เรื่อง ยอดหมอหญิงเทพโอสถ
กูเฟยเี่ยนไม่ค่อยรู้จักหอการค้าเสวียนคงมากนัก แต่จวินจิ่วเฉินรู้จักดี เราะบัตรดำในมือของเขาออกโดยหอเสวียนซาง
เขาคือแขกคนสำคัญของหอเสวียนซาง ซึ่งในอีกแง่มุมหนึ่ง เขาก็เป็นแขกคนสำคัญของหอการค้าเสวียนคงอีกด้วย
หลังจากที่กูเฟยเี่ยนสอบถามึได้ทราบว่า กิจการที่เกี่ยวข้องกับหอการค้าเสวียนคงมีขอบเขตอิทธิพลกว้างขวางกว่าที่นางจินตนาการเอาไว้ หอการค้าเสวียนคงก่อตั้งโดยหัวหน้าสมาคมกับฟูเหรินของเขา โดยมีต้นกำเนิดกิจการมาจากสุรา ปัจจุบันนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการมากกว่าสิบแห่ง เช่น สมุนไพร เสบียงอาหาร เหมืองแร่ อาวุธยุทโธปกรณ์ ร้านอาหาร ธนาคาร สำนักคุ้มภัย ฯลฯ โดยทุกกิจการต่างก็ประสบผลสำเร็จอย่างยอดเี่ยม แม้กระทั่งมีหลายกิจการที่มีการผูกขาดสมาชิกระดับสูง
ทว่ากลุ่มอำนาจแข็งแกร่งนี้ก่อตั้งมาไม่ึี่สิบปี
หัวหน้าสมาคมหอการค้าเสวียนคงมีตัวตนที่ลึกลับมาก จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดรับรู้นามที่แท้จริงของเขา บุคคลภายในหอการค้าล้วนเรียกเขาว่า “หัวหน้าอาวุโส” ในขณะที่บุคคลภายนอกเรียกเขาว่า “เถ้าแก่เฉิง” มีข่าวลือกันว่าแม้แต่คนใกล้ชิดเขาที่สุดยังไม่รู้ที่มาของเขาเลย สำหรับฟูเหรินหัวหน้าสมาคมนั้นมีตัวตนที่ชัดเจนและภูมิหลังก็ไม่ธรรมดา ฟูเหรินหัวหน้าสมาคมมีนามว่าซ่างกวนเฉิงเอ๋อร์ ซึ่งก็คือบุตรสาวของตระกูลซ่างกวนที่เป็นหนึ่งในสามอำนาจใหญ่ทางตอนใต้
กูเฟยเี่ยนตั้งใจฟัง ทว่าเหมยกงกงอดที่จะพูดไม่ได้ “เตี้ยนเซี่ย เบื้องหลังของหอการค้าเสวียนคงไม่ได้มีเียงตระกูลซ่างกวนใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? เหล่านู๋ได้ยินฝ่าบาทกล่าวว่าการซื้อขายในครั้งนี้มีตระกูลหานแทรกเข้ามาด้วย ซูฟูเหรินกับเถ้าแก่เฉิงมีความสนิทสนมกัน กระทั่ง…กระทั่งมีข่าวลือว่าความสัมพันธ์ระหว่างซูฟูเหรินกับเถ้าแก่เฉิงมีความคลุมเครือ! ”
สำหรับเรื่องนี้ ึแม้ว่าจวินจิ่วเฉินจะมีข้อสงสัย แต่เรื่องที่ยังไม่ได้ตรวจสอบชัดเจน เขาจะไม่แสดงความคิดเห็นออกมา
เหมยกงกงหัวเราะเสียงดังลั่น “ในวันข้างหน้าเมื่อคุณหนูสามตระกูลหานอภิเษกสมรสกับเตี้ยนเซี่ยแล้ว เช่นนั้น…เช่นนั้นก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว!”
