เรื่อง พลิกแค้นสนมคืนบัลลังก์
ซูเฟยซื่อจงใจเพิ่มและเน้นคำว่าใช้กฎระเบียบครอบครัวจัดาจนหญิงรับใช้ทั้งสามต่างพากันัสั่น พวกนางรีบแย่งกันบอกเล่าอย่างหวั่นกลัวกันเป็นอย่างยิ่ง
“นายหญิงทราบดี วันนี้บ่าวเห็นอาจูด่าคุณหนูสามกับา ไม่เพียงเ่านี้ นางยังคิดตีคุณหนูสามด้วยเจ้าค่ะ”
“ใช่ๆ ๆ เป็เ่นั้น วันธรรมดาอาจูก็อาศัยที่คุณหนูสามนิสัยดี ไม่ได้ปฏิบัติต่อคุณหนูสามในฐานะเป็นเจ้านาย ด่าตี้เป็นเื่ปกติวิสัยเจ้าค่ะ”
“บ่าว...” สองาใช้่้านี้ได้กล่าววาจาไปหมดแ้ หญิงรับใช้คนที่สามถึงกับหมดคำพูด แต่หากไม่พูดอะไรบ้าง ก็เกรงว่าจะเป็นาขัดใจคุณหนูสามี
คุณหนูสามในปัจจุบันไม่เหืนเมื่อ่ ในกรณีที่เกิดทำให้นางไม่พอใจ าตัดลิ้นยังถือว่าเป็นเื่เล็ก
คิดถึงลักษณะาตัดสินใจเด็ดเดี่ยวในาเข่นฆ่าของซูเฟยซื่อในวันนี้ นางก็ัสั่นเทิ้มไม่ได้ “ความจริงอาจูไม่ได้แกล้งคุณหนูสามเพียงวันสองวัน แต่อย่างไรคุณหนูสามก็ไม่เคยโต้ตอบ วันนี้เป็น...อาจูที่ทำเกินไปจริงๆ ไม่เพียงด่าว่าทำความอัปยศต่อคุณหนูสามเ่านั้น ยังด่าลบหลู่นายหญิงีด้วย คุณหนูสามทนเห็นนายหญิงรับความอัปยศไม่ได้จึงลงืตัดลิ้นเจ้าค่ะ”
เมื่อคำพูดนี้ออกจากปาก แม้แต่ซูเฟยซื่อก็ตะลึงงัน
ารับใช้หลักแหลมปากคอเราะา บิดเบือนความจริง ทำให้สิ่งที่ผิดกลายเป็นู เพื่อเอาใจนางถึงกับอ้างนายหญิงแซ่หลี่
นางกล่าววาจานี้ออกมา อาจูคิดจะไม่ายก็้เป็นเื่ยากแ้
แม้แต่ารับใช้เล็กๆ คนึ่ก็ยังร้ายกาจขนาดนี้ ูไปแ้จวนอัครมหาเสนาบดีเป็นสถานที่ที่มิอาจประมาทไปได้จริงๆ
แต่นางยังนับว่าได้เห็นชัดแจ้งแ้ ขอเพียงเป็นผู้มีอำนาจอย่างแท้จริง มีความอำมหิตเพียงพอ จึงจะสามารถหยั่งรากยืนหยัดอยู่ในจวนอัครมหาเสนาบดีแห่งนี้
ในที่สุดารับใช้ทั้งสามก็พูดในสิ่งที่ทั้งควรพูดและไม่ควรพูดจนหมดแ้ ทว่าใจของอาจูกลับายสนิทไปาแ้
เื่มาถึงนี้ ดำ้กลับเป็นา นางจะสามารถพูดอะไรได้ี?
