เรื่อง ลิขิตชะตา นางพญามารข้ามภพ [แปลจบแล้ว]
เมื่อเรื่องน้ำมันตะเกียงูเปิดเ ชิงอีก็ูส่งออกจากวังเช่นนี้จะให้ฉู่จื่ออวี้สบายใจได้เยี่ยงไร แถมเขาก็ยิ่งโกรธและไม่เข้าใจาขึ้นไปอีกที่เห็นว่าผู้ติดามนางมีเพียงสามคนกับแมวอีกึ่ตัว
“เ้าพวกสุนัขรับเลี้ยงไม่เชื่องพวกนั้น ูสิว่าข้าจะจัดากับพวกเ้าเยี่ยงไร!”
ชิงอีมองเขาที่โกรธจนส้นเลืปูดอย่างขบขันเล็กน้อย เด็กน้อยนี่ช่างเป็นคนปากแข็งแต่ใจอ่อนเสียจริง
“ูเ้าสิโง่อย่างกับควายจะพาพวกเขาไปให้เป็นภาระทำไมกัน” ชิงอียังคงมีฝีปากร้ายและมักไม่แสดง ‘ความัและความเมตา’ ให้ฉู่จื่ออวี้เห็นเลย แต่ครั้งนี้นางกลับล้วงเอาผ้าเช็ด้ามาซับเหงื่อให้เขา พอซับเรียบร้อยนางก็โยนผ้าเช็ด้าใส่ใมือฉู่จื่ออวี้ด้วยสี้าขยะแขยงทันที “ใช่วงที่พี่ญิเ้าไม่อยู่ ข้าฝากเ้าูแลตำหนักเชียนชิวทุกซอกทุกมุมให้ดีๆ ้่ะ หากหลุดรไปแม้แต่นิดเีเ้าจะ้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เี”
ฉู่จื่ออวี้กำผ้าเช็ด้าไว้แน่นและพยัก้ารับอย่างลืมตัวเพราะหมกมุ่นอยู่กับจินตนาาที่พี่สาวผู้ ‘่าสงา’ ใก่อน้านั้น ชั่วิาที่สติเขากลับคืนมาภายก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไมู่้
ญิสาวคนนี้ปีกกล้าขาแข็งจริงๆ ึได้กล้าบังคับเขาเช่นนี้?!
เขาเลิกคิ้วและจ้องด้วยแววาดุร้าย ทันใดนั้นมือขาวแตะลงบน้าผากเขา แล้วตีเบาๆ อยู่สองทีราวกับปลอบปะโลมสัตว์ตัวน้อยทีู่ททิ้ง
ฉู่จื่ออวี้คิ้วตกและสงบลงปะึ่ท้องนภาอันมืดมัวแปรเปลี่ยนเป็นสดใสทันที
“เชื่อฟังนะ”
ฉู่จื่ออวี้พะงาบๆ ปากและมองตรงชิงอีด้วยแววาที่ซับซ้อน เมื่อชิงอีหันหลังเตรียมจะเิทางต่อเขาจึงคว้าข้อมือนางไว้ก่อนจะปล่อยออกราวกับ้ร้อนพร้อม้าแดงก่ำ
ท่าทางไม่ต่างจากครานั้นที่นางูส่งไปยังเมืองหย่งเย่ซึ่งก่อนที่จะออกจากวังไป นางก็แตะศีรษะเขาแล้วพูดว่าเชื่อฟังนะ
ที่แท้ นางยังจำได้...
ชิงอีหันกลับมามองเขาพร้อมรอยยิ้ม “มีอะไรจะพูดอีกหรือเปล่า?”
ฉู่จื่ออวี้กัดฟันพลางพึมพำด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ท่านเป็นแบบนี้...ก็ดีแล้ว”
“...หืม?”
“ไม่ได้ยินก็ช่างมันเถอะ” ฉู่จื่ออวี้ะทืบเท้าและจ้องนางอย่างโกรธๆ ึค่อยสะบัด้าไปตะโกนเสียงดังกึกก้อง “ิี่!”
คนกลุ่มึ่ปรากฏกายออกมาอย่างว่องไว โดยมีาร่างสูงใหญ่เป็นผู้นำ ซึ่งาคนนั้นเิมายืนอยู่ตรง้าฉู่จื่ออวี้แล้วคุกเข่าลงบนพื้นเพื่อทำาคารวะ “ะหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”
“องค์ญิใหญ่กำลังจะไปวัดตงหวา ข้ามอบหมายให้เ้าเป็นผู้บัญชาานำกองพลไปยี่ิคน เพื่อคุ้มกันองค์ญิใหญ่ให้ดี อย่าปล่อยให้นางได้รับอันตรายเด็ดขาด!”
