เรื่อง พลิกแค้นสนมคืนบัลลังก์
นี่เขากำลังเตือนนางหรือ?
ที่แท้อวี้เสวียนจีได้ถือเอาาที่จู่ๆ นางเปลี่ยนไปจากเร้นาใอดีตคือาหมดาอดทน เป็นเช่นี้ก็ดี อย่างน้อยสามารถหลอกสายตาเขาผ่านไปได้
“าหมายเจ้าหมายึว่าให้ข้าอ่อน้ให้พวกมันหรือ?” ซูเฟยซื่อถามกลับด้วย้ำเสียงจริงจัง
“ช่างโง่เง่าไม่มีใครเิ” อวี้เสวียนจีใช้นิ้วเคาะศีรษะซูเฟยซื่อคราึ่ “ไม่แปลกใว่าทำไมึมิอาจเป็นที่ชื่นชอบซูเต๋อเหยียน”
ไม่คาดคิดว่าอวี้เสวียนจีจะด่าว่านางโง่งม? ซูเฟยซื่ออ้าปากหวอ แต่กลับด่าไม่ออก
อวี้เสวียนจีกำลังชี้แนะเตือนนาง นี่มีาแตกต่างระหว่างคนที่เป็นญาติสนิทกับคนที่ห่างเหิน นางไม่ได้เป็นบุตราแท้ๆ คนะูแซ่หลี่ ไม่ว่าทำอย่างไรก็ไม่อาจได้รับาโปรดปรานจากคนใะูแซ่หลี่ นางทำได้เพียงยึดซูเต๋อเหยียนไว้พึ่งพิงจึงสามารถยืนหยัดอยู่ใจวนอัครมหาเสนาบดีได้
อดีตนางเพียงฟังคำสั่งซ่งหลิงซิวเ่านั้น เพียงเข้าใวิชาสังาผู้คน คนที่ติดตามข้าย่อมเจริญรุ่งเรือง แต่คนที่ขวางทางข้าย่อม้ตาย
ใเมื่อไม่เคยยึดติดพึ่งพิงใครา่อนใอดีต จึงยิ่งไม่มีใครพูดวาจาเช่นี้กับนาง
ใใซูเฟยซื่ออุ่นวาบ “ทำไมพูดแบบี้กับข้า เจ้ากำลังช่วยข้าหรือ?”
“ช่วย?” ประาสังาใตาัสลัวชั่ว้าอวี้เสวียนจีปรากฏใทันใด ืยิ่งบีบคอซูเฟยซื่อแน่นึ้ “ผู้ที่อ่อนแอ้าาช่วยเหลือจากผู้อื่น หากมีวันึ่ที่เจ้าพ่ายแพ้ด้วย้ำืพวกเขา ข้า จะช่วยส่งเสริมแทงอีกดาบเพื่อให้แน่ใว่าเจ้าตายแน่นอน”
ร่ำลือกันว่าอวี้เสวียนจีคุ้มดีคุ้ม้าไม่แน่นอน มีาสุขกับาเข่นฆ่า ดูไปแล้วเป็นจริงเช่นี้
ซูเฟยซื่อกัดฟัน ฝืนเค้นเสียงออกจากลำคอ “ท่านอ๋องเก้าพันปีไม่ได้คิดฆ่าข้าจริง ไย้ข่มขู่กันเช่นี้เล่า”
อวี้เสวียนจีคลายื ยิ้มอย่างเย้ายวนชวนหลงใหลราวกับเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดึ้ “เ้าลาดา ข้ารอดูละครดีๆ เจ้า”
“เจ้ายังเป็นหี้ชีวิตข้าครั้งึ่” ซูเฟยซื่อลอบถอนหายใโล่งอก เมื่อครู่ขอเพียงอวี้เสวียนจีออกแรงอีกสักนิด นางคงเสียชีวิตได้ทันที
“วางแผน้าอะไร?” อวี้เสวียนจีพูดอย่างตรงไปตรงมา
“าใช้ที่ซื่อสัตย์อย่างแท้จริงคนึ่”
ข้างานางจำเป็น้มีคนที่น่าเชื่อถือได้คนึ่เพื่อช่วยนางทำงาน ใจวนอัครมหาเสนาบดีไม่มี นางได้แต่หาคนจากอวี้เสวียนจีแล้ว
“ได้” เสียงพูดจาสิ้นุ อวี้เสวียนจีก็กระโดดออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ซูเฟยซื่อจึงคลายืที่กำแน่นไว้ ืนั้นสั่นเ็น้อย แสดงให้เห็นึาตึงเครียดเจ้า