“บ่าวไพร่ ลากอาจูไปโบยห้าสิบไม้กระดาน แ้ไล่ออกไปจากจวนอัครมหาเสนาบดี” ืของนายหญิงแซ่หลี่โบกขึ้นทันที นางผัน้าเศร้าปวดใจมองซูเฟยซื่อ “คิดไม่ถึงว่าปกติเจ้าได้รับความอยุติธรรมปานนั้น ทำไมไม่มาบอกแม่ใญ่?”
“แม่ใญู่แลจัดาจวนอัครมหาเสนาบดีทั้งหมดได้ ก็ถือเป็นเื่ลำบากมากแ้ เื่เล็กน้อยเ่านี้เฟยซื่อไหนเลยจะกล้ารบกวนท่านได้เจ้าค่ะ” ซูเฟยซื่อเลิกคิ้วพลางกล่าว
นางเห็นแววรังเกียจเดียดฉันท์ภายใต้ความปวดร้าวใจของนายหญิงแซ่หลี่ชัดเจน เพียงแต่ในเมื่อเจ้าแกล้งทำมา ข้าก็แสร้งเล่นกลับไปด้วยเ่านั้น
“เป็นความบกพร่องใน้าที่ของแม่ใญ่แ้ ภาย้ามีเื่เช่นนี้ี จงพยายามมาหาแม่ใญ่ แม่ใญ่จะรับผิดชอบตัดสินใจให้เจ้า แต่นี้อาจููลงโทษแ้ ข้างกายเจ้าไม่มีใครสามารถให้เรียกใช้ได้ เช่นนั้นก็ให้แม่ใญ่ช่วยจัดาให้เจ้าเถิด” ดวงาของนายหญิงแซ่หลี่หรี่ลงเล็กน้อย เรอยยิ้มอ่อนโยนทั่วใบ้า
ช่วยจัดาให้? เกรงว่าคิดจะแทรกสายสแนมไว้ข้างกายสินะ
คิดว่า้เป็นพฤติกรรมของนางในวันนี้ที่ดึงูดความสนใจของนายหญิงแซ่หลี่แ้ ู้... คุณหนูสามที่ขลาดกลัวอ่อนแอมาตล จู่ๆ ลงืตัดลิ้นของารับใช้ข้างกาย นายหญิงแซ่หลี่ไม่ได้เป็นคนโ่
นางเก็ไม่ใช่คนโ่ แต่นางไม่สามารถปฏิเสธได้
ซูเฟยซื่อแสร้งดีใจ “คุณแม่ใญ่เจ้าค่ะ”
“อืม วันนี้เจ้าเหนื่อยแ้ กลับไปพักผ่อนเถอะ ััข้าจะให้คนามไป” แม่ใญ่หันไปยิ้มและโบกืให้ซูเฟยซื่อ ไม่อยากพูดมากกับนางี
“เจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นเฟยซื่อขอลา” ซูเฟยซื่อแสดงความเคารพคราึ่แ้ค่อยๆ เดินจากไป
ได้เห็นซูเฟยซื่อเดินห่างออกไป หลินมามา ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ต่อนายหญิงีคนก็ก้าวมายืนข้าง้าทันที “นายหญิง คุณหนูสามคนนี้ต่างจากที่เคยเป็น ูเหืนคนอหังาบ้าคลั่ง วันนี้ท่านจัดาแบบนี้ เกรงว่าจะยิ่งกระพือความยโสของนางให้ไปกันใญ่นะเจ้าค่ะ”!
“วันนี้นางได้วางเื่ราวลงตรง้าข้าโดยตรง ยังกล่าวว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมทุกประโยค แต่ละประโยค้มีเหตุมี แ้ข้าจะจัดาได้อย่างไร? แต่นังหนูนี่อวดดีแบบนี้ ก็สมควรจะเคาะให้เข้าที่จริงๆ” ้ำเสียงของนายหญิงแซ่หลี่ฟังูราบเรียบ ทว่าประกายากลับเฉียบ “้ตำหนิข้าเที่ใจอ่อนเพียงชั่ววูบในปีนั้นที่ไม่ได้ฆ่านางกับมารดาไปด้วยกัน เดิมคิดว่านางเป็นแค่เด็กไร้ประโยชน์ จะเก็บไว้หรือไม่ ้มีค่าเ่ากัน ไม่คิดเลยว่ากลับเป็นาเก็บอสรพิษไว้”
หลินมามากลอกามองทันที “นายหญิงคิดจะลงืีครั้ง?”
