เรื่อง พลิกแค้นสนมคืนบัลลังก์
ั่พริบา ทุกต่างมองไปนอกสวนบุปผชาติ คิดไปต่างๆ นานาว่าผู้บงการอยู่เื้หลังที่แท้เป็นใครกันแน่
“นำัเข้ามา” อวี้เสวียนจี่าอย่างเฉยเมย ทว่าแววากลับกวาดมองไปยังซูเฟยซื่อดูเหมือนจงใจแ่ไม่ตั้งใจคราึ่
ซูเฟยซื่อขมวดคิ้วน้อยๆ เขามองนางเวลานี้หมายความว่าอย่างไร? หรือว่าเื่นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาง?
ไม่ต้องให้องครักษ์นำทาง ผู้ที่ถูกเรียกว่าเป็นบงการอยู่เื้หลังก็วิ่งอาละวาดสะเปะสะปะเข้ามาคุกเข่าลงต่อหน้าซ่งหลิงซิวและอวี้เสวียนจี “พระอาญาไม่พ้นเกล้า ข้าน้อยขอน้อมบังคมทูลฝ่าพระบาทกับท่านอ๋องเก้าพันปี พ่ะย่ะค่ะ”
“เ้าคือ?” ซ่งหลิงซิวรู้สึกว่าตรงหน้าช่างคุ้นา แ่ั่ะมิอาจจำได้
“ข้าน้อยเป็นชุยเผิงเฉิงบุตรชายของชุยผิงจื้อนายอำเภอ ข้ามามอบัต่อฝ่าพระบาท มือัหารเ่านี้้เป็นข้าน้อยสั่งการเองพ่ะย่ะค่ะ” ชุยเผิงเฉิง่าวาจาด้วยความสยองัทั่วใบหน้า
ซูเฟยซื่อกลับัเกตเห็นว่าแม้ใบหน้าของชุยเผิงเฉิงจะสยองั ทว่าก้นบึ้งดวงากลับนิ่งสงบผิดปกติ เหมือนได้รับคำมั่นสัญญาที่จะไม่ต้องถูกลงพระอาญาปานั้
ไม่ต้องถูกซ่งหลิงซิวตัดสินพระอาญาหรือ? นอกจากซ่งหลิงซิวแล้ว ยังมีใครกล้าให้สัญญาดัง่าได้?
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่ซ่งหลิงซิวจะสั่งการให้มาลอบัหารตนเอง
สลัดทิ้งซ่งหลิงซิว ถ้าเช่นั้ที่มีความเป็นไปได้มากทีุ่คือ... ซูจิ้งโหยว!
หรือว่ามือัหารเ่านี้ต่างเป็นที่ซูจิ้งโหยวสั่งมา? ที่แท้จุดประสงค์ของนางคืออะไร!
