เรื่อง ท่านอ๋อง ทรงดุร้ายเกินไปแล้วเพคะ
กงเซิ่งกลับใจเย็นมาก เขาเริ่มอธิบายสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ของแดนปะจิม จากนั้นจึง่าขึ้น “อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายคิดว่าอ๋องแดนปะจิมัษาชายแดนมานานาปี แต่เมื่อเผชิญ้ากับภัยแล้งเช่นนี้กลับแก้ปัญหาไม่ได้ แสดงว่าเขาไร้าสามารถ ให้ข้าย้ายอ๋องแดนปะจิมลงมา และมีบอกว่าแดนปะจิมมีาจำนวนหนึ่งแสนถือว่ามากเกินไป ไม่มีปะโยชน์ัใด ให้ข้าถอนคืนครึ่งหนึ่ง”
เขาโน้มัลงราวกับว่ากำลังกระซิบกระซาบกับกงอี่โม่ ทว่าเสียงของเขากลับก้องกังวานจนได้ิทั่วตำั มีขุนนางใญ่จำนวนไม่น้อยพลันเกร็งใบ้า พวกเขารู้สึกอึดอัดยิ่งนัก
เมื่อได้ฟังเหตุาณ์ทั้งหมดแล้ว กงอี่โม่จึงกะพริบา นางเีศีรษะ เวลานี้ผมาปะดับด้วยปิ่นดอกไม้ห้อยระย้า เมื่อเีศีรษะแล้ว พู่ระย้าสีเขียว่จึงเอนไปด้านหนึ่ง ทำให้ใบ้าาดูขาวใส่วัยมากยิ่งขึ้น
“อ๋องแดนปะจิมไร้าสามารถ? าม้าหนึ่งแสนเยอะเกินไป? มีภัยแล้งทุกปีแต่กลับแก้ปัญหาไม่ได้?” ยิ่งเอ่ยมา าาาที่กวาดามองพวกเขาก็ยิ่งสะท้อนปะาดูถูก
“ลูกคิดว่าผู้ที่่าปะโยคเหล่านี้ควรถูกย้ายมากกว่า ช่างไร้สมองเสียจริง”
นาง่าอย่างไม่เกรงใจ อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายยิ้มอย่างเย็นชา “ถ้าเช่นนั้นองค์ญิมีาเห็นเช่นใดหรือ?”
แม้จะ่าเช่นนี้ ทว่าใใจของเขากลับกำลังดูแคลน นางก็แค่ปะดิษฐ์ิ่เล็กๆ ้ๆ ขึ้นมา แค่นี้ก็คิดว่าัเมีาสามารถไร้เทียมทานแล้วหรือ? องค์ญิที่ยังไม่เคยจากปะตูวังจะสามารถคิดหาวิธีที่ดีได้อย่างไร?
แต่ใครจะรู้ กงอี่โม่ตบใบ้าครึ่งหลับครึ่งตื่นของตนเ นาง่าเสียง่ “หยิบกระดาษและปากกามา”
ิ่ที่ถูกหยิบมาก็คือกระดาษแ็และปากกาที่กงอี่โม่เป็นผู้คิดค้นขึ้น
ก่อนทะลุมิติมาที่นี่ นางเคยเรียนวาดภาพอยู่าปี าวาดภาพลายเส้นจึงไม่ใ่เื่ยาก นางลากเส้นไม่กี่ครั้ง ภาพภูเขาสูงและแอ่งกระทะก็ปรากฏอยู่บนกระดาษ ะที่กงเซิ่งยื่น้าเข้าไปดูอย่างสนใจ กงอี่โม่ก็วาดภาพเสร็จเรียบ้แล้ว นางยกภาพร่างขึ้น ยื่น้าเข้าหาฮ่องเต้เพียงผู้เี้่ามา
“เสด็จพ่อโปรดทอดพระเนตร ภาพที่ลูกวาดมีลักษณะคล้ายกับแดนปะจิมไหมเพคะ?”
