบบนี้เราจะรอดไปได้อีกหรือ” เฉินหนานขมวดคิ้ว
เฉินหนาน “เป็นไปได้ไหมว่าพวกมันกำลังเฝ้าอะไรอยู่ถึงได้มารวมตัวกันที่นี่ “กูจู้คิดว่ามีเหตุผล
กูจู้” เดี๋ยวนะข้าขอตรวจสอบบางอย่างก่อน “เขาสวดอาคมบางอย่างออกมา ครืนนนน สิ่งใดก็ตามที่มาจากโลกวิญญาณมันจะเรือแสงออกมา ครืนนนนน และสิ่งที่ทุกคนเห็นคือมีแสงเรืองออกมาจริงทว่ามันมีหลายพันตัวเลยทีเดียว
เฉินหนาน” เวรเอ๊ยห้ามให้พวกมันรู้ตัวเซียว “ซื่อจิ่นกระโดดขึ้นที่สูงจนพ้นยอดไม้ก็ต้องตกใจเพราะมีตำหนักขนาดใหญ่ขึ้นที่น่าตกใจและมีพลังดึงดูดนางเข้าไป
“บ้าจริง” นางจึงรีบดึงตัวกลับลงมาแล้วมองไปยังจุดเดิมตำหนักหลังนั้นก็หายไปแล้ว
เฉินหนาน” เจ้าไหวไหมทำไมไม่ตามมา” นางอธิบายให้ทั้งสองฟัง กูจู้ก็ต้องตกใจ
กูจู้ “นี่อาจจะเป็นตำหนักวิญญาณผีก็ได้” ทั้งสองขึงถามขึ้น
” มันคืออะไร “เขาจึงเล่าให้ฟัง
กูจู้” ข้าได้ยินมาว่ามีผีต้นหนึ่งที่อยากกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้งจึงสร้างตำหนักผีขึ้นมาเหมือนว่าใช้นำมนุษย์มาหลอมเป็นเม็ดยาเพื่อทำให้มันกลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง “เฉินหนานถึงกับพูดไม่ออก
เฉินหนาน “นางจากสิงร่างแล้วยังจะกลับมาเป็นมนุษย์ได้อีกืไ” ซื่อจิ่นกล่าวออกมา
ซื่อจิ่น “ไม่รู้ว่าตำหนักผีกับเมืองผีสางเกี่ยวข้องกันอย่างไร” เฉินหนานส่ายหน้า
เฉินหนาน “เรื่องนั้นข้าไม่สนใจหรอกเป้าหมายของข้าคือหุบเขาโครงกระดูก” ทั้งสามที่ยังรอดไปได้เพราะใช้ยันต์ล่องหนไม่อย่างนั้นพวกเขาต้องปะทะกับพวกมันตรงๆ และอาจเป็นพวกเขาที่ตายไปแล้วด้วยจำนวนของผีที่มากมายอย่างนี้ พวกเขาผ่านผีสาวพวกนั้นมาได้ก็พบกับจุดที่มีบรรยากาศสุดหลอน ขนาดเฉินหนานฝีวิชาเซียนซือเขายังขนลุกเลย
เฉินหนาน “ระวังตัวด้วยบรรยากาศไม่น่าไว้ใจเลย “ทั้งสามชะงักไปเมื่อด้านหน้าพวกเขาเห็น หัวคนขนาดใหญ่ผมของมันที่สยายออกไปกว่าสามสิบเมตร
ซื่อจื่น” นั่นมันตัวบ้าอะไรเนี่ย “เฉินหนานขมวดคิ้ว
ผีที่นี่เป็นผีที่กลืนกินพลังวิญญาณดังนั้นมันเป็นผีกึ่งอสูรพลังและความสามารถของมันจึงร้ายกาจมากและพวกเฉินหนานก็ไม่สามารถสู้ตรงๆ ได้เลย
