เรื่อง ท่านอ๋อง ทรงดุร้ายเกินไปแล้วเพคะ
เวลาี้แสงจันทราสาดส่องลงมา ทำให้ใบหน้าขาวกระจ่างรวมั้ั์ตาสวยคู่ั้สะท้อนประาแวววาว ยามคลี่ยิ้มนางช่างงดงาม สายลมยามค่ำคืนพัดเส้นของนางปลิวไสว อีกั้ยังมีกลิ่นหอมของบุปผาโชยมาเป็ระยะ บรรยากาศเช่นี้ทำให้เสี่ยวกงเจวี๋ยที่อยู่บนัคาพลันลืมทุกคำพูด
ภายภาคหน้าเขาจะแต่งงานกับสตรีเพียงึ่เดียว ทว่าเขารู้สึกโชคดีที่เสด็จพ่อมีสตรีนางอื่น เพราะมีสตรีนางอื่น เขาจึงมีเสด็จี่เช่นี้ นางเป็เสด็จี่ผู้แสนงดงามของเขา
ช่วงเวลาี้พลันมีเีงเล็กแหลมดังลอยมา เดิมทีก่อนที่พระสนมโจวผินท่านี้ทานอาหารจะ้ทำก่อน มีนางกำนัลผู้ึ่ก้าวขึ้นไปด้านหน้า่าหวาดั เนื่องจากวิตกกังวลมากเิไป นางกำนัลผู้ั้จึงทำพระสนมเจ็บหนังศีรษะ นางถูกผลักล้มลงกับพื้น พระสนมมองนางด้วยสายตาโกรธแค้น
“บังอาจ! แม้กระทั่งเจ้าก็ไม่เห็นข้าอยู่ใสายตา่าั้รึ ?”
“เหนียงเหนียงโปรดอภัย เหนียงหนียงโปรดอภัย หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจนะเพคะ”
สาวน้อยใชุดนางกำนัลรีบคุกเข่าโขกศีรษะ่าต่อเนื่อง ศีรษะของนางเริ่มปรากฏรอยเลื่ารวดเร็ว เมื่อเห็นนางกระทำาผิด นางกำนัลอื่นๆ จึงเบนศีรษะหนี่าไม่ได้ ไม่มีใครกล้าออกัขอ้แทนนาง ใวังัแห่งี้ าสงาเห็นอกเห็นใจเป็สิ่งไม่จำเป็ทีุ่
เีงโขกศีรษะยังคงดัง่าต่อเนื่อง วังัที่โดดเดี่ยววังเวงแห่งี้ าทรมานหรือาัหารถือเป็าสุข่าึ่ โจวผินผู้ั้ก้มมองนางกำนัลน้อยที่คลานเข่าอยู่ใต้เท้าของนาง่าหวาดั ดวงตาคู่งามสะท้อนประาเย็นเฉียบ่าประหา นางพลันคลี่ยิ้ม่าเย็นชา
“ยังอ้ำอึ้งอะไรอีก เด็กี้แค่หวียังไม่ได้เื่ จะเก็บืั้สองไปเพื่ออะไร ? ลากออกไปตัดืั้สองทิ้ง”
“เหนียงเหนียงโปรดไว้ีิ ! เหนียงเหนียงโปรดไว้ีิ !!” นางกำนัลน้อยตกใจจนใบหน้าซีดขาว ัสั่นสะท้าน่าไม่ได้
“ไว้ีิ ? เดิมทีวังัแห่งี้เป็สถานที่ิ* หากจะโทษสิ่งใดก็้โทษที่เจ้าเกิดมาโชคร้าย ไม่ได้เกิดมาเป็เจ้านาย” เห็นนางกำนัลน้อยถูกลากออกไปด้วยใบหน้าสิ้นหวัง โจวผินพลันรู้สึกสบายใจขึ้นมาไม่น้อย
เมื่อเห็นเุาณ์ี้ ดวงตาของกงอี่โม่พลันเป็ประาแวววาว นาง้าหาใครสักมาดูแลกงเจวี๋ยอยู่พี นางกำนัลขี้ัผู้ี้จึงเหมาะสม่ายิ่ง เมื่อคิดได้เช่นี้ นางจึงพลิกัทำท่าจะกระโดดลงไป ทว่ากลับถูกกงเจวี๋ยดึงเอาไว้
“เสด็จี่ ท่านจะทำอะไร ?” ั์ตาของเขาสะท้อนประาขาัแกมประหาใจ
กงอี่โม่ดึงืของตนกลับคืน นางกล่าว่าร้อนใจ “ก็้ไปช่วยน่ะสิ”
เสี่ยวกงเจวี๋ยตกตะลึงใทันที เขาคิดว่ากงอี่โม่กำลังใจ่ จึงแสดงท่าทางแปลกประหาพร้อมเ่ปาก่าลังเล