เดิมทีนางเพียงไม่ได้้าให้อวี้เสวียนจีถูกืสังาซ่งหลิงซิวสังาตายไปอย่างง่ายดายเ่านั้น กลับคิดไม่ึว่าจะดึงดูดาสนใอวี้เสวียนจีเข้าเสียแล้ว
ร่วมวางแผนกับเสือนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ยิ่งัตรายาึ้เช่นกันด้วย ดูไปแล้ววันข้างหน้านาง้ระมัดระวังให้าึ้ใทุกฝีก้าว
“คุณหนูสาม นายหญิงเรียนเชิญท่านเจ้าค่ะ” สักพักหยานเอ๋อร์ก็เดินหน้าเขียวหน้าำเข้ามา ดูลักษณะนางราวกับกำลังข่มขู่ให้หวั่นเกรง
“เกิดเรื่องอะไรึ้?” ซูเฟยซื่อขมวดคิ้วย่นเ็น้อย ช่างเป็นวันที่มีเรื่องยุ่งาจริงๆ
หยานเอ๋อร์ลังเลสักครู่่กล่าวเสียงเบา “เป็นท่านอ๋องเก้าพันปี าต่อสู้ครั้งใญ่เมื่อครู่ต่างเป็นคนท่านอ๋องเก้าพันปีเจ้าค่ะ”
อวี้เสวียนจี? เขาได้รับบาดเจ็บขนาดนั้น เหตุใดยังไม่รีบกลับไป มั่ววุ่นวายอะไรอยู่ที่วัดจิ้งหมิ่นนี่
ซูเฟยซื่อค้อนกะหลับกะเหลือกคราึ่ใใ ให้หยานเอ๋อร์นำทางไป
ได้เห็นทาองครักษ์นับหลาย้ยืนเรียงแถวเรียบ้ แยกซ้ายขวาชัดเจนมาแต่ไกล พวกเขาสวมชุดและหมวกสีำเหืนกันหมด
ประาตาราวกับคบเพลิง รังสีสังาลุกโชน ทว่าสีหน้าไร้อารมณ์ดุจคนตาย
ท่ามกลางทาองครักษ์มีเกี้ยวหลวนขนาดมหึมาหลังึ่จอดไว้ เกี้ยวหลวนใช้สีำเป็นส่วนใญ่ ด้านล่างเป็นัเหินเขี้ยวเล็บสี่เล็บทำจากทองคำแปดแท่ง ัเหินสีหน้าดุ้าน่าั กรงเล็บกางร่ายรำ ท่าทีอหังายากที่จะใช้วาจาพรรณนา!
เบื้องหน้าเกี้ยวหลวนมีหญิงาสามคนที่กำลังคุกเข่าตัวสั่นเทิ้ม จ้องมองคราึ่ ไม่ใช่เป็นแม่ใญ่แซ่หลี่กับคุณหนูทั้งสองะูซูหรือ
ไม่รู้ว่าอวี้เสวียนจีคิดจะเล่นละครอะไรอีก ซูเฟยซื่อรีบก้าวไปข้างหน้า ตรงเข้าไปคารวะหน้าเกี้ยวหลวน “ข้าน้อยซูเฟยซื่อขอคารวะท่านอ๋องเก้าพันปีเจ้าค่ะ”
“วันี้เป็นเกียรติอย่างาจริงๆ ึได้ชื่นชมคุณหนูที่ยังงดงามกว่าบุปผาทั้งสามคน” ้ำเสียงยียวนอวี้เสวียนจีัมา
เขาจงใใช้คำว่าชื่นชม ฟังแล้วดูเป็นายกยอ หากาจริงแล้ว าหมายไม่ได้เป็นเรื่องดี เขาเอาพวกนางสามคนไปเทียบกับาใหอนางโลมที่มอบเป็นรางวัลให้ใครชื่นชมก็ได้
ใบหน้านายหญิงแซ่หลี่กับคุณหนูะูซูทั้งสองพลันซีดขาว แต่กลับไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่แกล้งทำเป็นไม่เข้าใ “ท่านอ๋องเก้าพันปีชมเชยเิไปแล้วเจ้าค่ะ”
อวี้เสวียนจีกินอิ่มแปล้าไปแล้ว จงใมายุ่งเรื่องเยาะเย้ยพวกนางเป็นพิเศษหรือ?
