เรื่อง ผม เจ้าแมว สายฝน และเธอ
'แกจะอยู่ไปเพื่ออะไร''อยู่ไปก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรสักอย่าง'
เหมือนกับว่าเสียงในห้วงความคิดของผมเหล่านั้นจะดังก้องอยู่ในโสตประสาทตลอดเวลามันคอยกลบทุก ๆ เสียงที่ผมได้ยินหรือควรได้ยินเมื่อใดที่ผมไร้ซึ่งการคิด ณ ปัจจุบัน สุ้มเสียงเหล่านั้นก็จะกระโจนเข้าใส่หัวของผม ขย้ำทุกสิ่งทุกอย่าง มันรอเพียงเหยื่อที่เรียกว่า ความเงียบ ครอบงำผม โดยเฉพาะทุก ๆ คืน ที่ความเงียบดูจะดังกว่าทุก ๆ สิ่ง
"นี่มิสึอากิ อยู่รึเปล่า"
"ฮื่อ"
ผมหลุดจากภวังค์ แ้หันหน้าไปที่ต้นทางของเสียง ตรงนั้นมีร่างของผู้ชายร่างกำยำ ผิวเกรียมแดด แะที่สะดุดตาคงเป็นความสูงที่ดูจะเหนือมาตรฐานของผู้ชายทั่วไปอยู่มากโข
"มิสึอากิ โอเคใช่มั้ย"
"โอเค ๆ"
"ช่วงนี้ นายเหม่อ ๆ นะ"
"โทษที ๆ"
"ครอบครัวนายพูดอะไรอีกแ้เหรอ"
คำพูดนั้นสะกิดหน้าผมใ้กระตุก แะเเข็งกร้าวไปทั่วใบหน้า
"ไม่ใช่เรื่องที่ฟุโตชิอยากรู้หรอก"
"เออ ๆ ยังไงก็ฟังเค้าหน่อยเถอะ เค้าอาจจะเเค่เป็นห่วงนาย"
ผมก็พยายามคิดแบบนั้น คิดว่าทุกถ้อยคำเหล่านั้นคือ ความเป็นห่วง
"ใช่ ัลืมไปเลยว่ามีนัดเดินเล่นกับเพื่อนอีกห้อง ยังไง ไปก่อนนะ"
"อ่า...อืม"
ผมค่อย ๆ มองฟุโตชิเดินจากไป
ดูเหมือนอากาศจะหนาวขึ้นเล็กน้อย ผมจึงขยับขาทั้งสองขึ้นแนบกับหน้าอก แะกอดเข่าไว้ เพื่อกกตัวเองใ้มีความอุ่นขึ้นจากอุณหภูมิที่ลดลง
ความเงียบจะเข้าครอบงำอีกครั้ง แะถ้อยคำในห้วงความคิดเหล่านั้นกำลังขยับตัวออกมาจากความมืด สุ้มเสียงอันคุ้นเคยที่น่ารังเกียจนั่นกำลังกลับมา
'แกจะอยู่ไปเพื่ออะไร''อยู่ไปก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรสักอย่าง' 'โตขนาดนี้แ้คิดอะไรบ้างสิ'
ถ้อยคำเหล่านั้นค่อย ๆ ดังขึ้น พร้อมกับเสียงฝที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก แะอุณหภูมิโดยรอบก็ดูจะลดฮวบลงไปทันที ผมเงยหน้าที่ซุกอยู่ในอกขึ้นมาเพื่อดูว่าฝเหล่านั้นเป็นของจริงหรือเพียงอีกหนึ่งความคิดที่เข้ามาแทรกในหัว
มันเป็นของจริง จริงแท้แน่นอน เพราะผมสัมผัสได้ถึงไอความชื้นที่แตะอยู่บนเสื้อผ้า สัมผัสได้ถึงฝห่าใหญ่ที่ตกกระทบบนหลังคาของศาลาที่ผมนั่งอยู่ จนนึกว่ามันจะตกถล่มพังหลังคาบนนั้นลงมาเสียอีก แต่ความเป็นจริงแ้ไม่อาจเป็นแบบนั้น
ผมเฝ้ามองภาพตรงหน้า ภาพที่ดูเคลื่อนไหวอยู่บนพื้นผิวของหมู่แมกไม้ราวกับฝัน มันดูบิดเบี้ยวจนเหมือนกำลังกลืนกินต้นไม้เหล่านั้นแะทำลายโลกตรงหน้าของผมไปจนสิ้น แต่นั่นอาจเป็นสิ่งที่ผมต้องการ