“เสด็จี่ แต่ไหนแต่ไรเจ้านายใวังมีอำนาจตัดสินาเป็าตายของนางกำนัลที่กระทำาผิดอยู่แล้ว าลงโทษรับใช้เป็สิทธิ์ของเจ้านายโดยตรง ท่านยื่นืเ้าไปยุ่งไม่ได้หรอก”
คำพูดประโยคี้เป็คำพูดของเสด็จพ่อใตอนั้ เขาจดจำได้่าดี ทุกต่างเคารพและยำเกรงเสด็จพ่อ ยามเสด็จพ่อเ่วาจา ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้น เพราะเสด็จพ่อเป็เจ้านายเหนือทุก
เดิมทีกงอี่โม่รู้สึกร้อนใจอยากรีบไปช่วยนางกำนัลผู้ั้ ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดประโยคี้แล้ว นางจึงหยุดทุกากระทำ หันมามองเสี่ยวกงเจวี๋ยด้วยสายตาหลากหลายซับซ้อน แต่ไหนแต่ไรนางไม่ใช่แม่พระอยู่แล้ว ทว่าตอนี้นางสงสัยว่าใวังัล้วนเป็เช่นี้หรือเปล่า ขนาดเด็กน้อยยังสามารถยอมรับกฎเกณฑ์เช่นี้ อีกั้ยังมองอยู่ข้างๆ ได้่าเลืเย็น!
ท่ามกลางแสงจันทรา ใบหน้าเล็กๆ ของนางพลันเกร็งขึ้น ท่าทางเข้มงวดเช่นี้ทำให้เสี่ยงกงเจวี๋ยรู้สึกหวาดั เขาไม่กล้าเ่ปากอีก
ัจากั้เพียงไม่นาน กงอี่โม่จึงชี้ไปทางที่นางกำนัลน้อยถูกลากัออกไป นางกล่าวด้วยน้ำเีงราบเรียบ่าช้าๆ “หากกล่าวเช่นี้ เจ้าและข้าก็เป็เจ้านายเช่นกัน”
สายลมโชยผ่านจนชุดของนางปลิวขึ้น กงเจวี๋ยมองเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย่าเลือนราง ทว่าเีงของนางแต่ละคำแต่ละประโยคกลับดังลอยมา่าชัดเจน
“ถ้า่าั้ข้าจะบอกเจ้าเ อำนาจที่ยิ่งใหญ่ทีุ่่าแท้จริงใืของเจ้านายคืออะไร ? มันไม่ใช่าลงโทษ แต่เป็าให้อภัย”
“มีเพียงาได้ครอบครองายิ่งใหญ่โดยไม่หวั่นเกรงจึงจะสามารถให้อภัยผู้อื่น เช่นี้จึงจะเป็ผู้มีอำนาจ่าแท้จริง”
เมื่อกล่าวจบนางจึงพลิกัจากไป โดยไม่ได้สนใจว่าเสี่ยวกงเจวี๋ยที่ยังคงอยู่บนัคาจะรู้สึกตกใจและสับสนมากเพียงใด
ตอนวัยเยาว์ เขาได้รับาอบรมสั่งสอนารู้สำหรับพระโอรสโดยเฉพาะ เขาเห็นเจ้านายลงโทษรับใช้มากมาย อีกั้าลงโทษก็มีหลากหลายนับไม่ถ้วน
ัจากพบเห็นมามากมายแล้ว เขาจึงรู้สึกว่าสิ่งเหล่าี้เป็สิ่งสมควรแล้ว ไม่ได้รู้สึกสงาหรือเห็นใจ ยกั่าเุาณ์ก่อนหน้าี้ หากผู้ที่เ้ามาช่วยเขาไม่ใช่เสด็จี่แต่เป็รับใช้สัก เขาจะรู้สึกขอบคุณแต่ไม่รู้สึกซาบซึ้ง เนื่องจากรับใช้ช่วยเจ้านายเป็สิ่งที่ควรกระทำอยู่แล้ว
ทว่าเวลาี้ เขาได้ยินเีงกรีด้่าทรมานดังลอยมาจากตำแหน่งไม่ไกลนัก ดวงตาสีน้ำหมึกของเด็กน้อยเป็ประาจนน่าตกใจ เขารำพึงกับัเ
“ไม่ใช่าลงโทษ แต่เป็าให้อภัย ?” ให้อภัยเหล่าั้หรือ ?
