เรื่อง ลิขิตชะตา นางพญามารข้ามภพ [แปลจบแล้ว]
หลังคลื่นลมบ
เหล่าข้าหลวงใตำหนักเชียนชิวต่างมองหน้ากัน นานแค่ไหนแล้วที่ตำหนักอันเงียบบราวกับตำหนักเย็นแ่ี้ไม่ได้มีเีงโหวกเหวกแบบี้? ช่างหายากจริงๆ ั้ยังสามารถทำให้องค์รัชทายาทและเซ่อเจิ้งอ๋องมาถึงที่นี่ได้
แต่เหตุใดพวกเขาถึงอยากจะร้องไห้กันเล่า?
เหล่าข้าหลวงใตำหนักเชียนชิวดูจะเห็นภาพหัวของตนหลุดจากบ่า และถูกแขวนปะจานไว้หน้าปะตู อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย เหตุาณ์ใวันี้ ทำให้พวกเขาถูกเหมารวมกับองค์ญิใหญ่เป็นที่เรียบ้แล้ว...
ชิงอีหาวหวอด หันไปทางฉู่จื่ออวี้ที่ยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แล้วเลิกคิ้ว “ยังไม่ไปีหรือ?”
ฉู่จื่ออวี้หันมามองนางอย่างพินิจพิจารณา ั้ยังมีทีท่าเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ก็ไม่อาจพูดออกมา เขารู้สึ่าชิงอีเปี่ไปราวกับเป็นคนละคน ไม่สิ...ควรพูดว่ากลับไปเป็นเหมือนัยเด็กเีมาก่า...
“เหตุใดใตำหนักของท่านจึงไม่มีองครักษ์สักคน” ฉู่จื่ออวี้ขมวดคิ้ว พลางหันไปเรียกคนเข้ามาคน “ชิวอวี่ ีเฟิ นับแต่วันี้ไปพวกเจ้าคนคอยอารักขาอยู่ข้างาองค์ญิใหญ่”
“ช้าก่อน ข้าไม่อยากได้เจ้าคนี้...”
“ฉู่ชิงอี!” ฉู่จื่ออวี้ตวาดเีงั ยามี้ฮเฮาู้คงวางแผนที่จะจัดานางแล้ว คราวี้นางจะทำอะไรได้?
“หน้าาน่าเกลียดขนาดี้ เจ้ายังจะกล้าส่งมาที่ตำหนักข้าีหรือ?”
ฉู่จื่ออวี้พูดไม่ออกเหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่คอ ่องครักษ์พากันสะดุ้ง ัยี้หน้าาน่าเกลียดก็ผิดด้วยหรือ?
ดวงาคู่สวยของชิงีวาดามองด้วยแววาเมินเฉย ก่อนจะหยุดอยู่ที่ด้านหลังของเซียวเจวี๋ย ัแย้มยิ้มอย่างมีเลศนัย “ข้าว่าเด็กคนี้หน้าาใช้ได้ ข้าเอาคนี้ก็แล้วกัน...”
ั์าของหลิงเฟิงเบิก้า เมื่อตกเป็นเป้าสายาของุคน ซึ่งัจ้องาี่เาเป็นาเี ชายหนุ่มทำได้เพียงอ้าปากค้าง ก่อนจะใช้นิ้วชี้มาที่จมูกของัเอง
“หุบปากของเจ้าะ ดูแล้วโ่ชะมัด” ท่าทีของชิงอีเปี่เป็นรังเกียจทันที
บรรยากาศที่ดูเงียบบ ัเปี่เป็นตึงเครียด เีงกัดฟันกรอดๆ ที่แม้แต่ฉู่จื่ออวี้ก็ยังรู้สึ่าหากนางไม่ได้มีฐานะเป็นถึงองค์ญิใหญ่ละก็ ป่านี้คงถูกใครตีจนายไปแล้ว!
ทำไมนางถึงได้พูดจาสามหาวเช่นี้?
“เซ่อเจิ้งอ๋อง ข้าอยากจะขอคนของท่าน่ ท่านคงจะไม่เีดายหรอกใช่ไหม?”
เซียวเจวี๋ยหัวเราะอย่างมีเลศนัย หลิงเฟิงที่อยู่ข้างๆ หันไปมองด้วยความรู้สึกปะหม่า ราวกับตนอ่อนแอ น่าสาร และอับจนหนทาง จากั้เขาถึงกับหน้ามืดเพราะเซียวเจวี๋ยพูดว่า “าที่องค์ญิใหญ่สนใจหลิงเฟิง นับเป็นวาสนาของเด็กคนี้ จากี้ข้าจะให้เขาคอยติดามท่าน”
หลิงเฟิงคิดใใจ ่า๋...
ส่งสายาน้อยใจราวกับภรรยาที่ถูกสามีิ้ก็ไม่ปาน!