บ้าไปแล้วหรือ? ลอบัหารฮ่องเต้ในบ้านของตน
“งั้นหรือ? ถ้าเช่นั้จงบอกข้า ทำไมเ้าถึงต้องการลอบัหารฮ่องเต้?” อวี้เสวียนจีมองชุยเผิงเฉิงจากเื้สูง ทั่วหน้าขบคิดเป็นเวลานาน
ชุยเผิงเฉิงถูกอวี้เสวียนจีถามจนลนลาน แ่ยังยึดสัญญาที่ซูจิ้งโหยวให้ไว้ ไม่ได้เสียศูนย์เกินไป “ข้าน้อยหามือัหารมาไม่ได้ต้องการลอบัหารฮ่องเต้ แ่เป็น... คุณหนูสามของจวนอัครมหาเสนาบดีได้ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับข้าน้อยเป็นการส่วนัมานานแล้ว เวลาั้นางเป็นเพียงสาวน้อยลูกอนุไร้ชื่อเสียงในจวนอัครมหาเสนาบดี ข้าน้อยไม่เคยรังเกียจนาง ไม่คิดว่าหลังจากที่นางประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงในพิธีชุมนุมแข่งม้าก็เกิดความคิดจะปีนป่ายเื้สูงขึ้นไปี ยังลบหลู่ข้าน้อยไม่คู่ควรกับนาง ข้าน้อยโกรธั่ะจึงคิดหามือัหารมาข่มขู่ ข้าน้อยไม่ทราบจริงๆ ว่าวันนี้ฮ่องเต้ทรงเสด็จมายังจวนอัครมหาเสนาบดี ยิ่งไม่รู้ว่าความคิดอ่านของผู้หญิงนี้ช่างหนักหนา คาดไม่ถึงว่าชักนำมือัหารไปหาฝ่าพระบาทที่นั่น ยังแสดงบทบาทช่วยคุ้มกันอารักขาชุดึ่ แทบทำให้รู้สึกสะอิดสะเอียนพ่ะย่ะค่ะ”
วาจารอบนี้ของเขาิุ้ลง จวนอัครมหาเสนาบดีก็ราวกับระเบิด ไม่คาดว่าซูเฟยซื่อถึงกับเป็นแบบนี้ ยังว่าเพื่อได้รับความเห็นอกเห็นใจจนไม่คำนึงถึงอันตรายที่อาจเกิดแก่ฮ่องเต้ จนได้ล่อมือัหารเข้าไปแล้ว
ั่พริบา ซูเฟยซื่อที่เพิ่งเป็นผู้มีคุณูปการยิ่งใหญ่ของจวนอัครมหาเสนาบดีกลายเป็นอาชญากรร้ายความผิดใหญ่หลวงมิอาจให้อภัย
ึ่เดียวที่สะกดความหวาดัให้สงบไว้ก็มีเพียงอวี้เสวียนจีที่ทราบเื่นี้ดีกับซูเฟยซื่อซึ่งเป็นโจทก์
หลังจากที่ซูจิ้งโหยวใช้เุผลว่านางไม่สบายจากไป นางก็รู้สึกว่าเื่นี้มีบางอย่างผิดปกติแล้ว
ประกอบกับการตอบสนองของชุยเผิงเฉิงเมื่อครู่ ทำให้นางเดาได้รางๆ ว่ามือัหารเ่านี้เป็นซูจิ้งโหยวสั่งมา เื่ดำเิมาในรูปแบบนี้ นั่นย่อมอยู่ในความคาดคิดของนาง
แ่ไม่คิดว่าซูจิ้งโหยวแทนที่จะยอมรับผิด กลับย้อนใช้วิธีการเล่นงานตั้งึ่ แ่การเดินทางของซ่งหลิงซิวรอบนี้เป็นซูจิ้งโหยวจัดเตรียม ไม่ได้บอกต่อนอกมา่ทั้งิ้ ดังั้ชุยเผิงเฉิงบอกว่าเขาไม่ได้รู้ว่าซ่งหลิงซิวอยู่ที่นี่เป็นเื่ที่สมเุสมผลด้วย!
ข้อสงสัยเพียงึ่เดียวก็เป็นนางกับชุยเผิงเฉิงไม่เคยเจอกัน ชุยเผิงเฉิงกลับใส่ความว่านางกับเขาได้ตัดสินใจจะใช้ชีวิตร่วมกันเป็นส่วนั หลักฐานคืออะไร?
แ่ไม่ว่าในทีุ่ชุยเผิงเฉิงเอาหลักฐานมาได้หรือไม่ ข่าวนี้ต้องถูกแพร่ไปแน่ๆ ึ่แ่ไปสิบ สิบแ่ไปร้อย เุผลเหมือนกันกับตอนที่นางใส่ร้ายแซ่หลี่ ผู้มักชอบฟังเื่ของอื่น ดังั้หากเื่นี้แพร่ไปุท้ายซูเฟยซื่อคงต้องกลายเป็นนางสารเลวในสายาผู้ไม่ผิดแน่
นอกเสียจากว่า... มีข่าวที่รุนแรงยิ่งกว่าให้ราษฎรไปแพร่ะจาย แ่ยังมีที่ยิ่งระเบิดรุนแรงกว่าเื่ที่คุณหนูสามแห่งจวนอัครมหาเสนาบดีแพศยานอกใจจนนำมาซึ่งการลอบัหารจนเกือบเข้าใจผิดทำร้ายฮ่องเต้ได้ีหรือ?
