เรื่อง มารฟ้าพิชิตสวรรค์
ตอนที่ 165
ในโรงเตี๊ยมเก่าแก่ริมถนนสายหลักของเมืองนาวาพิสุทธิ์ เสียงผู้คนพูดคุย เสียงจอกชนแก้ว และเสียงหัวเาะคละเคล้ากันไป ิเทียนและสหายนั่งอยู่ ณ โต๊ะไม้เนื้อดีที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของอาหารเลิศรส
"ตอนนี้ภารกิจช่วยเหลือเมืองนาวาพิสุทธิ์ก็สำเ็จลุล่วงไปด้วยดี เจ้าวางแผนจะกลับสำนักมังกรศักดิ์สิทธิ์เมื่อใดหรือ" น้ำเสียงของกู่ไท่หยางเจือไปด้วยความสบายๆ หลังผ่านพ้นความตึงเครียดมาหลายวัน
ิเทียนวางจอกสุราบนโต๊ะ เขากวาดมองสหายแต่ละคนด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
"พวกเจ้าเดินทางกลับสำนักไปก่อนเถิด ข้ายังมีธุระส่วนตัวบางอย่างที่จำเป็นต้องจัดการให้เียบร้อยเสียก่อน"
คำกล่าวของิเทียนาัสายฟ้าฟาดลงกลางวงสนทนา บรรยากาศที่เคยครึกครื้นพลันเงียบสงัดลงในทันที ตลอดการเดินทางอันยาวนานที่ผ่านมา พวกเขาคุ้นชินกับการมีิเทียนเป็นผู้นำที่เฉลียวฉลาดและเด็ดเดี่ยว การตัดสินใจของเขามักนำพาพวกเขาไปสู่ความสำเ็จเสมอ แม้ในใจจะเกิดความสงสัย แต่พวกเขาก็เคารพการตัดสินใจของสหายผู้นี้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง
"ไม่ต้องเป็นห่วง" ิเทียนคลี่ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก " หลังข้าสะสางธุระเสร็จสิ้น ข้าจะรีบตามไปอย่างแน่นอน พวกเจ้าเดินทางด้วยความระมัดระวังก็แล้วกัน"
หลังกล่าวลาและให้คำมั่นสัญญา ิเทียนก็ลุกจากโต๊ะ เดินออกจากโรงเตี๊ยมโดยไม่หันหลังกลับ มุ่งหน้าไปยังท่าเือที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนและเือนานาชนิด ณ ที่แห่งนั่น จ้าวอู่เฉิน นายน้อยของตระกูลผู้มั่งคั่ง ยืนรออยู่บนเือสำเภาขนาดใหญ่ ที่ได้รับการปรับแต่งให้ทนทานเป็นพิเศษ เพื่อรับมือกับสัตว์อสูรทะเลที่ดุร้าย ลูกเือร่างกำยำกำลังวุ่นวายกับการขนย้ายสัมภาระและเสบียงลงเือ เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางไกล
"ตอนนี้เือพร้อมแล้ว ท่านจะออกเดินทางตอนนี้เลยหรือไม่" จ้าวอู่เฉินเอ่ยถามด้วยความเคารพ
"อืม" ิเทียนพยักหน้า ดวงตาสีดำสนิททอดมองไปยังผืนน้ำกว้างใหญ่ "จุดหมายปลายทางของเาอยู่ไกลแค่ไหน"
"ประมาณห้าร้อยลี้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ" หากไม่มีพายุหรืออุปสรรคอื่นๆ ก็น่าจะถึงภายในห้าวัน"จ้าวอู่เฉินตอบพลางกางแผนที่ทะเลให้ิเทียนดู
เือสำเภากระทบกับคลื่นเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากท่าเือ ทิ้งภาพเมืองนาวาพิสุทธิ์ที่ค่อยๆ เล็กลงจนกลายเป็นเพียงจุดเล็กๆ บนเส้นขอบฟ้า ิเทียนยืนอยู่บนดาดฟ้าเือ สูดลมทะเลสดชื่นเข้าปอด ดวงตาจับจ้องไปยังผืนน้ำสีครามเบื้องหน้า ความรู้สึกหนักอึ้งในใจยังคงไม่จางหาย
การล่องเือในทะเลที่ดูเหมือนจะสงบราบรื่นในช่วงแรก กลับกลายเป็นอุปสรรคที่น่ารำคาญใจสำหรับิเทียน เมื่อฝูงสัตว์อสูรทะเลนานาชนิดดาหน้าเข้ามาโจมตีเืออย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งปลาหมึกยักษ์ที่มีหนวดขนาดใหญ่ งูทะเลเลื้อยพัน และฝูงปลาเขี้ยวแหลมคม โจมตีด้วยความดุร้าย