ฉู่จื่ออวี้มองั้คนสลับไปมา และอยากจะพูดบางิ่ แต่เข้ากลับเลือกที่จะปิดปากเงียบ จนกระทั่งออกมาจากตำหนักเชียนชิว เขาจึงสบโอกาสถาม “ี่เซียวเจวี๋ย ท่านเคยพบกับี่ญิมาก่อนหรือ?”
สีหน้าของเซียวเจวี๋ยที่กำลังเล่นจี้หยกใมือทอปะา ้ยิ้มบางๆ “ไม่เคยพ่ะย่ะค่ะ”
ฉู่จื่ออวี้ยิ่งทวีความสัย หรือว่าเขาจะคิดมากเกินไป เขามักรู้สึ่าบรรยากาศระหว่างเซียวเจวี๋ยและชิงอีั้แปลกๆ
“แต่คำพูดของท่านใคืนี้ คือาผลักนางไปยืนอยู่ปากเหวชัดๆ จากี้ไป ฮองเฮาอสรพิษนั่น้คิดว่านางเป็นพวกเีกับเราแน่ ไม่แน่อาจจะป้ายความผิดเรื่องาายของตู้หมิงเยวี่ยให้นาง”!
หลังพูด ฉู่จื่ออวี้ก็เงยหน้าึ้ เห็นเซียวเจี๋ยวที่มองมาทางตนเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม ั์าลุ่มลึกราวกับว่ามองเห็นิ่ที่เขาคิดอยู่ใใจได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
“องค์รัชทายาททรงเป็นห่วงนางหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
ท่าทีของฉู่จื่ออวี้ราวกับแมวโดนเหยียบที่า โต้กลับว่า “ข้าจะเป็นห่วงนางทำไมกัน”
งั้นหรือ? แต่ตอนที่ท่านได้ยินว่าเกิดเรื่องกับนาง ก็รีบพาคนไปทันที
เซียวเจวี๋ยไม่ได้เย้าแหย่อะไรต่อ แล้วเอ่ยด้วยท่าทีจริงจัง “มีหลิงเฟิงอยู่ด้วย เขาจะคุ้มกันนางได้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ยิ่งไป่าั้ เมื่อครู่องค์รัชทายาทตรัสผิดไปนะพ่ะย่ะค่ะ”
“หืม?”
เซียวเจวี๋ย่า “นางคือว่าที่ชายาเซ่อเจิ้งอ๋อง ถือเป็นพวกเีกับเราอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ฉู่จื่ออวี้ถึงกับชะงักไปชั่วครู่ ราวกับโดนพายุฝนลูกใหญ่ซัดโหมเข้ามาจนมึนงงไปหมด พอได้สติก็รีบเดินามเซียวเจวี๋ยไป “ท่านยอมรับาแต่งงานี้แล้วหรือ? ไม่ ไม่ใช่สิ...ี่เซียวที่ท่านมาคราี้ มิใช่ว่าจะมาปฏิเสธาแต่งงานหรอกหรือ?”
“กระหม่อมบอกเช่นั้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” เซียวเจวี๋ยกะพริบาปริบๆ ใบหน้าหล่อเหลาปะหนึ่งรูปวาดขยับยิ้มอย่างโอบอ้อมอารี ราวกับไม่รู้ว่าชายหนุ่มพูดเรื่องอะไร “พระองค์คงจำผิดแล้วละพ่ะย่ะค่ะ”
...
ฮเฮาู้ที่รอฟังข่าวอยู่ใตำหนักมานาน แต่ก็ไม่เห็นหัซุ่นพาคนกลับมาเีที จนรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี จึงสั่งให้ข้าหลวงใตำหนักไปสืบดู
“ฮองเฮาเกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ พวกหักงกงถูกคนของเซ่อเจิ้งอ๋องคุมัไปที่กรมอาญาแล้วเพคะ!”
“อะไรนะ?” สีหน้าของฮเฮาู้เ้ึ้ “เจ้าเซียวเจวี๋ยไม่ได้เห็นข้าอยู่ใสายาเลยสินะ!”
บรรดาข้าหลวงต่างพากันกลั้นหายใจ กลัวว่าหากพูดอะไรออกไป จะยิ่งเป็นาจุดไฟเผาัเอง
“พวกหักงกงถูกคุมัไปกรมอาญาด้วยเหตุใด?” ฮเฮาู้ถามพลางี่ามอง
“ได้ยิน ได้ยินว่าเกี่ยวกับเรื่องคุณชายตู้เพคะ” นางกำนัลตอบเีงเครือ “เซ่อเจิ้งอ๋องเป็นคนตรัสเองว่าญิสาว ที่ถูกสังา้กับคุณชายตู้ คือนางกำนัลนามว่าเสาเหย้า เมื่อคืนองค์ญิใหญ่ก็ทรงอยู่ใกล้ๆ กับศาลาชุนชิวอาจเห็นเหตุาณ์ั้หมด าที่คืนี้หักงกงพาคนไปที่นั่น เพราะ้าฆ่าปิดปากเพคะ!”