'แกจะอยู่ไปเพื่ออะไร' 'อยู่ไปก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรสักอย่าง' 'โตขนาดนี้แ้คิดอะไรบ้างสิ' 'ทำไมนายถึงดูไร้อนาคตแบบนั้นล่ะ'
ผมไม่อาจทำความเข้าใจกับปรากฎการณ์นี้ ปรากฎการณ์ที่สุ้มเสียงน่ารังเกียจเหล่านี้จะดังกลบเสียงฝห่าใหญ่ที่กำลังตกอยู่นั่น
'ไม่มองแม้แต่อนาคตของตัวเอง จะทำอะไรกิน'
มันดังขึ้น
'ก็เพราะทำตัวแบบนี้ไง ครอบครัวนายถึงทำแบบนั้น'
ดังขึ้นอีก
'ถ้าทำอะไรไม่ได้ ก็หายไปจะดีกว่ามั้ย'
ขึ้นอีก
'อยู่ไปก็รังแต่จะสร้างปัญหา'
'ตายซะก็ดี' 'ไม่มีใครต้องการ' 'ไปตายเหอะ'
'ผมอยากตาย' 'ผมอยากตาย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ'
"เมี๊ยว"
ผมรู้สึกตัวอีกครั้ง แะเสียงรอบ ๆ ก็กลับมาดังขึ้นผมรู้สึกได้ว่าตัวเองโชกไปด้วยเหงื่อหรือสะเก็ดน้ำฝก็ไม่อาจทราบ ร่างกายทั้งหมดแข็งเกร็งจนสัมผัสได้ว่าผมขยับแขนของตัวเองไม่ได้ไปชั่วครู่ แะเสียงเหล่านั้นก็ค่อย ๆ จางลง
รู้ตัวอีกทีผมก็นั่งจ้องหน้ากับเจ้าแมวสีดำตัวหนึ่ง เจ้านั่นนั่งอยู่ตรงหน้าใต้ระดับสายตาของผม มันร้อง "เมี๊ยว" อยู่สองสามครั้ง แ้จ้องตาของผมกลับมา
"ว่าไง แกน่ะ"
"เมี๊ยว"
ไม่รู้เพราะเหตุใด หรือเพราะพื้นหลังของมันที่มีฝ-่าใหญ่นั่น ทำใ้ผมคิดไปว่ามันอาจจะเป็นมัจจุราชที่มาเพื่อตอบรับความต้องการของผม ผมจึงลุกยืนขึ้น เดินตรงหน้าของภาพที่บิดเบี้ยวนั่น เหมือนมันจะรู้ตัว เลยเบี่ยงทางใ้ผมเล็กน้อย
ภาพตรงหน้านั่นช่างเหมือนกับผมเหลือเกิน ภาพที่ดูครึ่ง ๆ กลาง ๆ ดูไม่เป็นรูปธรรมแะจับต้องไม่ได้ ดูบิดเบี้ยวไปทุกส่วน จะมองตรงไหนก็น่าอนาถใจ ไร้ซึ่งสิ่งสาระสำคัญ ไร้ซึ่งตัวตน
ถ้าเพียงแค่เม็ดฝตรงหน้าจะชะล้างความหยาบกร้านของร่างกายแะจิตใจอันไร้ความหมายนี้ของผม หรือถล่มใ้ผมกลายเป็นเถ้าธุลีแะหายไปจากโลกใบนี้ได้ก็คงดี แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังคงกลัว
แม้แต่ความกล้าที่จะตายก็ยังไม่มี ตัวผมช่างบูดเบี้ยวแะอ่อนแอเหลือเกิน
ผมหันหน้ากลับไปที่เจ้าแมวนั่นอีกครั้ง
"แกมารับัใช่มั้ย แกช่วยทำใ้ัหายไปได้รึเปล่า แกจะทำยังไงก็ได้ แกจะใช้กรงเล็บนั่นข่วนัจนตายก็ได้ได้โปรด"
ผมแค่ต้องการมัน ใครก็ได้ช่วยหยิบยื่นความตายใ้ผม ผมจะได้หลุดพ้นจากเสียงเหล่านั้นแะทุกสิ่งทุกอย่างเสียที
"เอ่อ ขอโทษนะคะ"
ผมสะดุ้งกับเสียงอัลโตอันนุ่มหวานนั่น แ้หันหน้าไปทางต้นเสียง