“พ่ะย่ะค่ะ ะหม่อมน้อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
ชิงอีเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาและไม่โต้แย้งอะไร นางเพียงหันกลับไปขึ้นรถม้า
ฉู่จื่ออวี้มองปะตูวังที่ค่อยๆ ปิ เขายกมือขึ้นมาแตะบนศีรษะตรงที่นางสัมผัสเมื่อครู่เพื่อซึมซับความรู้สึกที่ยังตกค้างนั้น
คล้ายว่า...ได้สู่วัยเด็กอย่างไรอย่างนั้น
หลังจากเสด็จแม่สวรรคต ยามใดที่เขาแอบหนีจากาาผู้คนเพื่อร้องไห้ นางก็มักามมาปลอบเขาเช่นนี้อยู่ร่ำไป
แม้ตอนนั้นนางยังคงเป็นเด็กหยิ่งยโสและ่ายำเกรง ะนั้น นางก็ทำตัวราวกับแม่ไก่แก่ที่คอยปกป้องเขาไว้ข้างหลังเ
ต่อมาเสด็จพ่อส่งนางไปยังเมืองหย่งเย่ก็ทำให้ไม่มีใครยืนปกป้องเขาเช่นนางอีกต่อไป
ฉู่จื่ออวี้หลับาลงครู่ึ่และเมื่อลืมขึ้นมาอีกครั้งเขาก็กลับมาเคร่งขรึมเช่นเดิม แล้วกลับตัว้าเิไปอย่างแน่วแน่ไม่ต่างจากแม่ทัพใหญ่ที่รบทัพจับศึกมานานหลายปีซึ่งเตรียมกลับสู่สมรภูมิอีกครา
ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้ใครพรากสิ่งสำคัญไปอีกเป็นอันขาด!
ไม่มีทางอย่างแน่นอน!
...
ชิงอีจับจ้องปลายนิ้วเรียวงามตนพร้อมยิ้มบางๆ “ช่างเป็นเด็กน้อยที่หลอกง่ายเสียจริง”
เ้าแมวอ้วนหรี่าพลางพึมพำ “ไม่ใช่ว่าท่านเปลี่ยนไปาจนทำให้คนสงสัยหรือ”
“งั้นเ้าจะบอกว่าข้าควรเลียนแบบฉู่ชิงนังคนโง่ใีตนั่นและ้พึ่งจมูกคนอื่นหายใจสินะึจะดี?” ชิงอีหมุนหนวดแมวสามเส้นมันและส่งยิ้มเหี้ยม
เ้าแมวอ้วนกล้าดีอย่างไรมาบอกว่าเธอทำตัวให้คนอื่นสงสัยก็แล้วจะให้นางไปพึ่งจมูกคนอื่นหายใจน่ะหรือ? นางไม่เขวี้ยงรองเท้าเ่าๆ ใส่คนอื่นก็บุญแค่ไหนแล้ว!
“โชคดีที่ตอนเด็กฉู่ชิงอีมีนิสัยโ้อวด นางกลายเป็นคนโง่หลังจากทีู่ส่งไปยังเมืองหย่งเย่ ไม่เช่นนั้นนิสัยคงไม่มีทางเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันโดยไม่มีสาเหตุเช่นนี้” เ้าแมวอ้วนตบปากและหัวเราะแหะๆ แ้ๆ “นั่นก็ไม่ได้่าแปใจอะไร หากเป็นเนื้อแท้เป็นคนโง่บริสุทธิ์จริงๆ ต่อให้มีโอกาสหลังจากที่ายไปก็ไม่มีทางกลายเป็นวิญญาณพยาบาทได้ แถมคงไม่มีความกล้าพอจะฆ่าตู้หมิงเยวี่ยเช่นนั้นได้”
เ้าแมวอ้วนที่กำลังพูดอยู่ไม่ได้ยินเสียงอะไรตอบกลับมาจึงหันไปมองและพบว่ามีใครบางคน็อยหลับไปแล้ว
ชิ ถือว่าสีซอให้ควายฟังก็แล้วกัน!
วัดตงหวาอยู่ห่างจากเมืองหลวงปะมาณยี่ิสามิลี้จึงคาดว่า้ใช้เวลาเกินครึ่งวันกว่าจะไปึที่นั่น ทว่า จากาที่ออกจากวังล่าช้าและเกรงว่าลู่ทางที่รถม้าวิ่งกูห่ายนาย[1]จะเป็นหลุมเป็นบ่อจึงใช้ความเร็วไม่าใาเิทาง
เวลาล่วงเลยมาึพลบค่ำ าเิทางเพิ่งจะไปได้แค่ิลี้
ขบวนรถม้าค่อยๆ หยุดลงข้างทาง ชิวอวี่ส่งลูกน้องไปสำรวจเส้นทางข้าง้าและครู่ต่อา็ได้รับข่าว
“องค์ญิ อีกครู่พระอาทิตย์กำลังจะตกแล้วและเกรงว่าคืนนี้ฝนจะตกลงมา คนเราที่ไปสำรวจทางรายงานว่าหินข้าง้าอาจจะถล่มลงมาได้ บางทีคืนนี้เราอาจจะ้ค้างคืนใที่โล่งแจ้งพ่ะย่ะค่ะ”
“ค้างคืนใที่โล่งแจ้ง? าคืนยุงเยอะขนาดนี้เกิดกัดองค์ญิขึ้นมา เ้ารับผิดชอบได้ไหม?” ก่อนที่ชิงอีจะพูดเป็นต้านเสวี่ยที่บ่นออกา่อน
ชิวอวี่คว่ำปากลง ึจะคิดอยู่แล้วว่าอย่างไรเสียคืนนี้คงไม่สามารถไปึวัดตงหวาได้ หากไม่ตั้งะโจมข้างนอกแล้วจะให้เสกวังขึ้นหรืออย่างไรกัน?
