เรื่อง มหาเทพเซียนกลับมาเกิดใหม่ในมหานคร
บที่17 กลุ่มนักล่า.
เช้าวันต่อมาทั้งสามเตรียมตัวเสร็จเฉินหนานพกมีดสองเล่มไว้ี่ด้านหลังและี่เอวด้านหลังเขาสวมชุดลุยป่าแบบรัดรูปเหมาะกับการคลื่นไหวสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั่นและมีเสื้อี่ใช้พกพาและอุปกรณ์ทับอีกทีเมื่อเขาออกมาก็พบคนทั้งสามกำลังเอาของขึ้นรถอยู่ทั้งสามสวมชุดเหมือนพวกหน่วยจู่โจมเฉินหนานหยิบกระเป๋าขึ้นไปบนรถก็เห็นกล่องไม้โบราณสามใบวางอยู่กับกระเป๋าพวกเขาทั้งสามจากนั้นพวกเขาก็ขับรถไปี่ทางเข้าของภูเขาซานชิงี่นั่นมีกลุ่มคนอยู่หลายกลุ่มต่างก็มาล่างูเกล็ดทองเช่นกันแต่เฉินหนานคิดว่ามันอาจไม่ได้มีแค่งู เฉินหนานเอาของลงจากรถจากนั้นเขาเห็นเหลียนเฟ่ยเปิดกลองออกเป็นดาบสี่เขียวโบราณมีรวดลายของมังกร(รูปร่างเหมือนดาบของเนี่ยฟงในเรื่องฟงอวิ๋นนะครับ)เธอหยิบมาสะพายไว้ี่หลังจากนั้นก็สวมเป้เดินป่าทับไปหมิงกวงเองก็หยิบกล่องไม้ขึ้นมาเช่นกันจากนั้นก็หยิบกระบี่ออกมาสะพายหลังเช่นกันโดยกระบี่นี่เป็นสีดำโบราณส่วนเตียวกังก็เปิดกล่องหยิบขวานสีทองออกมา(รูปร่าเหมือนขวานเครโทสในกอดออฟวอร์ภาคสี่นะครับ)จากนั้นพวกเขาก็เอาปืนพกติดไปคนละกระบอกไม่ใช่เอาไว้ล่าสัตว์แต่เป็นป้องกันตัวจากมนุษย์ จากนั้นพวกเขาทั้งสี่ก็เดินเขาไปี่ทางเข้า เมื่อเดินเข้ามาเป็นค่ายชั่วคราวี่สร้างไว้ด้านในมีกลุ่มคนแปลกๆหลายกลุ่ม
“พวกนี่คือกลุ่มนักล่ามีทั้งชนเผ่าลึกลับต่างๆรวมถึงนิกายจากอดีตี่อยู่มาถึงปัจจุบัน”หมิงกวงอธิบายอย่างใจเย็น
“คนพวกนี้มีพลังยุทธแปลกประหลาดรวมถึงพวกใช้พิษด้วย”เหลียนเฟ่ยพูด
“ผมจะจำไว้ครับ”
“ตรงนั้นมีเป็นชนเผ่า อี้จิง มันเป็นชนเผ่าี่มีพลังคำทำนายี่แม่นยำสูงมาก”เตียวกังกล่าว กลุ่มของอี้จิงมีคนอยู่ประมาณสิบคนหนึ่งในนั้นมีเด็กสาวอายุราวยี่สิบปีเธอมัดผมยาวใช้ผ้าลายทหารปิดปากเอาไว้เฉินหนานมองก็รู้ว่าเธอต้องเป็นสาวงามแน่นอนเธอสวมชุดทหารดูแข็งแกร่งแต่รูปร่างี่สมบูรณ์แบบของเธอแม้จะอยู่ในชุดทหารก็ดูหน้าหลงใหลคนี่อยู่ข้างเธอเป็นชายอายุราวๆสี่สิบปลายๆหน้ามีหน้าตาคมคายและมีหญิงชราถือไม้เท้าจ้องมองมาทางเฉินหนาน เฉินหนานรู้สึกได้ว่าเธอพยามเข้ามาทดสอบเขาโดยใช้พลังแทรกซึมเข้ามาในความทรงจำเขา เฉินหนานแสยะยิ้มให้เธอ พรวด…เลือดออกจากมุมปากของเธอ หญิงชราถึงกับตกใจรีบป้องมือให้เฉินหนาน
“อย่าได้ทำแบบนี้อีกไม่งั้นครั้งหน้าผมอาจจะไม่ใจดีอย่างนี้”จากนั้นเฉินหนานก็เดินจากไป
