เรื่อง มหาศึกห้าแผ่นดิน
เขาฝอซาน เป็นขุนเขาที่อยู่สูงตระหง่าน อยู่ทางทิศตะวันตกจากเมืองเล่ออัน อาณาจักรมัจฉิมา
บนยอดเขามีวัดฝอซานตั้งอยู่เด่นเป็นสง่า วัดฝอซานนี้ เป็นหนึ่งในวัดอารามหลวงของ อาณาจักรมัจฉิมา จักรพรรดิทุกพระองค์ต้องมาสักการะ พระพุทธรูปแกะสลักขนาดใหญ่ ที่ถูกแกะสลักลงบนยอดเขาฝอซานมานานนับพันปี ดังนั้นจึงมีเหล่าผู้คนมากมาย ต่างเข้ามาเยี่ยมชม และเข้าสักการะ พระพุทธรูปสลักขนาดใหญ่แห่งนี้
ระหว่างทาง ราเชนได้เข้าพักที่โรงเตี้ยม ที่ตีนเขาฝอซาน เพราะ การเดินขึ้นเขาต้องใช้เวลาเกือบสองวัน ทำให้ มีโรงเตี้ยมพักแรม ผุดขึ้นอยู่หลายแห่งบริเวณนี้
ราเชนได้เข้าพักโรงเตี้ยมที่ดูแล้วสะอาด คนไม่พลุกพล่าน ดูจากภายนอกแล้วเงียบสงบดี ราคาที่พักคงไม่แพงมาก ยิ่งตอนนี้เขามีเงินติดตัวไม่มากนัก จึงต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด
ราเชนเดินเข้าไปที่โรงเตี้ยม พบว่า มีแขกมากินอาหารไม่มาก ห้องพักก็ยังคงเหลืออยู่ ราเชนเลือกห้องพักราคา 100 เหรียญทอง เสร็จแล้ว ก็เดินลงมากินอาหารข้างล่าง
“ คุณชายท่านดื่มมากไปแล้ว อย่าลืมนะเจ้าคะ พวกเรามีภารกิจสำคัญอยู่”
หญิงสาวแต่งกายด้วยชุดบุรุษถือกระบี่ กำลังเอ่ยเตือนคุณชายของนาง ที่ดื่มเหล้า ใบหน้าแดงกล่ำอยู่
ราเชนที่นั่งโต๊ะข้างๆ ได้ยินเสียงของสตรีก็อดเหลียวมองไม่ได้ ชายหนุ่มที่ดื่มเหล้าเมามาย นั้นมองจากลักษณะท่าทางแล้ว ไม่น่าจะใช้บุคคลธรรมดา เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ดูมีค่า ถูกตัดเย็บอย่างปราณีต ชาวบ้านธรรมดาไม่น่าจะสวมใส่เสื้อผ้าเหล่านี้ ยิ่งสตรีที่มาด้วย ก็ดูงดงามกว่าหญิงสาวทั่วไป ผิวพรรณก็ดูขาวนวล เสื้อผ้าแม้นจะดูเรียบๆ แต่การตัดเย็บนั้นไม่ธรรมดา การพูดจาก็ช่างนิ่มนวล อ่อนหวาน
ที่สำคัญมีคนคุ้มกันถึง 6 คน มองแค่ดาบที่ถือเอาไว้ น่าจะเป็นองครักษ์จากภายในวังหลวง
แต่ไม่รู้พวกเขาทั้งสองมาที่วัดฝอซานนี่ทำไมกัน ราเชนคิดไปเรื่อย แต่พอบะหมี่เนื้อตุ๋นมาส่ง เขาก็เริ่มตักเข้าปาก ความอร่อยของเนื้อที่ตุ๋นด้วยเครื่องยาจีน ทำให้เขาไม่สนใจสิ่งรอบข้างอีก
“ ข้ารู้อยู่แล้วน่า ข้าไม่เมาหรอก พรุ่งนี้เช้าข้าก็จะไม่สามารถดื่มเหล้าแบบนี้ได้แล้ว ”
“ แต่ว่า ท่านดื่มแบบนี้ เกรงว่า พรุ่งนี้จะไม่มีเรี่ยวแรง จะเดินขึ้นเขานะเจ้าคะ”
