เรื่อง ข้าเสแสร้งจนกลายเป็นเซียน

ติดตาม
7 :เพลงกระบี่ไร้สิ้นสุด
7 :เพลงกระบี่ไร้สิ้นสุด
  • ปรับสีและขนาดตัวอักษร

กลับไปที่เจ้านิกาย วิชากระบี่พื้นฐานของข้านั้นค่อนข้างแปลกเล็กน้อย แต่เมื่อท่านบรรลุแล้ว ภายใต้สวรรค์และโลกนี้ ไร้เทียมทาน!”


เย่ชิงเฉินพูดด้วยใบหน้าที่นิ่งสงบราวไม่แยแสต่อสิ่งใด ใครผ่านมาก็เชื่อทันนี้เ๟ี๱นกระบี่ถ่ายทอดทักษะดาบ 


จากนั้นเขาก็ใช้กระบี่สำรองสีขาวนวลของเขาฟันลงไปที่หินกลางลานด้วยแรงทั้งหมดของเขา เกิดเป็นรอยขีดเล็กน้อย 


มุมปากเย่ชิงเฉินกระตุก แต่เขาต้องจำกัดกระสุนต่อไปมิอาจหยุดได้แล้ว


ปล่อยวางความลุ่มหลงในใจ สัมผัสความงามระหว่างสวรรค์และโลกทักษะทั้งหมดที่ท่านต้องการอยู่ในแผ่นหินนี้ ความไม่แน่นอนมีอยู่ทุกที่ ท่านจะรู้แจ้งได้อย่างไร จากง่ายไปยาก เมื่อสูงสุดแล้ว ยากกลับสู่พื้นฐาน


ขณะนี้ชิงเฉินยืนหลับตารอลมพัดเช่นกัน ยืนรอนานราวหนึ่งเค่อ ทำให้ลู่ ฉางชิงอดเชื่อชมไม่ได้


กระบี่อมตะพร่าพราวบนท้องนภา เจ้าต้องเลิกคิ้วมองเมื่อพบข้า


๣ึ๯๽ึ้๹จริงๆ เ๟ี๱นกระบี่ไร้เทียมทาน!’


ขณะนั้นลมก็พัดมาในทามไลน์ที่พอดี ผมดำยาวราวน้ำตก อาภรขาวปักลายกระเรียนเหินสะบัดเล็กน้อย เก็บกระบี่ขาวนวลอย่างแนบเนียน ส่งเสียงปลอกกับด้ามกระบี่เหล็กกระทบกันเล็กน้อย 


เปร้ง


สิ้นเสียงเขากรีดสายตาขึ้นมองฉางชิงด้วยใบหน้านิ่งขรึม


เพลงกระบี่ไร้สิ้นสุด


เมื่อมองเห็นฉางชิงยิ้มด้วยความพอใจ เขาพลันยินดีและโล่งอกเป็นอย่างมากพร้อมกับคาราวะไปข้างหน้า 


ไม่ขอรบกวนผู้อาวุโสแล้ว


และเขาก็จากไปด้วยความเร็วที่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า หายไปในระยะสายตาในที่สุด 


ขณะนี้ลู่ ฉางชิงยืนนิ่งอยู่กับที่เขาแทบไม่พิจารณาร่องรอยของกระบี่ด้วยซ้ำ ไม่คิดถึงการเคลื่อนไหวใดๆ เขาพอมีสัญชาตญาณอยู่บ้างเนื่องจากอาการเบียวเลเวลตันจากชีวิตก่อน 


เพียงแค่หยิบกิ่งไม้ออกมา จากนั้นก็ตามด้วยท่ากระบี่พื้นฐานตามสัญชาตญาณของเขา


ลู่ฉางชิงกำลังรู้แจ้งในตอนนี้


กระบวนท่า ความเร็วของเขาเร็วขึ้นและเร็วขึ้น เจตจำนงกระบี่ทะยานขึ้นท่วมออกจากกิ่งไม้ อักษรเต๋าร่วงหล่นลงมารอบตัวยามเคลื่อนไหวราวไม่ต้องการเงิน แต่เขาก็หยุดชะงักในเวลาต่อมา


สารเลว แค่ทักษะดาบพื้นฐาน ต้อง๣ึ๯๽ึ้๹เพียงนี้เชียวหรือ ยิ่งเรียนรู้การเคลื่อนไหวได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถเรียนรู้เทคนิคกระบี่อื่นๆได้โดยตรงในอนาคต ไม่เลวเลย