เฉินหนาน” พวกเราจะอ้อมไปอีกฝั่งอย่าไปปะทะกับมันจะดีกว่า “ทั้งสองคนเห็นด้วย
ซื่อจิ่น “เจ้าหัวโล้นเจ้าไม่มีวิชาอะไรบ้างหรือ “กูจู้กลอกตา
” แม่นางซื่อเจ้าบ้าไปแล้วหรือนี่มันผีระดับสูงนะข้าแค่ขั้นหกจะไปทำอะไรได้ “ซื่อจิ่นแค่นเสียง
ซื่อจิ่น” ไร้ประโยชน์เสียจริง “พวกเขาสามารถหลบหัวผีนั่นมาได้เฉินหนานส่งสัญญาณให้ทั้งสองคนเงียบ
เฉินหนาน” ดูนั่น “เมื่อพวกเขาวิ่งมาได้ครึ่งชั่วโมงหมอกสีเขียวค่อยๆ จางลงพวกเขาก็เห็นเมืองขนาดใหญ่
ซื่อจื่น “นี่น่าจะถึงเมืองผีสางแล้วกระมัง” ทุกคนเผยยิ้มออกมาเฉินหนานมองไปรอบๆ ก็พบว่าไม่มีทางอื่นให้ไปแล้ว
เฉินหนาน “จุดนี้น่าจะเป็นด้านหลังของเมืองไม่แน่ว่าทางออกน่าจะอยู่หน้าประตูเมืองกระมัง” ทั้งสองพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
เฉินหนาน “เข้าไปกันเถอะ” พวกเขาไม่มีทางเลือกเพราะนอกจากต้องเข้าเมืองแล้วทางอื่นเป็นภูเขาที่สูงเหมือนกำแพงขวางกั้นไว้ทั้งหมด เมื่อเข้ามาก็พบว่าเมืองทั้งเมืองถูกสร้างได้งดงามมากตัวอาคารเป็นสีแดงทว่าหลังคาเป็นสีเขียวมันเงียบเหมือนไร้ผู้คนแน่ล่ะเพราะมันเป็นเมืองผีนี่พวกเขาขึ้นไปบนหลังคาเพื่อความปลอดภัย เฉินหนานเปิดจิตสัมผัสพบว่ามีวิญญาณอยู่เต็มไปหมด
เฉินหนาน “กูจู้เจ้ามองเห็นใช่หรือไม่” กูจู้พยักหน้า
“แน่นอนสิข้าเป็นพระนะจะไม่เห็นได้ไง” ซื่อจิ่นคนเดียวที่ไม่เห็น
ซื่อจิ่น “พวกเจ้าเห็นอะไร” เฉินหนานจึงเปิดตาให้นาง เมื่อนางเห็นก็กำลังจะร้องออกมาแต่เฉินหนานรีบเอามือปิดบางนางไว้
เฉินหนาน “อย่าส่งเสียง” จากนั้นเขาค่อยๆ ปล่อยมือออกจากปากนาง
ซื่อจิ่น “ไม่คิดว่ามือเจ้าจะหอมเช่นนี้เจ้าอยากมีเมียเพิ่มไหมสนใจข้าไม่” นางยื่นหน้ามาใกล้เฉินหนาน
เฉินหนาน “ข้ามีเมียและลูกแล้วเจ้าอยากฝันไปหน่อยเลย” เขาเอานิ้วดันหน้านางออกไปนางกลอกตา
“เหอะ เจ้ามันไม่รู้จักของดี” เฉินหนานหมดคำจะพูด
กูจู้ “เขาไม่สนเจ้าแต่ข้าสนนะ” นางยกกำปั้นขึ้น
“เจ้าอยากตายหรือข้าไม่ชอบพระ” ทั้งสามกระโดดไปตามหลังคาเฉินหนานขยายจิตสัมผัสออกไป
เฉินหนาน “ทางซ้ายมีสวนสมุนไพรข้าว่าน่าจะเป็นเป้าหมายของเจ้าเราแยกกันตรงนี้เลยดีหรือไม่” ซื่อจิ่นกอดแขนเขา