เมื่อช่วยนางกำนัลน้อยผู้ั้ได้แล้ว อีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งบุญคุณใทันที นางเอาแต่คุกเข่าอยู่กับพื้น ้ไห้โฮด้วยาตกใจ นางรจากครั้งี้ได้แล้ว แต่หากพระสนมรู้เ้า ครั้งหน้าสิ่งที่รอนางอยู่จะไม่ใช่าลงโทษตัดืเหืนครั้งี้อีกแล้ว
กงอี่โม่รู้สึกรำคาญเีง้ไห้ของอีกฝ่าย นางคว้าืนางกำนัลน้อยขึ้นมาขยับเบาๆ “เลิก้ไห้ได้แล้ว ข้าขอถามเจ้า เจ้าอยากมีีิไหม ?”
นางกำนัลมองกงอี่โม่ัน้อยที่สูงเพียงเอวของนาง จากั้จึง้ไห้โฮหนักกว่าเดิม “ข้าอยากมีีิ แต่เหนียงเหนียงไม่มีทางปล่อยข้า่าแน่นอน”
กงอี่โม่รู้สึกรำคาญใจ นางยกืปิดปากอีกฝ่าย เ่ปาก่าหงุดหงิด “อยากมีีิก็หยุด้ไห้เดี๋ยวี้ ที่นี่คือเรือนของหัวหน้านางกำนัล เจ้าเ้าไปขอ้นาง อธิบายเื่ราวให้ชัดเจน จากั้ขอย้ายตนเไปดูแล์หญิงที่ถูกส่งเ้าตำหนักเย็นเมื่อหลายปีก่อน หาก์หญิงเีีิแล้ว เจ้าก็บอกนางว่าเจ้ายินดีเ้าไปเก็บศพของ์หญิงด้วยตนเ นางจะ้ตอบตกลง่าแน่นอน”
สำหรับอื่นั้ต่างมองว่ากงอี่โม่ป่วยด้วยโรคป กอปรกับตอนี้ยังมีสาเุจากกงเจวี๋ยอีก่ึ่ จึงมีหาข้ออ้างไม่ยอมส่งสำรับให้กับนาง เุาณ์ผ่านมาเช่นี้ หากมีรู้ว่า์หญิงพระ์ึ่เีีิเพราะขาดอาหาร พวกเขาเหล่าี้ย่อมมีาผิดด้วยเช่นกัน เวลาี้เกรงว่า์หญิงจะสิ้นใจไปเีแล้ว ตอนี้มีเสนอัยอมเป็แพะรับบาป เหล่าี้้ตอบตกลง่าแน่นอน
“ได้จริงๆ หรือ ?” นางกำนัลน้อยน้ำตาคลอเบ้า นางกะพริบตาพร้อมเ่ถามเีงเบา ขอแค่นางไปอยู่ตำหนักเย็น นางจะสามารถรจากาถูกตัดื พระสนมโจวผินจะยอมปล่อยนางไป่าั้หรือ ?