สีหน้าของจวินจิ่วเฉินเมินเฉยนัก และึแม้ว่าเขาจะเห็นกูเฟยเี่ยนมองมา เขาก็ยังคงทำตัวเฉยเมยพลางตอบด้วยความเย็นชา “อืม”
กูเฟยเี่ยนละสายตาอย่างรวดเร็วโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ ทว่าภายในใจกลับรู้สึกปลง ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของหานอวี๋เอ๋อร์แข็งแกร่งิๆ ! มิน่าล่ะ เซี่ยเสี่ยวหม่านที่มีวิสัยทัศน์สูงึได้ให้ความสำคัญหานอวี๋เอ๋อร์ นางคิดว่าตนเองต้องหาโอกาสพูดคุยกับถังจิ้ง เื่อไม่ให้ถังจิ้งก้าวไปแตะต้องหอการค้าเสวียนคง
กูเฟยเี่ยนไม่ชอบการพูดคุยเกี่ยวกับตระกูลหานเลยแม้แต่น้อย นางจึงเปลี่ยนหัวข้อพูดคุย “เตี้ยนเซี่ย กรรมการบริหารหอการค้าเสวียนคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเถ้าแก่เฉิงหรือเถ้าแก่เนี้ย [1] เคะ? อำนาจของกรรมการบริหารมีมากเียงใด? ”
แที่จะสนใจประวัติศาสตร์ของหอการค้าเสวียนคง กูเฟยเี่ยนมีความสนใจสถานภาพสมาชิกระดับสูงของหอการค้าเสวียนคงมากกว่า ตัวอย่างเช่น ผู้ดูแลหอการค้ามีใครบ้าง ภูมิหลังความสัมพันธ์ของผู้ดูแลเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง เนื่องจากจุดประสงค์ของการเดินทางในครั้งนี้ไม่ใช่การเจรจาซื้อขายิๆ แต่เป็นการร้องเรียน
การร้องเรียนนั้น ถ้าบอกว่าง่ายก็ง่าย ถ้าบอกว่ายากก็ยาก ถ้าตามหาถูกคนก็จะลงแรงเียงแค่ประโยคสองประโยค แต่ถ้าตามหาผิดคน แม้แต่ถูกสังหารอย่างไรก็หาทราบได้!
ึเเม้ว่าพวกเขาจะต้องการตามหาเถ้าแก่เฉิงตัวจริง ทว่าก็ต้องระมัดระวังตัวจากคนอื่นเช่นกัน!
จวินจิ่วเฉินอธิบาย กูเฟยเี่ยนึได้รู้ว่าทุกกิจการที่หอการค้ามีส่วนเกี่ยวข้องล้วนมีกรรมการบริหารหนึ่งคนคอยควบคุมดูแล ผู้ที่อยู่เหนือกรรมการบริหารยังมีหัวหน้าผู้ดูแลที่คอยจัดการทั้งหมด และผู้ที่อยู่เหนือหัวหน้าผู้ดูแลคือเถ้าแก่เฉิงกับเถ้าแก่เนี้ย สองปีมานี้เถ้าแก่เนี้ยคือผู้ที่ควบคุมงานในหอการค้าซะส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใช่การซื้อขายจำนวนมากหรือความร่วมมือระยะยาว เถ้าแก่เฉิงจะไม่ปรากฏตัวให้เห็น
ดวงตาของกูเฟยเี่ยนทอประกายึความซับซ้อนพลางครุ่นคิดด้วยความจริงจัง
เหมยกงกงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เมื่อชายแดนตะวันออกส่งข่าวมา เหล่านู๋จะไปส่งจดหมายเี่ยมเียนด้วยตนเอง เตี้ยนเซี่ยเสด็จมาเี่ยมเียนึที่ เถ้าแก่เฉิงจะไม่ให้เกียรติได้หรือ? ”
จวินจิ่วเฉินยังไม่ทันได้เอ่ย กูเฟยเี่ยนก็ห้ามไว้ทันที “ไม่ได้เด็ดขาด! ”
ึแม้ว่ากูเฟยเี่ยนกล่าวกับเทียนอู่ฮ่องเต้เอาไว้ว่านางจะมาซื้อซานชีในฐานะของศาสตราจารย์แพทย์แห่งห้องยาสำนักหมอหลวง ทว่าจะซื้ออย่างไรนั้นเป็นเรื่องที่ทำสำคัญมาก
ซื้ออย่างเปิดเผยก็คือซื้อ ซื้ออย่างลับๆ ก็คือซื้อ ซื้อด้วยตัวคนเดียวก็คือซื้อ รวมกลุ่มกันซื้อก็คือซื้อ ซื้อก่อนค่อยเปิดเผยตัวตนก็คือซื้อ เปิดเผยตัวตนก่อนค่อยซื้อก็คือซื้อ! และควรที่จะเปิดเผยตัวตนอย่างไรก็ต้องพิจารณาให้ดี!