ตอนนี้ิเทียนเ้าใแล้ว่าเหตุใดเือของจ้าวอู่เฉินถึงต้องมีผู้บ่มเพาะเซียนระดับกลางถึงห้าคนคอยคุ้มกันการเดินทาง
การโจมตีที่น่าหวาดเสียวที่สุดคือการเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรปูทะเลขนาดมหึมา ลำตัวของมันใหญ่โตาัภูเขาใต้น้ำ ะสีำัแข็งแกร่งาัเกราะั้ยอด ก้ามขนาดใหญ่ของมันสามารถบดขยี้เือสำเภาให้แหลกเป็นผุยผงได้ในพริบตา
ผู้คุ้มกันทั้งห้าคนต่างระดมพลังปราณเข้าต่อสู้อย่างสุดกำลัง แต่ดูเหมือนจะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับะอันแข็งแกร่งของมันได้
ิเทียนอาศัยความว่องไวและสายตาที่เฉียบคม พุ่งตัวลงไปใต้น้ำ แทงดาบไปยังข้อต่อของขาแต่ละข้างอย่างแม่นยำ เพียงไม่นาน ขาทั้งหมดของปูทะเลก็ถูกตัดขาด ทำให้ร่างมหึมาของมันสิ้นฤทธิ์ในทันที
คนงานบนเือต่างช่วยกันนำร่างของสัตว์อสูรปูทะเลขึ้นมาชำแหละด้วยความชำนาญ เปลือกและะของมันเป็นวัสดุล้ำค่า สามารถนำไปหลอมสร้างอาวุธระดับสูง หรือนำไปขายเพื่อแลกเปลี่ยนศิลาปราณได้เป็นจำนวนมาก
"ท่านบอก่าสถานที่ที่เากำลังจะไปเป็นเขตที่มีสัตว์อสูรทะเลชุกชุม ท่านพอจะบอกข้าได้หรือไม่่ามันมีมากเพียงใด" ิเทียนเอ่ยถามขณะมองคนงานทำงานอย่างขะมักเขม้น
จ้าวอู่เฉินถอนหายใจเบาๆ ใบหน้าฉายแววหนักใจ "หลักร้อย หรือบางทีอาจจะมากถึงหลักพัน ข้าเองก็ไม่แน่ใจนัก บริเวณนั้นเป็นที่เลื่องลือในความอันตราย ไม่มีนักเดินทางหรือพ่อค้าคนใดกล้าเฉียดเข้าไปใกล้"
เมื่อได้ยินจำนวนสัตว์อสูรทะเลที่อาจมีมากถึงหลักพัน ิเทียนก็ถึงกับพูดไม่ออกในทันที ความกังวลเิ่มก่อตัวขึ้นในใจ เขาจินตนาการไม่ออกเลย่าจะต้องเผชิญหน้าและฝ่าฝูงสัตว์อสูรจำนวนมหาศาลเหล่านั้นได้อย่างไร
"แล้วพวกเาจะฝ่าพวกมันเข้าไปได้อย่างไร" ิเทียนถามด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความสงสัย
"ตระกูลของข้ามีเครื่องรางพิเศษที่สืบทอดกันมา สามารถขับไล่สัตว์อสูรทะเลออกไปได้ชั่วคราว" จ้าวอู่เฉินตอบพลางหยิบกระดิ่งสีทองขนาดเล็กที่สลักลวดลายประหลาดออกมา "ถึงอย่างนั้น มันก็มีผลเพียงไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น พวกเาต้องรีบฝ่าฝูงสัตว์อสูรทะเล เพื่อเข้าใกล้เกาะให้มากที่สุดก่อนที่พลังของเครื่องรางจะหมดลง"
ิเทียนมองเครื่องรางในมือของจ้าวอู่เฉินด้วยความสนใจ ดวงตาคมกริบวิเคราะห์ลวดลายและพลังปราณที่แผ่ออกมาจากมัน "ข้าสงสัย่าทั้งที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เกาะแห่งนี้ แล้วท่านรู้ได้อย่างไร่าที่นั่นมีหญ้าหยกสวรรค์"
จ้าวอู่เฉินยิ้มเศร้าเล็กน้อย "ข้าไม่ได้เห็นมันด้วยตนเองหรอก ในอดีตพ่อของข้าเคยประสบอุบัติเหตุเืออับปางและไปติดเกาะอยู่ที่นั่น โชคดีที่ตอนนั้นเขามีเครื่องรางขับไล่สัตว์อสูรทะเลติดตัวไปด้วย ก็เลยรอดชีวิตมาได้ อีกทั้งตอนที่ได้รับการช่วยเหลือกลับมา เขายังนำหญ้าหยกสวรรค์ติดตัวมาด้วยถึงสิบต้น หญ้าหยกสวรรค์เหล่านั้นได้กลายเป็นรากฐานความมั่นคงของตระกูลของเามาจนถึงทุกวันนี้"