ซูเฟยซื่อเงยหน้าึ้ พบว่าม่านมุกกับผ้าม่านสีำที่ประกอบบนเกี้ยวหลวน ทำให้ไม่สามารถเห็นข้างใได้ชัดเจนจากภายนอก
“ข้าพอดีมีปิ่นมุกบุปผชาติสามัที่คู่ควรกับคุณหนูสามคน เีแ่ึ่ใสามนั้นเป็นสิ่งที่ได้รับพระราชทานจากฮ่องเต้ อีกสองัก็เป็นเฉดสีทั่วไปคล้ายๆ กัน ทำให้ข้ารู้สึกลำบากใไปบ้าง ไม่รู้ว่าควรแบ่งอย่างไรให้ยุติธรรม”
สิ้นุเสียงอวี้เสวียนจี ก็มีคนถือถาดทองเหลืองใบึ่เข้ามาทันที
เพียงเห็นปิ่นมุกบุปผชาติสามัวางเรียงอยู่บนถาด สองัที่อยู่ด้านข้างสามารถพบเห็นได้ทุกที่ แต่ึ่ในั้นที่อยู่ตรงกลางกลับทำด้วยฝีืประณีต แม้แต่พู่สีต่างก็เป็นแก้วเจ็ดสีเ็ๆ ประกอบสำเร็จ ส่องประาสุกใสภายใต้แสงอาทิตย์ ไม่มีสตรีคนใดที่ดูแล้วจะไม่ชอบ
ทันทีที่นายหญิงแซ่หลี่กับคุณหนูะูซูสองคนได้เห็นปิ่นมุกบุปผชาติัที่อยู่ตรงกลางนั้นดวงตาทั้งคู่พวกเขาก็พราวประาวาบวับ
ประาตาที่คิดอยากครอบครองนั้นทำให้ซูเฟยซื่อจู่ๆ ก็เข้าใเจตนาใากระทำครั้งี้อวี้เสวียนจีทันที
อวี้เสวียนจีกำลังทดสอบาสามารถนาง
ถ้านางไม่สามารถแสดงละครฉากี้ให้ดีได้ เกรงว่าละครฉากใญ่ต่อจากี้ กระทั่งบทเริ่มก็ไม่้ใช้แล้ว
ทั้งเป็นาตัดเส้นทางแนวหลังนางด้วย เาะไม่ว่าจะฉวยเอาปิ่นมุกบุปผชาติี้ไว้ได้หรือไม่ วันข้างหน้านางต่างมิอาจผ่านไปได้ด้วยดี
หากได้รับปิ่นมุกบุปผชาติก็เ่ากับเผชิญหน้าเป็นศัตรูกับนายหญิงแซ่หลี่และสตรีสองพี่น้องะูซูอย่างเปิเผย แต่หากไม่ได้รับปิ่นมุกบุปผชาติ ก็เ่ากับนางไร้าสามารถ
กระบวนท่าี้ อวี้เสวียนจีช่างเหี้ยมโหดดีจริงๆ
ไม่รอให้ซูเฟยซื่อคิดตก นายหญิงแซ่หลี่ได้เอ่ยปาก่ “เถียนเอ๋อร์เป็นบุตรีคนเ็ุใคุณหนูสามคนี้ ันั้นให้ปิ่นมุกบุปผชาติที่อยู่ตรงกลางแก่นางดีหรือไหม จะได้ดูยุติธรรม หรือว่าท่านอ๋องเก้าพันปีคิดเห็นอย่างไรเจ้าค่ะ?”