ซื่อจื่น “ไหนๆ เราก็มาด้วยกันแล้วไปดูกับข้าครู่หนึ่งก่อนถ้ามันยากเราจะจากไปทันที” เฉินหนานขมวดคิ้วแล้วพยักหน้า
เฉินหนาน “ได้” พวกเขาพุ่งไปตามเส้นทางที่เฉินหนานบอกก็พบกับสวนสมุนไพรที่มีขนาดใหญ่เป็นไร่เลย ใจกลางมีดอกกระดิ่งทองอยู่จริงดอกของมันคล้ายกระดิ่งจริงๆ มีสองดอกมันเรืองแสงออกมาด้วยทว่ามีผีเฝ้าอยู่ ร่างของมันใหญ่มากร่างกายคล้ายกับลำไส้ยาวเป็นรอยเมตร หัวของมันเป็นคนใบหน้าเละแบบผีรอบๆ สวนเต็มไปด้วยสมุนไพรล้ำค่ามีมากจนเฉินหนานแสบตาไปหมด
เฉินหนาน “หากเก็บมันไม่ว่าอย่างไรมันรู้ตัวแน่นอนเอาไงดี” ซื่อจิ่นกัดฟัน
“ถ้าข้าไม่รอดทิ้งข้าได้เลย” นางพุ่งออกไปเฉินหนานจับขานางแล้วดึงกลับมา
ซื่อจิ่น “เจ้าจะทำอะไรบ้าไปแล้วหรือจับเก็บได้ก็โดนฆ่าตายแน่นอน” เฉินหนานหนานโบกมือ
เฉินหนาน “ข้าเอง” ไหมฟ้าพุ่งออกไปแล้วห่อหุ้มไปที่ดอกกระดิ่งทองทั้งต้นก่อนที่เขาจะดึงมันออกมาแล้วส่งให้ซื่อจิ่นนางตกตะลึงแล้วรีบเก็บไป ส่วนเฉินหนานโบกมือสมุนไพรเกือบทั้งหมดเข้าไปในกำไลมิติของเขา
เฉินหนาน” ไป “ทั้งสามออกตัวด้วยความเร็วสูงทันที ผีทั้งหมดหันไปตามทิศทางของเฉินหนานแล้วมันมองไม่เห็นแต่มีพลังบางอย่างบอกพวกมันว่าให้ตามไปทางพวกเขา บูมมมมม พวกมันทั้งหมดพุ่งเข้าไปยังพวกเขาแล้วโจมตีอย่างบ้าคลั่งผีพันๆ ตัวไล่ตามพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง พวกมันโจมตีใส่พวกเขามั่วไปหมด ตูมๆๆๆๆๆ
กูจู้” พวกมันเห็นเรางั้นหรือ “เฉินหนานส่ายหน้า
เฉินหนาน” ยังไม่เห็นแต่ตามร่องรอยของสมุนไพรที่ยังอยู่บนตัวเรา ตูมๆๆๆๆ
เฉินหนาน “ระวัง” มีดโค้งขนาดยักษ์สับมายังพวกเขา ตูมมมมม เฉินหนานใช้กระบี่กระแทกมันออกไป เคร้งๆๆๆ ทว่าร่างเขาก็กระเด็นไปด้วย พรวดดด
เฉินหนาน “แรงมาก” เขารีบดีดตัวแล้วพุ่งออกไป
ซื่อจิ่น “เวรแล้วด้านหน้ามันอะไรกันเนี่ย” ผีสาวที่ถือกระบี่คู่ที่เขาเจอมาก่อนหน้านี้ดักอยู่ข้างหน้าพวกเขาเป็นร้อยๆ ตัว