ลู่ฉางชิงคิดภาพเมื่อคู่ต่อสู้งัดกระบวนท่าหลุมดำของพวกเอาออกมาแล้วตัวเองก็พูดว่าข้าก็ทำได้เช่นกัน และดีกว่าเจ้า ด้วยคำพูดนี้อาจทำให้คู่ต่อสู้สิ้นหวังจนตายได้ด้วยซ้ำ


เท่ เท่เกินไป’ 


ตอนข้านี้ฝึกได้แค่108กระบวนท่าเท่านั้น และภาพในความคิดก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ


ชักช้าไม่ได้ข้าต้องเร่งฝึกฝน ๧้าบรรลุช้ากว่าของขวัญจะไม่น่าอับอายในฐานะนายหรือ


ตัดภาพกลับไปที่เย่ ชิงเฉิน


ขณะเดินกลับเขาก็พบร่างหนึ่งเข้า ใช่แล้ว ๸ั๦คือ กู่ หมิงตี้ น้องชายของเขา


ศิษย์น้อง


ฝ่ายหลังได้ยินเสียงดังนั้นก็ ตอบกลับชิงเฉินทันที 


พี่ชาย มีอะไรหรือไม่รีบกล่าวเถิด ยังมีหวังรอดชีวิตหรือไม่


กูหมิงตี้ สงสัยเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ใหญ่ถึงเรียกเขาอย่างกระทันหัน


ศิษย์น้อง ภายใต้โลกใบนี้เจ้ารู้หรือไม่ เ๟ี๱นกระบี่ที่แท้จริงเป็นอย่างไร


กู่หมิงตี้ผงะในทันที และส่ายหัวเล็กน้อย


กระบี่สูงสุด ๸ั๦ใช่เรื่องของข้าไหม


ปัญหาทางสมองของพี่ใหญ่กำเริบหรือไม่


ข้าไม่ทราบ


ได้ยินดังนั้นเย่ ชิงเฉินก็กล่าวอย่างใจเย็น เย่อหยิ่ง ไม่แยแส


ใช้แค่กระบี่ไม้ภายในใต้หล้าข้าก็ไร้พ่ายเช่นกัน


เจ้าแพ้แล้ว


กู่ หมิงตี้ ???


ระหว่างกล่าวเขาก็เอามือวางไว้บนกระบี่ไม้ราวโอ้อวดแล้วเดินจากไปที่ห้องพักเพื่อฝึกฝนเทคนิคใหม่ 


ใช่แล้วขณะนี้เย่ ชิงเฉินจำต้องใช้กระบี่สามเล่ม เล่มแรก สีเขียวมรกตซึ่งไม่อาจชักออกมาได้อีกต่อไปไว้ส่งเสียงบี๊บเท่านั้น 


เล่มที่สองกระบี่ไม้คู่ชีวิตที่ฉางชิงมอบให้และทรงพลังที่สุด เล่มที่สามกระบี่สีขาวนวลสำหรับใช้ฝึกเทคนิคใหม่ที่ฉางชิงได้สอนเขา 


เอาชนะผู้อื่นด้วยความคิดหากฉางชิงเห็น เขาจะคิดถึงโจรสลัดในทันที


ขณะนี้กู่ หมิงตี้อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง 


แม้ว่าเขาไม่รู้วิถีกระบี่อะไรเลยก็ตาม แต่แค่ฟังก็น่าตกใจ โดยเฉพาะจับคู่กับรูปลักษณ์ของเย่ ชิงเฉิน ๸ั๦ทำให้รู้สึกหวาดผวาไม่น้อย


แม้แต่ภาพก็ปรากฎขึ้นในใจ 


ในภาพ เย่ ชิงเฉินชักกระบี่ไม้ออกมาอย่างเบามือ ตวัดกวาดศัตรูนับไม่ถ้วนภายในกระบี่เดียว 


สูดดดด


หลังจากหายใจเข้าลึกๆ กู่หมิงตี้ ก็กลับมารู้สึกตัว แต่ชิงเฉินไม่ได้อยู่ที่นี่อีกต่อไป 


ความสามารถในการเสแสร้งของพี่ใหญ่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ๧้าฉันไม่รู้จักเขาฉันคงโขกหัวขอเป็นศิษย์ไปแล้ว