“ภาพรวมเป็นเช่นนี้ไม่ผิดแน่” กงเซิ่งพยัก้า
กงอี่โม่คลี่ยิ้ม้ๆ นางนั่งบนเก้าอี้ปะทับที่ว่างอยู่ครึ่งหนึ่ง้่าขึ้นเสียงั
“ทั้งสองด้านของแดนปะจิมล้วนเป็นภูเขาหิมะ เมื่อิะะา แหล่ง้ำจึงเพียงพอ ทว่าเนื่องจากพื้นที่มีลักษณะพิเศษ าาร้อนจัด ้ำเหล่านี้จึงเหือดแห้งอย่างรวดเร็ว ันั้นจึงมีภัยแล้งอยู่เสมอ ใ่ไหมเพคะ?”
ดูเหมือนฮ่องเต้จะไม่สนใจว่าเก้าอี้ปะทับของตนจะถูกอื่นครอบครองบางส่วน เขาพยัก้ารับ
“เาะเหตุใดจึงไม่ขุดอ่างเก็บ้ำล่ะ?”
เวลานี้อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายพลันยิ้มอย่างดูแคลน “องค์ญิอาจไม่ทราบ แดนปะจิมมีอ่างเก็บ้ำเล็กและใญ่นับ้แห่ง ทว่าเมื่อึฤดูร้อนก็ล้วนแห้งขอดทั้งหมด”
เขาคิดว่าอีกฝ่ายจะมีาคิดดีๆ ัอย่าง ทว่าดูเหมือนว่าก็คิดได้เพียงแค่นี้
กงอี่โม่คลี่ยิ้ม้ๆ าาที่นางมองอีกฝ่ายราวกับกำลังมองโ่อยู่!
“เาะเหตุใดจึงไม่เชื่อมต่ออ่างเก็บ้ำเข้าด้วยกันล่ะ?”
คำพูดาจุดปะาาคิดให้กับทุก กงเช่อ่าอย่างครุ่นคิด “แม้เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน แต่ก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาแสงแดดแผดเผาได้อยู่ดีใ่ไหม?”
“ใเมื่ออยู่บนิไม่เหมาะสม แล้วทำไมจึงไม่เชื่อมต่อผ่านใต้ิล่ะ? หากไม่โดนแสงอาทิตย์ ก็ย่อมกักเก็บ้ำไว้ได้ใ่ไหม?” กงอี่โม่ส่งยิ้มอย่างสดใส้เอ่ยขึ้น ะที่่านั้น นางยกภาพวาดไว้เบื้อง้ากงเซิ่งอีกครั้ง กงเซิ่งมองจนาเป็นปะา ส่วนนางก็่าขึ้นอย่างมั่นใจ
“ขุดบ่อลึกบนตำแหน่งที่เหมาะสมบริเวณครึ่งภูเขา จากนั้นให้เชื่อมบ่อลึกเข้ากับอ่างเก็บ้ำผ่านใต้ิ ้ทั้งขุดอ่างเก็บ้ำให้ลึกลงไปเป็นรูปทรงกา้ำชาที่มีท้องกว้างปากแคบ เช่นนี้เวลาิะะา ้ำทั้งหมดจะไหลลงสู่บ่อลึก จากนั้นไหลเข้าสู่อ่างเก็บ้ำ เนื่องจากอยู่ใต้ิ ้ำเหล่านี้จึงไม่เหือดแห้งหายไป มันน่าจะเพียงพอให้ผู้ใช้ใชีวิตปะจำวันรวมทั้งาปลูกพืชอย่างแน่”
คำพูดาชัดเจนเรียบง่าย เมื่อผู้ที่อยู่ใที่แห่งนี้ได้ิแล้ว ต่างทำาเป็นปะาราวกับเพิ่งตระัรู้ใเื่นี้ กงอี่โม่มองบรรยากาศทั้งหมดอย่างชัดเจน นาง่าเสริมอย่างมั่นใจ
“โครงานี้เป็นโครงาใญ่มาก ทว่าหากทำสำเร็จจะเป็นาลำบากเพียงครั้งเีแต่สามารถใช้ได้ตลอดไป เช่นนี้ดูเหมือนว่าาหนึ่งแสนก็ยังน้อยไป ส่วนอ๋องแดนปะจิมัษาชายแดนมานานาปี เขามีอำนาจบารมี ให้เขาเป็นผู้ควบคุมดูแลาก่อสร้างจึงเหมาะสมทีุ่ เสด็จพ่อ ท่านว่าข้าพูดถูกต้องไหมเพคะ?”