เฉินหนาน “ไม่ต้องสนใจฝ่าไปเลย” เฉินหนานดีดยันต์ความเร็วแปะไปยังร่างพวกเขา บูมมมม ทั้งสามพุ่งออกไปเร็วมากจนพวกผีสามไม่ทันตั้งตัว พวกมันรีบหันกลับไปแล้ววาดกระบี่ออกไปมั่วๆ เกิดเป็นปราณโจมตีใส่พวกเฉินหนานอย่างรุนแรง ตูมๆๆๆๆ ความเร็วพวกมันก็เหนือชั้นมาก
เฉินหนาน “เร็วมาก” เคร้งๆๆๆๆ ทั้งสามปัดป้องการโจมตีที่ระดมเข้ามาเป็นชุด โครมๆๆๆๆ ร่างทั้งสามกลิ้งไปคนละทางจนร่างพวกเขาเผยออกมา พรวดดด พวกเขาโดนเป็นชุดบาดเจ็บเรียกว่าสาหัสเลยทีเดียว
เฉินหนาน “แย่แล้ว” เฉินหนานดีดตัวขึ้นแล้วใช้ไหมฟ้าดึงร่างทุกคนขึ้นมาแล้วพุ่งออกไป บูมมมมม ลูกไฟผีตกลงมาใส่พวกเขาราวกับก้อนอุกกาบาต ตูมๆๆๆๆๆๆ ดีที่พวกเขาหนีไปแล้ว
ซื่อจิ่น “ทิ้งข้าไว้นี้เถอะข้าบาดเจ็บหนักไปต่อไม่ไหวแล้ว” นางโดนกระบี่ฟันกว่าสามสิบครั้ง ตอนนี้ชุดนางแทบจะเปลือยเปล่าแล้ว กูจู้เองก็เจ็บหนักไม่น้อยเลย
เฉินหนาน “หุบปาก” จากนั้นเขาก็สะบัดมือผ้าอักขระก็พุ่งออกไปจากนั้นเขาก็ขึ้นไปเหยียบบนผ้าอักขระแล้วพุ่งหนีออกไป
ด้านหน้าพวกเขาเป็นประตูทางออกจากเมืองแล้วทว่ามีผีขนาดใหญ่เฝ้าอยู่ร่างของมันผอมสองมือใหญ่ดวงตาลึกโบ๋ที่หน้าอกของมันมีดวงตาสามดวงเรียงลงมาอย่างนางกลัว ดวงตาทั้งสามของมันเรืองแสงออกมาดวงตานี้สามารถสร้างภาพหลอนและขาดสติ
เฉินหนาน “เวรแล้วอย่ามองตาของมันเด็ดขาด” ทว่าสายไปแล้วซื่อจิ่นเริ่มกอดร่างเฉินหนานแล้วลูบไล้ไปบนตัวของเขา
เฉินหนาน “เวรเอ๊ย” ส่วนกูจู้ก็ทำแบบเดียวกันกับร่างเฉินหนานนี่ทำเอาเฉินหนานถึงกับพูดไม่ออกตกลงเจ้าบ้านี่มันชอบเพศไหนแน่วะเนี่ย
เฉินหนาน “อยู่เงียบๆ กันพักหนึ่งแล้วกันนะพวกแก “ดึกร่างทั้งสองออกมาแล้วมัดไว้ด้วยไหมฟ้า
เฉินหนาน” ถอยไปไอ้ผีเปรต” เฉินหนานเรียกยันต์ออกมาแล้วโยนออกไป ครืนนนน มันพุ่งออกไปไปยังดวงตาของผีข้างหน้า ตูมมมมมม มันกรีดร้องออกมาด้วยเสียงแหลมสูงแน่นอนว่าเฉินหนานทำได้แค่ให้มันเสียสมาธิเท่านั้นมันจึงโกรธมากมันกระทืบเท้าลงพื้น ตูมมมมม เกิดพลังทำลายรุนแรงมากสาดออกมาทำลายพื้นที่โดยรอบพลังของมันรุนแรงถึงขั้นที่สามารถทำให้เฉินหนานสาหัสได้หากโดนเข้าไปเต็ม
เฉินหนาน “พลังนี่มัน” ครืนนนน เฉินหนานรีบใช้อาคมป้องกันทันที ครืนนนนน อย่างไรก็ตามพวกเขาก็กระเด็นออกไปอยู่ดี