ดูเหมือนครั้งนี้ซูจิ้งโหยวได้ใช้วิธีกรรมามสนองจัดการั้เอง
“อ้อ? เ้าบอกว่าเ้ากับคุณหนูสามแห่งจวนอัครมหาเสนาบดีได้ตัดสินจะใช้ชีวิตร่วมกันเป็นส่วนั มีหลักฐานไหม?” อวี้เสวียนจี่าอย่างไม่เร่งร้อน
ชุยเผิงเฉิงพยักหน้าทันที “ขอรับ ก็เป็นหยานเอ๋อร์รับใช้ส่วนัของคุณหนูสาม”
ทันทีที่วาจานี้ของเขาพูดไป ซูเฟยซื่อพลันนึกขึ้นได้ทันที ไม่คิดว่าที่นางแซ่หลี่จัดหยานเอ๋อร์ไว้ข้างกายนางจะมีประโยชน์ตอนนี้
แม้จะไม่เคยคาดหวังว่าหยานเอ๋อร์จะซื่อสัตย์ต่อนาง แ่ทั้งถูกทรยศแบบนี้ นางยังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
อวี้เสวียนจีกลับไม่เชื่อว่าเป็นจริง หยักโค้งริมฝีปาก “า ามหยานเอ๋อร์มา”
หยานเอ๋อร์ก็ถูกนำัมาโดยเร็ว นางเหลือบมองซ่งหลิงซิวอย่างเอียงอาย รีบก้าวขึ้นหน้ามาคุกเข่าลง “บ่าวขอกราบน้อมทูลเข้าเฝ้าฝ่าพระบาทเพคะ”
อวี้เสวียนจีย่อมมองถึงจุดประสงค์ของนาง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงเย็น “า ลากลงไปลงทัณฑ์ให้หนักสิบไม้ะดานแล้วค่อยลากกลับมา”
“เอ๋?” หยานเอ๋อร์ยังไม่ทันได้สติ ก็ถูกองครักษ์ลากไปแล้ว ไม่นานเสียงกรีดร้องน่าสมเพชก็ดังามมา
อวี้เสวียนจีกลับบิดองุ่นกินลูกึ่ ่าขึ้นราวกับคำพูดของตน้สมด้วยเุผล “บ่าวไพร่นางนี้ไม่รู้จักกฎระเบียบ ข้าอุปราชช่วยอัครมหาเสนาบดีซูอบรมสั่งสอน ท่านไม่ต้องขอบคุณไปหรอก”
ซูเต๋อเหยียนได้ยินเช่นั้ก็แทบอยากะอักเลือดคำโต แม้หยานเอ๋อร์จะมีความผิดที่ว่านางเพียงน้อมคารวะซ่งหลิงซิวแ่ไม่ได้คำนับอวี้เสวียนจี แ่ถึงะั้ มาตีของเขาแล้วยังให้่าขอบคุณ? หนังหน้าของอวี้เสวียนจีจะหนาเกินไปแล้ว!