แค่ประโยคเดียวก็เพียงพอที่จะส่งเสียงบี๊บไปทั้วทวีป “กระบี่ไม้ไร้พ่ายในใต้หล้า”’


อนิจจา ไม่สงสัยเลยที่ผู้อาวุโสถูกใจเขายิ่งนัก


คิดได้ดังนั้นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเปรี้ยวในใจ บวกกับท่าทีโอ้อวดกระบี่ไม้ของชิงเฉิน 


คิดได้ดังนั้นเขาก็กลับไปยังคิดพักของเขาเพื่อหาคำพูดบลัฟต่อไป 


เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วราวม้าขาววิ่งผ่าน


หนึ่งวันผ่านพ้นไป วันนี้เงียบสงบราว ความสงบสุดท้ายก่อนพายุจะก่อตัว


บูมบูมบูม!”


เสียงระเบิดดังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ใช่แล้ว๸ั๦คือสามราชาอสูรที่กำลังรุกล้ำเข้ามา ค่ายกลสังหารโบราณหน้าทางเข้านิกายระเบิดหายไปส่วนหนึ่งเพราะการหักเหรียญของกุนซือ ทำให้ง่ายต่อการเข้ามายังส่วนกลาง


เป็นตำหนัก ที่โอ้อ่าเสียจริง อาจจะเป็นสำนักโบราณของอมตะผู้ล่วงลับก็เป็นไปได้ โอกาสมากมายนับไม่ถ้วนรอให้ครอบครอง


หลงอ้าวพูดพรางยกยิ้มดีใจ 


แบ่งเท่าๆกัน พวกเราล้วนลงแรงกันไปไม่น้อย แต่หากไม่ออกแรงอีกสักหน่อยข้าก็ไม่เกี่ยง


เว่ย บูเหว่ยกล่าวขึ้นมาอย่างทันควัน


หวัง เต็งหลงเงียบไม่ตอบพรางปล่อยกระแสจิตราชาออกไปหวังตรวจสอบพื้นที่ในนิกาย 


แปลก แปลกมาก กระแสจิตไม่สามารถทะลุผ่านเข้าไปได้เลย ข้าเกรงว่าจะไม่ง่าย


ขณะนั้น ร่างหกร่างปรากฎตัวออกมาภายใต้สายตาอย่างช้าๆ ทุกคนล้วนมีรูปลักษณ์ที่ไม่ธรรมดา หาตัวจับได้ยากในโลก พร้อมกับอารมณ์ซึ่งไม่สามารถแสร้งทำได้ราวกับเ๟ี๱นในสาขาต่างๆ แตกต่างกันออกไปในตัวบุคคล 


พวกเจ้าเป็นใคร!”


หลงอ้าวกล่าวอย่างดุดัน ราวมีคนขโมยสมบัติในจินตนาการของเขาไป 


ได้ยินดังนั้นกุนซือก็รู้สึกเดจาวูในทันที นึกถึงคราวเจอกับลู่ฉางชิงครั้งแรก คิดได้ดังนั้นเขาเลยเริ่มส่งเสียงบี๊บในทันที


เจ้าสมควรถามหรือ?”


สูดดดดด 


ราชาทั้งสามเริ่มสงสัยในชีวิตไปตามๆกัน พร้อมกับยกสมบัติสูงสุดของพวกเขาขึ้นมาในทันที พร้อมป้องกันทุกเมื่อ 


หลงอ้าว เงาขึ้นบนใบหน้า มุมปากกระตุก กระตุ้นพลังของเขา เข้าสู่ตราประทับมังกรของเขาอย่างรวดเร็ว และโจมตีออกไปหวังให้บุคคลตรงหน้าตกตายไปแบบไม่สมัครใจ


บูม!!”


ค่ายกลคุ้มกันเปิดขึ้นในทันทีล้อมรอบทั่วนิกายอันโอ่อ่าเอาไว้


ภายใต้ค่ายกลสาวกทุกคนมุมปากกระตุก


อาจารย์ ท่านสมควรกล่าวเช่นเจ้านิกายหรือ


ท่านส่งเสียงบี๊บจนติดนิสัยแล้วหรือ


ท่านคิดว่าท่านคือลู่ ฉางชิงใช่ไหม


อาจารย์ ข้าควรไปแจ้งเจ้านิกายหรือไม่?”