เฉินหนาน” บ้าเอ๊ย “เขาปล่อยไหมฟ้าออกมาแล้วรั้งอาคารสูงไว้แล้วใช้แรงเหวี่ยงส่งพวกเขาออกไปเป้าหมายของเขาคือหน้าประตู ฟี้วววว มันอ้าปากกว้างก่อนที่จะพ่นของเน่าเสียออกไปทางเฉินหนาน
เฉินหนาน” ลาก่อน “เขาโยนยันออกไป ตูมๆๆๆๆ ระเบิดรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนั้นเขาก็พุ่งหนีจนมาถึงประตูศัตรูจำนวนมากไล่ตามเขามาอย่างไม่สิ้นสุด
เฉินหนาน “เวรเอ๊ย” ปังงง เฉินหนานเปิดประตูออกไปและออกมานอกเมืองได้สำเร็จจากนั้นก็เรียกอีกาทมิฬแล้วสั่งให้มันพาเขาออกไปและห้ามบินสูงเกินไปไม่งั้นต้องเจอตำหนักผีดูดเข้าไปแน่ เฉินหนานรักษาอาการบาดเจ็บให้ทั้งสองคนเมื่อซื่อจิ่นตื่นขึ้นมาพบว่าร่างนางมีผ้าพันแผลพันทั่วตัวก็หน้าแดงขึ้นมา
“เจ้าเห็นหมดเลยหรือ” เฉินหนานทำเป็นมองไปทางอื่น
เฉินหนาน “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดถึงเรื่องอะไร” นางจึงไม่กล่าวอะไรต่อจากนั้นนางก็เหมือนจำได้ลางๆ ว่าได้ทำอะไรไว้บางก็อายขึ้นมา
ซื่อจิ่น” ให้ข้ารับผิดชอบเจ้าดีไหมร่างกายข้าสุดยอดเลยใช่ไหม “เฉินหนานกลอกตา
เฉินหนาน” ฝันไปเถอะ “นางหัวเราะ
” ขอบใจเจ้ามาก “เฉินหนานยักไหล่
เฉินหนาน” ไม่เป็นไร “เมื่อออกมาจากเมืองผีเดินทางอีกร้อยกิโลเมตรก็สามารถออกจากป่าได้แล้วแถวๆ นี้ไม่มีอันตรายอีกเลยดังนั้นพวกเขาจึงสามารถขี่อีกาทมิฬออกไปได้แบบสบายๆ จนถึงปากทางออกพวกเขาก็มายืนบนหน้าผา
กูจู้” ด้านล่างนั่นคือเมือง เหอหนาน ส่วนตรงนั้นที่เป็นหุบเขามีกระดูกงอกขึ้นมากมายนั่นก็คือสถานที่ที่เจ้าจะไปอย่างไรเล่าข้าไม่ได้หลอกเจ้าเห็นไหมผ่านไปแค่สิบกว่าวันเอง “เฉินหนานมองไปในที่ไกลๆ ก็เห็นหุบเขาสีขาวเฉินหนานเดาว่าคงมีขี้เถ้าหรือหิมะตกอยู่ตลอดอย่างแน่นอน
เฉินหนาน” งั้นเราล่ากันตรงนี้เลยแล้วกัน “ทั้งสองพยักหน้าเฉินหนานก้มลงขีดเขียนบางอย่างที่พื้นแต่ทั้งสองคนไม่สนใจ
ซื่อจิ่น” ได้แต่ว่าเราจะติดต่อกันได้อีกหรือไม่ไหนๆ ก็เป็นสหายกันแล้ว “เฉินหนานยิ้มออกมาแล้วลุกขึ้นปัดมือ
เฉินหนาน” ได้สิข้าค่อนข้างมีชื่อเสียงที่เมืองหลวงของดินแดนฟ้าครามอยู่นะ “กูจู้จึงพูดออกมา