“คุณยายคะยายเป็นอะไรหรือคะ”
“แม่เกิดอะไรขึ้น”ชายหน้าตาคมคายกล่าว
“ไม่เป็นไรเขรแค่สั่งสอนยายเท่านั้นเด็กคนนั้นจิตของเขาแข็งแกร่งเหลือเกิน”
“ใครกันคะ”`
“เด็กี่มัดผมคนนั้น”เธอชี้ไปี่เฉินหนาน เมื่อหญิงสาวเธอมองออกไปก็เห็นเฉินหนานกำลังนั่งพักกินอาหารกับพวกหมิงกวงอยู่``
“เขาเก่งถึงขนาดทำให้คุณยายกระอักเลือดเลยหรือคะ”
“ยายพยายามอ่านชะตาเขาแต่มีแต่ความว่างเปล่าจึงจะลองสืบจิตจากความทรงจำของเขาไม่คิดเลยว่าเขาจะกระแทกพลังจิตใส่กลับมาโชคดีี่เขาไม่ได้หมายเอาชีวิตยาย”ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว
“ถ้าเป็นบรรพบุรุษเราน่าจะทำได้เราจะลองสืบดูไหมครับว่าเขาเป็นใคร”หญิงชราคิดอยู่สักพัก
“อ่อแต่ผมรู้จักคนี่เด็กคนนั้นนั่งคุยด้วยนะ”น้องชายของชายวัยกลางคนกล่าวขึ้น พวกเขาคือตระกูลติแห่งชนเผ่าอี้จิงพวกเขามีประเพณีโบราณี่สืบทอดกันมาบางอย่างแต่ไม่มีใครรู้ว่าคืออะไร
“ติเชิงนายรู้จักเขางั้นหรือ”
“ครับพี่ผมรู้จักเขาคือหมิงกวงเขาคือผู้ฝึกปราณเขาค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่และเขาทำธุรกิจการบินด้วยครับพี่”ติซวนมองไปี่น้องชาย
“แล้วเด็กคนนั้นเป็นใคร”
“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันผมจำได้ว่าหมิงกวงมีเพื่อนแค่สองคนอาจจะเป็นลูกหลานพวกเขาคนใดคนหนึ่งก็ได้”
“งั้นก็ดีติเฉินหลานก็ยังโสดอยู่ไม่ใช่หรือเด็กคนนี้อายุเท่านี้พลังจิตกลับแข็งแกร่งกว่ายายเสียอีกในอนาคตยายไม่กล้าคิดเลยว่าเขาจะไปถึงขึ้นไหนหลายไม่สนใจเขาหรือนอกจากนี้เขาหล่อมากด้วยนะ”ติซวนและติเชิงมองตากันด้วยความงุนงง ติเฉินสายตาเย็นชาเมื่อมองไปยังเฉินหนาน
“ส่งคนไปสืบมาว่าเขาเป็นใคร”
“แม่แต่เขาทำร้ายแม่นะ”
“ไปจัดการตามี่สั่ง”
“ครับแม่”
เฉินหนานกินนมกับขนมปังเหมือนเดิมจนเหลียนเฟ่ยมองไปี่เขาอย่างสนใจเฉินหนานมองไปี่เธอแล้วยิ้ม
“มีอะไรหรือพี่สาวเฟ่ย”
“เธอกินแค่นี้จะลุยป่าไหวหรือ”
“สบายมากครับ”เฉินหนานทำท่าสบายๆ
“งั้นเราออกเดินทางตอนแปดโมแล้วกันฉันได้แผนี่มาแล้ว”
“ขอผมดูหน่อย”ทุกคนดูแผนี่พร้อมกันและระบุเส้นทางี่พวกเขาจะเข้าไปในส่วนี่พบงูนั้นอยู่ลึกมากๆแล้วยังเป็นป่าทึบด้วยไม่รู้ว่าพวกเขาจะสามารถไปถึงหรือไม่เฉินหนานจดจำภาพแผนี่ในสมอง
“อ่าวนั่นมันหมิงกวงไม่ใช่หรือ”ชายร่างใหญ่ย้อมผมสีทองมีบาดแผลี่แก้มขวาเป็นทางยาวถือปืนเอ็มสิบหกเดินเข้ามาหาหมิงกวง
“ฉันเองแกมีอะไร”!