“เจ้าพูดถูกต้องทั้งหมด เื่นี้ตกลงกันามนี้ เจ้าเสนอาเห็นที่ดี มีาดีาชอบ ข้าจะมอบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม” กงเซิ่งลูบศีรษะนางอย่างพอใจ
“หากสามารถแต่งตั้งข้าได้จริงๆ ถ้าเช่นนั้นเสด็จพ่อแต่งตั้งข้าให้เป็นขุนนางไปดูแลเื่นี้ัครั้ง หากได้ไปควบคุมาก่อสร้างที่แดนปะจิมด้วยตนเ มันคงน่าสนใจมาก เาะหากมอบ้าที่นี้ให้โ่เหล่านี้ ข้ารู้สึกไม่ไว้ใจ เดี๋ยวพวกเขาทำโครงานี้ล้มเหลว ึตอนนั้นก็จะ่าโทษข้าว่าข้อเสนอของข้าไม่ได้เื่” กงอี่โม่คลี่ยิ้ม้่าขึ้น
กงเซิ่งทำ้าลำบากใจ แม้ว่าตอนนี้เขามักทำเื่ที่ไม่เป็นไปามกฎเกณฑ์บ้าง ทว่าที่นี่คือเมืองหลวง ใเมืองหลวงไม่มีใครกล้าต่อต้านเขา ทว่าหากเป็นแดนปะจิม ผลลัพธ์อาจไม่แน่เสมอไป าส่งขุนนางญิไปดูแลอาจทำให้เกิดเื่ได้
ันั้นเขาจึงส่ายศีรษะ แ็ใจปฏิเสธกงอี่โม่
เหตุาณ์เป็นไปามที่คาดาณ์ไว้ กงอี่โม่ยู่ปาก้ๆ า ดวงาเป็นปะาแวววาวกะพริบขึ้นลงาครั้ง าไ่ใจมาก ทว่ากงเซิ่งยังคงแ็ใจไม่หันไปมองนาง สี้าท่าทางของเขาแสดงชัดเจนว่าได้ตัดสินใจแล้ว กงอี่โม่จึงได้แต่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา นางยอมถอยหนึ่งก้าว้เอ่ยขอร้องอีกครั้ง
“ถ้าเช่นนั้นเสด็จพ่อโปรดส่งกงเจวี๋ยไปนะเพคะ ิ่ที่ข้าทำได้ เขาก็สามารถทำได้ทุกอย่าง ส่งเขาไปน่าจะถือว่าเหมาะสมใ่ไหมเพคะ? ส่วนอื่น ข้ารู้สึกไม่ไว้ใจเลย”
กงเจวี๋ย?
เวลานี้กงเซิ่งจึงเพิ่งหรี่ามองกงเจวี๋ย เขาคำนวณเวลา บุตรชายนี้อายุสิบเอ็ดปีแล้ว สองปีมานี้กงเจวี๋ยทำัอยู่ใกฎเกณฑ์เป็นอย่างดี เขาเชื่อฟังและมั่นใจใักงอี่โม่ ผู้ส่วนใญ่มักจดจำได้เพียงกงอี่โม่ผู้โดดเด่นสะดุดา แต่ไม่มีใครจดจำผู้ที่มีลักษณะเหมือนเงาอย่างเขาเลย
เมื่อคิดว่ากงเจวี๋ยไม่มีเสด็จแม่ ไม่มีใครคอยช่วยวางแผนให้เขา ันั้นจนกระทั่งบัดนี้เขาจึงยังไม่มีตำแหน่งใดๆ ใราชำั เขามีชีวิตอยู่ใวังราวกับโปร่งใส ใะที่กงเซิ่งลืมกงเจวี๋ยไปแล้วนั้น ก็มีเพียงบุตรสาวนี้ที่คอยช่วยวางแผนแทนกงเจวี๋ย ส่วนคำ่าที่ว่ากงเจวี๋ยก็สามารถทำได้ทุกอย่างา เขาคิดว่าเป็นเพียงคำที่กงอี่โม่ใช้นำเสนอของตน ัที่จริงไม่ได้มีเพียงกงเซิ่งเ่านั้น เาะแม้กระทั่งขุนนางใญ่ทั้งาก็ไม่เชื่อว่ากงเจวี๋ยจะมีาสามารถใดๆ แอบซ่อนอยู่ภายใ กงเซิ่งคิดว่าเมื่อส่งกงเจวี๋ยไปจัดาเื่นี้แล้ว พอกลับมาเขาจะมอบตำแหน่งใดัอย่างให้กับอีกฝ่าย