นับว่าเป็นเหตุผลที่ดี พี่าอ่อน้ยอมให้น้องา
ใบรรดาคุณหนูสี่คนะูซู มีเพียงซูจิ้งโหยวคุณหนูใญ่กับซูจิ้งเถียนคุณหนูสี่ที่เป็นบุตราแท้ๆ แม่ใญ่แซ่หลี่ แต่ซูจิ้งเซียงคุณหนูรองเป็นบุตราแม่น้ารอง
เพื่อให้บุตรามีชีวิตาเป็นอยู่ที่ดีแล้ว แม่น้ารองก็ให้ซูจิ้งเซียงติดตามแม่ใญ่แซ่หลี่ ันั้นแม้ซูจิ้งเซียงเป็นบุตราอนุภรรยาเช่นเดียวกับนาง ทว่าสวัสดิากลับดีกว่านางาโข
แต่น่าเสียดายที่มีาแตกต่างระหว่างญาติสนิทกับคนที่สายเลือดห่างไกล ใ่คับขันแซ่หลี่ยังคงคิดเผื่อบุตราตน
“นายหญิงแห่งจวนอัครมหาเสนาบดีฉลาดกว่าข้าอุปราชคิดไว้ เีแ่... เคารพผู้สูงวัยรักผู้เยาว์ เคารพผู้สูงวัยยังอยู่ข้างหน้า ให้ผู้ที่เยาว์กว่าไปแล้ว แล้วผู้ที่โตกว่าจะทำอย่างไร?” อวี้เสวียนจีเล่นปลอกนิ้วทองคำบนนิ้วโป้ง พูดอย่างใเย็น แต่กลับทำเอานางแซ่หลี่ตกใจนเหงื่อเย็นท่วมตัว
วาจาแบบี้เอ่ยออกจากปาก ใครยังกล้ารับตอบได้?
ต่อคำผิดไปชื่อเสียงจวนอัครมหาเสนาบดีก็ถูกทำลายป่นปี้ แต่ถ้ารับคำตอบได้ถูก้ ก็เ่ากับยอมรับว่าตนเองฉลาดกว่าท่านอ๋องเก้าพันปี
ท่านอ๋องเก้าพันปีผู้ี้ึ้ชื่อว่าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น เคยมีนายหญิงขุนนางคนึ่ เาะเคยด่าเขาว่าเป็นขันที เพียงประโยคเดียวก็ถูกถลกหนังทั้งเป็นย่างพร้อมกับหมู ะที่ตายไม่มีเนื้อที่เป็นชิ้นดีสักชิ้น
ภาพที่สยองน่าันั้น ต่อให้แม่ใญ่แซ่หลี่หลับตา ยังสามารถระลึกจดจำได้
แต่ก็มิอาจไม่ตอบรับคำ มิฉะนั้นหากท่านอ๋องเก้าพันปีตั้ง้กล่าวหาว่าลบหลู่ดูถูกเขา พวกนางเองก็รับไม่ไหวเช่นกัน
ี้นายหญิงแซ่หลี่สำนึกเสียใจนแทบพลิกม้วนลำไส้ออกมาหมดแล้วจริงๆ หากรู้แบบี้ ไม่มาชมบุปผชาติใวัดจิ้งหมิ่นเสียก็สิ้นเรื่อง เวลาเช่นี้จะทำเช่นไรดี
“ตามที่หม่อมฉันคิดเห็น ประทานปิ่นมุกบุปผชาติตรงกลางัี้ให้แก่หม่อมฉันเป็นสิ่งที่ยุติธรรมทีุ่เจ้าค่ะ” ซูเฟยซื่อมองเหงื่อเย็นบนหน้าผากนายหญิงแซ่หลี่คราึ่ ก็เอ่ยปากพูดใเวลาที่เหมาะสม
นางรู้มาาแล้ว ปิ่นมุกบุปผชาติัี้ นาง้ชิงมาให้ได้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงจงใรอจนึี้ เพื่อให้แม่ใญ่แซ่หลี่รู้สึกว่าเป็นนางที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้
“อ้อ?” อวี้เสวียนจีจงใลากเสียงยาว คิดฟังว่านางจะกล่าวต่ออย่างไร
พ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??