เรื่อง มหาเทพเซียนกลับมาเกิดใหม่ในมหานคร
บทที่36 ข้อเสนอตระกูลเหลียน
รถหรูสีดำขับมาจอดหน้าตระกูลซางด้านหน้ามียามเฝ้าอยู่ถึงสิบคน เมื่อพวกมันเห็นรถที่มาจอดพวกมันก็ขมวดคิ้วกำชับปืนในมือ ชายร่างสูงใหญ่เดินเขาไปที่รถพร้อมปืนพกปลดเซฟตี้เตรียมพร้อม เหลียนเฟ่ยลงจากรถเธอไม่พอใจที่มีคนเอาปืนเล็งมาที่เธอ
“พวกคุณเป็นใคร…”สวบ!!!!มีดสั้นแทงไปทีคอชายคนที่เดินเข้ามาหาเธอทันที มันสำลักเลือดอยู่สักพักก่อนที่จะขาดใจตายดวงตามันคางไม่ยอมรับ ทุกคนถึงกับตกตะลึง
“เฮ้ยยิงมันรออะไร”ชายหนึ่งที่มีสติร้องตะโกนบอกทว่าช้าไป เหลียนเฟ่ยเคลื่อนไหวราวภูติผี ปังๆๆๆ ปืนที่ยิงมาไม่ถูกเธอสักนิด เหลียนเฟ่ยใช้ย่างก้าววายุที่เฉินหนานสอนมันรวดเร็วจนพวกมันมองไม่ทัน สวบๆๆๆ เธอแทงมีดสั้นไปที่ชายสามคนทางซ้าย แล้วเตะปืนของมันลอยขึ้นมาแล้วยิงไปที่ชายส่งเสียงเตือนตอนแรก ปังๆๆๆ มันล้มลงจากนั้นเธอก็หายไปจากสายตา สวบๆๆมีดสั้นแทงไปชายสวมแว่นหน้าประตูอีกสามคน
“มันเป็นผีหรือไงวะ”!!!ชายหัวโล้นกับลูกน้องของมันหนีทันที เหลียนเฟ่ยไม่ได้ตามไป
“ลงมาได้แล้ว”ทั้งสองคนอ้าปากค้างเมื่อเห็นการต่อสู้สิบต่อหนึ่งของเหลียนเฟ่ย
“เธอทำได้ยังไงการเคลื่อนไหวแบบนั้น”เหลียนซูตกตะลึงมาก เธอยิ้มพรางหยิบหาบและปืนพกออกมา
“มีคนสอนฉันมาพี่คิดว่าไงล่ะ”เหลียนซูไร้คำพูด ที่รถมีรอยกระสุนปืนหลายจุดอย่างไรก็ตามมันเป็นรถกันกระสุนที่สั่งทำพิเศษ
“เข้าไปกันเถอะ”ทั้งสามเดินเข้าไปข้างในคฤหาสน์ของซางกัวหยวนมนเป็นสไตล์ยุโรป ทันทีที่มีคนขัดขวางแม้เพียงคำพูดพวกมันสิ้นใจทันที สวบๆๆๆ!!!