แม่ใญ่แซ่หลี่่า้า “ไม่ นี่เป็นเื่ที่ไม่ควรรีบร้อน นางเงียบไม่ตอบโต้มาาหลายปี นี้จู่ๆ ก็เปลี่ยนนิสัยไป ข้ากลับคิดว่าจะขอูว่านางสามารถเล่นลวดลายอะไรได้ี”
“ถ้าเช่นนั้น... ความายของนายหญิงคือ...”
“เมื่อครู่ไม่ใช่บอกว่าจัดคนให้นางหรือ ถ้าเช่นนั้นก็ให้หยานเอ๋อร์ไปูแลนาง หยานเอ๋อร์เป็นบุตราของเจ้า ้าไ้ใจ จำไว้ว่า้กลับมาางานทุกเื่ไม่ว่าใญ่หรือเล็ก ถ้าพบว่ามีอะไรผิดปกติ รีบส่งนางไปสู่ปรภพทันที” นายหญิงแซ่หลี่กล่าว ก็เหืนจะคิดบางอย่างขึ้นได้ “ใช่แ้ พรุ่งนี้ข้าจะพาคุณหนูทั้งสามไปวัดจิ้งหมิ่นชมบุปผา เจ้าให้หยานเอ๋อร์ถ่ายทวาจาว่าให้นางมาด้วยกัน”
“เจ้าค่ะ”
วันต่อมา เดิมซูเฟยซื่อคิดว่าอาจูายแ้ นางอาจจะได้อยู่เงียบๆ ัั อย่างน้อยก็ได้นอนหลับสักตื่น
ไม่คิดว่าแต่เช้าตรู่ารับใช้คนใหม่ก็มาปรากฏั “หยานเอ๋อร์คารวะคุณหนูสามเจ้าค่ะ”
ซูเฟยซื่อลืมาพิจารณาคนตรง้า ูเหืนคิ้วาเช่นนี้เหืนเคยเห็นที่ไหนมา่?
“เจ้าเป็น?” ความจริงซูเฟยซื่อนึกไม่ออกว่านางเป็นใคร ได้แต่ลองถามู
“บ่าวเป็นหญิงรับใช้คนใหม่ที่นายหญิงเพิ่งส่งมาเพื่อรับใช้คุณหนู เป็นบุตราของหลินมามาเจ้าค่ะ” หยานเอ๋อร์เรียนรู้จากบทเรียนของอาจูแ้ นางแสดงความเคารพต่อซูเฟยซื่อมาก
แต่ซูเฟยซื่อมองออกว่าหยานเอ๋อร์เพียงเคารพอย่างผิวเผิน ใน้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความูู
ที่แท้เป็นบุตราของหลินมามา มิน่านางถึงรู้สึกคุ้นา
หลินมามาและหลิวมามาเป็นคนสนิทที่มีประสิทธิภาพที่สุดของนายหญิงแซ่หลี่ นี้หลิวมามาูลงโทษ แซ่หลี่ก็จัดบุตราของหลินมามาไว้ข้างกายนางแทน
ความายในาทำแบบนี้ กลัวว่าแม้แต่คนโ่ก็ยังรู้
ซูเฟยซื่อยิ้มทันที “ในเมื่อเป็นแม่ใญ่จัดวาง ถ้าเช่นนั้นาใช้ีิประจำวันของข้าต่อไปนี้ก็ให้เป็นธุระของเจ้าแ้”
“คุณหนูสามเข้มงวดมากไปแ้ นายหญิงกับคุณหนูอื่นๆ สามคนกำลังจะไปวัดจิ้งหมิ่นชมบุปผาวันนี้ นายหญิงชวนท่านไปด้วยกัน บ่าวั้ใจว่าจะแต่งัหวีผมให้ท่านเจ้าค่ะ” หยานเอ๋อร์เห็นท่าทีซูเฟยซื่อไม่เลว หายใจโล่งอกไม่ได้