เฉินหนาน” นายไปส่งเราที่เมืองได้ไหมจากตรงนี้ไปไม่ใช่ใกล้ๆ เลยนะบอกตรงๆ ข้าหมดพลังแล้ว “เฉินหนานหัวเราะ
เฉินหนาน” ได้ “เฉินหนานจึงพาพวกเขาไปที่เมืองเหอหนานแล้วแยกกันตรงนี้เลย เฉินหนานไม่ลืมเดินหาหินแยกมิติสุดท้ายเขาก็เจอจนได้
เฉินหนาน” นี่ราคาเท่าไหร่เถ้าแก่ “ชายชราชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว
” หนึ่งร้อยล้าน “เฉินหนานคิดสักพักแล้วก็พยักหน้า” หินนี้เป็นหินแยกมิติเกรดดีมากมีลายสีฟ้าเรืองแสงอยู่ด้วยเขาจึงยอมจ่ายแล้วเก็บมันไปทว่า
“ช้าก่อนหินนั่นเราขอซื้อได้หรือไม่ “คนที่มาเป็นกลุ่มคนคาดว่าจะเป็นตระกูลชั้นสูงหรือน่าจะมาจากสำนักใหญ่อยู่บ้าง คนที่พูดเป็นชายวัยสามสิบกว่าๆ หน้าตาหล่อเหลา ตามมาด้วยหญิงสาวสาวสองคนสวมชุดค่อนข้างเปิดเผยเฉินหนานมองพวกนางจนพวกนางอึดอัด
เฉินหนาน” ไม่หนาวืไล่ะนั่น “ขนาดเขายังรู้สึกหนาวเลยต้องบอกว่าดินแดนทางใต้ของต้าฮวางเหลียงหนาวมากๆ ดังนั้นเฉินหนานจึงแปลกใจ หญิงสาวผมสีม่วงกล่าวขึ้น
” นายท่านถามแกทำไมไม่ตอบ “เฉินหนานยักไหล่
เฉินหนาน “ไม่ขาย” เฉินหนานพูดจบแล้วเดินออกไปจากร้านพวกมันรีบตามไปทันที ทว่าเมื่อออกมาเฉินหนานก็หายไปแล้ว
“บัดซบข้าตามหามาหลายเมืองสุดท้ายเจอแล้วแต่โดนแย่งไปงั้นหรือ” มันโกรธมากอันที่จริงใช้คำว่าแย่งก็ดูแปลกๆ เพราะเฉินหนานเจอก่อนนั่นเอง
“พวกเจ้าจำหน้ามันได้หรือไม่” น่าแปลกที่พวกเขาพอนึกถึงใบหน้าเฉินหนานกลับนึกไม่ออก
“ไม่เจ้าค่ะเราจำไม่ได้เลยแปลกมากเจ้าค่ะ” มันคำรามออกมา
“บัดซบทำไมกัน” เฉินหนานหลบเข้ามาในมิติหีบจากนั้นเขาก็เริ่มซ่อมกำไลมิติทันที เฉินหนานเอากำไลมิติออกมาแล้วเริ่มตรวจสอบความเสียหาย
เฉินหนาน “รอยร้าวเยอะไปหน่อย” เฉินหนานนำหินแยกมิติออกมาก่อนจะบดมันเป็นผงด้วยมือของเขา หินแยกมิติไม่ใช่แร่เหล็กมันจึงแข็งแบบหินทั่วไปเท่านั้นส่วนที่ว่าทำไมเมื่อทำเป็นกำไลมิติแล้วมันจึงทนทานเพราะนั่นมาจากขั้นตอนการทำและการจารึกนั่นเองเขาเอาผงที่ได้โรยบนรอยแล้วจากนั้นก็หลอมด้วยเพลิงเก้าสีเพื่อให้มันสมานกันจนเป็นเนื้อเดียว ครืนนนน สุดท้ายกำไลมิติของเขาก็กลับมาใช่ได้เหมือนเดิมเขายังซ่อมลายจารึกและเพิ่มเติมให้คงทนมากขึ้น เฉินหนานแสยะยิ้มออกมา