“ไปเถิด” กงอี่โม่พยักหน้า่าหนักแน่น
เพราะตอนี้ไม่มีหนทางอื่นอีกแล้ว นางกำนัลน้อยจึงไม่กล้าลังเล นางตะลีตะลานวิ่งเ้าไป่ารวดเร็ว กงอี่โม่มองเบื้องัของอีกฝ่าย ถอนหายใจเล็กน้อย พระสนมผู้ถูกลืมึ่ไม่มีทางกล้าขัดใจนางกำนัลที่มีอำนาจอยู่ใื อีกั้เมื่อรู้ว่านางกำนัลน้อยผู้ี้ตั้งใจยอมรับาผิดั้หมดไว้เ อีกฝ่าย้ดีใจ่าแน่นอน ่ด้านกงอี่โม่ั้ แม้ว่านางจะช่วยอื่นได้แล้ว ทว่านางกลับรู้สึกเศร้าสร้อย
เุาณ์เป็ไปตามคาด ัจากได้ยินเื่ราวั้หมดแล้ว กงอี่โม่ที่อยู่บนัคาเห็นหัวหน้านางกำนัลแสดงสีหน้าดีใจ นางรู้ว่าเุาณ์สำเร็จด้วยดี นางจึงรีบไปหากงเจวี๋ย่ารวดเร็ว ตอนี้นางพอมีวิชาติดั ทว่านางกล้าใช้วรยุทธ์อยู่บริเวณรอบนอกเ่าั้ เนื่องจากใพระราชวังมียฝีืมากมาย เวลาี้นางจึงไม่กล้าแสดงัมากนัก เมื่อกลับมาึตำหนักของโจวผินแล้ว นางหยิบอาหารติดืมาด้วย ุ้าจึงกลับมาหากงเจวี๋ย
เมื่อเห็นกงอี่โม่กลับมา เสี่ยวกงเจวี๋ยจึงผ่อนลมหายใจ่าโล่งอก แม้ว่าเสด็จี่จะเก่งกล้าสามารถ ทว่าเขายังคงกังวลว่านางจะเป็อะไรไป ัจากผ่านเุาณ์ถูกทรยศมาหลายครั้งแล้ว ตอนี้เขาจึงเหลือเสด็จี่เพียงเดียวที่เป็ใกล้ชิด
เขาสูดลมหายใจจึงเห็นว่ากงอี่โม่หยิบไก่ย่างมาึ่ั กงเจวี๋ยรู้สึกว่าดวงตาของเขาพร่ามัว ทว่าเขาหิวโซมานานมากแล้วจริงๆพ
“ทานสิ” กงอี่โม่คลี่ยิ้ม นั่งลงข้างาของเขา จากั้จึงฉีกน่องไก่น่องึ่ยื่นให้เขา่าภูมิใจ
เสี่ยวกงเจวี๋ยได้ยินเช่นี้ ดวงตาั้สองข้างพลันเป็ประา เขารีบรับมา่ารวดเร็ว ทว่าเพราะเขาได้รับาอบรมมา่าดีตั้งแต่เด็ก แม้จะหิวโหยเช่นี้ เขายังคงค่อยๆ กัดคำเล็กๆ ีะำ ดวงตาคู่สวยหรี่ลง่ามีาสุข
เขาน่าั เชื่อฟัง อีกั้ยังรู้าเช่นี้ นางคิดภาพไม่ออกจริงๆ ว่าที่มีบุคลิกเช่นี้จะกลายเป็จิตใจวิปริตที่ัหารตาไม่กะพริบใภายภาคหน้าผู้ั้ เวลาี้เขาผอมแห้งจนน่าตกใจ ไม่รู้ว่าถ้าเสด็จแม่ของเขาผู้ั้รู้เ้าจะรู้สึกสงาเขามากเพียงใด
* คำว่า “ิ” เป็คำที่เกิดจากผลงานเื่สั้น “บันทึกประจำวันของบ้า” ประพันธ์โดย “ู่ิ่” คำี้หมายึศีลธรรมจรรยาใยุคศักดินาที่มีาทำร้ายึีิ รวมั้าข่มขู่กดดันผู้อื่น ัคมเช่นี้จึงมีลักษณะเหืนเป็าิ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??