“หึๆถ้าฉันเจอแกในป่า”มันทำท่าปาดคอใส่หมิงกวง
“ดูเหมือนว่าแผลี่แก้มขวาไม่พอใช่ไหมครั้งนี้อาจจะเป็นแผลี่คอก็ได้นะ ฮ่าๆๆ”เฉินหนานมองไปี่ชายผมทองเขามีพลังฝึกฝนพอๆกับหมิงกวงเฉินหนานฟังจากบทสนทนาก็รู้ทันทีว่าทั้งสองเป็นศัตรูกัน
“ถานหยางนายออกไปเสียเถอะอย่ามาก่อเรื่อง”
“แม่สาวนักดาบถ้าฉันเจอเธอข้างในล่ะก็ฉันจะเล่นสนุกกับเธอแล้วจะทรมานเธอช้าๆ”
“นายเก็บปากไว้ดูดนมแม่นายไม่ดีกว่าหรือถานหยาง”
“นังนี่”เสียงเฉินหนานก็หัวเราะขึ้นมา
“อ่อผมว่าพ่อของลุงคนนี้แทนี่จะยิงในถ้ำน่าจะยิงใส่กำแพงมากกว่าแม่เขาจะได้ไม่ต้องลำบากให้นมดูดให้เสียเวลา”เมื่อหมิงกวงและเหลียนเฟ่ยรวมถึงเตียวกังได้ยินก็หัวลั่น
“เฉินหนานนายพูดถูก”เหลียนเฟ่ยกอดคอเฉินหนานแล้วหัวเราะ
“ไอ้เด็กนี่แก”ถานหยางกำลังจะลงมือแต่ถูกเรียกจากชายชุดดำผมยาว
“ถานหยางเราจะไปกันแล้ว”เสี่ยงชายผมยาวดังขึ้น
“ครับหัวหน้า”ถานหยางมองไปี่เฉินหนาน
“ฝากไว้ก่อนไอ้เด็กบ้าฉันจะสับแกเป็นชิ้นๆในป่า” จากนั้นพวกถานหยางก็เข้าไปในป่า นอกจากพวกมันแล้วหลายกลุ่มก็มองมาี่พวกเขา คนพวกนี้เป็นนิกายโบราณต้องการอาวุธงวิญญาณของพวกเขา
“ไอ้พวกนี้ตาเป็นมันเลยอยากได้ทำไมไม่สั่งจากฉันล่ะ”เตียวกังพูดติดตลก
“เหอะ…อาวุธบริษัทนายราคาเป็นร้อยล้านใครจะอยากซื้อ”
“เหลียนเฟ่ยร้านฉันอาวุธโบราณนะไม่ใช่ของไก่กา”ทั้งสามหัวเราะ
จากนั้นพวกเขาก็กำลังเตรียมพร้อมเขาไปข้างในก็มีกลุ่มคนี่มีชุดคลุมเดินเขามาหาพวกเขาเฉินหนานระวังตัวตลอดอยู่แล้วสะบัดฝ่ามือโดยไม่ให้ใครเห็นเกิดลมพัดเปลี่ยนทิศทางลมทำให้ผงพิษไม่โดนพวกเขา
“เป็นไปได้ยังไงกัน”ชายชุดคลุมร้องเบาๆ เฉินหนานหันกลับไป เมื่อหมิงกวงรู้สึกผิดปกติก็หันไปเช่นกัน
“กลุ่มนิกายพันโอสถพิษ”
“ไม่เจอกันนานนะหมิงกวง”เสียงี่แหบแห้งพูดอย่างแผ่วเบา เฉินหนานมองไปี่ชายปิดบังใบหน้าไว้แล้วจดจำดวงตาเอาไว้
“ปิงตงถ้าไม่ใช่เสียงของแกฉันคงจะจำไม่ได้หลอก”
“หึๆ”มันหัวเราะเบาๆ
“เสียใจด้วยนะี่แกวางยาฉันพลาด”ปิงตงรู้ทันว่าหมิงกวงขุดหลุมพลางเอาไว้