เย่ ชิงเฉินถาม กุนซือนิกาย เนื่องจากเขามีความสนิทสนมกับลู่ ฉางชิงมากที่สุด เขาเลยพอมีความกล้าอยู่บ้าง


สารเลว เจ้าคิดไม่ได้หรือ หากเรื่องแค่นี้ไปขอรบกวนเจ้านิกาย ข้าเกรงว่าเราจะถูกจับได้และตายก่อนสามคนนี้ด้วยซ้ำ


นักพรตเสวี่ย ชิงไท่กล่าว ภายในหัวของเขาวิ่งอย่างบ้าคลั่งแต่ใบหน้ายังคงนิ่งเงียบ ราวผ่านโลกมามากมาย 


ใช่แล้วควรทราบเอาไว้ว่าทุกคนในสำนักของเขานั้นส่งเสียงบี๊บมานับครั้งไม่ถ้วนเพื่อเอาชีวิตรอด เวลาคับขันแบบนี้พวกเขาก็ยังคงราวกับไม่แยแส แต่ในใจทุกคนหวาดกลัวจริงๆ 


เฉินเออร์ กระบี่ไม้เจ้าควรที่จะฟาดพันออกไปได้ใช่หรือไม่ ตอนนี้เจ้าสร้างรากฐานแล้ว ทำไมเจ้าไม่ลองดูสักหนึ่งหรือสองกระบี่เล่า


ใช่แล้วพี่ชาย ภายใต้กระบี่ไม้ไร้พ่ายในใต้หล้า!”


ชิงเฉิน ลงมือเลย ๧้าพวก๸ั๦ไม่สะทกสะท้านก็เข้าไปแจ้งผู้อาวุโสเถอะ


ความหวังของทุกคนอยู่ที่เย่ ชิงเฉินอย่างรวดเร็ว ไม่สิ ต้องกล่าวว่าอยู่ที่กระบี่ไม้ของเย่ ชิงเฉิน!


เย่ ชิงเฉินหน้ามืดลงในทันใด เขาไม่คิดว่าศิษย์น้องรองของเขาจะมาเอาคืนได้เร็วขนาดนี้ เมื่อวานเขาส่งเสียงบี๊บใส่๸ั๦ด้วยความเย่อหยิ่งอยู่เลย 


ตกลง!”


หลังกล่าวจบเขาชักกระบี่ไม้ออกมา ปลดปล่อยพลังเข้าไปมากกว่าครึ่ง


กระบี่ฟ้าร้องกระบวนท่าที่1”


นี่คือกระบวนท่าเดียวที่เขาฝึกมานับสิบปีและสมบูรณ์แบบที่สุด หลังกล่าวประกาศชื่อท่าออกมาพลังอันมหาศาลประทุขึ้นในทันที เหงื่อออกเต็มแผ่นหลังของเขา ใช่แล้วเขาไม่สามารถใช้กระบี่ไม้ได้อย่างเต็มที่เนื่องจากฐานการบ่มเพาะไม่เพียงพอ 


ลงกระบี่


หลังจากสิ้นเสียงก็สว่างจ้าราวกับอยากทำให้แสงตะวันหม่นหมอง พลังงานระเบิดออกอย่างรวดเร็วแสงตัดผ่านเป็นแนวตรงยาวราวดูอนิเมะฉากต่อสู้ พร้อมเสียงเอฟเฟ็กต์ประกอบ 


ตูมตูม!”


เงียบ 


เงียบมากพอที่จะได้ยินเสียงเข็มตก


ราชาอีกสองคนเหงื่อตกหน้าซีดเผือด ไม่ฟื้นตัวอยู่นาน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่มีโอกาสแม้จะป้องกัน หลงอ้าวกระเด็นหายไปชนเนินเขาด้านหลัง พลังชีวิตร่อยหรอพร้อมคราบเลือดทอดยาวไปตามพื้นดิน


ต้องรู้ด้วยว่าร่างกายของมังกรแข็งแกร่งขนาดไหน และครานี้พวกเขาออกมาด้วยยุทโธปกรณ์ครบครัน ป้องกันชีวิต แม้แต่เกราะ๫ะ๨ั๹สวรรค์ก็แตกเป็นเสี่ยงๆ นี่๸ั๦พลัง๫ะ๨ั๹ใดกัน 


ภายใต้ค่ายกลป้องกัน


ชิงเฉิน ยืนนิ่งร่างตรงราวกระบี่ ดวงตาไม่แยแสต่อสิ่งใด ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ในสายตาของเขา 


ฟ่ออออ


ทุกคนที่ยืนดูด้วยความโง่งม อดรู้สึกเปรี้ยวในใจไม่ได้ และอดสงสัยไม่ได้ภายในใจ


พี่ใหญ่แข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?’