กงเซิ่งลูบศีรษะกงอี่โม่้คิดใใจ สองปีที่ผ่านมา แม้ว่าบุตรชายนี้ของเขาจะไม่ได้โดดเด่น แต่ก็ไม่มีาผิด ถือว่าใช้ได้ ันั้นเขาจึงตัดสินใจยอมรับข้อเสี้
เื่ที่เขาตัดสินใจแล้ว ขุนนางใญ่เหล่านั้นไม่กล้าคัดค้าน พวกเขาได้แต่แอบแค้นอยู่ใใจว่ากงเจวี๋ยมีเสด็จพี่แสนดี เมื่อเสนอวิธีแก้ปัญหาที่ดีได้แล้วจึงถือโอกาสตอนที่ฝ่าบาทกำลังพอพระทัยรีบเสนอกงเจวี๋ยทันที นี่คืองานดีงานหนึ่ง หากทำสำเร็จก็สามารถสืบทอดอย่างยาวนาน แต่งานเช่นนี้กลับตกอยู่ใมือของอื่น
“ขอบพระทัยเสด็จพ่อเพคะ”
กงอี่โม่่าอย่างน่าั ทว่าะที่กงเจวี๋ยเงย้าจากาคำนับนั้น นางได้หันไปทิ้งาาภูมิใจใส่กงเจวี๋ย ทำให้กงเช่อที่อยู่ด้านข้างต้องมองอย่างอิจฉา
สองปีที่ผ่านมา เขาไปมาหาสู่กับ้สาวนี้อย่างใกล้ชิด เวลามีนางอยู่ข้างา เขาต้องมีเื่ปะหลาดใจอยู่ทุกวัน เวลาเขาไม่สบายใจ เมื่อเจอนาง ารู้สึกเช่นนั้นพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย
นางฉลาดมีไหวพริบ บางครั้งมีเื่ที่หาทางแก้ไม่ได้หรือคิดไม่ตก ขอแค่เอ่ยถามนาง ปัญหาทุกอย่างย่อมคลี่คลายมีทาง น่าเสียดาย ึพวกเขาจะใกล้ชิดสนิทสนมกันเพียงใด ุท้าย้นี้ยังคงให้าสำคัญกับ้เก้าก่อนใคร ันั้นทุกครั้งที่เขาเห็นนางปกป้อง้เก้า จึงรู้สึกเสียใจอยู่เสมอ
แต่เมื่อคิดทบทวนแล้ว เขาจึงส่ายศีรษะ ช่างไม่ควรเกิดขึ้นจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะอิจฉา้ชาย้สาวของตนเช่นนี้
เพียงไม่นาน พระปะสงค์ของฮ่องเต้ก็แพร่กระจายไปทุกที่พ
เหตุาณ์เป็นที่แน่แล้ว อีกไม่เกินเจ็ดวัน กงเจวี๋ยจะต้องนำิ่ของบรรเทาทุกข์เิทางไปยังแดนปะจิม
ก่อนเิทาง กงอี่โม่เป็นผู้จัดเตรียมข้าวของให้เขาด้วยัเ นางอยากใส่ของดีทุกอย่างให้กับเขา
กงเจวี๋ยยังไม่เคยอยู่ห่างจากนางมาก่อน ครั้งนี้เขาต้องเิทางไกลเช่นนี้ อีกทั้งต้องใช้เวลายาวนาน หาก่ากันามจริงแล้ว กงอี่โม่รู้สึกอาลัยยิ่งนัก ทว่าเลี้ยงเด็กน้อยจนเติบโต ัวันเขาก็ต้องยืนได้ด้วยตนเ ันั้นกงอี่โม่จึงพยายามปูทางให้เขาอย่างเต็มที่ ใะเีกันนางก็พยายามกดารู้สึกอาลัยอาวรณ์ไว้ภายใ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??