ต้องทราบเอาไว้ว่าพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเถ้าแก่เฉิง! ไม่ว่าเถ้าแก่เฉิงจะมีภูมิหลังเช่นไรและมีอุปนิสัยอย่างไร การที่เขาสามารถทำให้หอการค้าเสวียนคงดำเนินการมาึระดับในปัจจุบันนี้ได้โดยใช้ระยะเวลาเียงแค่สิบปี อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่ผู้ที่สามารถตบตาได้อย่างง่ายดาย
ถ้าเถ้าแก่เฉิงทราบว่าพวกเขาส่งเสริมให้ใต้เท้าหนานกงซื้อซานชีเหล่านั้นแล้วค่อยมาร้องเรียนทีหลัง อาจจะเกิดการขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ [2] !
กูเฟยเี่ยนกระซิบแผ่วเบาด้วยความจริงจัง “เตี้ยนเซี่ย เล่นละครต้องเล่นให้ครบชุด! ทางด้านของชายแดนตะวันออกยังไม่ส่งข่าวมา พวกเรายังมีเวลา เรื่องนี้จำเป็นต้องวางแผนระยะยาว! ”
จวินจิ่วเฉินยอมรับในความรอบคอบของกูเฟยเี่ยน เขาพยักหน้าก่อนจะกล่าวว่า “เถ้าแก่เฉิงคือผู้ที่ติดสุรา ถ้าต้องพบเขาอาจไม่ต้องรายงานตัวตนก่อน”
“ติดสุรา? ”
กูเฟยเี่ยนรู้สึกประหลาดใจเหลือเกิน หลังจากที่พิจารณาแล้ว ดวงตาสดใสแวววาวก็ค่อยๆ ปรากฏึรอยยิ้มของความเจ้าเล่ห์ “เตี้ยนเซี่ย หม่อมฉันมีแผนการอันยอดเี่ยมเคะ! ”
กูเฟยเี่ยนรีบกระซิบแผนการของตนเองออกมา จวินจิ่วเฉินพยักหน้าเ็้ครั้งแล้วครั้งเล่า เหมยกงกงพยักหน้าเหมือนโขลกกระเทียม [3] พลางมองท่าทางเจ้าเล่ห์ของกูเฟยเี่ยนด้วยความรู้สึกปลงในใจ นังหนูคนนี้อายุไม่มาก ทว่าเหตุใดจึงเฉลียวฉลาดึเียงนี้? การที่ฝ่าบาทรับสั่งให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสด็จมากับนางเป็นเรื่องที่เฉียบแหลมจริงดังคาดิๆ ! ถ้าไม่ใช่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เกรงว่าจะไม่มีใครในเทียนเหียนที่สามารถโค่นล้มนังหนูคนนี้ได้อีก
หลังจากที่ปรึกษากลยุทธ์เรียบร้อย พวกเขาจึงพักอาศัยอยู่ในโรงเตี้ยมเื่อรอข่าวจากชายแดนตะวันออก
หลังจากที่ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ฉีอวี้ยุติสงคราม สถานการณ์ชายแดนตะวันออกค่อนข้างที่จะคงที่ อาณาจักรว่านจิ้นไม่ได้ส่งทหารมาทำสงคราม แต่ทำสงครามน้ำลายกับเทียนเหียน
ฮ่องเต้แห่งอาณาจักรว่านจิ้นนำเรื่องของทหารที่เสียชีวิตกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามมาขอความเห็นใจจากู้ื่ไม่ขาดสาย อีกทั้งยังเขียนจดหมายวิงวอนให้หัวหน้าอาวุโสแห่งหุบเขาเสินหนงตัดสินความเป็นธรรมแก่ว่านจิ้น! เทียนอู่ฮ่องเต้ยืนหยัดไม่เชื่อว่าไป๋หลี่หมิงชวนถูกลดขั้น ประณามว่านจิ้นว่าซ่อนตัวไป๋หลี่หมิงชวน และหลอกลวงหุบเขาเสินหนง
หากปราศจากสงครามก็ไม่จำเป็นต้องจัดหายาจินชวงอย่างเร่งด่วนแล้ว!
