เรื่อง ท่านอ๋อง ทรงดุร้ายเกินไปแล้วเพคะ
“อุ๊ย! แรกข้ายังคิดอยู่เลยว่าใครกันึกับต้องให้พี่ซูออกไปรับด้วยตัวเจึงจะยอมเ้ามา ที่แท้ก็คือองค์หญิงจาวหยางผู้มีชื่อเีงโด่งดังนี่เ”
“อุ๊ยาย! ข้าเกือบลืมไปแล้ว ยังมีองค์หญิงจาวหยางเีที่ไหน ก็แค่กงอี่โม่หญิงสามัญชนเ่านั้นเ” จั่วซีเป็นแรกที่แสดงเจตนาอย่างชัดเจน ะี่กล่าวนั้น นางยังป้องปากหัวเราะ
แค่กงอี่โม่เดินเ้ามา ท่ามกลางเนินเขามวลบุปผา นางสัมผัสได้ึสายาที่เป็นอริจากหญิงาจำนวนไม่น้อย
เวลาี้เมื่อได้ยินคำพูดจั่วซีแล้ว นางก็ไม่ได้โกรธเคืองแต่อย่างใด กงอี่โม่หาที่นั่งด้วยตนเ จากนั้นจึงนั่งลง นางต้องการูว่าหญิงากลุ่มี้จะทำอะไรนางได้บ้าง?
เมื่อเห็นกงอี่โม่ไม่สนใ ผู้ที่ยืนอยู่ข้างๆ นางอย่างซูเมี่ยวหลันจึงร้อนใยิ่งนัก นางกะพริบา้ขมวดคิ้ว จากนั้นจึงเอ่ยเตือน “ซีเอ๋อร์ ผู้มาเยือนย่อมเป็นแขก เจ้าเีมารยาทกับน้องกงได้อย่างไร?”
“นางจะนับเป็นน้องาข้าได้อย่างไร?” ใช่ กงอี่โม่่าจะมีอายุน้อยที่สุดในที่แห่งี้แล้ว จั่วซีอารมณ์เี
เมื่อผู้ได้ยินประโยคี้ ทุกต่างรอการตอบโต้จากกงอี่โม่ แม้กระทั่งซูเมี่ยวหลันก็รอูนางออกอาการ ทว่ากลับเห็นเพียงกงอี่โม่มีท่าทางามปกติราวกับไม่เห็นสายาเหล่านั้น กงอี่โม่กวาดามองเื้หน้า นางเลิกคิ้วข้างหนึ่ง
“ไหนว่าเป็นงานเลี้ยงน้ำชาไม่ใช่หรือ? ว่างล่ะ? สุราล่ะ? ซูเมี่ยวหลัน เจ้าคงไม่ได้เชิญข้ามาเพื่อนั่งเฉยๆ เช่นี้หรอกนะ”
คำพูดนางยังคงไม่มีความเกรงใใดๆ เหมือนเช่นเคย เมื่อได้ยินนางเรียกชื่อตนด้วยน้ำเีงออกคำสั่งอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ซูเมี่ยวหลันจึงนิ่งงันอยู่ที่เดิม เมื่อนางได้สติกลับคืนมา ความัปยศที่เคยได้รับจึงผุดึ้มาีครั้ง ดวงาทั้งคู่นางพลันคลอไปด้วยน้ำา ทว่านางยังคงกัดฟันฝืนยิ้ม้กล่าวึ้
“เป็นเพราะข้าเตรียมการไม่้ น้องกงโปรดรอสักครู่”
ท่าทางซูเมี่ยวหลันทำให้จั่วซีโกรธจัด นางตบโต๊ะเตี้ยเื้หน้าอย่างแรง้กล่าวอย่างเดือดดาล
“เจ้าเป็นใครกัน?! กล้าชี้นิ้วสั่งท่านพี่เช่นี้? ผู้ที่อยู่ในที่แห่งี้ต่างมีศักดิ์สูงกว่าเจ้านับพันเ่า! เจ้าไม่คุกเข่าทำความเคารพก็ช่างเถอะ! แต่เอาแต่คิดึเรื่องกินเรื่องดื่ม? ถุย! ช่างไร้มารยาทไร้การสั่งสอนจริงๆ!”