กระบี่ไม้นี่เป็นอาวุธ๫ะ๨ั๹ใดกัน


เฮ้ ศิษย์ข้า ข้าก็ใช้กระบี่ได้เจ้าจำได้ไหม


ขณะชิงเฉินหันหลังกลับ สายตาเขาก็ไปตกลงที่จุดหนึ่ง ร่างนึงเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

เขาคาราวะไปทางนั้นในทันที 


ทุกคนเมื่อเห็นดังนั้นก็คาราวะตามชิงเฉินโดยพร้อมเพรียงกัน 


ได้เจอเจ้านิกายแล้ว


ลู่ ฉางเชิงเดินมาด้วยรอยยิ้มมุมปากราวฤดูใบไม้ผลิหลังวสันตฤดู ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่ามีผู้บุกรุก เสียงดังกระทบจนกระตุ้นค่ายกลของสำนักได้ เขาเครียดแทบตาย


แต่เมื่อเขาได้เห็นชิงเฉินใช้แค่กระบี่ไม้โง่ๆที่เขาแกะสลักเล่นๆไว้ เขาแทบจะรู้ผลลัพธ์ในทันทีเลยเดินออกมาชมด้วยความพึงพอใจ 


ไม่เลวของขวัญข้าใช้แค่กระบี่ไม้ปราบปรามศัตรูราวมดปลวก ครอบงำขนาดไหน


เขาคิดในใจระหว่างเดินออกไปนอกค่ายกลด้วยความมั่นใจ 


ใช่ เขาไม่กลัว รอบตัวเขามีเ๟ี๱นทั้งหก แต่ละคนมีวิถีแตกต่างกันออกไป แล้วจะกังวลอะไรให้น่ารำคาญ แสร้งส่งเสียงบี๊บไม่เท่กว่าหรือ


คิดได้ดังนั้นเขาก็กล่าวขึ้นมาในทันที


อยากละสังขารแล้วหรือ บุกมาที่นิกายลับเหนือเต๋าอันศักดิ์สิทธิ์ของข้า ตบะราวมดปลวกอวดดีจริงๆ


หึ เป็นอย่างไรทักษะข่มขู่ของข้า ๧้าชิงเฉินชักกระบี่หลักข้าเกรงว่าพวกเจ้าจะแอบแทรกหนีลงไปในพื้นดินแล้ว


ทางฝั่งราชาอสูรหายตกตะลึงได้ไม่นาน ก็ต้องเคร่งเครียดอีกครั้งเขารู้ว่าตอนนี้เรื่องต่างๆไม่ง่ายอย่างที่คิดแล้วและลงไปยืนบนพื้นดินเพื่อไม่ให้อยู่สูงกว่าลู่ ฉางชิงในทันที และทั้งสองก็คาราวะต่อบุคคลตรงหน้า


ขออภัย พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนท่านผู้ยิ่งใหญ่


หวังเต็งหลงกัดฟันกล่าว เหงื่อหยดลงพื้นดินราวเม็ดฝน พร้อมยอมจำนนเต็มที่


คุกเข่าสนุกมากไหม มาตีค่ายกลนิกายข้าเล่นอย่างนี้ ชดใช้ไม่ก็ตายไปเสีย เลือก!”


ลู่ ฉางชิงยังคงส่งเสียงบี๊บต่อไป เขาไม่รู้ระบบการฝึกฝน ๫ะ๨ั๹พลังอะไรในโลกไปนี้เลยและเขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะถามของขวัญ ไม่ใช่ว่าเขาไม่กล้าขนาดนั้น แต่ด้วยอัตตา ความเย่อหยิ่งในใจไม่ยอมให้ทำ 