เนื่องจากตัวบ้านกับประตูรั้วอยู่หางกันค่อนข้างมากบวกกับตัวบ้านทำจากวัสดุที่กันเสียง ทำให้เสียงปืนจึงได้ยินไม่ดังมากแต่ก็รับรู้ได้ว่ามีการยิงกัน
“ไปดูสิว่าใครมาใช้ตระกูลเหลียนหรือไม่”ถึงซางกัวหยวนทำเป็นสงบแต่ในใจมันกำลังจะระเบิดแล้ว
“ครับ”คนใช้ตอบรับทันที ทว่าออกไปได้เพียงไม่นานมันรีบวิ่งหลับมา
“ท่านครับตระกูลเหลียนมา”มันวิ่งหอบหายใจแรง
“มันมากี่คน”ซางกวนหยวนร้อนใจ
“สามคนครับ”
“อะไรนะสามคน”มันแสยะยิ้มทันที
“ฮ่าๆมันบ้าไปแล้วหรือแค่สามคนเนี่ยนะ ให้คนของเราทั้งหมดฆ่ามัน มันรู้สึกยินดีเรื่องนี้ง่ายกว่าที่คิด
“ไม่ได้ครับท่าน”ซางกัวหยวนขมวดคิ้ว การฆ่าคนสามคนมันยากตรงไหนเหตุใดคนของมันถึงตอบไม่ได้ต้องรู้ว่าตระกูลซางมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่าร้อยคน และการฆ่าคนสามคนมันยากตรงไหน ต่อให้อีกฝ่ายมาจากสำนักกิเลนขาวก็เถอะ กับจำนวนคนกว่าร้อยพวกมันไม่ตายก็คงสาหัส แล้วนี่ตอบว่าไม่ได้ครับ ความโกรธปะทุขึ้นทันที ทันได้นั้นเสียร้องขอชีวิตดังขึ้นเป็นระยะ
“เกิดอะไรขึ้นนั่นเสียงอะไร”ซางกัวหยวนเริ่มรู้สึกแปลกๆ ปัง!!!เสียงประตูห้องทำงานมันเปิดออก
“พ่อหนีเร็ว”ลูกชายซางกัวหยวนทั้งสองคนวิ่งมาหน้าตาตื่น พวกมันได้ยินเสียงหรีดร้องจึงหวาดกลัว
“พวกแกมีอะไร”
“พ่อตระกูลเหลียนมาแล้ว”ซางเหอปาลูกชายคนเล็กร้องบอก
“ฮ่าๆพวกแกบ้าหรือไงมันมาแค่สามคนจะกลัวทำไม”เมื่อพวกมันรู้ว่ามากันสามคนก็ใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย มันแน่ใจว่าเสียงที่กรีดร้องนั้นเป็นคนของมัน
“แต่ว่าพ่อครับมัน…”ซางกัวหยวนยกมือห้าม
“ไม่ต้องพูดแล้วให้ผู้เชี่ยวชาญไปจัดการมัน”ชายวัยกลางคนที่มาก่อนหน้าไม่รู้จะอธิบายยังไงดี
“ได้ครับ”ทว่ามันไม่ได้กลับมาอีกแล้วแน่นอนว่ามันหนีไปทันที ภาพที่มันเห็นนั้นสยดสยองมากเกิดกว่าจะรับไหว
“พวกแกมากับฉันเราไปรอที่ห้องรับแขกดูสิว่าพวกมันจะมาไม้ไหน”ทั้งสองมีสีหน้ามืดมนทันที
!