“ ข้าไหวอยู่แล้วน่า สุราอะไรของมันวะ รสชาติยังกับน้ำชาบูดเลย อู่เสีย เจ้าเลือกโรงเตี้ยมที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือไง”
“ คุณชาย ที่ข้าเลือกโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยของท่านนะ”
“ มีเจ้าอยู่ด้วย ข้าต้องเกรงกลัวผู้ใดอีก”ชายหนุ่มยังคงยกจอกสุราดื่มลงคอไปอีกจอก แม้นมันจะไม่ได้รสชาติที่ต้องการ แต่ก็ดีกว่าไม่มีจะดื่ม
ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีชายหนุ่มกล้ามใหญ่ ใส่ชุดหนังสัตว์ มีหนวดเครารุงรัง แบกฆ้อนอันใหญ่ สีเงิน เดินเข้ามาภายในโรงเตี๊ยม พร้อมกับลูกน้องอีกสิบกว่าคน เสี่ยวเอ้อ เข้าไปเพื่อจะให้บริการ แต่ถูกชายร่างแบกฆ้อน ใช้มือดันไปที่หน้า จนเสี่ยวเอ้อถึงกับกระเด็นไปติดข้างฝา ผู้คนล้วนแตกตื่น ตกใจ
“ เจ้าคือองค์ชายจางซื่อเทียนใช่หรือไม่”
เด็กหนุ่มที่ดื่มเหล้าอยู่ มองหน้าชายกล้ามใหญ่ แล้วกระดกเหล้าลงคอไปอีกจอก
“ ใช่แล้ว ข้าคือ องค์ชายจางซื่อเทียน องค์ชายสิบสี่แห่งอาณาจักรมัจฉิมา แล้วเจ้าล่ะเป็นใคร ถึงได้รู้จักชื่อของข้า”
องครักษ์ทั้งหก ชักดาบออกมาอย่างพร้อมเพรียง
“ มอบคัมภีร์พระไตรปิฏกออกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้ แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้าทั้งหมด”
ชายหนุ่มกล้ามใหญ่ไม่ยอมบอกชื่อ แต่กลับคิดแย่งชิงคัมภีร์พระไตรปิฏก จากองค์ชายจางซื่อเทียน
“ คัมภีร์พระไตรปีฏก เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสด็จพ่อให้ข้านำไป วัดฝอซาน พวกเจ้ากล้าคิดแย่งชิง อยากตายเจ็ดชั่วโคตรนักหรือไง?” องค์ชายจางซื่อเทียนถึงกับหยุดดื่ม แล้วเอ่ยวาจาเด็ดขาดออกมา
“ ลงมือ” ชายหนุ่มกล้ามใหญ่ถอยหลังไปด้านหลัง ลูกน้องสิบห้าคนยืนเรียงหน้ากระดาน ในมือมีหน้าไม้ธนูง้างรออยู่แล้ว พอได้รับคำสั่ง ก็ยิงใส่ทันที
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!!!!!
ลูกธนูหน้าไม้ พุ่งออกมาราวกับ-่าฝน แต่ทว่า หญิงสาวที่นั่งอยู่กับยกมือขึ้นปล่อยพลังปราณยุทธของนางออกมา เหล่าลูกธนูหน้าไม้ถึงกับหยุดนิ่งอยู่กับที่
หญิงสาวซัดพลังปราณราชันขั้นต้นออกไป ลูกธนูหน้าไม้ พุ่งย้อนกลับไปใส่คนที่ยิงลูกธนูหน้าไม้ตายไปจนหมด
ชายกล้ามใหญ่ โกรธแค้นยิ่งนัก กระโจนพุ่งตัวเข้า แล้วทุบด้วยฆ้อนอันใหญ่ใส่หญิงสาวแต่ ถูกทหารองครักษ์ทั้งหก เข้ามาขัดขวางเอาไว้ แล้วใช้ดาบต้านฆ้อนอันใหญ่
โครม!!