“นายพูดเรื่องอะไร”
“ชั่งเถอะเราไปกัน”ทั้งสี่เดินเข้าไปในป่าจากนั้นกลุ่มต่างๆก็ตามเข้าไปเช่นกัน พวกของเฉินหนานเดินเขาไปตามแนวเส้นทางี่พวกเขากำหนดเองเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายให้มากี่สุดพวกเขาตัดสินใจเดินอ้อมเส้นทางหลังเพื่อความปลอดภัยจากสัตว์ร้ายและกลุ่มนักล่าอื่นๆเฉินหนานมีสัมผัสี่เฉียบคมอยู่แล้วเขาจึงรู้ว่ามีกลุ่มคนกำลังตามพวกเขามาห่างราวๆยี่สิบเมตร
“อ่อดูเหมือนว่าเราโดนตามเสียแล้วพี่ชายพี่สาว”ทั้งสามมองหน้ากัน เฉินหนานทำสัญลักษณ์ชี้ไปตามจุดี่มีคนตามมาพวกเขาเข้ามุมอับสายตาแล้วเขาใช้กล้องส่องทางไกลมองไปยังจุดี่เฉินหนานบอก
“กลุ่มนักล่าอาหาร และกลุ่มโจรนักล่า”กลุ่มนักล่าอาหารคือองค์กรใต้ดินี่ล่าสัตว์ี่แปลกประหลาดนำไปขายให้กับร้านอาหารดังๆทั้งในและต่างประเทศให้พวกคนร่ำรวยพวกเขาเชื่อว่าจะทำให้อายุยืนยาวเนื้อพวกนี้เต็มไปด้วยพลังวิญญาณดังนั้นมันสามารถทำให้อวัยวะภายในนั้นเสื่อมตัวช้าลงกลุ่มนักล่าอาหารโดยมากจะกำจัดคนี่ฆ่าสัตว์ได้แล้วชิงซากสัตว์ไป ส่วนกลุ่มโจรไม่ต่างกันมันฆ่าคนเพื่อเอาทรัพย์สินของนักล่าอีกอย่างถ้าโชคดีก็จะได้ซากสัตว์มาด้วยกลุ่มคนพวกนี้มีองค์กรใต้ดินหนุนหลังอยู่
“เราจะหนีจากพวกมันยังไงดีหากเราปะทะตอนนี้กลุ่มอื่นๆจะรู้ี่อยู่ของเราทันที”เตียวกังพูด
“งั้นทุกคนเดินตามผมแล้วกันผมมีวิธี”เฉินหนานยิ้ม ทั้งสามยอมลับและให้เฉินหนานนำทางเขาเก็บหินขึ้นมาห้าหกก้อนแล้วสลักค่ายกลพรางตาลงไปจากนั้นก็ก้าวเดินไปแล้วเขาดีดหินไปตามจุดี่เขากำหนดจากนั้นก็กระตุ้นพลังวิญญาณขึ้นจากนั้น ทั้งสองกลุ่มก็ไม่เห็นพวกเขาอีก อย่างไรก็ตามเนื่องจากมันเป็นหินไม่ใช่หยกผลของค่ายกลอยู่ได้แค่ชั่วโมงเดียว หลังจากี่ทั้งสามเดินตามเฉินหนานไปได้สักพักพวกเขาหันกลับไปมองก็พบว่าพวกมันหายไปแล้ว
“สุดยอดนายี่มันไม่ธรรมดาเลยฉินหนาน”
“ไม่เท่าไรหลอกครับเราไปต่อเถอะ”
“ไอ้บ้าเอ้ยพวกมันไปไหนแล้วอาวุธโบราณพวกมันราคาหลักร้อยล้านเลยนะ”หัวหน้ากลุ่มโจรนักล่าโกรธจัด