ทั้งสามมาถึงด้านในใกล้จะถึงบ้านหลักแล้วที่ด้านหลังพวกเขามีศพของผู้เชี่ยวชาญตายกว่าเจ็ดสิบคนมันตายด้วยดาบและการทุบตี คนที่ไม่ได้บ่มเพาะจะสามารถต่อต้านเหลียนเฟ่ยได้ยังไง แค่เหลียนซูพวกมันห้าคนรุมเขายังไม่อาจทำอะไรได้ แล้วเหลียนเฟ่ยพวกมันจะต่อสู้ได้ยังไง ดาบสีเขียวพาดบนบ่าพร้อมปืนทั้งสองมีเลือดติดเต็มตัว เหลียนซูแม้ไม่ชอบการต่อสู้แต่ในสมัยหนุ่มเขาเป็นถึงทหารหน่วยพิเศษการจู่โจมสายฟ้าแล้วออกมาตอนเขาแต่งงาน มู่หวานเองเคยเป็นทหารอยู่หน่วยปราบปรามแม้จะทำอยู่ที่ห้องเอกสารมากกว่าแต่ก็ชินกับการรบของทหารเช่นกัน เธอออกมาเพราะแต่งงานทั้งสองตัดสินใจที่จะไม่ใช้ชีวิตเสี่ยงตายเพราะลูก จึงมารับช่วงธุรกิจของตระกูลเหลียนในจงซาน เหลียนเฟ่ยมอบหมายให้พี่ชายดูแลสาขานี้เพราะเธอยุ่งเกินกว่าจะดูแล ขนาดสาขามาเก๊าเธอยังให้พ่อบ้านจัดการเลยสวบ!!!ดาบแทงทะลุออกผู้เชี่ยวชาญ
“น่าเบื่อเสียจริงไอ้ลิงพวกนี้ยังไม่หมดอีกรึ”เหลียวเฟ้ยส่ายหัว
“เห้อทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย”มู่หวานที่คอยตามด้านหลังรู้สึกเบื่อเช่นกัน ทั้งสามเดินเขามาเรื่อยๆแน่นอนว่าตอนนี้ไม่มีใครกล้ามาขวางทั้งสามคนอีกแล้วพวกเขาก็เดินมาถึงทางเขาบ้านหลัก มีอาวุโสสามคนมาขวาง แน่นอนเขาก็เป็นผู่บ่มเราะของตระกูลซาง
“หึไม่อยากตายถอยไปไอ้แก่”เหลียนเฟ่ยกล่าวออกมาอย่างเนิบช้า
“นางหนูมีพลังระดับห้าก็ปากเก่ง…”สวบ!!!อาวุโสที่มีคิ้วหนาคือซางจื่อรู้สึกแสบที่ลำคอรีบเอามือจับลำคอไว้ทว่าเส้นสีแดงก็ปรากฏออกมารอบลำคอ ตุบ!!!หัวหล่นลงพื้น อาวุโสอีกสองคนยืนตะลึกซางจื่อแข็งแกร่งที่สุดในพวกมันมีพลังถึงครึ่งก้าวระดับหกทว่าตายด้วยการโจมตีเดียว
“การเคลื่อนไหวในตำนาน”!!!เหลียนเฟ่ยแสยะยิ้ม
“หึ…ต่อให้พวกแกอยู่ขั้นหกก็ไม่ใช่คู่มือฉันหลอกนะ”อาวุโสทั้งสองหน้ามืดมนลง
“บัดซบแค่เด็กเมื่อวานซืนปากดีนัก”แสงสีเขียววาดผ่านอาวุโสทั้งสองเป็นแนวนอน ฉัวะ!!!พรวด…เกิดบาดแผลขนาดใหญ่ที่หน้าอกคนทั้งสองพร้อมพ่นเลือดออกมา
“เป็นไปได้ยังไง”ทั้งสองมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของเธอรู้ตัวอีกทีเขาก็สาหัสเสียแล้ว
“ดูเหมือนตระกูลซางของฉันไปเตะแผ่นเหล็กเข้าแล้วสินะ”แค่กๆ เลือดเต็มปาดพวกมัน
“พวกแกเลือกศัตรูผิดคนน่ะ ตาย!!!”ดาบวาดผ่านไปยังลำคอพวกมันทันที ไม่มีแม้แต่เสียงร้องของพวกมัน ตุบหัวทั้งสองหล่นลงทันที เสียงกรีดร้องของสาวใช้และแม่บ้านดังขึ้น อย่างไรก็ตามเหลียนเฟ่ยไม่ได้สนใจเธอฆ่าคนมาตั้งแต่เรียนจบมาคณะโบราณคดี เธอออกตามหาซากโบราณของนครจีนที่ล่มสลายไปแล้วมาเป็นสิบๆปี และแต่ละครั้งก็ปะทะกับกลุ่มขององค์กรใต้ดินและนิกายลับมากมาย จนมาพับกับพวกหมิงกวง เธอสะบัดเลือดออกจากดาบแล้วเดินเข้าไปในบ้าน