พลังปราณขององครักษ์ทั้งหกรวมกันเหนือกว่า ทำให้ชายกล้ามใหญ่ถึงกับถูกกระแทกถอยหลังกลับไป ชายกล้ามใหญ่ลุกขึ้นได้ พยายามเข้ามาลุยอีกครั้ง
แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีชายอีกสามคนเดินเข้ามาสมทบเป็นชายชราผมขาวถือไม้เท้าหัวกระโหลก กับ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหล่อเหลาถือกระบี่สีแดง ส่วนอีกคนเป็นชายหนุ่มร่างสมส่วนสะพายดาบใหญ่เอาไว้ด้านหลัง เสียงของชายชราผมขาวเอ่ยขึ้น
“ อากุ้ย ถอยไป เจ้าไม่ใช่คู่มือขององครักษ์เสื้อทองพวกนี้”
ชายกล้ามใหญ่เห็นผู้ที่เข้ามาใหม่สามคน ก็รีบทำความเคารพทันที
“ ท่านอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่รอง”
หญิงสาวที่เห็นคนกลุ่มนี้ ก็เดินเข้ามาหน้า 6 องครักษ์ แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียดทันที
“ ที่แท้ เจ้าคือผู้เฒ่ากระโหลกขาว นี่เอง พวกเจ้าคิดจะกบฏอย่างนั้นรึ?”
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เรื่องนี้ เป็นการต่อสู้แย่งชิง ของชาวยุทธ์ หาได้เกี่ยวพันกับราชสำนักไม่”
“ องค์ชายสิบสี่ เป็นลูกของจักรพรรดิ เจ้ากล้าคิดร้ายต่อเชื้อพระวงศ์อย่างนั้นรึ?”
“ องครักษ์หญิง องค์ชายสิบสี่ ถูกลดฐานันดร เป็นสามัญชนไปแล้ว ดังนั้นข้าจะทำอะไรเขาก็ย่อมได้ ”
ที่แท้หญิงสาวเป็นถึงองครักษ์หญิงนั่นเอง ซึ่งพอนางได้ยินคำนี้ก็ขมวดคิ้วสงสัย ไม่คิดว่า ข่าวที่องค์ชายสิบสี่ ถูกลงโทษให้เป็นสามัญชนและถูกส่งตัวมาบวชที่วัดฝอซานตลอดไป กลับมีผู้คนภายนอกล่วงรู้
องค์ชายสิบสี่ ถึงกับร้องเฮอะด้วยเสียงอันดัง
“ ตาเฒ่า ต่อให้ข้ากลายเป็นสามัญชนคนธรรมดา เจ้าก็ไม่มีทางแย่งชิงของจากข้าไปได้ง่ายๆ หลอกนะ ทุกๆ คนในโรงเตี้ยมแห่งนี้ จงฟัง หากว่าใครช่วยจัดการกับกลุ่มนี้ ข้าจะมอบเงินให้ 1 แสนเหรียญทอง”
องค์ชายสิบสี่พูดจบ ก็นำถุงทองคำออกมาตั้งบนโต๊ะ
เหล่าจอมยุทธ์ที่ อยู่ในห้องก็เริ่มมองด้วยความอยากได้ ราเชนเองที่นั่งดื่มน้ำชาอยู่นาน ทีแรกไม่คิดจะสนใจ แต่พอเห็น ถุงทอง 1 แสนเหรียญ ก็รู้สึกอยากได้ เพราะตอนนี้เขากำลังจนกรอบ มีเงินเพียงน้อยนิดที่อาจารย์เทพโอสถให้มาไม่ถึง 400 เหรียญทองเท่านั้น