“ใจเย็นๆเราปล้นพวกนักล่าอาหารก็ได้นี่ลูกพี่”ชายหน้าบากแสยะยิ้ม
“จริงของแกพวกเราเปลี่ยนเป้าหมาย”แล้วจากนั้นพวกมันก็ล่ากันเอง กลุ่มนักล่าอาหารอารมณ์เสียมากต่อจากนี้พวกมันต้องล่างูเองแถมต้องระวังไอ้พวกระยำกลุ่มโจรอีกด้วย มีองค์กรใต้ดินให้ราคาเนื้องูกิโลกรัมละสามแสนแสนหยวนแล้วงูตัวนั้นมันยาวประมาณสิบเมตรได้จากภาพถ่ายจะขายได้สักเท่าไรกันหากจับได้ทั้งตัว ส่วนผู้บ่มเพราะทุ้งหลายรู้ดีว่างูตัวนี้มีพลังวิญญาณในตัวหากนำร่างมันมาดูดซับพลังก็จะก้าวหน้าได้ไวจึงตั้งราคาของดีงูสูงถึงห้าร้อยล้านเลือดร้อยล้านเขี้ยวสามร้อยล้านกระดูกสามร้อยล้านสมองสามร้อยล้านกลุ่มนักล่าครั้งนี้จึงมีมากส่วนหนังของงูมันนั้นเหนียวมากแม้แต่กระสุนปืนอาก้ายังยิงไม่ทะลุครึ่งเมตรก็สิบล้านแล้ว
พวกเขาเดินเข้ามาพบกับพื้นี่มีกอหญ้าสูงถึงสองเมตรทั้งสี่จึงต้องระวังจากนั้นหมิงกวงแจกอุปกรณ์สื่อสารกันเพื่อเวลาหลงทางจะได้ช่วยเหลือกันได้ทว่าเฉินหนานพบว่าี่กอหญ้าหลายกอมีเมือกสีเขียวๆกระจายตามโคนหญ้า
“เดี๋ยวก่อนมีสิ่งผิดปกติ”เฉินหนานให้ทุกคนหยุด
“มีอะไรเฉินหนาน”เหลียนเฟ่ยถามด้วยความสงสัย
“ดูเหมือนว่าไม่ได้มีแค่งูเสียแล้ว”ทั้งสามตาเบิกกว้างเฉินหนานสงสัยว่าี่นี่คงเกิดรอยแยกมิติมาชั่วขณะหนึ่งทำให้สัตว์ในแดนเซียนหลุดออกมาหนึ่งหรือสองตัว
“เธอจะบอกว่ามีสัตว์ร้ายอีกงั้นหรือ”
“ผมว่าน่าจะใช่นะครับแล้วมันมีพิษร้ายแรงยิ่งกว่างูี่เราตามหาด้วย”พ
“อะไรนะเธอรู้ไหมว่ามันเป็นตัวอะไร”เฉินหนานขมวดคิ้วแล้วเอาไม้เขี่ยี่เมือกนั้นแล้วจับกระต่ายมาหนึ่งตัวแล้วเอามีดกรีดี่ผิวกระต่ายจากนั้นเอาเมือกไปเขี่ยี่บาดแผลฉับพลันกรต่ายกระตุกสองครั้งตายทันที ทุกคนตาโต
“ตายเลยรึ”เหลียนเฟ่ยถาม
“ไม่ต้องกลัวหากไม่มีบาดแผลพิษมันก็ทำอะไรเราไม่ได้”ทุกคนโล่งใจขึ้นมา
“แล้วมันคือตัวอะไรกัน”เตียวกังและหมิงกวงถามพร้อมกัน
“กิ่งก่าลิ้นเขียว”…
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??