"สิบต้น? บิดาของท่านโชคดีจริงๆ" ิเทียนอุทานด้วยความตกตะลึง มูลค่าของหญ้าหยกสวรรค์เพียงต้นเดียวก็สูงจนน่าเหลือเชื่อ
"เปล่าเลย" จ้าวอู่เฉินส่ายหน้า "พ่อข้าเล่า่าเกาะนั้นเปรียบเสมือนสวนสมุนไพร หากไม่ถูกสัตว์อสูรทะเลจู่โจมอย่างต่อเนื่อง เขาคงสามารถเก็บสมุนไพรระดับสูงกลับมาได้เป็นกระสอบเลยทีเดียว"
ดวงตาของิเทียนฉายแววโลภในทันที หากเขาสามารถครอบครองสมุนไพรล้ำค่าเหล่านั้นได้ เมื่อรวมกับเหมืองศิลาปราณขนาดใหญ่ที่เมืองเมฆาล่อง พลังบ่มเพาะและความแข็งแกร่งของนิกายิคงจะเติบโตอย่างรวดเ็วาัติดปีก นี่อาจเป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างกองกำลังของเขาให้มั่นคงยิ่งขึ้น
หลายวันผ่านไป ท้องทะเลสีครามเิ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกตอ่อนๆ ในที่สุด ที่เส้นขอบฟ้าก็ปรากฏเค้ารางของเกาะขนาดใหญ่ ปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มและโขดหินสูงชัน ไอทะเลเย็นชื้นพัดมากระทบใบหน้า
จ้าวอู่เฉินนำเครื่องรางกระดิ่งสีทองออกมาจากถุงผ้าไหมอย่างระมัดระวัง รูปลักษณ์ของมันเียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยพลังลึกลับ ทุกครั้งที่จ้าวอู่เฉินสั่นกระดิ่งเบาๆ จะเกิดแรงกระเพื่อมในอากาศและผืนน้ำ สัตว์อสูรทะเลที่อยู่ใกล้เคียงต่างพากันแตกตื่นและ่ายหนีออกห่างจากเืออย่างรวดเ็ว าัหวาดกลัวคลื่นเสียงที่แผ่ออกมา
ิเทียนยืนสังเกตและวิเคราะห์เครื่องรางนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาคมกริบาัจะทะลุเข้าไปถึงแก่นแท้ของมัน เขาพบ่าเครื่องรางนี้สามารถปล่อยคลื่นเสียงที่มีความถี่เฉพาะเจาะจง ซึ่งเป็นคลื่นที่สัตว์อสูรทะเลส่วนใหญ่ไม่ชอบและพยายามหลีกเลี่ยง
"เครื่องรางชิ้นนี้… หากนำไปศึกษาและพัฒนาต่อยอดอย่างเหมาะสม ผลของมันคงไม่จำกัดอยู่แค่การขับไล่สัตว์อสูรทะเลเท่านั้น แต่มันอาจดัดแปลงให้มีผลกับมนุษย์ด้วย" ิเทียนพึมพำกับตัวเอง เขาพยายามจดจำรูปแบบการทำงานของกระดิ่งสีทอง หากนำไปต่อยอดเขามั่นใจ่าผลของมันจะต้องยอดเยี่ยมก่ากระดิ่งของจ้าวอู่เฉินอย่างแน่นอน
สีหน้าของจ้าวอู่เฉินเิ่มปรากฏร่องรอยแห่งความเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด หลังจากการใช้เครื่องรางกระดิ่งทองอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเกือบครึ่งชั่วยาม มือที่ถือกระดิ่งเิ่มสั่นเล็กน้อย
"ข้าคงสามารถพาท่านมาได้เพียงเท่านี้" จ้าวอู่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เิ่มอ่อนแรงลง
จากนั้นเขาก็ยื่นพลุสัญญาณสีแดงสดให้กับิเทียน
"หากท่านต้องการให้ข้ามารับเมื่อใด โปรดจุดพลุสัญญาณนี้ ข้าจะรีบนำเือมารับท่านโดยเ็วที่สุด"
ิเทียนรับพลุสัญญาณมาไว้ในมือ ก่อนจะกล่าวขอบคุณจ้าวอู่เฉินด้วยความสุภาพ ตอนนี้เกาะเขียวชอุ่มอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ลี้เท่านั้น
ปีกเปลวเพลิงที่แซมด้วยประกายสีฟ้าของอัสนีบาตพลันปรากฏขึ้นที่แผ่นหลังของิเทียน สะบัดเพียงครั้งเดียว ร่างของเขาก็พุ่งทะยานไปยังเกาะด้วยความเ็วดุจสายฟ้าฟาด ผืนทะเลเบื้องล่างถูกแหวกออกเป็นทางยาว าัมีมีดขนาดยักษ์กรีดลงไป
ความเจ็บปวดาัถูกเข็มทิ่มแทงนับพันเล่มแล่นปราดไปตามเส้นชีพจรทั่วร่าง ิเทียนกัดฟันกรอด ข่มความทรมานเอาไว้สุดกำลัง สัตว์อสูรทะเลที่อยู่เบื้องล่างสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเหยื่ออันโอชะ พวกมันส่งเสียงร้องก้องกังวานและแหวก่ายเข้ามาหาเขาด้วยความรวดเ็ว
ิเทียนร่ายมือสร้างรูปแบบโล่พลังทรงกลมสีทองขึ้นคุ้มกายตนเอง แสงส่างเจิดจ้าแผ่ออกมาาัดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก การโจมตีของสัตว์อสูรทะเลที่พุ่งเข้ามาาั-่าฝน ไม่สามารถทะลุผ่านเกราะป้องกันนี้ไปได้ ครีบแหลมคม ฟันซี่เล็กใหญ่ และส่วนหัวที่แข็งกระด้าง ปะทะเข้ากับโล่พลังจนเกิดประกายไฟและเสียงดังสนั่นหวั่นไหว สภาพของิเทียนในตอนนี้ไม่ต่างจากการถูกฝูงสัตว์อสูรร้ายรุมทึ้งจากทุกทิศทาง
เค้ารางของเกาะเขียวชอุ่มเิ่มชัดเจนขึ้นเื่อยๆ ในสายตาของิเทียน เพียงไม่กี่ลมหายใจต่อมา เขาก็สามารถร่อนลงบนชายหาดทรายขาวละเอียดได้สำเ็จ ท่าโล่พลังที่คุ้มกายมาตลอดทางก็แตกสลายไปพร้อมกับการลงสู่พื้นดิน
ิเทียนยืนอยู่บนผืนทรายสีขาวละเอียดด้วยสีหน้าที่ซีดเผือดาักระดาษ หยาดเหงื่อเย็นเยียบไหลซึมออกมาตามไรผม สัตว์อสูรทะเลที่ตามเขามาถึงชายฝั่งต่างส่งเสียงกู่ร้องอย่างบ้าคลั่งด้วยความผิดหวัง เมื่อพวกมันไม่สามารถตามเหยื่อขึ้นมาบนบกได้ ฝูงสัตว์อสูรร้ายเหล่านั้นก็ค่อยๆ หันหลัง่ายกลับลงสู่ทะเลลึก
"สัตว์อสูรทะเลพวกนี้มีจำนวนมากมายาัฝูงมดที่แตกรัง โชคดีที่พวกมันส่วนใหญ่ไม่สามารถขึ้นมาบนเกาะได้" ิเทียนพึมพำกับตัวเอง ดวงตาคมกริบกวาดมองไปยังผืนทรายที่เปียกชื้น "แต่ข้าก็ต้องระวังพวกสัตว์อสูรบางประเภทที่เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำด้วยเหมือนกัน ไม่แน่่าพวกมันอาจจะกระจายตัวอยู่ทั่วเกาะก็เป็นได้"
ิเทียนกล่าวพลางก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง สายตาจับจ้องไปยังพุ่มไม้และเงาต่างๆ รอบตัว ก่อนจะค่อยๆ เดินหายเข้าไปท่ามกลางแมกไม้หนาทึบของป่าบนเกาะแห่งนั้น ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าบนผืนทรายที่ถูกคลื่นซัดเข้ามากลบในเวลาต่อมา
-----------------------
ขออนุญาตอธิบายเสริมเกี่ยวกับมีดเหยอันนะครับไม่รู้เคยพูดไปแล้วรึยัง พลังอาจจะดูโกง แต่่าการจะคลื่นที่ผ่านเงาได้มีเงือนไขอยู่คือบริเวณนั้นต้องมีความมืดและเงามากพอ และไม่สามารถใช้ระห่างการต่อสู้ได้เพราะจำเป็นต้องใช้สมาธิจดจ่อไปยังจุดหมายที่ต้องการจะไป อีกอย่างคือมันกินพลังปราณมากครับเลยใช้ได้ไม่กี่ครั้ง
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??