เีงจั่วซีดังา แม้กระทั่งหญิงาที่กำลังชื่นชมดอกไม้ในระยะไกลก็ทยอยหันศีรษะกลับมา
“จากเีงเอะอะเช่นี้ นาง่าจะมาึแล้ว” ฉินเข่อเอ๋อร์ประคององค์หญิงใหญ่กงหานเยว่ นางขมวดคิ้วเล็กน้อย
“นาง?” กงหานเยว่ชะงักไปั่ครู่ นางหยุดคิดไปสองสามวินาทีจึงเพิ่งเ้าใ จากนั้นจึงเลิกคิ้วเรียวึ้ นัยน์าสะท้อนเจตนา้า
“ในเมื่อเป็นเช่นี้ พวกเราก็เ้าไปูกันเถอะ”
ฉินเข่อเอ๋อร์ถอนหายใอย่างจนปัญญา นางได้แต่รับคำ
“ข้ากล่าวผิดหรือ?” กงอี่โม่เห็นจั่วซีโกรธจัดเช่นี้ ีฝ่ายเหมือนกำลังนิ่งงันอยู่กับที่ แต่แล้วจึงลูบใบหน้าอย่างัพลัน เพียงไม่นานจึงเอ่ยปากยิ้มอย่างไม่ใส่ใ
“เป็นเพราะเจ้าเชิญข้ามาดื่มน้ำชาดื่มสุราอยู่หลายครั้ง ี้เจ้ากลับยืนอยู่ตรงี้ไม่ไปไหน คิดจะูละครต่อไปอย่างนั้นหรือ? เมื่อสักครู่เจ้าบอกว่าจะไปเตรียมการ แล้วทำไมเจ้าต้องยืนทำท่าเหมือนจะร้องไห้อยู่ตรงี้? หรืออยากทำตัว่าสงาจึงกล่าวออกมาอย่างไม่ใส่ใอย่างนั้นหรือ?” นางหันศีรษะไปมองซูเมี่ยวหลันที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ นางจึงแสดงท่าทางรำคาญ!
คำพูดนางทำให้ซูเมี่ยวหลันใบหน้าซีดขาว เจตนาที่นางทำเช่นี้ก็เพื่อให้อื่นช่วยกันรุมรังแกกงอี่โม่ ส่วนนางก็จะะอย่างเพลิดเพลิน ทว่าี้นางูอื่นระบุโดยตรงว่านางแกล้งทำตัว่าสงา คิดจะยืมมือผู้อื่นเล่นงาน ส่วนตัวเกลับะ คำกล่าวเช่นี้จึงแทงใยิ่งนัก
“น้องกง ข้า ข้าเป่า” นางรีบโบกมือ
นางกล่าวไม่ทันจบ ท่าทางเหมือนจะล้มลง จึงู่าสงายิ่งนัก จั่วซีดึงนางไปด้านหลัง จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเีงโกรธจัด
“้าา เจ้าไม่ได้ยินข้าพูดหรืออย่างไร? คุกเข่า! เจ้าต้องคำนับสตรีสูงศักดิ์ทั้งหลายในที่แห่งี้ที่มีบรรดาศักดิ์สูงกว่าเจ้า! นี่คือมารยาทพื้นฐานที่สามัญชนอย่างเจ้าจำเป็นต้องรู้!”
กงอี่โม่ทำท่าราวกับไม่เห็นว่าีฝ่ายกำลังบีบบังคับตนเ นางกวาดามองรอบตัว หญิงาบริเวณี้บ้างก็นั่ง ้า็ื ต่างรวมตัวเป็นกลุ่มเล็กๆ อยู่ด้วยกัน
ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด เมื่อูนางกวาดามองด้วยสายาแฝงไปด้วยยิ้มเช่นี้ ผู้ทั้งหลายต่างรู้สึกเกรงกลัวอยู่ในใ
ในกลุ่มี้มีบางส่วนที่เคยเจอกงอี่โม่ บ้างก็ูในตระกูลกล่าวย้ำหลายครั้งว่าไม่ควรไปหาเรื่องนาง เวลาี้เหล่าี้จึงรู้สึกหวั่นเกรง
“พวกเจ้าก็ต้องการให้ข้าคำนับด้วยหรือ?” นางกล่าวด้วยน้ำเีงราบเรียบ ั้ๆ ที่นางอายุยังน้อย ทว่าการกระทำนางกลับทำให้อื่นตื่นตระหนก
เดิมทีจั่วซีคิดว่าอื่นๆ จะร่วมกดดันกงอี่โม่ด้วยเช่นกัน ทว่าหญิงาเหล่าี้กลับตะลึงกับสายากงอี่โม่ พวกนางจึงไม่กล้าเงยหน้าร่วมประสมโรง
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดพวกเขาจึงกลัวข้า?” เวลาี้กงอี่โม่จึงมองไปที่จั่วซี นางพลันอ้าปากหัวเราะเีงดังสองสามครั้ง
นางนั่งอย่างเกียจคร้าน้ชี้ไปทางผู้ ท่าทางมั่นใ ูไม่แยแสแม้แต่น้อย
จั่วซีงุนงงแล้ว ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด นางพลันรู้สึกว่าาน้อยที่นั่งอยู่เื้หน้ามีท่าทางราวกับท่านปู่ผู้เป็นแม่ทัพตนอย่างบอกไมู่ ดังนั้นนางจึงเอ่ยต่ออย่างมึนงง
“เพราะเหตุใดหรือ?”