ปัง!!!ประตูถูกเปิดออกด้วยแรงถีบของผู้บ่มเพาะมันมันไม่อาจรับแรกอัดนี้ได้บานประตูกระเด็นออกไปหลายเมตร
“ใคร”!!!ซางกัวหยวนถึงกับหัวเสียที่มีคนทำเสียงดังรบกวนมันที่กำลังนักรอข่าว การจับกุมคนตระกูลเหลียนทั้งสามได้แล้ว มันขึ้นยืนเตรียมตัวจะแผดเสียงออกไป ทว่าร่างกายมันกับสั่นเทาที่เห็นร่างคนๆหนึ่งเดินเข้ามา ในตอนนี้เหลียนเฟ่ยที่เป็นสาวงามเต็มไปด้วยเลือดราวกับว่าเธอเป็นเทพอสูรและถือหัวของซางจื่อเข้ามาด้วย เธอแสยะยิ้มออกมา
“ไม่เจอกันนานนะไอ้แก่”ซางกัวหยวนทรุดตัวลงทันทีเมื่อเห็นหัวของอาวุโสซางจื่อ ลูกชายมันทั้งสองสลบไปเพราะความกลัวภาพที่มันเห็นมันเคยเจอแต่ในหนังเท่านั้น
“ไอ้สองคนนั่นลูกแกหรือขี้ขลาดดีจัง”ในตอนนี้ซางกัวหยวนไม่มีพูดใดๆมันไม่เป็นลมก็บุญแล้ว ที่ผ่านมามันคิดว่าเสียงกรีดร้องเป็นเสียงของตระกูลเหลียน พวกขามาสามคนไม่ใช่งั้นหรือทำไมถึงเดินเข้ามาถึงที่นี้ได้
“เธอคือเหลียนเฟ่ย…ไม่ใช่ว่าตายไปที่ธิเบตแล้วหรอกหรือ”เหลียนเฟ่ยยิ้ม
“อ่องแกเองที่อยู่เบื้องหลังสินะ”หน้ามันซีดลงทันที
“ช่วยไม่ได้นะฉันคนมีของ”ซางกัวหยวนรู้สึกตัวชา มีของงั้นหรือนั่นน่ะผู้เชี่ยวชาญเป็นร้อยๆคนนะแต่เธอก็ไม่ตายและพวกมันเป็นถึงทหารรับจ้างใช้อาวุธสงคราม แต่นี่บอกว่ามีของ
“อ่อเรื่องจริงสินะ”เหลียนเฟ่ยเดินมานั่งที่โซฟาแล้วไขว่ห้าง เหลียนซูและมูหวานนั่งข้างๆมู่หวานเตรียมสัญญาจำนวนมากมา
“แกต้องการอะไร”เหลียนเฟ่ยหัวเราะ ปัง!!!เธอยิงไปที่หัวลูกชายคนเล็กทีนอนสลบทันที
“ไม่ลูกพ่อไม่นะ”น้ำตามันไหลออกมา
“หึๆ…นี่สำหรับคุณแม่ฉัน”
“แกทำไมไม่ฆ่าฉันเลยล่ะ”ซางกัวหยวนประคองศพลูกชายไว้ในอ้อมแขน
“ฆ่าแกมีประโยชน์อะไรเล่า หึๆ”มันมองเหลียนเฟ่ยด้วยสายตาอาฆาตแค้น เหลียนเฟ่ยยิ้มแล้วเล็งปืนไปที่ลูกคนโต
“ไม่ๆอย่า…ฉันขอโทษอย่าทำแบบนี้เลย ฉัน ฉันผิดไปแล้วฉันโดนพวกมันหลอก”เหลียนเฟ่ยยิ้ม
“ไหนลองว่าหน่อย ถ้ามันเข้าท่าฉันอาจจะไม่ฆ่ามัน”