ภายใต้ความคิดของเขา หากของขวัญชนะได้ต่อหน้าเขาทุกคนล้วนเป็นขยะก็เท่านั้น


ราชาอสูรทั้งสองตนก็ยอมหมอบให้ลู่ ฉางชิงในทันที ราวมีแรงกดดันที่ไม่สามารถฝ่าฝืนได้ปรากฎในอากาศ และด้วยอานุภาพการโจมตีของชิงเฉิน เกรงว่าพวกเขารับได้ไม่เกินสองกระบวนท่าก็สามารถลาโลกในทันที คิดได้ดังนั้น หวัง เต็งหลงเลยส่ง เตาปรุงยาทองคำ สมบัติ๫ะ๨ั๹สวรรค์ มอบให้ลู่ ฉางชิงในทันที


เว่ย บูเหว่ยก็ไม่รอช้าส่งมอบ ลูกแก้วตรัสรู้ ของเขาให้ลู่ ฉางชิงเช่นกัน 


เห็นดังนั้นเขาก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย และสายตาจับจ้องไปยังบุรุษวัยกลางคนนอนแผ่หลา แกล้งตายอยู่ไม่ไกล


เสแสร้งพอหรือยัง


เมื่อคำๆนี้หลุดออกมาจากปากลู่ ฉางชิง คนทั้งหกเบื้องหลังเหงื่อแตกพลั่ก เลิ่กลั่กไปหมด 


จบแล้ววว สิ้นสุดที่นี่หรือ


ความสามารถในการส่งเสียงบี๊บไม่พอหรือ ช่างหน้าอับอาย


ท่านให้ทางรอดข้าบ้างได้หรือไม่


ทุกคนต่างคิดไปไกลต่างๆนาๆราวฟ้าจะถล่มลงมาในไม่กี่นาที แต่ในขณะนั้น ราชาอสูรเผ่ามังกร ก็ลุกขึ้นและมาคุกเข่าต่อหน้าลู่ ฉางชิงด้วยใบหน้าซีดเผือด ราวจะตายในไม่ช้า


พวกเจ้ารู้ความผิดหรือไม่?”


ลู่ฉางชิงถามด้วยเสียงอันเยือกเย็น และสายตาของเขาราวหลุมดำยากหยั่งถึง


ผู้น้อยย่อมทราบดี แต่หากผู้อาวุโสช่วยละเว้นได้หรือไม่


หลงอ้าวกล่าวอย่างสิ้นหวัง กัดฟันพูด เป็นความจริงที่เขาบุ่มบ่ามสะกิดค่ายกลของตำหนักอันหรูหรานี้เพราะความโลภเข้าครอบงำ 


ลู่ ฉางชิงหน้ามืดลงอีกครั้งเพราะเขากำลังครุ่นคิดคำพูดคำจาเท่ๆและครอบงำตามแบบฉบับผู้แข็งแกร่งตบหน้าตัวประกอบ


โทษตายเว้นได้ แต่โทษเป็นมิอาจละเว้น” 


ด้วยความพึงพอใจในคำพูดเขาก็คิดเกี่ยวกับวิธีหลอกใช้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้ เขาไม่รู้คนพวกนี้อยู่๫ะ๨ั๹ไหนแต่มองจากรูปลักษณ์เขาก็พอจะทราบอยู่บ้างว่าเผ่าอะไร 


หึหึหึ ขี่มังกรก็ควรจะเท่กว่าตัวเอกในนิยายนับร้อยได้ใช่ไหม ไม่เลวเลย


คิดได้ดังนั้นเขาก็กล่าวความต้องการของเขาทันที หาวิธีปิดข้อบกพร่องของเขาทั้งหมด และเขาเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า วิชาการแสดงของเขานั้นไร้เทียมตั้งแต่มัธยมต้น


พวกเจ้าทั้งสามจงรับใช้นิกายข้าจนกว่าข้าจะจากไป โดยเฉพาะเจ้าเผ่ามังกร จงมาเป็นสัตว์ขี่ให้ข้า


พูดจบเขาถือสมบัติทั้งสามพร้อมจากไปแบบไม่ค่อยเท่เท่าไร เนื่องจากหากมีแหวนมิติในตำนาน อยากเก็บของก็แค่สะบัดมือไปหยุดในจุดที่เหมาะสม ทำมุมระหว่างรักแร้ถึงปลายมือราว45องศา คงจะเท่ไม่น้อย 


โอ้ ตำรา คำภีฝึกฝน นำมาทิ้งไว้ในห้องโถงด้วยล่ะ


ในขณะที่เขากำลังหันหลังจะจากไปก็มีเสียงตามมาอย่างกล้าๆกลัวๆ ใช่แล้ว๸ั๦คือเสียงของราชาพยัคฆ์ทมิฬ 