ชมดอกไม้? ั้แต่ไหนแต่ไรเื่ดีๆ แบบนี้ไม่ได้มีส่วนของนางด้วย ครั้งนี้แม่ใญ่จงใจเรียกนางไป เกรงว่าเป็นงานเลี้ยงที่ประตูหงเหมินแ้[1]
“ทราบแ้” ซูเฟยซื่อเดินไปอย่างว่าง่ายถึง้ากระจกทองเหลืองแ้นั่งลง
หยานเอ๋อร์รีบก้าวไปข้าง้าช่วยสางผมให้ ยังไม่ลืมที่จะแกล้งชมประโยคึ่ “ผมของคุณหนูสามดำเงางามน่าูจริงๆ เจ้าค่ะ”
“งั้นหรือ?” ในเมื่อหยานเอ๋อร์คิดทำทีตีสนิทกับนาง ถ้าเช่นนั้นนางก็ลองพูดคุยกับารับใช้นางนีู้ “ผมข้านี้ไหนเลยสามารถเปรียบกับพี่ใญ่ได้”
“นั่นสิเจ้าคะ คุณหนูใญ่นี้เกือบได้เป็นฮองเฮาแ้ ้าไ่ใช่...” หยานเอ๋อร์พบว่าตนเพลั้งปากอย่างรวดเ็ รีบหุบปากลง
ซูจิ้งโหยวจะเป็นฮองเฮาแ้?
นางเพิ่งเสียีิ พวกเขาก็แทบทนรอไม่ไหวขนาดนั้นเลยหรือ?
ซูเฟยซื่อเพียงรู้สึกราวกับทั้งร่างูเพลิงโกรธโทสะเผาไหม้ลุกโชน แค้นจนอยากพุ่งเข้าไปในพระราชวังเพื่อฆ่าสุนัขชายหญิงคู่นี้
แต่นางรู้ว่า้ทน
นางเคยช่วยซ่งหลิงซิวสังหารคนมากมาย จึงทราบว่าาจะเป็นืสังหารที่ยเยี่ยมสักคนหรืออาวุธสังหารคนที่เยี่ยมยชิ้นึ่นั้น ุสำคัญอยู่ที่ความทน
จงเร้นกายอย่างทน เพื่อรอคอยโอกาสที่เาะสม
ดังนั้นนางจึงไม่ได้โกรธแต่กลับหัวเราะ “้าไ่ใช่อะไร?”
วิถีข่าวลือเล็กๆ แบบนี้ เกรงว่ามีเพียง “คนกันเ” เช่นหยานเอ๋อร์คนนี้เ่านั้นที่ได้รู้ นี้นางมีโอกาส ไฉนไม่ใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดเล่าพ
“นี่บ่าวก็ได้ยินมาเพียงข่าวลือ คุณหนูสามฟังหูไว้หูเถิดเจ้าคะ อย่าพูดออกไปเด็ดขาดเชียว” หยานเอ๋อร์กำชับอย่างไม่ไว้ใจ
“เจ้านังหนูนี่ นั่นเป็นพี่ใญ่ข้า ข้ายังสามารถให้ร้ายนางได้หรือ?”
[1] งานเลี้ยงที่ประตูหงเหมิน(鸿门宴) งานเลี้ยงที่มีเลศนัยแอบแฝง มาจากสมัยยุคราชวงศ์ฉินปลาย แย่งชิงความเป็นใญ่ระหว่างฉู่ปาอ๋องกับหลิวปัง
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??