หลายวันต่อมา กูเฟยเี่ยนได้รับข่าวจากแพทย์ทหารชายแดนตะวันออกว่าหอการค้าเสวียนคงส่งมอบซานชีมาให้ครบหมดแล้ว กูเฟยเี่ยนอดทนรอต่อไป รอจนผ่านไปหลายวันเื่อให้แน่ใจว่าซานชีเหล่านั้นถูกทำเป็นยาจินชวงแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเวินจื่อเจี๋ยก็ไม่สามารถขอคืนได้แล้ว นางจึงตัดสินใจเริ่มปฏิบัติการ
เช้าตรู่วันนี้กูเฟยเี่ยนปลอมแปลงเป็นบุรุษก่อนออกจากห้อง หญิงสาวเหมือนกับถังจิ้งตรงที่ึแม้ว่านางจะสวมใส่อาภรณ์ของบุรุษแล้ว ทว่าก็ไม่มีส่วนที่คล้ายคลึงบุรุษเลยแม้แต่น้อย บัดนี้นางดูเหมือนหญิงสาวที่มีบุคลิกผึ่งผายและความองอาจ
จวินจิ่วเฉินเห็นนางแล้ว ึแม้ว่าเขาจะจำนางได้ในชั่วพริบตา ทว่าก็ยังมองด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย กูเฟยเี่ยนหมุนกายไปรอบๆ โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นึความผิดปกติของเขา
“เตี้ยนเซี่ย เป็นอย่างไรบ้าง? ”
จวินจิ่วเฉินได้สติกลับมาครู่หนึ่งแล้ว เขากำลังจะตอบแต่ก็หยุดทันทีที่เห็นเหมยกงกงเดินเข้ามา เหมยกงกงกล่าวชมกูเฟยเี่ยน หญิงสาวจึงหมุนกายรอบๆ อีกครั้งด้วยความสุข
พวกเขาเริ่มออกเดินทางจากเมืองกู่เยวี่ย โดยมุ่งหน้าลงใต้จนข้ามผ่านชายแดนใต้ไป หลังจากที่เดินทางมาหนึ่งชั่วยาม พวกเขาก็มาึเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดทางตอนใต้ของอาณาจักรเสวียนคงอย่างเมืองลั่วเสีย
กิจการใหญ่ของหอการค้าเสวียนคงตั้งอยู่ในเมืองลั่วเสีย…
———————
เชิงอรรถ
[1] เถ้าแก่เนี้ย หมายึ ภรรยาของเถ้าแก่ (เหลาป่านเหนียง)
[2] ขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ หมายึ ต้องการฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบู้ื่แต่กลับาเป็เสียเปรียบแ
[3] พยักหน้าเหมือนโขลกกระเทียม หมายึ พยักหน้ารัวๆ เร็วๆ เื่อแสดงออกึความเ็้
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??