“ เฮอะ มีใครบังอาจช่วยก็ลองเข้ามาดูซิ” ศิษย์คนรองที่สะพายดาบใหญ่ไว้ด้านหลัง ใช้ลมปราณยกดาบจากด้านหลัง ลอยมาอยู่ในมือ แล้วฟาดฟันลงบนโต๊ะข้างๆ จนขาดสองท่อน พื้นศิลาในโรงเตี้ยม ถึงกับแยกออกจากกัน
เหล่าจอมยุทธ์ที่เห็น ต่างถอยห่างไม่มีใครกล้าช่วยองค์ชายสิบสี่แม้แต่คนเดียว
“ ฆ่าพวกมันให้หมด อย่าให้มีใครรอดจากโรงเตี๊ยมนี่ไปได้”
เฒ่ากระโหลกขาวสั่งการออกมาด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดแม้นว่าจะไม่กลัวความผิด แต่หากปิดปากทุกๆ คนในที่นี้ก็จะทำให้การแย่งชิง คัมภีร์พระไตรปีฏกนั้น ไม่มีใครรู้เห็นว่าพวกเขาเป็นคนทำ
ชายกล้ามใหญ่ถือฆ้อนฟาดเข้าใส่ ชาวยุทธ์ผู้หนึ่งที่กำลังจะหนีออกไป จนร่างแหลกเหลวไปในทันที
ศิษย์พี่ใหญ่ ชักกระบี่ฟันออกไป ปราณกระบี่สีเขียว กระจายเป็นวงกว้าง คนที่กำลังนั่งกินอาหารสองโต๊ะ 8 คน ร่างขาดครึ่งเป็นสองท่อนทันที
ศิษย์พี่รอง ถือดาบใหญ่ก็เข้าโจมตีใส่ หกองครักษ์พลังของทั้งสองฝ่ายพอปะทะกัน
ตูม !!
ทั้งสองฝ่ายถึงกับต้องถอยหลังกันไปหลายก้าว
ชายชราที่ถือไม้เท้าหัวกระโหลก ก็ยกไม้เท้าปล่อยไอสีดำออกมาเข้าใส่ อู่เสีย กับองค์ชายสิบสี่
“ ควันพิษซากศพ”
องครักษ์หญิงอู่เสียรู้จักพิษนี้เป็นอย่างดี จึงรีบปิดจมูก แล้วดึงองค์ชายสิบสี่ถอยหลังออกห่างจาก ควันพิษที่ถูกปล่อยออกมา มีองครักษ์เสื้อทองคนหนึ่ง หลบไม่ทัน สูดควันพิษซากศพเข้าไป ร่างของเขาก็มีตุ่มหนอง พุพองขึ้นมา ทั่วร่างกาย ดวงตาเบิกโพลง ลงไปนอนดิ้นกับพื้น ตายคาที่
เฒ่ากระโหลกขาวยังคงเดินก้าวเข้าไป แล้วปล่อยควันพิษซากศพเข้าใส่องค์ชายสิบสี่กับองครักษ์หญิง ซึ่งตอนนี้ติดอยู่ในมุมห้อง ไม่มีทางรอดไปได้ ฉับพลัน ก็มีผ้ายันต์ผืนใหญ่ เข้ามาขวางกั้น ดูดควันพิษซากศพเอาไว้จนหมด
เป็นราเชนนั่นเอง ที่ใช้ยันต์ป้องกันดูดพิษซากศพเอาไว้
“ ข้ารับงานนี้” ราเชนเอ่ยจบก็คว้าถุงทองที่วางอยู่บนโต๊ะเก็บเข้าไปในแหวนมิติของตนทันที
“ บังอาจ”
เจ้าฆ้อนยักษ์ ยืนอยู่ข้างผู้เฒ่าหัวกระโหลก ก็ควงฆ้อนเข้ามา แล้วฟาดใส่ที่ศรีษะของราเชนทันที
ราเชนแค่หลบฉากออกมาได้ แล้วก็ยิงเข็มฟ้าพิฆาตออกไป
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!!