กงอี่โม่เงยหน้าึ้ยิ้ม ท่ามกลางแสงตะวัน ยิ้มี้กลับบาดายิ่งนัก
“เพราะว่าที่ข้าสิบขวบ ข้าสังหารนักฆ่าสิบสามต่อหน้าสตรีในวังหลังและขุนนางใหญ่จำนวนา ุู เจ้าเคยสังหารหรือเป่า?”
ะี่กล่าวประโยคสุด้า นางก็ตวัดามองอย่างเย็นชา สายาเช่นี้เต็มไปด้วยไอพิฆาตและความเมินเฉย ทำให้จั่วซีรู้สึกขา่ นางทรุดนั่งอยู่กับพื้นอย่างัพลัน
แม้จะมีท่าทางหวาดกลัวหมดสภาพเช่นี้ ทว่าผู้ที่อยู่ในที่แห่งี้กลับไม่มีใครกล้าหัวเราะเยาะนาง
“ผู้ที่กลัวสามัญชนหนึ่งอย่างเจ้ามีสิทธิ์อะไรให้ข้าต้องคุกเข่าคำนับ?” ส่วนกงอี่โม่ทำเพียงก้มหน้ามองนาง้ยิ้มอย่างราบเรียบ
หลังจากได้ยินคำพูดีฝ่าย เมื่อจั่วซีได้สติกลับคืนมา นางจึงรู้สึกเจ็บใ
ทว่าเมื่อนางเงยหน้าึ้ สายาีฝ่ายกลับเต็มไปด้วยความเวทนา ความเย็นชา และความอาฆาต ั้ๆ ที่เป็นเพียงั่พริบา แต่กลับทำให้จั่วซีรู้สึกราวกับูแหลมคมบางอย่างกรีดเ้าใส่ นางกรีดร้องออกมาหนึ่งคำ
ไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าจะมีที่มีสายา่าสะพรึงึเพียงี้
เมื่อจั่วซีพ่ายไปแล้ว ซูเมี่ยวหลันที่อยู่ด้านหลังนางจึงเริ่มแสดงสีหน้าอาฆาตึ้บ้าง
ะี่อื่นยังไม่ทันสังเกตนั้น นางถลึงาใส่จั่วซีที่ยังตื่นตระหนกอยู่ ช่างไร้ประโยชน์เีจริง ปกติูอวดดีราวกับบ้า ทว่าูีฝ่ายขู่ไม่กี่คำก็ึกับทรุดตัวล้มลงพ
เดิมทีนางคิดจะเล่นงานกงอี่โม่ให้อับอายาหน้า แต่คาดไม่ึว่าแม้กงอี่โม่จะเป็นเพียงสามัญชน แต่กลับเล่นงานไม่ง่ายเลย นางกำหมัดึ้ ูเหมือนว่ากำลังกัดฟันกรอด
กงอี่โม่มองใบหน้าบิดเบี้ยวซูเมี่ยวหลันที่อยู่เื้หน้าตน ช่างสะใยิ่งนัก นางชอบมองที่ไม่ชอบนางแต่กลับไม่สามารถเล่นงานนางได้เช่นี้
“นางไม่มีสิทธิ์! แล้วไม่ทราบว่าข้ามีสิทธิ์หรือไม่?”
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??