เจ้าของเสียงคือผู้หญิงคนหนึ่ง ผิวซีดขาว หน้ารูปไข่ ผมยาวสะสวย ใส่แว่นทรงกลมหนาเตอะ กำลังใช้ดวงตาเรียวยาวนั่นมองมาที่ผมแะหัวเราะอยู่
สถานการณ์แบบนี้ช่างแปลกประหลาด ผมคิดว่าเธออาจเป็นเพียงภาพที่บิดเบี้ยวอีกภาพหนึ่งที่ผมสร้างมันขึ้น
"เจ้าแมวนั่นฆ่าเธอไม่ได้หรอก ทำใ้เธอหายไปไม่ได้ด้วย"
ผมยังคงจ้องเขม็งไปที่ผู้หญิงคนนั้น แะต้องปฏิเสธความคิดของตัวเองก่อนหน้านี้ เพราะเธอดูสมจริงมากเกินกว่าจะเป็นแค่จินตนาการ
"ลองมองดูสิ น่ารักปุกปุยขนาดนั้น จะกล้าทำร้ายใคร"
"เอ่อ...อืม"
"นี่ ถ้าไม่เสียมารยาท ัขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย"
"ค...ครับ"
ผมนึกใ้เธอลืมคำพูดทั้งหมดที่ผมพ่นออกมาเสีย เพราะต่อใ้ผมจะจริงจังแค่ไหน มันก็ดูฟังน่าอายอยู่ดี
"ทำไมเธอถึงอยากตายล่ะ"
ผมนิ่งไปสักครู่ พอตระหนักได้ถึงคำถามที่เธอถาม ผมก็รู้สึกว่า ผมเกลียดคำถามเหล่านั้นเสียจนอยากจมหายไปกับสายฝ-่าใหญ่
"คือ...ผม...ขอโทษ"
"เธอรู้มั้ย เธอเหมือนใครบางคนที่ัรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ถ่วงน้ำหนักหัวใจของัไว้ตลอดเวลา"
ผมได้แต่นิ่งค้าง ก้มหน้าไม่ไหวติง เพราะผมไม่อาจเข้าใจความหมายของคำพูดเหล่านั้น
"สายตาของเธอ ัพอดูออกล่ะ"
"อืม"
"พอดูออกว่าพวกมันหมายความว่าอย่างไร"
เพียงเพราะผมแค่ต้องการที่จะเข้าใจความหมายของคำพูดเหล่านั้น จึงค่อย ๆ เงยหน้า แ้สบตากับเธอที่จ้องเขม็งมาที่ผม พร้อมรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนนั่นผมไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้แต่เหมือนรอยยิ้มนั่นไม่ได้โกหก มันดูโอบอ้อมพร้อมกอดตัวตนอันปวดร้าวนี้ของผม อยู่ ๆ ผมก็สัมผัสได้ว่าอุณหภูมิรอบ ๆ จะอบอุ่นขึ้น หรือผมอาจจะแค่คิดไปเอง
"ขอโทษนะ ัอาจจะพูดอะไรไม่เข้าท่า"
"ข..."
"หืม"
"ขอบคุณ"
ผมไม่อาจห้ามความคิดใ้ดังได้ทัน อยู่ ๆ คำพูดนั้นก็โผออกไปจากปากผมโดยไม่ทันตั้งตัว
"อื้ม"
"เอ่อ..."
"นี่ ัขออะไรได้มั้ย"
"ครับ"
"ขอใ้เธออยู่ต่อไปอีกสักหน่อยได้มั้ย"
ดูเหมือนคำพูดเหล่านั้นจะทำใ้ผมสับสนอยู่เล็กน้อย ผมจึงกลับเข้าสู่สภาวะเเข็งค้าง พร้อมใช้สมองในส่วนที่ใหญ่ที่สุดประมวลผลของคำพูดเหล่านั้น แะได้คำถามที่จะถามเธอลาง ๆ
"ทำไมล่ะ"
"ัแค่อยากใ้เธออยู่"
"มันไร้เหตุผลสิ้นดีนี่ เธอไม่รู้จักัด้วยซ้ำ"
ผมไม่เข้าใจตัวของตัวเองเหมือนกันว่าเหตุอันใด ถึงได้พ่นคำพูดเหล่านั้นออกไป
"อยู่ ๆ ก็เข้ามา พูดอะไรที่ัไม่เข้าใจด้วยซ้ำ"
ผมแค่สับสนเหลือเกิน
"มันไม่ใช่เรื่องของเธอด้วยซ้ำ!"
ปากของผมแทบแห้งผาก คำพูดถูกระเบิดออก ราวกับว่าโทสะทั้งหมดนี้ต้องถูกปะทุใ้เธอเจ็บ
"อืม อาจจะไม่ใช่เรื่องของั"
"หา"
"แต่ก็ไม่ผิดหรอก ถ้าใครสักคนอยากใ้ใครใช้ชีวิตต่อ เพราะัสัมผัสได้ถึงสิ่งเหล่านั้นในตัวเธอ"
ดูเหมือนคำพูดทั้งหมดของผมจะตีบตันอยู่ที่ลำคอ แะสมองจะหยุดประมวลผล
เธอยังคงจ้องมาที่ผม สายตานั่นไม่มีวี่แววของความเกลียดชัง ความโกรธ ผมสัมผัสมันไม่ได้จากเธอแม้แต่น้อย
ดูเหมือนเสียงฝ-่าใหญ่จะซาลง แะแสงแดดสีเหลืองอ่อนทอแสงเข้ามาในกระท่อม ส่องสว่างใ้เห็นใบหน้าของผมที่น่าสมเพช แะใบหน้าอันอ่อนโยนของเธอ
"ฝหยุดแ้ล่ะ ัต้องไปแ้ แค่กะจะเข้ามาหลบฝเฉย ๆ"
ผมยังคงนิ่ง แะสั่งใ้สมองใ้าไ้เสียที
"นี่ จะว่ายังไงดีล่ะ ถ้ามีโอกาสหน้าไว้เจอกันอีกนะ หวังว่าตอนนั้นเธอยังคงอยู่นะ"
เธอละออกไปจากสายตาผมที่ยังคงแข็งนิ่งราวถูกมนต์สะกด แะแถวชายตาของผมสัมผัสได้ว่า เธอได้จากไปจากที่นี่แ้พร้อมกับเสียงย่ำพื้นดินที่น้ำเจิ่งนอง
"เมี๊ยว"
ดูเหมือนเจ้าแมวจะทำใ้ผมคืนสติมาอีกครั้ง ผมนั่งจ้องตากับเจ้าเหมียวอยู่เสียสักครู่ แ้มองไปที่ใบไม้ของเหล่าต้นไม้ใหญ่ที่เปียกโชกไปด้วยไอชื้น แะหยดน้ำที่กำลังเต้นระริกลงไปรวมตัวกันอยู่บนใบไม้ใหญ่ใบหนึ่ง
ผมลุกขึ้นยืนขึ้นพร้อมกระซิบคำแผ่วเบาเพื่อใ้ตัวเองเท่านั้นได้ยิน
"อาจจะไม่ใช่วันนี้ คงมีวันที่เหมาะกว่าวันนี้"
ผมยกกระเป๋าสะพายไว้ที่ข้างบ่า แะเริ่มรู้สึกตัวได้ว่าตัวเองกำลังมาเข้าค่ายกับโรงเรียนอยู่
ผมรีบสลัดความคิดทั้งหมดทิ้งไป แะทิ้งใ้ความคิดคำนึงถึงแต่เธอคนนั้น
'ถ้าได้เจออีกครั้ง แ้ได้พูดขอโทษสักครั้งก็คงดี'
ถ้าผมได้ขอโทษเธอสักครั้งวันนั้นอาจเป็นวันที่เหมาะที่ผมหายไปก็ได้
อืม...นี่อาจเป็นความคิดที่เข้าท่า แต่ไม่รู้ทำไมความคิดที่แล่นอยู่ในหัวตลอดที่ผมเดินกลับไปที่ที่พักถึงได้มีแต่เธอคนนั้น ผมไม่อาจเข้าใจได้อีกเช่นกัน
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??