เฉินหนาน” ของฉันเต็มเสียดีไอ้พวกส้น-ีนหน้าไหนมาขวางทางฉันจะเชือดแม่งให้หมดเลย “เขาสวมเสื้อเกราะเทพมารอีกแล้วมัดผมเป็นหางม้าก่อนจะกลับคืนสู่รูปลักษณ์ปกติของเขา จากนั้นเขาก็ปรากฏตัวออกมาจากมิติหีบอีกครั้ง
เฉินหนาน” ไอ้พวกเวรนั่นไปไหนแล้วล่ะมาข้อซื้อครั้งนี้ฉันอาจจะขายนะตอนนี้ฉันมีพอที่จะขายแล้ว “เมื่อไม่เจอพวกนั้นเฉินหนานก็ไม่สนใจอีกแล้วเดินทางออกนอกเมืองทว่าเฉินหนานไปเจอพวกมันที่หน้าทางเข้าเมืองพอดี
เฉินหนาน” พวกแกน่ะยังสนใจหินนี่อยู่ไหม “ชายหนุ่มคนเดิมหันมา
” แก…หรือว่าเป็นคนที่ซื้อหินนั่นไปเมื่อวาน “เฉินหนานส่ายหน้าไม่ตอบคำถาม
เฉินหนาน” แกยังจะซื้อมันอยู่ไหมถ้าไม่ฉันจะชายให้คนอื่น “ชายหนุ่มถามขึ้น
“แกว่าราคามา” เฉินหนานยิ้ม
เฉินหนาน “สร้อยล้านทอง” หน้าของมันกระตุกแล้วหัวเราะออกมา
“นี่แกล้อเล่นหรือราคาขายที่แกได้ไปแค่ร้อยล้านเองนะ” เฉินหนานยิ้มร้ายออกมา
เฉินหนาน “งั้นแกก็ไปหาที่อื่นสิวะที่ขายแกราคาร้อยล้านน่ะ ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้วจะขายมันสองร้อยล้านแกจะทำอะไรได้วะไม่สิสามล้านแล้ว” หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาเหวี่ยงกระบี่ใส่เฉินหนานด้วยความเร็วสูง “เคร้งๆๆๆ กระบี่ชิงหยวนป้องกันการโจมตีนี้ไว้มือเฉินหนานจับไปที่คางของหญิงสาวแล้วออกแรงบีบ จิตสังหารของเฉินหนานระเบิดออกมาอย่างรุนแรงราวกับว่าเขาคือปีศาจร้าย
เฉินหนาน” ฉันเห็นว่าเป็นผู้หญิงจึงจะไม่อยากฆ่าหรอกนะ” กระดูกกรามของนางเกิดรอยร้าวนางแผดเสียงกรีดร้องออกมาเฉินหนานยามนี้น่ากลัวมาก
“พอแล้วสามร้อยล้านใช่ไหมแต่แกจำไว้กล้าขูดรีดกับคนของพันธมิตรต้าฮวางเหลียงระวังโดนหมายหัวนะ” เฉินหนานแสยะยิ้มออกมา
เฉินหนาน “ถ้าแกไม่อยากให้กลุ่มคนโง่ๆ ล่มสลายก็อย่ามายุ่งกับข้าดีกว่าเขาควรเป็นแค่คู่ค้าทางธุรกิจจะดีกว่า” หลังรับเงินเฉินหนานก็โยนหินมิติให้มันไป ชายหนุ่มเผยยิ้มออกมา
“น่าสนใจกล้าดูถูกกันแบบนี้เลยหรือฉันจะจำแกไว้” …
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??