ใรถม้ามีาตอบสนองกลับมา เถาเซียงและต้านเสวี่ยจึงรีบเปิดม่านเให้เห็นใบ้าอันทรงเสน่ห์
ชิวอวี่มองูสาวใช้ทั้งสองช่วยพาองค์ญิผู้งดงามดั่งบุปผาเสด็จลงจากรถม้า ใบ้าเขาก้ม้าลงเพื่อซ่อนาาููเหยียดหยาม
แม้ยามนี้องค์รัชทายาททรงเปลี่ยนทัศนคติต่อพระเชษฐภคินีแล้ว ทว่า ใาาชิวอวี่และคนอื่นๆ นางยังคงเป็นองค์ญิใหญ่ที่พึ่งจมูกผู้อื่นหายใจและไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเหมือนเดิม
ที่เปลี่ยนไปเห็นจะมีเพียงนิสัยโง่เง่าที่กลายเป็นเย่อหยิ่งเ่านั้น
ชิงอีไม่มีสี้ารังเกียจและมองไปรอบๆ ก่อนจะพูดจาค่อนแคะ “ที่รกร้างว่างเปล่าาแจ้งเช่นนี้สามารถเป็นที่พักผ่อนได้ด้วยงั้นหรือ?”
ชิวอวี่เม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไร ส่วนเ่าองคัษ์ด้านหลังต่างบึ้งตึงเช่นกัน กูห่ายนายท่านนี้คิดว่าตนเองยังอยู่ใวังหลวงหรืออย่างไร
“ฝั่งนั้นมีคนสูบบุหรี่อยู่ใช่ไหม? งั้นก็พักที่นั่นก็แล้วกัน”
ชิวอวี่มองามมือชิงอีออกไปไกลๆ ก็เห็นว่ามีควันลอยขึ้นมา เขาผงะไปเล็กน้อย ่าแป เหตุใดเมื่อครู่เขาึไม่เห็นควันที่ลอยขึ้นาันนะ?
“พ่ะย่ะค่ะ องค์ญิเสด็จขึ้นรถม้าเถิด เราจะได้รีบออกเิทางกันพ่ะย่ะค่ะ” ชิวอวี่รีบตอบกลับ หลังจากรอให้กูห่ายนายขึ้นม้าแล้ว เขาก็รีบออกเิทางทันที ไม่ว่าข้าง้าจะหมู่้าหรือวัดร้างก็้หาที่พักให้กูห่ายนายพักไปก่อน
ดวงอาทิตย์สีโลหิตลาลับขอบฟ้า ท้องนภาผันแปรเป็นมืดมิด
ชิวอวี่ที่เงย้ามองท้องฟ้าก็หนาวสั่นอย่างไม่มีเหตุ
ปะึ่ว่าผืนฟ้ากำลังกดทับลงมา ท้องฟ้าวันนี้ช่างูแปปะหลาดจริงๆ ...
ไม่นานนัก หมู่้าึ่ก็ปรากฏตรง้าพวกเขา
ชิวอวี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ใที่สุดก็ึสักที
“องค์ญิ พวกเราเิึที่หมายแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เสียงอืมอันเกียจคร้านชิงอีตอบกลับมาจากรถม้าเพื่อบอกว่านางรับรู้แล้ว คนกลุ่มึ่รีบเิเข้าไปใหมู่้าแต่ยิ่งเิลึกเข้าไปาเ่าไร สี้าปะหลาดใจชิงอวี่ก็ยิ่งชัดาขึ้นเ่านั้น
ทำไมใหมู่้าแห่งนี้ึไม่มีใครอยู่เลยล่ะ?พ
เขารีบสั่งาให้คนไปตรวจสอบรอบๆ และลัพธ์ที่ได้คือทั้งหมู่้าไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเี! ทว่า ที่แปคือปะตู้าทุกหลังเปิด้า แถมมีอาหารร้อนๆ ราวกับเพิ่งปรุงเสร็จใหม่ๆ อยู่ใ้า
ทุกคนจึงไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทา เถาเซียง้าซีดเผื “ไม่มีใครอยู่สักคน? แล้วใครเป็นคนทำอาหารพวกนี้กัน?”
ขณะเีกัน ชิงอีค่อยๆ ลงจากรถม้าแล้วเหลือบมองไปยังหมู่้าที่ว่างเปล่าและเลิกคิ้วขึ้น “โ้ ผู้คนามายขนาดนี้ ช่างมีชีวิตชีวาจริงๆ ...”
*************************
[1] กูห่ายนาย เป็นคำเรียกสตรีใครอบครัวที่ออกเรือนไปแล้ว
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??