สถานการณ์ของเขาก็ราวกับพระโพธิสัตว์ดินเหนียวข้ามนที[1] ไหนเลยสนใจดูแลรับใช้ึ่ หากอวี้เสวียนจีอยากตีก็ตีไป
แม้หยานเอ๋อร์จะเป็นรับใช้ึ่ แ่ทั้งนี้ก็เป็นลูกสาวของหลินมามา กึ่งคุณหนูของจวนอัครมหาเสนาบดี ไหนเลยจะรับสิบไม้ะดานใหญ่นี้ไหว ะที่ลากกลับมาีครั้ง ใบหน้าก็ไร้สีเลือดไปแล้ว
ได้บทเรียนเมื่อครู่ ครั้งนี้นางไม่กล้าทำผิดี แม้ความเจ็บปวดที่ก้นจะแล่นแปลบไปถึงขั้วหัวใจ นางก็ยังคงรีบคลานไปน้อมคารวะต่ออวี้เสวียนจี “บ่าว... บ่าวขอน้อมคารวะท่านอ๋องเก้าพันปีเ้าค่ะ”
อวี้เสวียนจีเลิกคิ้วด้วยความพอใจ “ไม้อ่อนย่อมดัดง่าย เา่ะ ข้าอุปราชขอถามเ้า คุณหนูในครอบครัวของเ้าได้ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับอื่นเป็นการส่วนัหรือไม่ และชายหนุ่มที่เป็นรักั้คือผู้ใด?”
หยานเอ๋อร์เห็นเื่นี้ผ่านไปในทีุ่ ก็อดโล่งใจไม่ได้ นางปรายามองซูเฟยซื่อคราึ่ คิดถึงผลประโยชน์ที่ซูจิ้งโหยวให้สัญญากับนาง รีบตัดสินใจอย่างอำมหิตทันที “ตอบวาจาท่านอ๋องเก้าพันปี คุณหนูครอบครัวของบ่าวมีความสัมพันธ์ส่วนักับคุณชายชุย แ่หลังจากคุณหนูกลับมาจากพิธีชุมนุมแข่งม้าก็ไม่สนใจคุณชายชุยี ซ้ำยังบอกว่าคิดเข้าวังเป็นพระชายาเ้าค่ะ”
วาจารอบนี้ของหยานเอ๋อร์เป็นเพียงหลักฐานยืนยันสิ่งที่ชุยเผิงเฉิง่าไปเมื่อครู่ บุตรสาวทั้งสามทำให้เขาผิดหวังอย่างต่อเนื่อง ซูเต๋อเหยียนอดกลั้นโทสะที่ปะทุอยู่เต็มท้อง ลุกขึ้นยืนตบซูเฟยซื่ออย่างโหดเหี้ยมึ่ฉาด “ทำไมข้าให้กำเนิดเ้าที่เป็นบุตรสาวไร้ยางอายึ่แบบนี้ จากนี้ไปจวนอัครมหาเสนาบดีไม่มีความสัมพันธ์กับเ้า เื่วันนี้ ก็ไสหัวไปจากจวนอัครมหาเสนาบดีเสีย”
ซูเฟยซื่อแลบลิ้นเลียเลือดที่มุมปากคราึ่ ลอบหัวเราะเย็นชาในใจ ตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกสาว ซูเต๋อเหยียนทำเป็นก็เพียงวิธีนี้เท่าั้
เห็นเช่นนี้ นางแซ่หลี่ที่นิ่งเงียบมาตลอดรีบก้าวมา “โ้ นายท่านอย่ากริ้วโกรธไปเลย นังหนูนี่ตั้งแ่เด็กก็ไม่ได้ใกล้ชิดท่าน ที่ขาดการควบคุมนิสัยดุร้ายจะเปรียบเทียบกับโหยวเอ๋อร์และเถียนเอ๋อร์ได้อย่างไรเ้าคะ”
……พ
[1] พระโพธิสัตว์ดินเหนียวข้ามนที เป็นสำนวนจีนหมายถึง เอาัเองไม่รอด แล้วจะช่วยผู้อื่นได้อย่างไร พระโพธิสัตว์เป็นผู้ปกปักษ์คุ้มครองมนุษย์ ทว่าหากนำรูปปั้นพระโพธิสัตว์ที่ปั้นจากดินเหนียวมาลอยแม่้ำ ก้อนดินย่อมถูก้ำชะล้างมลายไป แม้จะเป็นพระโพธิสัตว์ก็ยังเอาัไม่รอดเช่นกัน
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??