“ได้ๆ”จากนั้นมันก็เล่าเรื่องเทียนถงให้ฟัง เหลียนเฟ่ยก็ประหลาดใจเมื่อรู้ว่ามีนิกายหมอผีอยู่จริงๆ
“มันไม่ใช่เรื่องงมงายหรอกรึ”เหลียนเฟ่ยสนใจมากเรื่องนี้มันต้องมีอะไรแน่จุดประสงค์ของพวกมันคืออะไรกันแน่ เธอไม่คิดว่าพวกมันต้องการแต่เงินหรอก นิกายที่ซ่อนตัวเองมาเป็นร้อยๆปีจะมาเปิดเผยตัวเองแค่เงินนี่ย่อมเป็นเรื่องตลก
“พาฉันไปดูในห้องพิธีของมันหน่อย”เหลียนเฟ่ยให้มันพาไปที่ห้องทำพิธีห้องนี้อยู่ห่างจากตัวบ้านของมันราวๆสิบเมตรมันเป็บ้านทที่แยกตัวออกไปบ้านนี้เป็นแนวจีนโบราณมีความเก่าแก่มาก ในห้องมันเป็นห้องเก็บเสียง ซางกัวหยวนเป็นประตูเข้าไป ด้านในเป็นห้องสีเหลืองมีกลิ่นเหม็นของคาวเลือด กำแพงและพื้นเต็มไปด้วยยันต์ที่เขียนด้วยเลือด มีร่องรอยการระเบิด อย่างไรก็ตามนอกจากของพวกนี้แล้วเธอก็ไม่เห็นอะไรอีก
“นาาจะเก็บของที่จะสืบถึงตัวมันได้ไปหมดแล้ว”ทว่าในขณะที่เธอกำลังจะเดินออก เธอเหยียบพื้นแล้วมีเสียงดังขึ้นกึง!!!คิ้วของเหลียนเฟ่ยขมวด
“สั่งให้คนของแกที่ยังเหลืออยู่มาที่นี่ไม่งั้นล่ะก็ หึๆ”มันกดโทรศัพท์แล้วสั่งการออกไป พวกมันส่วนมากเป็นคนสวนที่แอบซ่อนตัวในตอนที่เหลียนเฟ่ยไล่สังหารคน และเมื่อตอนนี้มันเห็นเธอก็ขนหัวลุกทันที
“เอาล่ะขุดพื้นด้านล่างนี้ซะไม่งั้นฉันจะ”ทุกคนรีบวิ่งไปเอาอุปกรณ์มาขุดพื้นทันที มันเป็นปูนที่ฉาบไว้แบบลวกๆแล้ววางทับด้วยไม้ผิวเรียบ เทียนถงอยู่ที่นี่มาหนึ่งปีแล้วดังนั้นในบ้านนี้จึงมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก เหลียนเฟ่ยคิดว่าต้องมีอะไรใต้พื้นแน่ๆ
“เอาล่ะให้พวกมันขุดไปก่อนเรากลับไปคุยกันก่อนดีกว่า”
“คุยอะไรแกฆ่าลูกชายฉันไปแล้ว”เปรี้ยง!!!เธอเอาปืนตบไปที่หน้าของมันจนเลือดเต็มปาก
“นี่ฉันให้แกพูดตอนไหน”ซางกัวหยวนเอามือปิดปากแล้วเดินไปด้วยดี เมื่อมาถึงห้องรับแขก เหลียนซูและมู่หวานหันกลับมามองเธอที่เดินเข้ามา เหลียนเฟ่ยถามมู่หวานทันที
“เรียบร้อยไหม”พ
“แน่นอน”
“โอเค”เหลียนเฟ่ยกลับไปนั่งแล้วเอ่ย
“ฉันมีข้อเสนอสองข้อ ข้องแรกคือคนแซ่ซางต้องตายทั้งหมดหรือจะโอนหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ทุกกิจการที่พวกตระกูลซางทำมาให้ตระกูลเหลียนซะ”!!!!…
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??