เจ้าฆ้อนยักษ์ไม่ทันระวังตัว เข็มฟ้าพิฆาตเจาะเข้าที่ลูกตา และ ใบหน้าของมัน
จนลงไปนอนร้องดิ้นทุรนทุรายกับพื้น เลือดออกทวารทั้งเจ็ดตายไปในทันที ศิษย์พี่กับอาจารย์ของมัน ถึงกับหันกลับมามองพร้อมๆ กัน
“ อากุ้ย น้องสาม”
ทั้งสามคนร้องออกมาอย่างตกใจ ศิษย์คนรอง ถือดาบยักษ์ ฟาดใส่ราเชนด้วยความโกรธแค้น ราเชนแค่หลบฉากออกไป แล้วยิงเข็มฟ้าพิฆาตออกไปอีกหลายชุด แต่ทว่า เจ้าดาบใหญ่ กลับใช้ดาบป้องกันเอาไว้ได้ทั้งหมด
แต่ทว่า เข็มพิฆาตที่กระเด็นออกไป กลับพุ่งย้อนกลับเข้าไปอีกหลายทิศทาง มันพุ่งเข้าใบหูทั้งสองข้าง กลางกระหม่อม กลางหลัง ดวงตา รูจมูก เข้าปาก และคอหอย แม้นจะระเบิดพลังปราณขั้นราชันออกมาปกป้องร่างของตัวเองเอาไว้
แต่ไม่อาจหยุดหมัดพลังวานรพันปี ที่ราเชนพุ่งออกไปได้
ตูม!!
หมัดของราเชนอัดเข้าที่ใบหน้าของมัน จนหัวศิษย์คนรอง ระเบิดกลายเป็นเศษเนื้อเละเทะตายไปอย่างน่าอนาถ
“ น้องรอง”
เสียงของศิษย์คนโต ร้องออกมาอย่างตกใจ มันระเบิดพลังราชันขั้นต้น แล้วแทงกระบี่เข้าหาราเชนเพื่อแก้แค้นให้กับ ศิษย์น้องทั้งสอง เงาปราณกระบี่นับร้อย พุ่งเข้ามาหาราเชน ราวกับพายุ
แต่ว่า ร่างของราเชนหายวับไปแล้ว เพราะเขาใช้ยันต์ล่องหนแปะเข้ากับร่างของตน
สร้างความมึนงงสงสัยให้กับ ศิษย์คนโตยิ่งนัก
แล้วในที่สุด ร่างของราเชนก็มายืนอยู่ทางด้านหลังของมัน สัมผัสอันตรายทำให้ศิษย์คนโตหันกลับมา พร้อมกับเสือกแทงกระบี่เข้าใส่ราเชนเป้าหมายคือลำคอของเขา แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีมีดสั้นปริศนา พุ่งออกมาจากด้านหลังของมันทะลุลำคอ เป็นมีดสั้นนิรนาม ที่ราเชนปล่อยออกมา แล้วควบคุมด้วยพลังจิตขั้นปรมาจารย์ของเขา ซึ่งตอนนี้ เขาสามารถควบคุมมันได้อย่างคล่องแคล่ว รวดเร็ว
ผู้เฒ่ากระโหลกขาว ที่ตอนนี้คลั่งแค้นใจยิ่งนัก ที่เห็นศิษย์รักของตนต้องมาตายต่อหน้าทั้งสาม จ้องหน้าราเชนอย่างโกรธ จนหนวดเคราก สั่นริกๆ
“ เจ้าสังหารลูกศิษย์ของข้า เจ้าต้องตาย”.....
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??