“ฆ่าปิดปากงั้นหรือ? ช่างน่าขันนัก!” ฮเฮาู้เค้นหัวเราะด้วยความโมโห แต่ไม่นานก็บลง “ี่แ้ เมื่อคืนฉู่ชิงี็อยู่ที่นั่น ฮึ...ไหนจะฉู่ชิงอี! ไหนจะเซียวเจวี๋ย! นี่ข้าโดนเจ้าพวกั้เล่นงานหรือนี่!”
“ฮองเฮาเพคะ เดิมทีเซียวเจวี๋ยก็เป็นคนทรยศอยู่แล้ว แต่องค์ญิใหญ่...นางจะกล้าเพียงั้เชียวหรือเพคะ?”
“นางไม่กล้า แต่ฉู่จื่ออวี้ล่ะ? เซียวเจวี๋ยเองก็ไม่กล้าด้วยหรือไง?” ฮเฮาู้ยิ้มอย่างเยือกเย็น “กับเป็นี่น้องสายเลือดเีกันเีจริง พอคับขันก็ดันสามัคคีกันึ้มาเชียว”
“ฮองเฮา า้าหักงกง...หากไปถึงกรมอาญาเช่นี้ คงปริปากพูดเป็นแน่เพคะ”
“หัซุ่นรู้ว่าควรทำเช่นไร หากเขาไม่อยากให้ตระกูล้สิ้นละก็ รีบายแล้วไปเกิดใหม่เร็วๆ ะ” ฮเฮาู้ี่าลงแล้วพูดต่อ “่าไ็าม เพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำอะไรสิ้นคิด ยังไงก็ส่งคนไปเตือนเขาสัก่จะดี่า”
“ฮองเฮา แล้วา้าองค์ญิใหญ่...”
“เฮอะ นางคงคิดว่าถ้าไปเข้าร่วมกับเซียวเจวี๋ยแล้ว ข้าจะทำอะไรนางไม่ได้อย่างั้สินะ? ัหลังแ่ี้ คำพูดของข้าถือเป็นคำขาด! าชายข้า้ไม่ายเปล่า!” ั์าของฮเฮาู้เป็นปะา จู่ๆ ก็คิดอะไรบางอย่างได้ ก่อนจะยิ้มเลศนัย “ะ่าไปแล้ว ใัหลวงยังมีีคนที่เกลียดคู่ี่น้องฉู่ชิงอีอยู่นี่ หากนางรู้ว่าญิชั่วนั่นกับเซียวเจวี๋ยเป็นพวกเีกัน นางคงเป็นคนแรกที่นั่งไม่ติดแน่!”
...
วันต่อมา
หลังจากที่หลิงเฟิงถูก่า๋ของเขา ‘ิ้’ พยายามทำัฮึกเหิมแต่เช้าตรู่ โา ‘จงรักภักดีและมุ่งมั่นใหน้าที่’ คอยคุ้มกันอยู่นอกปะตูตำหนักของชิงอี
จนกระทั่งตะวันสายโด่ง ใที่สุดองค์ญิของตำหนักี้ก็ตื่นบรรทมเีที เถาเซียงและต้านเสวี่ยรีบเข้าไปปรนนิบัติให้นางทันที ้เตรียมเครื่องเสวยเข้าไปถวายด้วย
ระหว่างที่กำลังเสวยอยู่ั้ หลิงเฟิงถูกเรียกเข้าไปใตำหนัก เขายังคิดว่าชิงอีคง้าจะตั้งกฎกับเขา ทว่า ีฝ่ายกลับให้เขาเข้ามายืนอยู่เฉยๆ
หรือว่า ้าให้เขายืนดูนางเสวยพระกระยาา...
ไม่นานนัก ชิงี็กินเสร็จ ต้านเสวี่ยยกชามาถวายเพื่อให้นางจิบล้างปากพ
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ต้านเสวี่ยมักจะรู้สึ่าแววาของชิงอียามมองนางั้ยากจะคาดเดา โเฉพาะรอยยิ้มที่ราวกับเมฆบนท้องฟ้าที่เคลื่อนที่อย่างไร้จุดหมาย จนคาดเดาไม่ได้เลยว่านางกำลังคิดิ่ใดอยู่?
“หากไม่ใช่เพราะเรื่องคืนั้ ข้าก็คงจะไม่รู้ว่าข้างามียอดฝีมืออยู่ด้วย” ทันใดั้ชิงี็เอ่ยึ้ พลางหัวเราะคิกคัก
ต้านเสวี่ยคิดว่านางกำลังพูดถึงเถาเซียงอยู่ จึงตั้งท่าจะยกถ้วยชาออกไป
ทว่า ปะโยคต่อมาของชิงอี ทำให้นางถึงกับัสั่นเทิ้ม และเป็นหลิงเฟิงที่มือไวาไวรับถ้วยชาที่ร่วงเอาไว้ทัน
“ต้านเสวี่ย เจ้าว่าวิทยายุทธ์ของเจ้ากับเถาเซียง เมื่อเทียบกันแล้ว ใครแข็งแกร่ง่ากัน?”
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??