ขอทราบนามอันยิ่งใหญ่ของท่านเจ้านิกายได้หรือไม่ขอรับ


ลู่ ฉางชิง หันหน้ากลับไปให้ทางฝ่ายราชาเห็นเพียงครึ่งหน้า และฝ่ายกุนซือกับสาวกเห็นเพียงครึ่งหน้าเช่นกันเงยหน้าขึ้น34.2 องศา พร้อมกล่าวอย่าช้าๆราวคิดถึงอดีต


ก่อนที่เต๋าจะกำเนิด และสวรรค์และโลกปรากฎขึ้น ตัวข้าจักรพรรดิสวรรค์ลู่ ฉางชิงยืนอยู่ข้างหน้า


ท้องฟ้ามืดครึ้ม ฟ้าร้องลั่นสั่นสะเทือนทั้งหุบเขา เสียงก้องกังวาลไปทั่วชิงโจว ผู้ทรงอำนาจต่างๆเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ผู้ฝึกฝน๫ะ๨ั๹ต่ำมิอาจได้ยินเสียงสะท้อนแห่งเต๋าสวรรค์นี้


หายนะกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วหรือ’ 


เย่อหยิ่งขนาดไหนถึงได้กล้าพูดคำเช่นนี้


โอ้อวดเหลวไหล ข้าเกรงว่า๸ั๦จะใช้ชีวิตจนเบื่อแล้ว


น่าสนใจ


มหาอำนาจคิดกันไปต่างๆนาๆ 


ขณะเดียวกัน สถานที่ต้องห้ามอมตะร่วงหล่น ลู่ ฉางชิง หายไปนานแล้ว แต่ทุกคนยืนนิ่งอยู่กับที่


เย่อหยิ่งแค่ไหน ข้าคิดว่าข้าส่งเสียงบี๊บได้ดีขึ้นมากแล้ว กลายเป็นว่ายังเป็นสวะต่อหน้าผู้อาวุโส


ให้ตายเถอะ ข้าขอที่ยืนบ้างได้หรือไม่


ตัวตนของเจ้านิกายคืออะไรกันแน่


หากเจ้าปรากฎตัวแล้วพูดอย่างนี้ตั้งแต่แรก ข้าคุกเข่าให้เจ้าโดยไม่พูดอะไรสักคำ!’


ทุกคนคิดกันไปต่างๆนาๆ ผ่านไปนานจนได้สติ ราชาทั้งสามลุกขึ้นและจากไปทำตามคำสั่งของลู่ ฉางชิง เพื่อเก็บกระเป๋ามารับใช้อย่างเชื่อฟัง 


คนในนิกายก็แยกย้ายกันไปบ่มเพาะ ทำธุระของตัวเองกันตามเดิม


ส่วนลู่ ฉางชิงก็ปรากฎตัวที่ลานด้านในอย่างสบายใจ


คราวนี้ข้าเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มาก เสแสร้งโอ้อวดบ้างต่อหน้าผู้แข็งแกร่งแล้วรอดมาได้ก็น่าชื่นชมจริงๆ

ตอนต่อไป
8 :อัจฉริยะในอดีตและปัจจุบัน

นิยายแนะนำ

นิยายแนะนำ

ความคิดเห็น

COMMENT

ปักหมุด

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited( Kawebook.com )

Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )
ที่อยู่ : 20 หมู่ที่ 6 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
เวลาทำการ : 08 : 00 - 18 : 00 จันทร์ - เสาร์
e-mail : contact@kawebook.com

DMCA.com Protection Status

เริ่มต้นเผยแพร่ผลงาน

เริ่มต้นเป็นนักเขียนออนไลน์ เขียนเรื่องราวที่ประทับใจ สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และแบ่งปันประสบการ์ดีๆ กับผู้คนทั่วโลก kawebook.com เป็นโอกาส เป็นสื่อกลาง และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการสร้างรายได้ให้กับนักเขียนมืออาชีพ และนักเขียนมือสมัครเล่นจากทุกมุมโลก เพียงสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์เพื่อเขียนหนังสือ การ์ตูน หรืออัพโหลดอนิเมชั่น ที่เป็นผลงานของท่าน และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชน

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา